แต่ทว่า ภายใต้การทำงานของแอลกอฮอล์ เธอนั้นจึงมีความกล้ามากกว่าในยามปกติเป็นอย่างมาก
ซูสือจิ่นพุ่งเข้าไปอาบน้ำแล้วสวมใส่ชุดนอน หลังจากนั้น ก็รอหยานชิงเจ๋ออยู่บนเตียง
เขาเองนั้นไม่นานมากนักก็ออกมาแล้ว เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่นอน ดังนั้นจึงตลบผ้าห่มออกแล้วเอนตัวนอนลง หลังจากนั้นก็ดึงเธอเข้ามาสวมกอดในอ้อมกอดตามความเคยชิน “เสี่ยวจิ่น ยังไม่นอนหรือไง?”
เธอขยับตัวเข้าไปแนบตัวอยู่ในอ้อมกอดเขามากขึ้น “ไม่มีพี่ฉันนอนไม่หลับ”
หยานชิงเจ๋อหัวเราะออกมาอย่างรักใคร่ “เอาละ เด็กดี ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้กอดเธออยู่หรือไง?”
พูดไป เขาก็ปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนจะก้มศีรษะลงไปประทับจูบเข้าที่หน้าผากของซูสือจิ่น
เขาโดยปกตินั้นเวลาออกจากบ้านไปไหนมักจะไม่ได้ตระเตรียมถุงยางเอาไว้ สามารถบอกได้อีกอย่างหนึ่งว่า คิดอยากที่จะตั้งครรภ์แล้วละก็ วันนี้ก็คือโอกาสที่ดีเป็นอย่างมากอย่างไรล่ะ!
บวกเข้ากับ ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงตกไข่ของเธอด้วย จะต้องพลาดไม่ได้เด็ดขาด!
ดังนั้นแล้ว มือของซูสือจิ่น ค่อย ๆ เคลื่อนลงไปจากลำคอของหยานชิงเจ๋ออย่างเชื่องช้า ลงไปถึงบริเวณทรวงอกของเขาแล้ว
หยานชิงเจ๋อถูกทำจนรู้สึกจั๊กจี้ ลูกกระเดือกขยับไปมา ก่อนจะคว้าจับมือของซูสือจิ่นเอาไว้ “เด็กดี นอนแล้วนะ”
ซูสือจิ่นรู้สึกเกลียดจนคันฟัน บิดตัวไปมาในอ้อมกอดของหยานชิงเจ๋อ ในหัวใจกลับกำลังคิดว่า ทำไมเขาถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรเลยล่ะ ถ้าว่าเสน่ห์ของเธอนั้นลดลงไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
เพียงแต่ว่าเมื่อความคิดนี้ปรากฏตัวขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่าตนเองนั้นถูกตรึงเอาไว้อยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเอง หัวใจก็เป็นประกายในทันที
ดูท่าแล้ว เขานั้นยังคงมีปฏิกิริยากับเธออยู่!
“เสี่ยวจิ่น เด็กดี” หยานชิงเจ๋อในตอนนี้ น้ำเสียงพูดออกมานั้นล้วนแล้วแต่แหบพร่าเล็กน้อย
เขาคิดอยากที่จะได้เธอมา แต่ทว่าวันนี้ออกมาไม่ได้พกถุงยางมากด้วย ถ้าหากว่ามีขึ้นมาแล้วจริง ๆ เธอนั้นก็จะลำบากไปอีกสิบเดือนอีกครั้ง
ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ภาพในตอนแรกที่เธอคลอดเจ้าตัวน้อยออกมานั้นมันฝังลึกเข้าไปในความทรงจำเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากให้เธอมีความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมานแบบนั้นอีกแล้ว
“พี่ชิงเจ๋อคะ——” ร่างกายของซูสือจิ่นแนบชิดเข้าหาร่างกายของหยานชิงเจ๋ออีกครั้ง ปลายนิ้วก็ลากไล่ไปตามส่วนที่อ่อนไหวอย่าง ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ ต่ออีกครั้ง
มันไล่ลงไปจากแผ่นอกของเขา ผ่านกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลังจากนั้น ราวกับว่าขาของเธอนั้นมีจุดไหนที่รู้สึกคันยุบยิบเลยก็ไม่ปาน จึงยื่นมือออกไปเกาดู แต่ทว่า ปลายนิ้วมีกลับปะทะเข้ากับความแข็งขืนของเขาครั้งหนึ่งเสียแล้ว ไม่นานนักก็ยกมันออกไปอีกครั้ง
“เสี่ยวจิ่น เป็นอะไรไปน่ะ?” หยานชิงเจ๋อนั้นอดทนอย่างทุกข์ทรมาน หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อหมดแล้ว
“ฉันคันขา” ซูสือจิ่นเอ่ยขึ้นอย่างคนไร้ความผิด
พูดไป ก็ทำเช่นนั้นต่อไป
ทันใดนั้นเอง หลังมือของเธอ ก็ถูกความแข็งขืนของเขาอีกครั้งหนึ่ง
“อ๊ะ มันนิสัยไม่ดีเลย!” ซูสือจิ่นเอ่ยขึ้นเสียงเบา พูดไป ก็ราวกับว่าจงใจลงโทษมันเลยก็ไม่ปาน ดังนั้นแล้วจึงยื่นมือออกไปหยอกล้อกับมันอีกครั้ง
นัยน์ตาของหยานชิงเจ๋อหกเกร็งตัวในทันที รู้สึกเพียงแค่ว่าตอนนี้สมองระเบิดไปแล้ว
ในตอนที่แทบจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใด ๆ เลยนั้นเอง สัญชาตญาณของเขานั้นก็พุ่งเข้าไปกดเธอเอาไว้เหนือศีรษะแล้ว
หัวใจของซูสือจิ่นลอบยิ้ม ก่อนจะรับแนบชิดร่างกายต้อนรับโดยทันที
หยานชิงเจ๋อไม่ได้ค้นพบการกระทำเล็ก ๆ ของเธอเลย อีกทั้งเป็นเพราะว่าการสอดประสานแนบชิดแบบนี้ ทำให้รู้สึกได้ถึงเลือดในกายที่กำลังร้องเรียก
เขากดซูสือจิ่นเอาไว้แน่น ร่างกายกดตัวทาบทับไปมาอยู่บนร่างของเธอ
วันนี้ ส่วนอ่อนไหวของเธอนั้นราวกับว่าชื้นแฉะแล้ว มันเลอะบนร่างกายของเขา โอบกอดเข้าเอาไว้
ในตอนที่เขามีปฏิกิริยาตอบกลับมาแล้วนั้นเอง มือก็อยู่บนร่างของเธอเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะบีบคลึงเข้าที่ขาของเธอไปพลาง และก้มศีรษะลงไปประกบจูบเธอไปพลาง
ในช่องปากของเธอ ยังคงมีกลิ่นของแอลกอฮอล์อยู่ รสชาติบางเบา แต่ทว่ากลับจุดไฟให้มีอุณหภูมิขึ้นมาได้ในทันที
อีกอย่างหนึ่ง ขาของเธอเองนั้นก็แนบขึ้นมาบนร่างของเขา ดังนั้นแล้ว จึงบีบนวดลงไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนแข็งขืนของเขา ตอนนี้ก็เข้าถึงจุดอ่อนไหวของเธอเรียบร้อยแล้ว
เขาอยากที่จะผละออกไป แต่ทว่า รู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าสมองของเขาในตอนนี้กำลังสั่งการให้มีการกระทำผละออกไป แต่ร่างกายกลับพุ่งไปทางด้านหน้าแทน
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจึงสอดใส่เข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ในตอนที่เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกโอบล้อมอันคุ้นเคยนั้นเอง สติสัมปชัญญะทั้งหมดก็ไม่รู้ว่าบินลอยหายไปไหนแล้ว
หยานชิงเจ๋อยังคงค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะส่งเสียงครางต่ำ ๆ ออกมา
“พี่ชิงเจ๋อคะ——” น้ำเสียงเร่าร้อนของซูสือจิ่นดังขึ้นที่กกหูของเขา ลมหายใจอุ่นร้อนแฝงไปด้วยกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วก็ตีความอดทนสุดท้ายของเขาจนแตกละเอียด
ทันใดนั้นเอง เขากลับลืมเลือนทุกสิ่งอย่าง ก่อนจะเข้าไปในร่างกายของเธอ แม้กระทั่งเป็นเพราะว่าเธอเองนั้นก็เชื้อเชิญเองด้วย การเคลื่อนไหวของเขานั้น มันยังรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมากเสียอีก
ห้องทางด้านข้าง หลานเสี่ยวถางกำลังเอนตัวพิงอยู่ในอ้อมกอดของสือมูเฉิน ส่งเสียงถอนหายใจเบา ๆ ออกมา “ไม่ได้พบเจอกันพึ่งจะครึ่งปีเอง หวันหว่านรู้ความมากกว่าเมื่อก่อนอีกค่ะ”
สือมูเฉินพยักหน้า “ใช่ครับ มีบางครั้ง พ่อแม่นั้นมักจะหวังว่าลูกจะรู้ความมาก ๆ แต่ทว่าก็กังวลว่าเธอจะรู้ความมากจนเกินไป แต่ว่านะครับ พวกเราจะพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ อีกอย่างผมเองก็มองออกแล้ว โอหยางจวิ้นเองก็ดูแลเธอเป็นอย่างดีด้วย”
หลานเสี่ยวถางเอ่ย “ค่ะ อันที่จริงแล้วฉันเองก็วางใจลงไปมาแล้วล่ะค่ะ เพียงแค่คิดว่าอีกตั้งสิบปีกว่าเธอจะสามารถไปเข้ารับการผ่าตัดนั้นได้ ก็เลยรู้สึกว่ามันยาวนานเล็กน้อย”
“สิบปีบางครั้งก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากนะครับ” สือมูเฉินสบตามองหลานเสี่ยวถาง “ตอนนี้ลูกเติบโตเร็วมาก หากผ่านไปอีกสิบปี หวันหว่านอาจจะโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว จิ่งเหยียนเองก็อาจจะสูงกว่าคุณแล้วด้วยนะ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงจะแก่แล้วใช่ไหมคะ?” หลานเสี่ยวถางมุ่ยริมฝีปากไปมา
“ที่ไหนกันล่ะครับ พวกเราอยู่ด้วยกันแล้ว ผมรู้สึกว่าคุณยิ่งเด็กขึ้นทุกวันเลยนะครับ” สือมูเฉินก้มศีรษะลงไปประกบจูบเธอครั้งหนึ่ง “เห็นคุณตอนนี้แล้ว ราวกับว่าพึ่งจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเลย”
“จริงหรือคะ?” ใครที่ถูกยกยอว่ายังวัยรุ่นอยู่ก็ย่อมที่จะยินยอมอยู่แล้ว หลานเสี่ยวถางเองก็ย่อมไม่มีข้อยกเว้น
“ครับ” สือมูเฉินหัวเราะก่อนจะสบตามองเธอ “ผมยังคงจำได้นะครับ ครั้งแรกที่ได้พบคุณน่ะ นั่นยังคงเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่สูงเทียมหน้าอกของผมอยู่เลย ตอนนั้นก็รู้สึกว่าคุณเจอผมก็สมควรที่จะเรียกว่าคุณลุงแล้วจริง ๆ นั่นแหละ”
“คุณแค่อายุมากกว่าฉันห้าปีเท่านั้นเองนะคะ จะให้ฉันเรียกคุณว่าคุณลุงอย่างนั้นหรือ?” หลานเสี่ยวถางยื่นมือออกไปจั๊กจี้เนื้อขอสือมูเฉิน “มีคุณลุงที่ไหนยังหนุ่มมากขนาดนี้กันคะ?”
“แต่ว่านะครับ ในตอนนั้นคุณสะดุดล้ม ผมอุ้มคุณเอาไว้ รู้สึกว่าคุณเบามากเลย เหมือนกับอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งเลยจริง ๆ” สือมูเฉินถอนหายใจ “ในตอนนั้นคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเด็กน้อยคนนั้น จะมาเป็นภรรยาของผมจริง ๆ”
หลานเสี่ยวถางเองก็รู้สึกสงสัย “ใช่ค่ะ ในตอนนั้นฉันเห็นคุณมาที่บ้านของฉัน รู้สึกว่าคุณหล่อดี ฉันก็เลยเขินอาย ในทุกครั้งที่เจอคุณก็มันจะหลบเลี่ยงตลอดเลย”
“คุณคงไม่ได้แอบรักผมข้างเดียวในตอนนั้นใช่ไหมครับ?” สือมูเฉินหรี่ตาลง “เด็กหื่นหรือ?”
“ฉันไม่ใช่เสียหน่อย!” หลานเสี่ยวถางยืนเอวตรงก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันไม่ใช่เด็กหื่นนะ!”
“ครับ? ไม่ใช่จริง ๆ หรือ?” สือมูเฉินก้มศีรษะลง ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
ไม่รู้ว่าทำไม เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว ลูกก็มีตั้งสองคนแล้ว ในทุกครั้งที่เขาจูบเธอ เธอนั้นยังคงมีความรู้สึกเหมือนเป็นจูบแรกเสมอเลย
เธอส่งเสียงออกมาเบา ๆ ในวินาทีต่อมา จู่ ๆ ก็เบิกตากว้าง
เจ้าคนคนนี้กำลังทำอะไรอยู่น่ะ?!
เธอรู้สึกเพียงแค่ว่ากระโปรงชุดนอนถูกแหวกออกแล้ว หลังจากนั้น มือของเขาก็ยื่นเข้ามาที่ระหว่างขาของเธอ ก่อนจะนวดคลึงเบา ๆ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คว้าจับเธอเอาไว้แน่น ทำให้เธอไร้หนทางที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเขาได้
มือของสือมูเฉินนั้นมีอุณหภูมิร้อนเป็นอย่างมาก พอเหมาะกับเรี่ยวแรงพอดี ทำให้หลานเสี่ยวถางรู้สึกได้ถึงไฟร้อนรุ่มที่อยู่ทางด้านล่าง ร่างกายอ่อนระทวย และจูบกับเขาลึกมากขึ้นไปอีกโดยไม่รู้ตัว
ผ่านไปครู่หนึ่ง สือมูเฉินถึงค่อย ๆ ปล่อยเธออย่างเชื่องช้า หลังจากนั้นก็โชว์ปลายนิ้วมือที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำให้หลานเสี่ยวถางดู ก่อนจะเอ่ยขึ้นทีเล่นทีจริงว่า “ยังจะบอกว่าไม่ใช่เด็กหื่นอีกอย่างนั้นหรือครับ?”
“อ๊ะ!” เป็นเขาที่ทำมันทั้งหมด สุดท้ายแล้วก็ยังมาพูดว่าเธอเป็นผู้หญิงหื่นอีก!
หลานเสี่ยวถางบันดาลโทสะ ต้องการที่จะคิดบัญชีกับสือมูเฉิน แต่ทว่า เขากลับอาศัยจังหวะแล้วกดร่างของเธอเอาไว้ “เด็กหื่น สามีจะช่วยเติมเต็มคุณเอง!”
เธอกำลังพูดว่าไม่เอา แต่ทว่า ร่างกายกลับซื่อตรงจนทำให้คนหน้าแดงซ่าน แม้กระทั่งในตอนที่เขาจงใจไม่เข้ามานั้นเอง เธอนั้นก็อ่อนระทวยจนกัดฟันแน่น ทั้งบันดาลโทสะกับตนเองทั้งร้องขอให้เขาเข้ามาอย่างน่าขายหน้า
“เสี่ยวถางครับ ผมรู้สึกว่า ข้างห้องนั้นทำกันเสียงดังกว่าพวกเราอีกนะครับ……” ในตอนที่สือมูเฉินเข้าไป เขาก็เอ่ยพูดที่ข้างกกหูของหลานเสี่ยวถาง
ไม่ผิดแล้ว ฟู่สีเกอกับเฉียวโยวโยวที่อยู่ด้านข้างนั้นเคลื่อนไหวรุนแรงมากกว่าเดิมอีก
เป็นเพราะว่า เดิมทั้งสองคนนั้นกำลังจะนอนกันแล้ว ผลลัพธ์คือ จู่ ๆ ฟู่สีเกอกับหวนนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ราวกับว่าเป็นวันระลึกอย่างเป็นทางการของพวกเขาด้วยกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว จึงหยิบไวน์มาหนึ่งขวด ก่อนจะดื่มกันกับเฉียวโยวโยว
หวนนึกถึงครั้งแรกในตอนนั้น อีกทั้งยังครั้งที่อยู่ที่มาเลเซียอีก
ตอนนั้นพวกเขานั้นก็เมามายกันหมดแล้ว เขามองเห็นสร้อยคอของเธอ รู้สึกสับสนงุนงงเล็กน้อย ภายในการทำงานของแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงเกิดความสัมพันธ์กับเธอแล้ว
ในตอนนั้นเอง เขานั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริง ๆ ว่าระหว่างพวกเขานั้นจะลงเอยกันเช่นนี้
ทั้งหมดนั้น อีกทั้งยังมีในตอนที่เฉียวโยวโยวช่วยหลานเสี่ยวถางโดยไม่สนใจร่างกายตอนเองนั้นอีก เขาถึงให้ความสนใจกับผู้หญิงซุ่มซ่ามนั่นเป็นอย่างมาก อันที่จริงแล้วกลับเป็นผู้หญิงที่จริงใจที่สามารถเสียสละตนเองเพื่อช่วยเพื่อนได้
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะความปรารถนาของชายหญิงที่มีเข้าด้วยกัน สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมด ก็ไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างในตอนแรกได้อีกต่อไปแล้ว
แต่ทว่า ในตอนนี้พวกเขาแต่งงานกันแล้ว บางครั้งก็มีปะทะฝีปากกันบ้าง แต่ทว่าความรักที่มีต่อกันนั้นก็ยิ่งดีมากขึ้น ทำให้เขาในทุก ๆ วันนั้นหัวใจล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความสุขอันปีติ
ในตอนนี้เอง ทั้งสองคนดื่มจนเมามากขึ้นแล้วเล็กน้อย
โดยเฉพาะเฉียวโยวโยว เป็นเพราะว่าตั้งครรภ์เจ้าตัวน้อย ดังนั้นแล้ว แทบจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มาสองปีแล้ว
วันนี้ ความคอแข็งนั้นถดถอยลงเล็กน้อย ดังนั้นแล้ว ครึ่งขวดลงมา เธอนั้นก็แทบจะลืมเลือนเพศของตนเองไปทั้งหมดแล้ว
เธอยื่นแขนไปวางลงบนหัวไหล่ของฟู่สีเกอ ก่อนจะเอ่ยกับเขาว่า “สหาย อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้สิ่งที่ไม่น่าดูมากที่สุดเลยก็คือท่าทางเจ้าชู้ประตูดินของพวกนายนั่นแหละ! เชื่อถือไม่ได้เลย!”
ฟู่สีเกอได้ยินคำเรียกของเธอแล้ว รู้สึกสับสนงุนงงเล็กน้อย แต่ทว่า ก็ยังคงเอ่ยตามน้ำไปว่า “มีอะไรเชื่อถือไม่ได้กัน ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ จะแต่งงานก็ต้องแต่งงานให้ได้แบบผมนี่ ขึ้นเตียงไหวลงทำงานก็ดี! คุณโยวคนโง่ ทุกอย่างของคุณนั้นโง่งมมาก ๆ เลยนะ แต่ทว่า สายตาถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ที่เลือกผม!”
“นี่ นายพูดว่าฉันโง่ได้อย่างไรกัน?” เฉียวโยวโยวไม่เอาแล้ว
“นี่ คุณฟังรู้เรื่องไหมเนี่ย! จุดสำคัญก็คือ คุณสายตาดีไง!” ฟู่สีเกอยื่นมือออกไป ก่อนจะบีบเข้าที่ใบหน้ารูปไข่ของเฉียวโยวโยว
เธอปัดมือของเขาออก “กล้าที่จะถอนขนเสือ สหาย นายคิดว่านายเป็นบู๊ซ้งหรือไงกัน?!”
“สหายอะไรกัน?” ฟู่สีเกอคว้าจับเข้าที่ทรวงอกของเฉียวโยวโยว “คุณเป็นภรรยาของผม!” เขา ยังคงมีสติชัดเจนหลงเหลืออยู่
“เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่านายเป็นภรรยาของฉัน!” เฉียวโยวโยวเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาล “ไม่เชื่อหรือว่าฉันทำนายน่ะ?!”
ฟู่สีเกอขมวดคิ้ว “ก็มาสิ! ผมเห็นว่าคุณก็ไม่ได้มีของแข็งอะไร จะทำอะไรผมได้อย่างไรกัน?!”
เขากล้าที่จะเหยียดหยามเธอหรือ?!
เฉียวโยวโยวไม่ยอม ยื่นขวดไวน์ในมือไปวางลง ทันใดนั้นเอง ก็พุ่งร่างไปกดฟู่สีเกอเอาไว้กับพื้นแล้ว
บนพื้นนั้นอบอุ่น กลับกันไม่เย็นเลยสักนิด ฟู่สีเกอสบตามองหญิงสาวตัวน้อยที่ดุดันในตอนนี้ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างคาดหวังเป็นอย่างมาก “ต่อสิ ผมรออยู่นะ!”
เฉียวโยวโยวหรี่ดวงตาลง เสือไม่แสดงอำนาจคิดว่าเธอเป็นแมวป่วยหรือไง?!
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เธอจึงลงมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะฉีกทึ้งชุดนอนของฟู่สีเกอออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
“เก่งแล้วนี่! คุณโยวคนโง่!” ฟู่สีเกอตื่นเต้นเต็มตา “รีบ ๆ มาทำผมเร็ว ๆ เลยสิครับ!”
“วางใจเถอะ ตัวฉันจะไม่ทำตัวไม่ยุติธรรมกับนายอย่างแน่นอน!” เฉียวโยวโยวตบไปมาที่ทรวงอกอวบอิ่มของตนเอง
พูดไป เธอก็สอดประสานเข้ากับฟู่สีเกอ ก่อนจะจัดแจงปลดเปลื้องเขาในทันที
หลังจากที่จัดการเขาเสร็จแล้ว เธอก็ถอดเสื้อผ้าออกจนตนเองเปลือยเปล่าหมดจด หลังจากนั้น ทุ่มสุดกำลังเพื่อเบิกดวงตาที่เลือนรางทั้งสองข้างของตนเองขึ้น เนิ่นนานราวกับครึ่งวันถึงจะมองตรงไปยังบนเรือนร่างของฟู่สีเกอ
จะว่าไปแล้ว เธอนั้นราวกับว่าไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นักในจังหวะจะโคนของผู้ชาย ทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าจะต้องเริ่มอย่างไร?
เมื่อเห็นเฉียวโยวโยวเริ่มเลอะเลือนแล้ว คนที่รอคอยอย่างแข็งขืนมาโดยตลอดอย่างฟู่สีเกอนั้นก็ร้อนรนกระวนกระวายในทันที!