รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – บทที่ 372 เซอร์ไพรส์ของจี้หลิงชวน

บทที่ 372 เซอร์ไพรส์ของจี้หลิงชวน

ชูเหยาถูกนักโทษหญิงคนนั้นลากไปจนสุดทางและเข้าไปห้องน้ำ จากนั้นศีรษะของชูเหยาก็ถูกกดลงในโถส้วมทันที

น้ำในโถส้วมที่ดูน่าขยะแขยงไหลลงมาจากรอบๆโถ ชูเหยาสำลักและไอออกมาอย่างรุนแรง มีอยู่ช่วงแวบหนึ่งที่ชูเหยาคิดขึ้นมาว่า หากเธอสำลักน้ำจนตายไปในตอนนี้คงจะดีซะกว่าต้องถูกขังที่นี่ไปตลอดชีวิต

แต่ความปรารถนาของชูเหยาก็ไม่ได้รับความปรานี ในชั่วเวลาที่เธอสำลักน้ำเข้าไปและกำลังจะหมดลมหายใจนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ดึงผมของชูเหยา และลากเธอขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากนั้น ผู้หญิงคนนั้นทั้งทุบตีและเตะเธอ แม้ว่าชูเหยาคิดที่จะต่อต้านก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเตะและทุบตีต่อไปจนพอใจ

เรื่องนี้ดำเนินไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง จนผู้หญิงคนนั้นทุบตีเธอจนเหนื่อย จากนั้นเธอจึงปล่อยชูเหยาไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ

และทั่วทั้งร่างกายของชูเหยาก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ

ในวันรุ่งขึ้น ผู้คุมเรือนจำมองเห็นบาดแผลของชูเหยาแต่เขาก็ไม่สนใจเธอเลย อันที่จริงแล้ว สถานการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นในเรือนจำอยู่บ่อยๆ ตราบใดที่เรื่องไม่ร้ายแรงและนักโทษยังไม่ถึงตาย มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

หลังจากที่ชูเหยาถูกคุมขัง ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว จี้หลิงชวนและมู่ซีซีได้ยินข่าวจากฟางเซิ่งว่าชูเหยาที่อยู่ในคุก เป็นบ้าไปแล้ว

เธอเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ เธอลืมเรื่องทุกอย่างที่เธอเคยทำมาก่อน และลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองชื่อว่าอะไร และเธอยังกลัวที่จะเจอคนแปลกหน้าเป็นพิเศษ กลัวการสัมผัสจากผู้อื่น

ตลอดทั้งวันเธอจะตัวสั่นและห่อตัวเองด้วยผ้าห่มหนา ๆ จนในที่สุด หลังจากที่ชูเหยา ถูกขังในเรือนจำเป็นเวลาสามเดือน เธอก็ถูกย้ายไปโรงพยาบาลจิตเวช

นับตั้งแต่นั้นมา ทั้งจี้หลิงชวนและมู่ซีซีก็ไม่สนใจและติดตามข่าวเรื่องของชูเหยาอีกเลย สำหรับมู่ซีซีและจี้หลิงชวน เรื่องของชูเหยาเป็นอดีตไปแล้ว ทั้งสองหันมาใส่ใจในเรื่องการใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคตของทั้งสองมากกว่า

หลังจากที่จี้หลิงชวนได้ออกหน้ารับมีดแทนมู่ซีซีในครั้งนั้นแล้ว มู่ซีซีก็ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นทุกอย่างกับจี้หลิงชวนอีกครั้ง

บาดแผลที่เย็บสิบเข็มบนหลังของจี้หลิงชวน ใช้เวลารักษานานกว่าครึ่งเดือน

ตัดไหมก็ตัดอยู่ที่บ้าน จี้หลิงชวนทำการรักษาตัวเป็นเวลานานกว่าครึ่งเดือน เพราะมู่ซีซีกังวลเรื่องร่างกายของจี้หลิงชวน เธอจึงไม่ยอมให้จี้หลิงชวนไปทำงานที่บริษัท

จี้หลิงชวนมีความสุขมากเหมือนกันที่มีมู่ซีซีมาคอยดูแลตัวเองอยู่ และงานที่บริษัทเกือบจะทั้งหมดจี้หลิงชวนได้มอบหมายให้กับฟางเซิ่งเป็นคนดูแล ส่วนตัวเองก็รักษาตัวอยู่ที่บ้าน

เพื่อต้องการอยู่ดูแลจี้หลิงชวนให้สะดวกยิ่งขึ้น ดังนั้นมู่ซีซีจึงตั้งใจไปที่มหาวิทยาลัยและยื่นขอหยุดเรียนเป็นเวลาครึ่งเดือน

ในเวลาเพียงครึ่งเดือน ในขณะที่จี้หลิงชวนทำการพักรักษาตัว เขาก็ใช้เวลานี้พัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับมู่ซีซีให้ดีขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด

ตอนเช้าวันนี้ จี้หลิงชวนเพิ่งตัดไหมเย็บแผลเสร็จ พอตกตอนบ่ายเขาก็จับมือของมู่ซีซีและพาเธอเดินออกไปทางด้านนอก

เมื่อมู่ซีซีเห็นเช่นนี้แล้ว เธอก็รีบคว้าแขนของจี้หลิงชวนและถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “จี้หลิงชวน คุณกำลังทำอะไร? และนี่คุณจะพาฉันไปที่ไหน?”

จี้หลิงชวนจับมือของมู่ซีซีไว้แน่น ทันใดนั้นน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและอ่อนโยนก็ดังเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มของจี้หลิงชวนว่า “ฉันจะพาเธอออกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เมื่อเร็ว ๆนี้มีร้านอาหารตะวันตกเปิดใหม่ ว่ากันว่ารสชาติไม่เลวเลยทีเดียว ฉันเลยอยากจะพาเธอไปชิม”

มู่ซีซีมองที่จี้หลิงชวนโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับเขา“ คุณเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ อีกทั้งทานอาหารที่บ้านก็ดีอยู่แล้ว ฝีมือของป้าหลิงดีขนาดนี้ และก็ไม่ด้อยไปกว่าร้านอาหารข้างนอกเลย”

แม้ว่าบาดแผลของจี้หลิงชวนจะถูกตัดไหมออกแล้ว แต่เมื่อมู่ซีซีมองไปดูรอยแผลอันน่าสยดสยองบนหลังของจี้หลิงชวน เธอก็ยังคงรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก

“อาการบาดเจ็บของฉันหายดีแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และอีกอย่างฉันก็ได้จองที่นั่งไว้แล้วด้วย พวกเราลองไปชิมกันดูเถอะ”

จี้หลิงชวนพูดขึ้นพลางจับมือของมู่ซีซีแล้วเดินออกไปทางด้านนอก มู่ซีซีไม่สามารถรั้งจี้หลิงชวน ไว้ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปกับจี้หลิงชวน

ครั้งนี้จี้หลิงชวนเป็นคนขับรถไปเอง และหลังจากที่ขับรถไปเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงที่ร้านอาหารตะวันตก ซึ่งที่แห่งนั้นเพิ่งจะเปิดใหม่

จี้หลิงชวนจับมือมู่ซีซีและพาเธอลงจากรถ ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านอาหาร พนักงานเสิร์ฟก็ทักทายพวกเขาด้วยความเคารพ “สวัสดีตอนเย็น คุณชายจี้ คุณมู่ เชิญทางนี้”

จี้หลิงชวนตั้งใจจองห้องส่วนตัวแบบพิเศษไว้ พนักงานเสิร์ฟได้ต้อนรับและนำทั้งสองเดินไปจนถึงประตูห้องส่วนตัวด้วยความเคารพ

จี้หลิงชวนหยุดอยู่นอกห้องส่วนตัวครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบไปบอกกับพนักงานว่า “โอเคแล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ”

พนักงานตอบตกลงอย่างมีไหวพริบ

สายตาของจี้หลิงชวนหันกลับไปมองมู่ซีซีที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง จากนั้น ใบหน้าของเขาก็เผยให้เห็นรอยยิ้มแปลกๆออกมา จี้หลิงชวนยกมือขึ้นและปิดไปที่ดวงตาของมู่ซีซีอย่างอ่อนโยน

ทันทีที่มู่ซีซีตกอยู่ในความมืด เธอก็รู้สึกได้ถึงท่าทางแปลกและดูมีความลับของจี้หลิงชวน มู่ซีซีเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยความประหลาดใจพร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะสัมผัสที่มือของจี้หลิงชวนและกล่าวขึ้นว่า “จี้หลิงชวน ครั้งนี้คุณกำลังทำอะไรอีก?รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันมองไม่เห็น ”

จี้หลิงชวนที่อยู่ทางด้านหลังและตัวติดกับมู่ซีซี เขาค่อยๆดึงมู่ซีซีเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขา มือหนึ่งปิดตาเธอ ส่วนอีกมือหนึ่งก็จับไปที่เอวของเธอ ทันทีที่ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก มู่ซีซีที่ขณะนั้นกำลังค่อยๆเดินออกจากอ้อมแขนของจี้หลิงชวนเข้าไปในห้อง ก็ได้ยินเสียงจี้หลิงชวนพูดขึ้นว่า “หลับตาไว้ก่อนนะ สักพักค่อยลืมตา”

เมื่อได้ยินจี้หลิงชวนพูดเช่นนั้นแล้ว มู่ซีซีก็หลับตาและค่อยๆก้าวเท้าเดินตามจี้หลิงชวน เข้าไปในห้องส่วนตัว จนกระทั่งฝ่ามือของจี้หลิงชวนค่อยๆลดลงและขยับออกจากดวงตาของมู่ซีซี ไม่นานหลังจากนั้นมู่ซีซีก็ได้ยินเสียงพูดของจี้หลิงชวนดังขึ้นมาอีกว่า “ โอเคแล้ว ซีซี ตอนนี้เธอลืมตาได้แล้ว”

มู่ซีซีค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และสิ่งแรกที่แวบเข้ามาในสายตาของเธอก็คือ ดอกกุหลาบสีชมพูช่อขนาดใหญ่ พรมสีชมพูที่สวยงามบนพื้นประกอบด้วยกลีบกุหลาบที่ทำเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งบนโต๊ะอาหาร เก้าอี้ ผนัง และหน้าต่างก็ยังถูกประดับด้วยดอกกุหลาบสีชมพูอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เกือบจะทำให้มู่ซีซีคิดว่าตัวเธอเองหลงเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย

มู่ซีซีตกตะลึงกว่าสิบวินาทีถึงจะมีสติกลับมาได้ เธอหันไปมองที่จี้หลิงชวน พร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็ว ตุบๆ ๆ ๆอย่างควบคุมไม่ได้

จากนั้น มู่ซีซีก็รู้สึกตื่นเต้นจนเหงื่อไหลออกมาจากมือทั้งสองข้าง

ไม่นานหลังจากนั้น มู่ซีซีก็ได้ยินเสียงของตัวเองดังก้องขึ้นมาจากในห้องที่เงียบสงบแห่งนั้น “จี้หลิงชวน…คุณ คุณกำลังจะทำอะไร?”

ทันทีที่มู่ซีซีพูดจบ ใบหน้าของจี้หลิงชวนก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่กว้างขึ้น และในเวลาชั่วพริบตา ในขณะที่มู่ซีซีกำลังตกตะลึงอยู่ จี้หลิงชวนก็ ไม่ลังเลโดยเขานั่งคุกเข่าลงหนึ่งข้างต่อหน้าของมู่ซีซีในทันที

ไม่เพียงแค่นั้น ในมือของจี้หลิงชวนยังมีกล่องแหวนเล็กๆซึ่งไม่รู้ว่าเขาเอาขึ้นมาตอนไหน จี้หลิงชวนเปิดกล่องขึ้นพร้อมกับยื่นออกไปต่อหน้าของมู่ซีซีในทันที

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

Status: Ongoing

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท