ตอนกลางวันหลานเสี่ยวถาง เฉียวโยวโยวและซูสือจิ่น พาเด็กสามคนเล่นด้วยกัน
หวันหว่านก็ชอบน้องชายน้องสาวมาก ในฐานะที่เธอเป็นพี่ เธอเดินสะเปะสะปะไปมาได้แล้ว จึงช่วยน้อง ๆ หยิบของเล่นอยู่บ่อย ๆ เธอยุ่งเป็นอย่างมาก
เวลางดงามยิ่งกว่าเดิม ท้องของหลานเสี่ยวถางกับซูสือจิ่นก็โตขึ้นขึ้นทุกวัน
วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์พอดี หลานเสี่ยวถางกับซูสือจิ่นถ่ายรูปกันอยู่ที่สนามหญ้า ส่วนเฉียวโยวโยวคือตากล้องของพวกเธอ
หลานเสี่ยวถางเพิ่งได้รับข่าวว่า เพื่อนร่วมสาขาของมหาลัยสมัยก่อนส่งข่าวมา ผู้หญิงชื่อเถาอวี่มั่ว เธอบอกว่าเธอหมั้นกับมั่วหลิงชวนแล้ว กำลังจะแต่งงาน
พอดีกับช่วงที่หลานเสี่ยงถางตั้งท้อง ได้ศึกษาโปรแกรมของมั่วหลิงชวน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเพิ่งจะศึกษาส่วนท้ายเสร็จ แถมยังวางแผนไว้ว่าจะเอาไปให้เขาอยู่!
สือมูเฉินมีเพื่อนที่ทำงานด้านรถยนต์ เธอส่งโปรแกรมไปให้ วางในตลาด เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับมั่วหลิงชวนเหมาะสมเป็นอย่างมาก!
เธเก็บโทรศัพท์ลง หลานเสี่ยวถางคล้องแขนซูสือจิ่น ทั้งสองทำท่าทาง เฉียวโยวโยวกดปุ่มชัตเตอร์
เธอมองดูทั้งสองบนหน้าจอ LED หัวเราะพูดขึ้น “สือจิ่น ทำไมฉันรู้สึกว่าท้องของเธอใหญ่กว่าเสี่ยวถางนะ?”
“ใหญ่กว่าเหรอ?” ซูสือจิ่นก้มหน้ามองท้องตัวเอง แล้วมองหลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้าง กำลังจะพูดว่าทำไมเธอถึงรู้สึกว่าท้องของหลานเสี่ยวถางใหญ่กว่า จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดท้องเป็นระยะ
หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้างเห็นสีหน้าของซูสือจิ่นไม่ดี จึงพูดขึ้น “เป็นอะไรเหรอสือจิ่น?”
“แย่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะคลอดแล้วหรือเปล่า!” ซูสือจิ่นกุมท้อง สีหน้าวิตกกังวล “ปวดท้อง…”
“จะคลอดเหรอ? ฉันโทรศัพท์เดี๋ยวนี้!” เฉียวโยวโยววางกล้องลง แล้วรีบโทรหาหยานชิงเจ๋อ
เวลานี้หยวนชิงเจ๋อกำลังอ่านหนังสือการเลี้ยงลูกอยู่ที่ห้องหนังสือ เห็นเฉียวโยวโยวโทรมา ก็วิตกในทันที “ทำไมเหรอ?”
“พี่ชิงเจ๋อ สือจิ่นของพี่ปวดท้อง เหมือนว่าจะคลอดแล้ว! พวกเราอยู่ที่สนามหญ้า พี่รีบมาเร็ว!” เฉียวโยวโยวพูด
“ตกลง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” หยานชิงเจ๋อวางโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นยืนในทันที เพราะว่าเคลื่อนไหวเร็วไปหน่อย เข่าชนมุมโต๊ะเขียนหนังสือตรงหน้า เขาปวดแปล๊บในทันที
เขารอให้ความเจ็บปวดบรรเทาไม่ทัน จึงรีบเดินออกไปอย่างเร็ว เขาเดินไปด้วย พูดกับแม่บ้านไปด้วย “คุณผู้หญิงน่าจะใกล้คลอดแล้ว เธอรีบเตรียมตัวเร็วเข้า!”
“ค่ะ!” แม่บ้านเคยผ่านมาก่อน เมื่อได้ยินคำพูดของหยานชิงเจ๋อ จึงรีบไปเตรียมตัว
หยานชิงเจ๋อเดินเร็วไปที่สนาม เห็นซูสือจิ่นกุมท้อง ยืนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับเขยื้อน จึงพูดขึ้นอย่างกังวล “เสี่ยวจิ่น ปวดท้องมากเหรอ? จะคลอดแล้วใช่ไหม? ฉันอุ้มเธอ?”
“พี่ชิงเจ๋อ…” ซูสือจิ่นเห็นหยานชิงเจ๋อ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีแรงในทันที เธอซบอกหยานชิงเจ๋อ พูดอย่างน่าสงสาร “จู่ ๆ ก็ปวดมาก ฉันขยับไม่ได้แล้ว…”
“ไม่เป็นไร สามีอุ้มนะ! พวกเราไปโรงพยาบาลกันเดี๋ยวนี้!” เดิมที่หยานชิงเจ๋อวางแผนจะให้ซูสือจิ่นไปอยู่ที่โรงพยาบาลวันจันทร์ แต่ว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงจะครบกำหนดคลอด เขาคิดไม่ถึงว่าซูสือจิ่นจะเร็วขนาดนี้
เขาอุ้มซูสือจิ่นขึ้น จากนั้นก็เดินไปลานจอดรถอย่างรวดเร็ว
หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านหลังกำลังจะพูดว่าให้พวกเขาไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวเธอกับสือมูเฉินตามไป จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองหดตัวเป็นระยะ
ความเจ็บปวดแบบนี้สำหรับเธอแล้วเธอคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเจ็บท้องเป็นระยะเริ่มขึ้น เธอรู้แล้วว่า เธอก็จะคลอดแล้ว! คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้!
เฉียวโยวโยวคาดไม่ถึงว่าหลานเสี่ยวถางก็คลอดก่อนกำหนด เธอรีบพยุงหลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็โทรหาสือมูเฉินในทันที
ที่คฤหาสน์ สือมูเฉินได้ยินหวันหว่านตื่นแล้ว เขากำลังจะไปอุ้มลูกสาว ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เมื่อเห็นเฉียวโยวโยวโทรมา เขาจึงอุ้มหวันหว่านไปด้วย ฟังไปด้วย “โยวโยว?”
“พี่สือ เสี่ยงถางจะคลอดแล้ว!” เฉียวโยวโยวพูด “พวกเราอยู่ที่สนามหญ้าด้านนี้ จะกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!”
“พวกเธออยู่ที่สนามหญ้าแหละ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” สือมูเฉินพูด แล้วให้แม่บ้านดูแลหวันหว่าน เขาหยิบกุญแจรถรีบวิ่งออกไป
เพราะว่านี่คือท้องสองของหลานเสี่ยวถางแล้ว เธอจึงสงบกว่าซูสือจิ่น ตอนนี้เธอทนความเจ็บไปด้วย ให้เฉียวโยวโยวพยุงเธอเดินกลับไปที่บ้านไปด้วย
ไม่ช้า สือมูเฉินก็มาถึงแล้ว เขายื่นแขนจะอุ้มหลานเสี่ยวถาง แต่เธอกลับส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเก็บแรงไว้อุ้มลูก!”
ขณะที่กำลังพูด หลานเสี่ยวถางก้มหน้า ก็เห็นสือมูเฉินยังสวมรองเท้าแตะ จึงอดหัวเราะไม่ได้ “มูเฉิน คุณกลับไปเปลี่ยนรองเท้าที่บ้านก่อนไหมคะ?”
ถึงแม้จะไม่ได้เป็นกังวล แต่ว่าความเจ็บปวดไม่มีทางลดลงเพราะความผ่อนคลายของหลานเสี่ยวถาง เธอเพิ่งพูดประโยคนั้นจบ ท้องก็เริ่มหดตัวอย่างแรง เธออดไม่ได้ที่จะหยุดเดิน
“ใส่รองเท้าแตะก็รองเท้าแตะเถอะ” สือมูเฉินอุ้มหลานเสี่ยวถางขึ้น แล้วจ้ำอ้าวเดินไปทางที่จอดรถ
เพราะว่าเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน หยานชิงเจ๋อกับสือมูเฉินไม่มีเวลาเรียกคนขับรถ ส่วนฟู่สีเกอ หลังจากได้รับสายจากเฉียวโยวโยว ก็รีบตามมา
เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง รู้สึกว่าหยานชิงเจ๋ออาจจะจัดการซูสือจิ่นไม่ได้ จึงเป็นคนขับรถให้หยานชิงเจ๋อ ส่วนเฉียวโยวโยว ไปกับหลานเสี่ยวถางและสือมูเฉิน นั่งรถอีกคันไปโรงพยาบาล
ฟู่สีเกอขับรถ หยานชิงเจ๋อนั่งด้านหลัง จับมือของซูสือจิ่นไว้ “เสี่ยวจิ่น ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว อดทนหน่อยนะ!”
“พี่ชิงเจ๋อ ฉันปวดท้องมาก ฮือ ๆ…” ซูสือจิ่นซบอกหยานชิงเจ๋อ “ที่แท้ก็เจ็บขนาดนี้ ฉันไม่เอาลูกคนที่สองแล้ว! เจ้าหญิงน้อยคนเดียวก็ดีแล้ว!”
ก่อนหน้านี้ พวกเขาตรวจอัลตราซาวด์ หมอบอกว่าเป็นเจ้าหญิงน้อย
“ตกลง ไม่เอาก็ไม่เอา มีคนเดียวก็พอ!” หยานชิงเจ๋อตอบรับ
“พี่สีเย็น พี่ห้ามหัวเราะเยาะฉัน!” ซูสือจิ่นพิงหยานชิงเจ๋อ แต่ว่ากลับเห็นฟู่สีเกอในกระจกมองหลังเหมือนกับกำลังแอบขำอยู่ จึงพูดโมโห “ลูกแฝดชายหญิงของพี่แล้วยังไง เป็นเพราะโยวโยวเก่ง ไม่เกี่ยวกับพี่เลย!”
ฟู่สีเกอกระตุกมุมปาก “ปวดท้องแล้วยังพูดได้เยอะขนาดนี้ ดูท่าจะแกล้งปวด!”
“ไม่เจ็บได้ยังไง พี่มาลองดูไหม?!” ซูสือจิ่นตัดพ้อ เงยหน้ามองไปทางหยานชิงเจ๋อ “พี่ชิงเจ๋อ เขารังแกฉัน!”
หยานชิงเจ๋อพูดกับฟู่สีเกอในทันที “สีเกอ เสี่ยวจิ่นจะคลอดลูกอยู่แล้ว ทำไมยังยั่วโมโหเธอ? รีบขอโทษเธอเร็ว!”
เรื่องแบบนี้ ฟู่สีเกอเคยชินตั้งนานแล้ว จึงพูดขึ้น “ก็ได้ เป็นเพราะฉันไม่ดี ไม่ควรว่าคุณหนูซูที่สวยที่สุดของพวกเรา คุณหนูซูเก่งที่สุด! คุณหนูซูอายุยืน!”
“พี่ชิงเจ๋อ เขาทำแบบขอไปที…” ซูสือจิ่นถูไถหัวกับร่างกายของหยานชิงเจ๋อ จู่ ๆ ก็ปวดท้องเป็นระยะอีก เธอกุมท้องที่นูนขึ้น เธอหมดแรงพูดในทันที
“สีเกอ ขับเร็วหน่อย!” หยานชิงเจ๋อพูดจบ ก็เปลี่ยนน้ำเสียง พูดกับซูสือจิ่นอย่างอ่อนโยนในทันที “เสี่ยวจิ่น ไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่กับเธอตลอด…”
ฟู่สีเกอที่อยู่ด้านหน้ากลอกตามองบน…
ส่วนในรถอีกคันที่สือมูเฉินเป็นคนขับ บรรยากาศปรองดองอย่างมาก
หลานเสี่ยวถางกับเฉียวโยวโยวอยู่ด้านหลัง เฉียวโยวโยวเล่าเรื่องตลกของถางเป่ากับหรงฉิวให้หลานเสี่ยวถางฟังเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
หลานเสี่ยวถางเจ็บมาก แต่ก็อดทนไว้ ฟังคำพูดของเฉียวโยวโยว ความคิดกระจัดกระเจิงไปเยอะมาก
ผ่านไปสิบนาที ทุกคนมาถึงโรงพยาบาลกันติด ๆ
สือมูเฉินให้เฉียวโยวโยวไปจอดรถ ตัวเองกับแม่บ้านที่นั่งอยู่ด้านหน้า พาหลานเสี่ยวถางไปที่แผนกสูตินรีเวช
ขณะเดียวกัน หยานชิงเจ๋อก็อุ้มซูสือจิ่นมา ทั้งสองมองตากัน ก็ยิ้มให้กัน
หลานเสี่ยวถางกับซูสือจิ่นแยกกันไปคนละห้อง เพราะว่าตอนนี้สามีสามารถเป็นเพื่อนคลอดได้ ดังนั้นสือมูเฉินกับหยานชิงเจ๋อก็เข้าไปด้วย
บนเตียงคลอด สือมูเฉินจับมือของหลานเสี่ยวถางไว้ ใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่เช็ดเหงื่อให้เธอ
เป็นเพราะท้องสอง ดังนั้นปากมดลูกของเธอจึงเปิดเร็วมาก หลังจากที่เจ็บปวดอยู่หนึ่งชั่วโมง ปากมดลูกก็เปิดสามเซนแล้ว
สือมูเฉินมองดูภรรยาที่เหงื่อท่วมตัวบนเตียงคลอด จึงอดคิดถึงตอนที่เธอคลอดหวั่นหวานไม่ได้
ตอนนั้นหลานเสี่ยวถางถูกตระกูลเพอร์เซลล์กักตัวไว้ เขาไปเจอเธอไม่ทัน ตอนนั้นเธออยู่บนเตียงคลอดคนเดียว ต้องรู้สึกไร้ที่พึ่งมากใช่ไหม?
เขาเริ่มเจ็บปวดหัวใจ มองดูความลำบากของหลานเสี่ยวถาง แทบอยากจะสลับตัวกับเธอ
“เสี่ยวถาง ผมรักคุณ” สือมูเฉินพูด แล้วก้มจูบหน้าผากของหลานเสี่ยวถาง
หยาดเหงื่อติดริมฝีปาก รสชาติเค็ม ๆ
หลานเสี่ยวถางยิ้มกับสือมูเฉินอย่างยากลำบาก “ฉันก็รักคุณค่ะ”
“เสี่ยวถาง ผมเล่าเรื่องให้คุณฟัง!” สือมูเฉินเริ่มเล่าเรื่องเมื่อก่อนที่เขาเริ่มสร้างบริษัท เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนสมาธิของเธอ
วิธีนี้เหมือนจะได้ผลจริง ๆ หลานเสี่ยวถางถูกเขาดึงดูดความสนใจ เวลาผ่านไปปากมดลูกเปิดถึงเจ็ดเซ็นแล้ว
หมอมาตรวจดู เฝ้าดูสถานการณ์ของหลานเสี่ยวถางตลอดเวลา
เวลาผ่านไปทีละนิด ในที่สุดก็เปิดครบสิบเซน
“เห็นหัวเด็กแล้ว…” ได้ยินประโยคนี้ของหมอ ในที่สุดหลานเสี่ยวถางก็โล่งอก จากนั้นก็รวมพลังอีกครั้ง รอช่วงเวลาการคลอดที่จะมาถึง
หมอตรวจดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น “ไม่ต้องตัดฝีเย็บ ระวังตัว ผู้คลอดเริ่มออกแรงได้เบ่งได้แล้ว…”
เป็นเพราะการคลอดครั้งที่สอง เทียบกับครั้งแรกที่เจ็บจนแทบจะเป็นลมอยู่บนเตียงคลอด ครั้งนี้ผ่อนคลายกว่าเยอะ
หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าจู่ ๆ มีอะไรบางอย่างไหลออกมาอย่างแรง แล้วรู้สึกเบาสบายในทันที
ในตอนนี้เอง เสียงร้องไห้ดังขึ้น ดังกังวานทั่วห้องคลอด
สือมูเฉินมองเห็นลูกชายที่ตัวเปอะเปื้อน แถมยังมีเลือดติดอยู่ถูกอุ้มออกมา ดวงตารู้สึกร้อนผ่าวในทันที
เขาก้มจูบหลานเสี่ยวถาง “เสี่ยวถาง พวกเรามีลูกชายลูกสามครบแล้ว ขอบคุณนะ ลำบากคุณเลย!”
เพียงแต่ในห้องคลอดอีกห้องหนึ่ง ซูสือจิ่นปากมดลูกเพิ่งจะเริ่มเปิด
เธอเจ็บจนโอดครวญ หยานชิงเจ๋อที่เป็นพ่อคนครั้งแรกไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงกุมมือของซูสือจิ่นไว้ แล้วปลอบเธอไม่หยุด
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในตอนที่ซูสือจิ่นพูดว่าเจ็บจนทนไม่ไหวจะผ่าคลอด หมอก็พูดขึ้นในที่สุด ว่าให้เริ่มออกแรงเบ่งได้แล้ว
ซูสือจิ่นรู้สึกว่าได้ผ่านการทรมานมาอย่างยาวนาน ในที่สุดในตอนที่ได้ยินเสียงร้องดังกังวานของลูก เธอก็ร้องไห้ตาม “เจ็บมาก ฮือๆ ฉันไม่อยากคลอดลูกอีกแล้ว!”
หยานชิงเจ๋อที่อยู่ด้านข้างกุมมือเธอไว้แน่นอยู่ตลอด พูดกล่อมเธอ “ตกลง พวกเราไม่เอาแล้ว เสี่ยวจิ่นไม่ร้องนะ ต่อไปจะไม่เจ็บอีกแล้ว”
เพียงแต่ประโยคหนึ่งของหมอกลับทำลายบรรยากาศในห้อง “เอ๋ ก่อนหน้านี้ที่ตรวจอัลตราซาวด์เป็นเด็กผู้หญิง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย!”
ซูสือจิ่นตะลึงอย่างถึงที่สุด จนลืมความเจ็บไปเลย “อะไรนะ?!” ของทุกอย่าง เตรียมไว้ให้เด็กผู้หญิงทั้งหมด!
อีกอย่างเธออยากได้เจ้าหญิงตัวน้อยที่สวยงามนะ…
คิดแบบนี้ น้ำตาเธอก็ไหลออกมาอีกแล้ว เต็มไปด้วยความกล้ำกลืน “พี่ชิงเจ๋อ ลูกสาวของฉันทำไมถึงกลายเป็นลูกชายแล้ว ฉันไม่ยอม…”