วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ – บทที่ 475 ฉันไม่ใช่คนโง่

บทที่ 475 ฉันไม่ใช่คนโง่

พวกเขาอึดอัดใจลำบากใจหรือ? เธอต้องเสียสละหรือ?

เซี่ยอันน่าค่อยมองหน้าป้า อย่างคนแปลกหน้า

“ในสายตาของพวกป้า ฉันคือสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งใช่ไหม?”

“เหอะ คนอย่างแกตายไปก็ไม่เป็นอะไร แต่พวกแกมีสิทธิอะไรมาเอานิ้วของลูกชายฉันไป!”

ตั้งแต่เด็ก ป้าก็ไม่ชอบเซี่ยอันน่าอยู่แล้ว คิดมาตลอดว่าเธอคือของขัดดอก ไม่สมควรได้รับชีวิตที่ดี เวลามีของดีๆอะไร เธอมักจะเอาไปให้ลูกชายตัวเองคนนั้นหมด

ตอนเด็กๆ เซี่ยอันน่าร้องไห้จนน้ำตาแทบจะไม่เหลือ

แต่ตอนนี้เธอโตแล้ว คิดเองได้แล้ว และเธอจะไม่ยอมให้ใครมาจูงจมูกได้อีก

เซี่ยอันน่ามองป้า และพูดเสียงเรียบว่า “ป้าคิดแบบนี้ แต่ฉันไม่ได้เห็นด้วย”

ป้าคิดไม่ถึงว่านังนี่จะกล้าหือกับเธอ “แกหมายความว่าอย่างไร?”

“ฉันกับพี่ต่างก็เป็นคน มีสิทธิอะไรได้รับเกียรติความเป็นคนมากกว่าฉัน ในเมื่อทำผิด ก็ต้องยอมรับผลกรรม ถ้านับรวมความเลวที่เขาทำ แค่นิ้วขาดนิ้วเดียวเหมือนจะยังไม่พอด้วยซ้ำ”

ป้าโกรธจัด สบถด่าว่า “นังชั่ว กล้าขนาดนี้แล้วใช่ไหม ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ถลกปากแกออก อย่าหวังว่าฉันจะรามือ!”

ก่อนที่ป้าจะลงมือ เซี่ยอันน่าพูดแทรกขึ้นว่า

“ที่ป้ามาหาฉันวันนี้ มาแค่สั่งสอนแค่นั้นหรือ? เกรงว่าจะมีเรื่องอื่นอีก?”

เซี่ยอันน่าเตือนสติป้า

ที่ป้ามาวันนี้คงไม่ใช่แค่จะมาสั่งสอนเธอหรอก

ป้าชักมือเก็บและพูดต่อว่า “แกทำให้พี่แกนิ้วหายไป แล้วคิดว่าจะปล่อยไปแบบนี้หรือ?”

“พูดไปพูดมา คงอยากได้เงินซินะ”

เซี่ยอันน่าเข้าใจความหมายเธอดี พูดวกไปวนมา ก็แค่อยากได้เงิน

เซี่ยอันน่าหยิบบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าออกมา “ช่วงนี้ฉันเพิ่งถ่ายโฆษณาไป แต่ยังไม่ได้รับเงิน ใยนี้มีอยู่ห้าพัน ถือซะว่าเป็นค่าเลี้ยงดูพี่แล้วกัน”

แต่ป้าไม่ได้สนใจเงินห้าพันนั่น เธอปัดมือเซี่ยอันน่าทิ้งและพูดอย่างโมโหว่า “แกคิดว่าให้เงินแค่นี้แล้วเรื่องทุกอย่างมันจะจบหรือ?”

“งั้นป้าจะเอาเท่าไหร่?”

ป้าตอบกลับว่า “อย่างน้อยแสนหนึ่ง”

เซี่ยอันน่ายิ้มเยาะออกมา “แสนหนึ่ง ป้าคิดว่าฉันจะหาเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหน?”

“นี่เป็นสิ่งที่แกต้องชดใช้ แสนหนึ่งแลกกับนิ้วหนึ่งนิ้ว ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“ไม่ใช่ว่ามันน้อย แต่นี่มันเป็นสิ่งที่สมควรและเหมาะสมแล้ว”

ป้ายิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ “หยุดพูดพล่อยๆ รีบเอาเงินมา”

“ถ้าป้ายังถือหางเขาแบบนี้ อีกหน่อยเขาคงกู่ไม่กลับ”

“แกสนใจแตเรื่องเงินก็พอ เรื่องอื่นอย่ายุ่ง!”

“แต่ฉันไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น”

“แกไม่มีเงิน? เหอะขี้งกเหมือนพ่อแม่แกไม่มีผิด”

ป้าเบ้ปากและจ้องไปที่เซี่ยอันน่า

“แกคิดดีๆนะ ที่แกทำงานได้ก็เพราะหน้าตาของแก แล้วถ้าฉันทำลายหน้าของแกซะ แกจะเอาอะไรไปหาเงิน?”

จริงๆเลย พวกเขาเหมือนกันทั้งหมด แม้กระทั่งตอนขู่คนอื่น ก็ยังขู่แบบเดียวกัน

“ป้า ป้าแก่รุ่นพ่อรุ่นแม่แล้ว ยังมารังแกรุ่นลูกอีก ป้าคิดว่าเหมาะสมไหม?”

“ถ้าแกให้เงินฉันดีๆ ฉันคงไม่พูดแบบนี้ออกมหรอก?”

เซี่ยอันน่าเหนื่อยเกินไป เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีก

พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน ตอนนี้เธอแค่อยากจะฟุบตัวนอนลงบนนเตียง ไม่คิดเรื่องอะไรอีก

เธอยื่นบัตรไปให้ป้า และพูดอีกรอบว่า “ฉันบอกไปแล้วว่า ฉันไม่มีเงิน มีแค่ห้าพันนี้เท่านั้น จะเอาไม่เอา”

“เหอะ แกนี่มันกล้าขึ้นจริงๆ”

ป้าพูดเสร็จ ก็จิกหัวเซี่ยอันน่า

เธอเจ็บจนร้องซี้ดออกมา จากนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าเธอก็หล่น

ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้มเก็บ ป้าก็แย่งไปก่อน

เธอยกขึ้นมาดู และพูดต่อว่า “ดูแล้วน่าจะแพง ให้ฉันยืมใช้หน่อยแล้วกัน”

นั่นเป็นโทรศัพท์ที่เสี่ยวอวี้หลินซื้อให้เธอใหม่ เขาบอกว่าเวลาออกไปทำงานข้างนอกแล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเก่าๆแล้วน่าขายหน้า

คิดไม่ถึงว่าใช้ไม่ถึงสองวันก็โดนป้าแย่งไปแล้ว

ถ้าใช้โทรศัพท์จัดการปัญหาได้ เซี่ยอันน่าก็ยอม

แต่เพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่เสี่ยวอวี้หลินซื้อให้ ถ้าเขารู้ว่าโทรศัพท์หายไปแล้ว ป้าน่าจะซวยหนักแน่

ขณะที่ป้ากำลังชื่นชมโทรศัพท์อยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ป้าตกใจ

อยากจะกดปิดโทรศัพท์ แต่ก็ทำไม่เป็น ไปกดรับสายแทน

จากนั้นเสียงปลายสายก็กล่าวอย่างหัวเสีย

“เซี่ยอันน่า ฉันบอกให้โทรหาไม่ใช่หรืออ? นี่เธอไปทำอะไรที่ไหนอีก?”

เสี่ยวอวี้หลิน!

เซี่ยอันน่ายังไม่ทันได้ตอบอะไร ป้าก็พูดขึ้นมาว่า “โทรศัพท์นี่เป็นของฉันแล้ว ถ้าจะตามหาเธอ ไปหาวิธีอื่น”

เสี่ยวอวี้หลินถามกลับว่า “เธอเป็นใคร?”

“ฉันคือป้าของเซี่ยอันน่า”

พูดจบ ป้าก็กดวางสาย

ดีมาก ป้าทำดีมาก

ตอนแรกเซี่ยอันน่าไม่อยากให้เสี่ยวอวี้หลินมารับรู้เรื่องพวกนี้ แต่คงไม่ทันแล้ว ตอนนี้จะปิดยังไงคงปิดไม่มิดแล้ว

อารมณ์ฉุนเฉียวของเสี่ยวอวี้หลิน

เซี่ยอันน่าแค่คิดก็รู้สึกปวดหัว

“ป้า พูดในฐานะญาติ ฉันว่าป้ารีบไปเถอะ”

แต่ป้าหาได้ยอมไม่

เธอนึกว่าเซี่ยอันน่าจะเสียใจ จึงตวาดกลับไปว่า “หุบปาก! มีของดีอะไรอีก รีบหยิบออกมาให้ฉัน”

ขนาดนี้แล้ว ยังจะคิดแต่เรื่องเงินอยู่ได้

ช่างเถอะ เธอเตือนแล้ว แต่ป้าไม่ฟังเอง

เซี่ยอันน่าพูดต่อว่า “ฉันเตือนป้าแล้วนะ แต่ป้าเลือกจะไม่ฟังเอง อีกสักพักมีคนมายุ่งวุ่นวาย แล้วอย่ามาโทษฉันนะ”

“เหอะ นี่ขู่ฉันหรือ แกคิดดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้หาเงินมาให้ฉันได้เร็วๆ ไม่งั้นฉันไม่เอาแกไว้แน่”

“ป้ามีเวลามาหาฉัน แล้วทำไมป้าไม่มีเวลาสั่งสอนพี่ล่ะ สั่งสอนให้เขารู้จักผิดชอบชั่วดีบ้าง”

ป้าพูดต่อว่า “ถ้าฉันทำได้ง่ายขนาดนั้น ฉันจะแจ้นมาหาแกที่นี่ ฟังแกพูดจาไร้สาระหรือ?”

ป้าพูดอย่างน่าสงสาร แต่เขาไม่เคยสนใจลูกจริงๆเลย ถ้าจะบอกว่าใครผิด คงจะบอกว่าป้านี่แหละผิดที่สุด

เซี่ยอันน่าส่ายหัว “ถ้าป้าปฏิบัติกับเขา เหมือนกับที่ปฏิบัติกับฉัน เขาคงไม่เป็นแบบนี้”

“เรื่องของครอบครัวฉัน แกไม่ต้องยุ่ง แกเตรียมเงินแสนหนึ่งไว้ให้ดี ขาดสตางค์เดียวก็ไม่ได้ ไม่งั้นหน้าแกเสียโฉมแน่”

พูดจบ ป้าก็เดินจากไ

เห้อ คนบ้านนี้เห็นเธอเป็นอะไร ทำไมรังแกเธอจัง

เซี่ยอันน่าถอนนหายใจออกมา คิดว่าเธอต้องใจแข็งกว่านี้อีก ห้ามใจอ่อนอีก

เมื่อถึงห้อง เซี่ยอันน่าได้ยินซีซีคุยโทรศัพท์ “อืมๆๆ ถึงแล้ว วางใจได้”

จากนั้นเธอก็วางสาย และหันมามองอันน่า จากนั้นก็ตกใจ

“อันน่า หน้าเธอไปโดนอะไรมา?”

หน้า?

เซี่ยอันน่าคิดเล็กน้อย เมื่อกี้เพิ่งโดนคนตบมา

เซี่ยอันน่านั่งลงหน้ากระจก ค่อยๆดูหน้าตัวเอง เห็นรอยมือแดงอยู่บนหน้า และมุมปากยังมีคราบเลือดติดอยู่

ป้านี่มือหนักมาก

ตอนแรกป้าจะมาเอาเงินจากเธอไม่ใช่หรือ? ทำไมอยู่ๆเป็นแบบนี้

และเรื่องจะสั่งสอนลูกพี่ลูกน้องเธอ ก็คงเป็นไปได้ยาก ป้าคงทำไม่ได้

แต่อย่างไรซะ รอยแค่นี้แค่เรื่องเล็ก พรุ่งนี้ใช้รองพื้นกลบหน่อยก็น่าจะมองไม่เห็นแล้ว

เซี่ยอันน่าหยิบโทนเนอร์มาเช็ดหน้า และพูดว่า “ไม่มีอะไร วันนี้ตอนถ่าย เขาอยากให้สมจริงน่ะ เลยตบจริงไปทีหนึ่ง เมื่อกี้เธอคุยโทรศัพท์กับใครหรือ?”

“เสี่ยวอวี้หลิน เขาถามฉันเธอกลับมาหรือยัง”

เป็นเขาจริงๆด้วย

เซี่ยอันน่าพยักหน้ารับทราบแต่ไม่ได้พูดอะไร

แต่ซีซีกลับถามต่อว่า “เสี่ยวอวี้หลินทำไมไม่โทรหาเธอล่ะ?”

“โทรศัพท์หายน่ะ เขาติดต่อฉันไม่ได้”

“แบบนี้นี่เอง งั้นเธอ…”

ซีซีอยากจะถามต่อ แต่เซี่ยอันน่าลุกขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำไปก่อน

ยัยนี่นิ

รอเธออาบน้ำเสร็จค่อยถามก็ได้

แต่เมื่อถึงตอนที่เซี่ยอันน่าออกมา ซีซีก็หลับแล้ว

อีกฝากหนึ่ง……

ป้าดีใจที่ได้โทรศัพท์ใหม่กลับมา

เธอวางโทรศัพท์ไว้ด้านหน้าลูกชาย และถามว่า “ลูกดูโทรศัพท์นี่ซิ น่าจะแพงใชช่ไหม?”

เขาที่กำลังเล่นเกมอยู่ เมื่อหันมาเห็นโทรศัพท์ก็ตาลุกวาว

“นี่มันของแพงมากเลย แม่เอามาจากไหน?”

“ของเซี่ยอันน่า”

เขาถามต่อว่า “แม่ไปขอเงินจากมันหรือ?”

“ก็ใช่น่ะซิ ทำให้แกเป็นแบบนี้ไม่ไปเอาเงินจากมันให้ไปเอาจากใคร”

เขารีบตอบกลับอย่างร้อนรนว่า “ผมบอกแม่ว่าอย่าไปหาเซี่ยอันน่าไม่ใช่หรือ แม่ยังไปหาตัวซวยนั่นอีกหรอเนี้ย”

“ลูกจะดุแม่ทำไม แม่ทำแบบนี้ เพื่อความยุติธรรมของลูกนะ”

“ตอนนี้เซี่ยอันน่าไม่ใช่คนเดิมแล้ว มีคนคอยหนุนหลังมันอยู่ ไม่งั้นผมไม่โดนจัดการมาแบบนี้หรอก”

แต่ป้าหาได้ใส่ใจไม่ พูดต่อว่า “ไม่สนว่าใครจะหนุนหลังมัน แต่ยังไงแม่ก็คือป้ามัน คำพูดของแม่ มันกล้าไม่ฟังหรือ?”

“พูดกับแม่ไม่รู้เรื่องแล้ว” เขารีบบอก “รีบเอาโทรศัพท์ไปคืนเซี่ยอันน่าซะ”

“เอามาแล้ว ก็ไม่มีคำว่าเอาไปคืน นี่เป็นของแม่”

“ไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ”

ลูกชายแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว แต่แม่เขาหาได้สนใจไม่

ขณะที่เขาจจะยื่นมือแย่งโทรศัพท์มา ทันใดนั้นคนบุกเข้ามา

เขาตกใจมาก คิดว่าเป็นเจ้าหนี้จะมาทวงเงิน เขาวิ่งหนีไปทางประตูอย่างรวดเร็วคิดจะกระโดดลงไป

แต่มีมือหนึ่งที่เร็วกว่า กระชากคอเสื้อของเขาไว้ จากนั้นทุ่มเขาลงบนนพื้น

ป้ารีบวิ่งเข้ามาดูลูกชาย เอื้อมมือไปปกป้องเขา และร้องไห้เสียงดัง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนจะมาฆ่า”

“วางใจได้ เราไม่ได้อยากได้ชีวิตพวกแก”

ได้ยินเสียงนั้น ลูกชายก็ช็อก

“คะคะคุณชายเสี่ยว”

เสี่ยวอวี้หลินเดินไปตรงหน้าเขา และโบกมือให้คนอื่นถอย

ที่แท้ไม่ใช่เจ้าหนี้

ป้าถอนหายใจอย่างโล่งอก และค่อยๆสำรวจเสี่ยวอวี้หลิน

แต่งตัวดูดี ดูยังไงก็รู้ว่าเป็นคนมีเงิน

แต่เสี่ยวอวี้หลิน รวยกว่าที่ป้าคิดไว้มาก

กลับกัน ลูกชายเธอกลับคิดว่าเป็นเจ้าหนี้ยังดีกว่าเป็นเสี่ยวอวี้หลิน

อยู่ๆเขาก็มารยาทดี ไม่ก้าวร้าว ค่อยๆถามอย่างกล้าๆกลัวๆว่า

“ไม่ทราบว่า คุณชายเสี่ยวมาทำอะไรที่นี่หรือครับ?”

ยังไม่ทันที่เสี่ยวอวี้หลินจะได้ตอบ ป้าก็ตวาดขึ้น

“มันไม่ใช่แฟนของเซี่ยอันน่าหรือ? ดูสิ่งที่แกทำซิ”

ลูกชายเห็นที่แม่ตัวเองพูดแล้ว หน้าก็ซีดเป็นไก่ต้ม “แม่ อย่าพูด”

“ฉันไม่ชินกับท่าทีแบบนี้ของแกเลยนะ แกทำไมปล่อยให้เซี่ยอันน่าเหยียบหัวได้?หะ?”

ป้าไม่ฟังและไม่สนใจที่ลูกชายบอก กลับหันไปสั่งสอนเสี่ยวอวี้หลิน

“ฉันเป็นป้าของเซี่ยอันน่า นายอยากคบกับมัน เคยถามฉันไหม? เห้อ แต่ช่างเถอะ เห็นความสสัมพันนธ์อันดีของพวกแกแล้ว ก็ให้พวกแกคบกันก็ได้ แต่ว่า แกเป็นรุ่นลูก ยังไงก็ต้องรักษามารยาทกับรุ่นพ่อหน่อย”

เสี่ยวอวี้หลินเคยเจอคนไร้ยางอายมาบ้าง แต่ไม่เคยเจอใครไร้ยางอายเท่ายัยป้านี่มาก่อน

“ฉันไม่อยากเสวนากับพวกโง่ เอาโทรศัพท์มา”

“แกพูดอะไรนะ!”

“โทรศัพท์อยู่นี่ครับ นี่ครับคุณชายเสี่ยว”

ป้าที่กำลังจะสั่งสอนเขา แต่ลูกชายตัวดีกลับประเคนให้

เธอโกรธจนควันออกหู “ไอ้ลูกโง่ หยิบออกมาทำไม!”

สีหน้าของลูกชายเหมือนจะร้องไห้ออกมา “แม่ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วได้ไหม ขืนแม่ยังพูดอะไรไม่ดีกับคุณชายเสี่ยวอีก เขาอาจจะเผาบ้านนเราก็ได้นะ”

“จริงหรือ?”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก ฉันแค่จะสั่งให้คนกระทืบมันจนเละ จากนั้นโยนทิ้งไว้ข้างทาง ให้มันกลายเป็นขอทานตลอดชีวิต”

เสี่ยวอวี้หลินยิ้มอย่างเลือดเย็น ลูกชายเห็นท่าทีของเขารีบวิ่งไปคุกเข่า และบอกว่า “คุณชายเสี่ยว พวกเราผิดไปแล้ว คุณปล่อยพวกเราไปเถอะ ผมสัญญาว่า แม่ผมจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับเซี่ยอันน่าอีก”

เขาพูดอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้ทำให้สายอาฆาตของเสี่ยวอวี้หลินลดน้อยลงสักนิดด

“พวกแกรู้ดี ว่าอันน่าเป็นผู้หญิงของฉัน ยังจะกล้าไปวุ่นวายกับเธออีก แสดงว่าแกไม่ได้เห็นฉันอยู่ในสายตาเลย”

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ

Status: Ongoing

“ผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการแล้ว” มู่เวยเวยซึ่งถูกแฟนหนุ่มขายตัวเธอไป จนเธอต้องกลายเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ภายในห้อง ความดุของเขาทำให้เธอทรุดลง “คุณแต่งงานกับฉันด้วยเหตุผลอะไร” ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่งงานกับคุณ แน่นอนว่าเพื่อที่จะได้รังแกคุณไง” หลังจากนั้น…………. “คุณห้ามคิดถึงผู้ชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการเขา” “ผู้หญิงของผมมีแค่ผมเท่านั้นที่จะรังแกได้ ใครกล้ามาแตะต้องคุณแม้แต่ปลายผม มันต้องตาย” “ใครบอกให้คุณไม่กลับบ้านตอนค่ำ ได้บอกผมรึยัง” ความทรมานที่ฉันพูดถึงมันเปลี่ยนรสชาติไปได้อย่างไร …………. เขาช่วยเธอ และปกป้องเธอเหมือนขุมทรัพย์ จนกระทั่งเธอพบว่าสามีที่เพิ่งแต่งงานคนนี้มีความลับที่เธอไม่รู้ … ห้องที่ห้ามเข้าใกล้ … ผู้ชายที่มีม่านตาสีม่วงและดวงตาเป็นประกาย … ทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก … ใครคือสามีที่แท้จริงของเธอ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท