วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – บทที่428 กอดแน่นขึ้น

บทที่428 กอดแน่นขึ้น

จะมาให้พี่สะใภ้ใส่ชุดที่โป๊ขนาดนั้น ถ้าตัวเองใส่เองไม่เป็นไร เรื่องของเธอ แต่เขาจะไม่ยอมให้ต้วนอีเหยาใส่

ต้วนอีเหยาเป็นผู้หญิงของเขา เขาจะยอมให้เธอใส่ออกไปได้ยังไง

เย่จิงเหยียนรู้แล้วว่าเย่ชวูเสวียมาบ้านของพวกเขา มาพาต้วนอีเหยาเสียคน

เย่จิงเหยียนรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่า เย่ชวูเสวียถูกไล่ออกมาจริงหรือเปล่า หรือไม่ก็เป็นข้ออ้างของเย่ชวูเสวียเพื่ออกมาหาหนานกงเจา

ก็เลยมาพักที่บ้านพวกเขา ตอนนี้ยังมาพาต้วนอีเหยาเสียคนอีก

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้วและมองไปที่เย่ชวูเสวีย “แกไปเอากระเป๋าแกออกมา”

เย่ชวูเสวียไม่รู้สึกแปลกอะไร ดังนั้นเธอจึงเดินไปหยิบกระเป๋ามาอย่างเชื่อฟัง

“อะ” เย่ชวูเสวียยื่นกระเป๋าสตางค์ให้เย่จิงเหยียน เย่จิงเหยียนเหลือบมอง งอปากขึ้นและหัวเราะ

ทันใดนั้นก็พูดว่า “หือ? มีคนเคาะประตู ชวูเสวียแกไปดูสิใครมา?”

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เย่จิงเหยียนจะใช้เธอได้ เธอเดินไปเปิดประตูด้วยความไม่เต็มใจ พอเปิดประตูก็ไม่มีใครอยู่ข้างนอก

เย่จิงเหยียนอยู่ข้างหลังเธอ เขาผลักเธอออกไปจากประตูและโยนกระเป๋าตังของเย่ชวูเสวียออกไปด้วย

สะบัดมือ และปิดประตู

“ พี่ชาย พี่ทำอะไรเนี่ย”

“พี่ชาย เปิดประตู ฉันเป็นน้องสาวของพี่นะ…… ”

“ พี่ชาย……พี่อีเหยา ……ช่วยฉันด้วย… … ”

“นี่……จิงเหยียน เปิดประตูมห้เธอดีไหม?” ในที่สุดต้วนอีเหยาก็อดไม่ได้กับคำอ้อนวอนของเย่ชวูเสวีย

“ไม่ได้ มีเงินเยอะขนาดนั้น จะมาอยู่บ้านเราทำไม” เย่จิงเหยียนพูดโดยไม่ตั้งคำถาม

ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวและท่าทีที่ชัดเจน เขาไม่ให้ต้วนอีเหยาเปิดประตู

“อีเหยา เราไปนอนกันดีไหม?” เย่จิงเหยียนมองไปที่ต้วนอีเหยาด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ได้ ” เพิ่งกินข้าวเสร็จก็ไปนอนเดี๋ยวอ้วน อีกอย่างตัวเองก็ยังไม่ง่วง

“ทำไม?” เย่จิงเหยียนแสร้งทำเป็นว่าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มองไปที่ต้วนอีเหยา ทำหน้าน่าสงสาร จนต้วนอีเหยาทนไม่ได้

“โอเค ก็ได้ ไปก็ไป” ต้วนอีเหยาดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างหลังจากที่เธอพูด “แล้วชวูเสวียล่ะ?”

เย่ชวูเสวียเพิ่งถูกเขาไล่ออกไปข้างนอก ข้างนอกตอนนี้แดดดร้อนมาก ถ้าเย่ชวูเสวียเป็นอะไรไปล่ะ?

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่ต้วนอีเหยาพูดถึงเย่ชวูเสวีย หลังจากคิดแล้ว ยัยตัวแสบนี่ไม่ซื่อบื่อหรอก

“ไม่เป็นไร เย่ชวูเสวียไม่ได้ซื่อบื่อ เธอไปหาที่อยู่ได้เอง ไปกันเถอะไปพักผ่อนกัน” เย่จิงเหยียนมองไปที่ต้วนอีเหยาและพูดเบาๆ

“ แต่ว่า……ชวูเสวีย……ไม่เป็นไรจริงๆหรอ?” ต้วนอีเหยายังคงกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเย่ชวูเสวีย จึงเงยหน้าขึ้นเพื่อถามเย่จิงเหยียนอีกครั้ง

“ไม่เป็นไร” เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว ผู้หญิงของเขาเป็นอะไรไป

เอาแต่เป็นห่วงเย่ชวูเสวีย ไม่คิดถึงเขาเป็นคนแรกเลย

เย่จิงเหยียนรู้สึกไม่พอใจและกอดต้วนอีเหยา จากนั้นอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน

“โอ้ย!”

“ทำอะไรเนี่ย จิงเหยียน” มีเพียงคนสองคน ต้วนอีเหยายังคงเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเริ่มแดง

“อะไร นอนกลางวันไง” เย่จิงเหยียนกอดต้วนอีเหยาอย่างมีความสุข ในที่สุดก็เอาเย่ชวูเสวียออกจากบ้านได้

ในที่สุดมันก็กละบมาโลกของเราสองคนอีกครั้ง

เย่จิงเหยียนมีความสุขดีมาก

……

หึ พี่ชายไล่น้องสาวตัวเองออกมาแบบนี้ได้ไง……หูยยยย…..

พี่ชายโหดร้ายมาก……โยนผู้หญิงแสนสวยอย่างฉันออกมานอกประตู เงินก็ไม่ให้แม้แต่บาทเดียว…… แถมโทรศัพท์ก็ยังไม่เอาให้อีก…… ฉันจะติดต่อหนานกงเจาได้ยังไง……

เห้ย……? ใช่สิ ตอนที่พี่ผลักฉันออกมาเหมือนจะโยนอะไรออกมาด้วยนิ?

สิ่งที่เย่จิงเหยียนโยนออกมาดูเหมือนจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของเธอเอง

เย่ชวูเสวียก้าวเดินไปทีละก้าวอย่างระมัดระวังดูว่ามีอะไรอยู่ในหญ้าข้างๆเธอหรือเปล่า

“หาเจอแล้ว” เย่ชวูเสวียเจอกระเป๋าตังของเธออยู่ที่พื้นหญ้าข้างๆ

“พี่ชายก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย ยังรู้จักโยนกระเป๋าตังออกมาให้ด้วย แต่……แต่ว่า……โทรศัพท์ของฉันล่ะ……”

เย่ชวูเสวียรู้ว่าเธอกลับไปไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปที่ถนนด้วยตัวเองและขึ้นรถแท็กซี่

“คนขับรถ ไปที่ห้างสรรพสินค้า” เย่ชวูเสวียมองไปที่รองเท้าแตะที่เท้าของเขาและเสื้อผ้าบนร่างกายของเธอและพูดอย่างไม่ลังเล

นายแท็กซี่เหลือบมองเย่ชวูเสวียอีกสองครั้งในกระจกหลัง ผู้หญิงคนนี้สวมชุดแปลกจริงๆ หรือว่าลืมกุญแจไว้ในบ้าน?

อืม สถานการณ์นี้มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้

คนขับคิดคนเดียวในใจหลายครั้งว่าทำไมเย่ชวูเสวียถึงออกมาจากบ้านแล้วสวมรองเท้าแตะกับชุดนอน

……

“จิงเหยียน ชวูเสวียคงยังไม่ได้ยืนอยู่นอกประตูคนเดียวแน่นะ?” ต้วนอีเหยายังคงรู้สึกกังวลเย่ชวูเสวียเล็กน้อย

เย่จิงเหยียนรู้สึกไม่พอใจ ขมวดคิ้ว “ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจเธอ” เย่จิงเหยียนหลับตาและพูดเบาๆ

ต้วนอีเหยาครุ่นคิดสักพักก็ยังรู้สึกไม่สบายใจและอยากจะลุกขึ้นไปดูว่าเย่ชวูเสวียยังอยู่ที่ประตูหรือเปล่า

“เธอทำอะไรหนะ?” เย่จิงเหยียนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นเพราะการเคลื่อนไหวของต้วนอีเหยา

“ชวูเสวียไมได้เอาเงินกับโทรศัพท์ไปด้วย แล้วเธอจะไปไหนได้?” ต้วนอีเหยาพูดอย่างกังวล

เย่จิงเหยียนหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของต้วนอีเหยา

ต้วนอีเหยาไม่รู้ว่าเย่จิงเหยียนกำลังหัวเราะอะไร ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงมองไปที่เย่จิงเหยียนอย่างไร้เดียงสาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

ยัยซื่อบื่อ “ฉันเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋า โยนออกไปพร้อมกันแล้ว”

เย่จิงเหยียนยิ้มและมองไปที่ต้วนอีเหยาที่กำลังตกตะลึง ยื่นมือออกมาและจิ้มจมูกของต้วนอีเหยา

“เธอโยนกระเป๋ากับโทรศัพท์ออกไปด้วยหรอ?” ต้วนอีเหยายังคงสับสนเล็กน้อย

“ใช่ เธอเป็นน้องสาวของฉันนะ” เย่จิงเหยียนพูดอย่างขำๆ

ต่อให้เย่ชวูเสวียจะทำอะไร เธอก็ยังเป็นน้องสาวแท้ๆของเย่จิงเหยียน ต่อให้เย่จิงเหยียนจะทำอะไร เขาก็ยังเอ็นดูเธอ

“เอาล่ะ มานอนได้แล้ว” เย่จิงเหยียนจูบหน้าผากของต้วนอีเหยา นอนซุกอกของเธอและพูดเบาๆ

“อืม โอเค” ต้วนอีเหยามองไปที่ใบหน้าด้านข้างที่เงียบสงบของเย่จิงเหยียนด้วยหัวใจที่อบอุ่น

แต่ในบางครั้งเธอก็ยังคงคิดถึงเด็กในครรภ์

เด็กที่แท้งไปเพราะอุบัติเหตุ

สองวันก่อนเพิ่งไปตรวจที่โรงพยาบาล เขาบอกอีกสองสามวันก็จะรู้ผล เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้เธอทุกข์ใจ

เย่จิงเหยียนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในต้วนอีเหยา ลืมตาขึ้นและมองไปที่ต้วนอีเหยา ถามเธอเบาๆ ” อีเหยา เป็นอะไรไป? นอนไม่หลับหรอ?”

เย่จิงเหยียนเห็นว่าเป็นเวลาบ่าย อยากให้ต้วนอีเหยานอนพักผ่อน แต่ดูแล้วต้วนอีเหยาน่าจะไม่ง่วงจริงๆ

“เปล่า จิงเหยียน เรามาพักผ่อนด้วยกันเถอะ” หลังจากพูดเสร็จ ต้วนอีเหยาก็หลับตาลง

เย่จิงเหยียนเหล่ตามองรู้ว่าต้วนอีเหยาน่าจะคิดถึงเด็กอีกครั้งและรู้สึกเศร้า

“อืม” เย่จิงเหยียนมองไปที่ต้วนอีเหยาที่หลับตาและพูดเบาๆ จากนั้นเขาก็หลับตาลงเช่นกัน

……

เซี่ยอันนากลับไปโรงเรียน เธอยังคงไปโรงเรียนและเลิกเรียน ไม่ไปสายแต่ก็ไม่ได้ไปก่อนเวลา

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เซี่ยอันนาเห็นว่าไม่มีวิชาเรียนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นบทวิจารณ์ ทุกวันก็ถือแต่เอกสารหลายปึกไปที่ห้องสมุด

เซี่ยอันนาไม่ได้ติดต่อเสี่ยวอวี้หลิน และเสี่ยวอวี้หลินก็ไม่เคยมาที่โรงเรียนเพื่อหาเซี่ยอันนา แม้แต่…..โทรศัพท์สักสายก็ไม่เคยโทรมา

เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้ติดต่อเซี่ยอันนาเป็นเวบาเกือบสัปดาห์แล้ว เซี่ยอันนาเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเธอรู้สึกยังไง หัวใจของเธอรู้สึกอึดอัดและเธอไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะความเจ็บปวดอะไร

แต่ว่า…… ตัวเองก็ไม่อยากให้เสี่ยวอวี้หลินมาอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? ตัวเองก็ตัดสินใจจะไม่ติดต่อไปเองไม่ใช่หรอ?

แบบนี้ก็ดี……ไม่มีใครติดต่อใคร……

ทั้งหมดเป็นเพราะตัวเองคิดไปเอง

ในห้องบรรยาย ข้างหน้าต่าง เซี่ยอันนาสวมชุดสีขาว วันนี้ผมยาวของเธอกระจัดกระจายไม่เรียบร้อย

เมื่อเสี่ยวอวี้หลินเดินเข้าห้องก็เห็นเธอสภาพนี้ เซี่ยอันนากำลังมองลงไปดูอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็หัวเราะเบาๆ จากนั้นก็หันไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง

เมื่อสายลมพัดมาจากหน้าต่าง ผมของเซี่ยอันนาที่กระจัดกระจายบนไหล่ของเธอก็ปลิวขึ้น เซี่ยอันนายกมือขึ้นและตรึงผมที่กระจัดกระจายไว้ข้างหลังหูของเธอ

มันเป็นภาพที่ทำให้หัวใจของเสี่ยวอวี้หลินเต้นผิดจังหวะ ราวกับว่าหัวใจที่เหี่ยวเฉามาทั้งสัปดาห์รู้สึกสดชื่นอีกครั้ง

“เซี่ยอันนา!”

เซี่ยอันนาได้ยินคนเรียกชื่อเธอ เมื่อเธอหันกลับไปมา ก็เห็นเสี่ยวอวี้หลินยืนพิงกำแพง เธอยิ้มและขมวดคิ้ว แสงแดดส่องกระทบเสี่ยวอวี้หลินผ่านกระจกราวกับเทพบุตร รอยยิ้มเธอก็ราวกับเป็นรอยยิ้มของนางฟ้า

“เธอมาที่นี่ได้ยังไง?” เซี่ยอันนารู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นเสี่ยวอวี้หลิน แต่รู้สึกมีความสุขลึกๆในใจ

ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวอวี้หลินไม่มีท่าทางเคร่งขรึมแม้แต่น้อย มีแต่ความอบอุ่นผ่านแสงแดดที่ส่องเข้ามา

ใบหน้าของเสี่ยวอวี้หลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาค่อยๆเดินไปหาเซี่ยอันนาจากประตู “ทำไม? ก็มาหาเธอไง เพราะว่า…..”

เสี่ยวอวี้หลินหยุดเดิน จ้องมองไปที่เซี่ยอันนาและพูดว่า “เพราะว่า ความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ใช่ความสัมพันธ์ทั่วไป แวะมาหาเธอก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ?”

ใช่ เสี่ยวอวี้หลินเป็นเทพบุตร ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากเกินไป……

เป็นเพราะตัวเองคิดมากไปเองจริงๆ……เขาจะมาหาตัวเองเพราะคิดถึงได้ยังไง?

ฮ่าฮ่า เซี่ยอันนาหัวเราะตัวเองในใจ

“อะไร? เห็นเทพบุตรมาหาไม่ดีใจหรอ?” เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้วและคิ้วที่สวยงามเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อยเนื่องจากการขมวดคิ้ว

ทำไมสีหน้าของเซี่ยอันนาถึงเปลี่ยนไปกะทันหัน? เมื่อกี้ยังมีความสุขอยู่เลย

เป็นเพราะเธอเกลียดตัวเองหรือเปล่า? เป็นเพราะตัวเองมาที่นี่หรือเปล่า?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกหดหู่เล็กน้อยในใจด้วยเหตุผลบางอย่าง

แต่เสี่ยวอวี้หลินส่ายหัวของเขาและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ทำไมตัวเองต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้? ตัวเองมีความสุขก็พอแล้ว จะไปสนเธอทำไมว่ามีความสุขหรือไม่

“เธอมาทำไม? ครั้งก่อนก็ชดใช้ให้เธอแล้วไม่ใช่หรอ?” เซี่ยอันนาขมวดคิ้วและมองไปที่เสี่ยวอวี้หลินด้วยความสงสัย

เสี่ยวอวี้หลินยิ้มเยาะ “ใช่ ครั้งก่อนเธอชดใช้ให้แล้ว แต่ว่า…… ”

เดินไปหาเซี่ยอันนา โน้มตัวเข้ามาใกล้ๆหูเซี่ยอันนาและกระซิบ “แต่…… เรื่องคืนนั้น…..เธอยังไม่ชดใช้ให้ตัวเองเลย”

เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกว่าเซี่ยอันนาเป็นความสุขของเขา ไม่รู้ว่าทำไมชอบแกล้งเธอ ชอบเห็นเธอโกรธ มันน่ารักดี

เสี่ยวอวี้หลินก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อก่อนไม่เคยมีความรู้สึกนี้เลย

ไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่…..ดูเหมือนว่าจะเป็นหลังจากที่ฉันได้พบกับเซี่ยอันนา

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มุมปากของเสี่ยวอวี้หลินก็ยกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เซี่ยอันนาจ้องที่เสี่ยวอวี้หลินและพูดว่า ” วันนั้นเป็นแค่อุบัติเหตุ……อีกอย่างเป็นฉันเองที่เสียเปรียบโอเคไหม?”

เฮ้อ ยัยตัวแสบคนนี้ก็ไม่ได้ซื่อบื่อนิ รู้ด้วยว่าตัวเองเสียเปรียบ

เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย หลังจากส่งเซี่ยอันนาแล้ว ตอนแรกเขาว่าจะไปร้านเหล้ากับเพื่อน

แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาขับรถไปที่บ้านด้วยท่าทางเหมือนผี เข้าไปในห้องเก็บไวน์แล้วยืนงงๆ และคิดถึงวันที่เขาเข้ามาในห้องไวน์กับเซี่ยอันนา ยิ่งคิดยิ่งมีความสุข แถมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมา

หลังจากยืนอยู่เป็นเวลานาน เขาก็ไปนอนห้องนั้น ยืนอยู่สักพักก็นึกถึงตอนที่อยู่กับเซี่ยอันนา

กลับไปนอนบนเตียงโดยมีผ้าปูที่นอนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เสี่ยวอวี้หลินเป็นคนสะอาด แต่ในวันนั้นเขาก็นอนลงอย่างสบายๆไม่ได้อาบน้ำ

ผ้าปูที่นอนที่ไม่ได้สังเกต ปรากฏว่ามีรอยแดงอยู่ตรงกลางที่นอน

ช่วงเวลาที่เห็นเสี่ยวอวี้หลินมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ดีใจ ตื่นเต้น ประหลาดใจ อึ้ง?

ความรู้สึกที่หลากหลายท่วมสมองของเสี่ยวอวี้หลินทันที

“ ฉันไม่สนหรอก คืนนั้นคุณหนูเซี่ยขย่มฉัน เธอเอาเปรียบฉันและกินเต้าหู้ของฉัน”

“ทำไม? รู้สึกเสียใจทีหลังหรอ?” เสี่ยวอวี้หลินเดินเข้ามาทีละนิด “คุณหนูเซี่ย…..อย่าบอกนะว่าจะอ้างว่าเมา?”

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

Status: Ongoing

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท