หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 290 นรกบนผืนดิน

ตอนที่ 290 นรกบนผืนดิน

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 290 นรกบนผืนดิน

“ที่พวกมันพากันเข้า ๆ ออก ๆ กันไปมานั้น หรือพวกมันค้นพบวิธีการลับใดได้แล้ว ?”

“จะมีหนทางลับใดกันเล่า ? เมื่อพวกมันก้าวเข้าสู่หมอกขาวนั้น พลังปราณในกายของพวกมันไม่พลุ่งพล่านออกมานไปแล้ว”

“ฮึ่ม ไอ้พวกโง่เง่า ต้องเพราะพวกมันต่างมั่นใจในพลังมือของตนว่าจักสามารถผ่านพ้นหมอกขาวนั้นได้ เช่นนั้นพวกเราควรรั้งรอเก็บเกี่ยวประโยชน์จากพวกมัน ณ ที่ตรงนี้”

ทว่าระดับพลังปราณของเจ้าพวกนั้นสูงส่งยิ่งนัก ทั้งกลวิธีของมันล้วนประหลาดตา อาจบางที…”

“แม้นหากพลังฝีมือของพวกมันจะสูงส่งก็แล้วอย่างไรเล่า เมื่อที่สุดพวกมันย่อมต้องสูญสิ้นพลังปราณกลับกลายเป็นคนธรรมดาสามัญ ถึงตอนนั้น ยิ่งพวกมันกอบโกยสมบัติมาได้มากมายเพียงไร พวกเราก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมายเพียงนั้นเช่นกัน”

“ฮึ่ม กล้าคิดเหิมเกริมกับสกุลมู่หรงของพวกเรากระนั้นรึ! ข้าจะให้เศษเดนที่สวมหน้ากากนั้นได้รับรู้ว่า มันผู้ใดที่กล้าล่วงเกินตระกูลมู่หรงของข้าจะได้พบจุดจบเช่นไร !”

ภายในม่านหมอกขาวโพลน อบอวลไปด้วยอายบรรยากาศอันเย็นเยือกเสียดกระดูก

ไร้สิ้นพลังปราณ ไร้สิ้นพลังฝีมือ ความแข็งแกร่งภายในถูกสูบกลืนออกไปทีละน้อยทีละน้อย สถานที่แห่งนี้คือนรกบนผืนดิน

หากทว่า นั่นยังไม่อาจเทียบได้กับการมุ่งหน้าเคลื่อนเข้าสู่ความตายที่ซุกซ่อนตัวภายใต้ม่านหมอกอันหนาทึบ เสียงไล่เข่นฆ่าประหัตถ์ประหารดังกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศ

“อ๊าก !ไว้ชีวิตข้าด้วย ! ได้โปรด ไว้ชีวิตข้าเถิด ! ข้าจะมอบสมบัติทั้งหมดให้เจ้า !”

เสียงโหยหวนร้องขอชีวิตอย่างน่าอนาถจิตดังก้องศึกตลอดทั่วทั้งม่านหมอกทึบ

หากทว่าเพียงสิ่งเดียวที่ตอบรับกลับคืนมานั้นคือเสียงหัวเราะที่หยาบช้าระคนตื่นเต้น “ไว้ชีวิตเจ้า เราคงได้เพียงสมบัติ หากลงมือสังหารเจ้า ทั้งสมบัติทั้งผู้หญิงล้วนตกเป็นของพวกเราสิ้น เช่นนั้นลองบอกข้าสิว่าหากเป็นเจ้า เจ้าจะเลือกสิ่งใด ?”

บุรุษร่างสูงใหญ่กํายําผู้ปกปิดใบหน้าด้วยผืนผ้าดําจํานวน 7-8 นาย รุมล้อมรอบคนกลุ่มหนึ่ง บุรุษผู้นํากลุ่มเหลือบมองสาวน้อยผู้อยู่ในที่นั้นด้วยสายตาลามกตื่นกาม

“พวกเราคือศิษย์สํานักเมฆาแดงแห่งอาณาจักรเทียนกัง หากเจ้ากล้าลงมือกับพวกเรา เจ้าสํานักย่อมไม่มีวันละเว้นเจ้าแน่ !”

ทว่าบุรุษผู้ปิดหน้ากลับกล่าวคํากลั้วเสียงหัวเราะ “สํานักเมฆาแดงจะไม่มีวันละเว้นพวกเรากระนั้นหรือ ? เช่นนั้นย่อมขึ้นกับว่าพวกเจ้าจะสามารถหนีรอดไปได้หรือไม่เสียแล้ว !”

“หากพวกเจ้าถูกฆ่าปิดปาก ซากศพถูกทิ้งให้เน่าเปื่อยเหลือเพียงโครงกระดูกอยู่ที่นี่ ย่อมไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าเจ้าอยู่ที่ใด”

ผู้เยี่ยมยุทธทั้งห้าซึ่งถูกล้อมกรอบล้วนมีสีหน้าตื่นผวาประกายตาสิ้นหวัง

พลังฝีมือทั้งหมดของพวกเขาล้วนถูกสูบกลืนหดหายภายใต้หมอกขาวโพลน ร่างกายของพวกเขาในยามนี้ล้วนอ่อนแอเสียยิ่งกว่าคนธรรมดาสามัญผู้ไร้สิ้นพลังยุทธ

คนหยาบช้ากลุ่มนี้มีระดับพลังฝีมือเพียงพลังปราณขั้น 3 พลิกผันอวเจี หากเป็นนอกขอบเขตม่านหมอกขาวนี้ พวกมันล้วนไม่อาจแม้เพียงถือรองเท้าให้แก่บรรดาศิษย์สํานักเมฆาแดงด้วยซ้ำ ทว่ายามนี้ พวกมันกล้าเหิมเกริมถึงขนาดพร้อมลงมือสังหาร

บุรุษผู้นําที่ปิดผ้าคลุมหน้าระเบิดเสียงหัวเราะพลางยกมือขึ้นโบกพร้อมเสียงสั่ง “พี่น้องทั้งหลาย นอกเสียจากสาวน้อยผู้เลอโฉมนั่นแล้ว จงให้ฆ้อนยักษ์ของพวกเจ้าบดขยี้ศีรษะพวกมันให้ข้าเดี๋ยวนี้”

เพียงสิ้นสุดคํากล่าว บุรุษจํานวนมากก็ทุ่งร่างส่งเสียงร้องตะโกนแปลกประหลาดดังก้องคล้ายเสียงฝูงแตนแตกรัง

แต่ละคนกุมอาวุธขนาดใหญ่ในมือ บ้างคือฆ้อนยักษ์ บ้างกุมกระบี่ยักษ์ กระทั่งขวานขนาดใหญ่ยักษ์ยังปรากฏให้เห็น

อาวุธหนักมือทั้งหลายเหล่านั้นล้วนคือสิ่งที่คนธรรมดาสามัญไม่อาจแกว่งกุม หากทว่าพวกมันกลับสามารถกวัดแกว่งอาวุธในมือเหล่านั้นอย่างง่ายดายราวของเด็กเล่น

เพียงไม่นาน ร่างของยอดฝีมือหนุ่มทั้งสี่พลันแหลกเละโลหิตข้นไหลทะลักน่าสยดสยอง เสียงร้องบาดรูหูเสียดแทงผ่านความเงียบสงัดก่อนร่างของพวกเขาจะร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน

ที่น่าตื่นผวายิ่งไปกว่าผู้ใดนั้นคือคนผู้หนึ่งซึ่งถูกขวานขนาดใหญ่จามลงกลางกายผ่าแยกร่างตั้งแต่ศีรษะจรดถึงปลายเท้ากระทั่งอวัยวะภายใน และโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นนับเป็นภาพการนองเลือดอันเขย่าประสาทยิ่งนัก

สาวน้อยผู้นั้นเป็นพียงผู้เดียวที่หลงเหลืออยู่ นางส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นกลัว และสิ้นหวัง

บุรุษผู้นํากลุ่มชายคลุมหน้ามีใบหน้าเต็มแต้มไปด้วยหยาดเหงื่อ คนผู้นั้นเดินตรงเข้ามาฉุดร่างสาวน้อยให้ลุกขึ้นก่อนจะส่งเสียงหัวเราะลั่นอย่างบ้าระห่ำ “พี่น้องทุกคน พวกเจ้าดูสิ นางช่างเนื้อตัวนุ่มนิ่มผิวพรรณละเอียดอ่อน ทั้งยังเป็นยอดฝีมือระดับพลิกผันอเวจีเสียด้วย ข้ามั่นใจยิ่งนักว่านางจะต้องเป็นศิษย์ระดับยอดแห่งสํานักใหญ่เมฆาแดงเป็นแน่ พวกเจ้าเคยมีโอกาสได้ลิ้มลองของชั้นเลิศเช่นนี้มาก่อนหรือไม่เล่า

***จบตอน นรกบนผืนดิน***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

Status: Ongoing

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

เมื่อนางคือสุดยอดมือสังหารเกียรติยศระดับเหรียญทองแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ถูกส่งผ่านข้ามกาลเวลามาสู่ร่าง คุณหนูสาม น่าหลานเกอซี แห่งตระกูลแพทย์ผู้ปรุงโอสถอันลือลั่น นางผู้สิ้นดี นางผู้ถูกกลั่นแกล้งสารพัด

นางคือผู้ที่ไร้สิ้นกระแสปราณแห่งพลังจึงมิอาจโคจรฝึกฝนพลังปราณเยี่ยงผู้อื่นได้เช่นนั้นล่ะหรือ? จะต้องเกรงไปไย เมื่อนางคือยอดหมออัจฉริยะสวรรค์บันดาน แค่อาการจิ๊บจ้อยเพียงเท่านี้ ไม่พอมือนางหรอก บิดาไม่เอ็นดูข้า มารดาไม่รักข้า ทุกคนล้วนข่มเหงรเหยียบย่ำข้ากระนั้นหรือ? ฮึ่ม! เมื่อนางคือผู้ครอบครองมิติและสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างไร้ผู้เทียบเทียม เช่นนี้แล้ว ไยนางต้องแสร้งทำตนเป็นคุณหนูลูกแหง่ในสกุลน่าหลานอีกเล่า!

ใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ ร่างกายที่ผ่ายผอมแลดูอมโรคนั้น หาได้มีผู้ใดต้องการมันใช่ไหม? เพียงชั่วพริบตา นางจะกระชากหน้ากากเดิมเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ทำให้บุรุษรูปงามเป็นโหลๆต้องคอยเฝ้าล้อมหน้าล้อมหลัง! หากแต่บุรุษจอมเผด็จการผู้นั้นกลับยังตามตื้อกันไม่เลิกไม่ราตั้งแต่งานประมูลเมื่อคราก่อน

ผู้ใดบอกว่าชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับเจ้ากัน? ชีวิตของข้าย่อมต้องเป็นของข้า! ข้าจะมิยอมให้ผู้ใดมากำหนดชีวิตของข้าได้!

บุรุษนิรนาม : เช่นนั้นชีวิตของข้าก็เป็นของเจ้า แล้วแต่เจ้าจะบัญชาให้เป็นไปดีไหม?

*****

ลำดับขั้นแห่งการฝึกฝนพลังปราณอันต้องอาศัยผู้ที่มีรากฐานแห่งพลังอันเนื่องด้วยกระแสจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะสามารถควบกลั่นโคจรพลังปราณในกายได้ ไล่เรียงลงไปตามลำดับขั้นจากขั้นพื้นฐานไปถึงขั้นสูงสุดมีทั้งหมด 9 ขั้น โดยกำลังปราณแต่ละขั้นมี 10 ระดับ

กำลังปราณขั้น 1 เมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม กำลังปราณขั้น 2 ปฐมภูมิโลกันต์ กำลังปราณขั้น 3 พลิกผันอเวจี กำลังปราณขั้น 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน กำลังปราณขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ กำลังปราณขั้น 6 เปิดม่านฟ้าดิน กำลังปราณขั้น 7 ทะลวงสิ้นโลกสาม กำลังปราณขั้น 8 ก้าวข้ามสูญญภพ กำลังปราณขั้น 9 สยบทั้งจักรวาล

ผู้แปลไม่ได้เก่งภาษาจีน เป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ

ดังนั้นชื่อเฉพาะของบุคคลและสถานที่ต่างๆอาจผิดเพี้ยนไปต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ หากท่านใดไม่เคร่งครัดเรื่องนี้ขอเชิญมาสนุกด้วยกันเลยค่า

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท