เป๋าฮวนมองผู้หญิงที่ดึงเธอไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
ผู้หญิงตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าเป็นใบหน้าที่ถูกศัลยกรรม ดวงตา จมูก ปาก แม้แต่ใบหน้าและคางต่างๆ มองแล้วต่างผ่านการศัลยกรรมทั้งนั้น เต็มไปด้วยร่องรอย
เพียงแต่มองอย่างละเอียด เธอกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นๆ เหมือนกับ…
เธอกำลังจะเอ่ยปาก ผู้หญิงมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย พูดต่อว่า “ฮวนฮวน เธอคงไม่ได้ลืมฉันหรอกนะ? ฉันติงเซียงเอง!”
“ฉันจำเธอได้ เซียงเซียง”เป๋าฮวนนึกออกแล้ว
สามปีก่อนเพราะค่ายคัดเลือก เธอกับติงเซียงอยู่ร่วมกันหนึ่งเดือน ภายหลังเพราะเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เลยถอนตัว และไม่ได้ติดต่อติงเซียงเลย
เธอก็คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าจะเจอติงเซียงอีกครั้งในกองถ่าย เพียงแต่…
“จริงเหรอ? ฮวนฮวนเธอยังจำฉันได้! จริงสิ สามปีมานี้เธอไปไหนมา? ทำไมเธอเปลี่ยนชื่อไป?” ติงเซียงถามขึ้นด้วยความอยากรู้
ตอนที่เป๋าฮวนมากถึง ติงเซียงกับฉินฟางฟางพวกเธอก็สังเกตเห็นเป๋าฮวนเหมือนกัน พวกเธอต่างช็อก เพราะผู้หญิงคนนี้หน้าตารูปร่างเหมือนเฉินฮวนฮวนทุกระเบียบนิ้ว
ตอนเวินซือเหยี่ยนเรียกเป๋าฮวนว่า“คุณเป๋า” พวกเธอต่างนึกว่าจำคนผิดแล้ว เพียงแค่บนโลกใบนี้มีผู้หญิงที่หน้าต่างเหมือนกันเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น สามปีก่อนเฉินฮวนฮวนได้ตายไปแล้ว
ข่าวการตายนั้น เธอได้ยินมาจากทางหลินอวี่หยาง หลินอวี่หยางไม่ได้พูดถึงสาเหตุ เพียงแต่บอกว่าเฉินฮวนฮวน “ตายแล้ว”
บวกกับตอนนั้นเฉินฮวนฮวนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง ติงเซียงเลยคิดว่าเฉินฮวนฮวนจากโลกนี้ไปเพราะอาการหลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
ตอนนั้นเธอเกลียดเฉินฮวนฮวนมาก เฉินฮวนฮวนตายสำหรับเธอแล้ว กลับมีความสุขไม่ใช่ความทุกข์ ไม่มีใครขวางเธอที่ประจบประแจงหลินอวี่หยาง
แต่ทว่า เฉินฮวนฮวนไม่อยู่ เธอกลับประจบประแจงหลินอวี่หยางไม่ได้ หลินอวี่หยางไม่คิดจะคบกับเธอ เธอไม่มีทางเลือก เธอทำได้แค่เข้าหาอันเยว่กับฉินฟางฟาง
ครั้งนี้ที่สามารถเข้ามาแสดงเป็นตัวประกอบกองถ่ายนี้ ทั้งหมดเป็นความช่วยเหลือของอันเยว่ ตอนนี้อันเยว่ขึ้นเป็นดาวดวงใหม่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์อย่างช้าๆ แสดงเป็นสนมที่สำคัญในกองละคร ถือว่าเป็นระดับผู้หญิงเบอร์ 2 เบอร์ 3 บทใกล้เคียงกับเฉียวหว่านอันและนักแสดงรุ่นใหญ่อีกท่านหนึ่ง
เธอและฉินฟางฟางต่างเล่นเป็นคนใช้ติดตัวของอันเยว่ที่เป็นสนม แม้ว่าจะเป็นตัวประกอบ แต่มีฉากให้เห็นหน้าตามากมาย
อันเยว่และฉินฟางฟางให้เธอเข้ามาสอบถามดู ยืนยันว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเฉินฮวนฮวนหรือเปล่ากันแน่ ถ้าหากไม่ใช่ก็สามารถตีสนิท ในเมื่อเวินซือเหยี่ยนมาดูแลผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวเอง
แต่ติงเซียงคิดไม่ถึง เป๋าฮวนจะเป็นเฉินฮวนฮวนจริงๆ เรื่องนี้ทำให้ติงเซียงงงมาก
ในเมื่อเฉินฮวนฮวนยังมีชีวิตอยู่ ทำไมในสามปีนี้ถึงราวกับไม่มีตัวตนอย่างนี้?
“สามปีก่อนฉันไปต่างประเทศ เปลี่ยนชื่อเพราะเหตุผลส่วนตัว”เป๋าฮวนตอบอ้อมๆ
ตอนนี้ติงเซียงสำหรับเธอแล้ว ไม่ถือว่าเป็นเพื่อน เป็นเพียงคนรู้จักคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเธอเลยไม่คิดเล่ารายละเอียดขนาดนั้น
เป๋าฮวนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ถามอีกว่า “จริงสิ ติงเซียง เธอก็อยู่ในกองละครนี้เหรอ? เธอแสดงบทบาทอะไร? ”
“ฉันแสดงเป็นชุ่ยเย่ว์ คนใช้คนหนึ่งของสนมเจิน นักแสดงที่รับบทสนมเจินเธอก็รู้จัก คืออันเยว่ที่ก่อนหน้านี้พวกเราเข้าคัดเลือกด้วยกัน” ติงเซียงเปิดเผยก่อน
เธออยู่ในวงการบันเทิงมาสามปี รู้วิธีตีสนิทคนอย่างไรมานานแล้ว เธอดูออกว่าเป๋าฮวนสงวนท่าที เห็นชัดว่า เว้นระยะห่างกับเธอ มีความรู้สึกแบบไม่คุ้นเคย
ดังนั้น เธอเลยคิดจะบอกสถานการณ์ตัวเองก่อนนิดหน่อย
“อันเยว่?” เป๋าฮวนอึ้งไปครู่หนึ่ง นึกชื่อนี้ออกอย่างรวดเร็ว
อันเยว่ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร และตอนนั้นเธอก็รู้สึกว่าอันเยว่ต้องพัฒนามาในเส้นทางการแสดงแน่นอน ในเมื่อรูปร่างหน้าตาก็ดี เหมาะกับการแสดงมาก ตอนนั้นก็เป็นนักแสดงเล็กๆคนหนึ่งอยู่แล้ว
ที่เธอจำได้แม่นที่สุดคือฉินฟางฟางข้างตัวอันเยว่ ตอนที่อยู่ในค่ายอบรมขัดกับเธอต่างๆ นานา ถึงตอนนี้เธอยังจำใบหน้าของฉินฟางฟางได้ดี
“ใช่อันเยว่เอง ฉินฟางฟางก็อยู่นะ เธอกับฉันแสดงเป็นคนใช้ด้วยกัน ฉันรู้ฉินฟางฟางกับเธอเมื่อก่อนขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว ทุกคนก็อยู่ในกองละครเดียวกัน ฮวนฮวนเธอก็อย่าโกรธเลยดีไหม? ฉันพาพวกหล่อนมาเจอเธอ?”
ติงเซียงถามอย่างกระตือรือร้น
เป๋าฮวนกลับประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าฉินฟางฟางก็อยู่
เธอตอบรับเวินซือเหยี่ยนมาถ่ายละครชั่วคราว กลุ่มนักแสดงเธอไม่ได้ทำความเข้าใจก่อน ไม่คิดว่าจะมีหลายคนที่คุ้นเคย
ไม่รอให้เป๋าฮวนปฏิเสธ ติงเซียงก็วิ่งไปลากอันเยว่และฉินฟางฟางมา
ตอนพวกเธอมานั้น เวินซือเหยี่ยนกระซิบกับเป๋าฮวน “อันเยว่เป็นนักแสดงที่นายจ้างยัดเข้ามา บวกกับภาพลักษณ์และความนิยมก็ดี ผมไม่ได้ดูแลเรื่องนี้ เป็นบริษัทที่เซ็นสัญญากับบทบาทของอันเยว่แล้ว”
ในคำพูด ความหมายที่เวินซือเหยี่ยนอยากบอกก็คือไม่รู้จักกับอันเยว่ ดังนั้นตอนเชิญนักแสดงหลักหลายคนกินหม้อไฟเมื่อครู่ ก็ไม่รู้ว่าอันเยว่อยู่ในกอง
อันที่จริงอันเยว่รู้สึกแย่เล็กน้อย เธอรู้จากคนอื่นว่าเป๋าฮวนแสดงเป็นกุยหลานตัวประกอบหนึ่ง ไม่คิดว่าเวินซือเหยี่ยนกลับให้ความสำคัญแบบนั้น แต่งานเลี้ยงตอนเที่ยงกลับไม่สนใจนักแสดงที่สำคัญอย่างเธอไป
อันเยว่เป็นตัวเด่นของบริษัท ตอนนี้เดินอย่างเชิดหน้า ตอนที่ถูกเวินซือเหยี่ยนละเลย เธอรู้สึกหงุดหงิดในใจ
แต่เธอแสดงความไม่พอใจออกมาไม่ได้ ทำได้แค่แอบโมโห ในเมื่อสถานะของเวินซือเหยี่ยนถูกเปิดเผยแล้ว ไม่ใช่คนที่เธอสามารถล่วงเกินได้
ตอนนี้ ติงเซียงลากอันเยว่กับฉินฟางฟางมาร่วมสนุก อันเยว่เลยทักทายเวินซือเหยี่ยนก่อน “สวัสดีค่ะโปรดิวเซอร์เวิน ตอนนี้ไม่ควรเรียกคุณว่าครูนักแสดงแล้ว”
“สวัสดีครับ” เวินซือเหยี่ยนจับมือด้วยความเกรงใจ
อันเยว่ก็ทักทายเฉียวหว่านอันและรุ่นพี่อีกหลายคน และสายตามองไปทางเป๋าฮวน “ฮวนฮวน เมื่อกี้ติงเซียงบอกกับฉันแล้ว เธอคือเฉินฮวนฮวนที่เคยอยู่ค่ายอบรมด้วยกันกับเรา ไม่คิดว่าไม่เจอกันสามปี พวกเราจะเจอกันในกองละครเดียวกัน”
เสียงอันเยว่ยังหวานเหมือนเดิม เมื่อสามปีก่อน แต่ในคำพูดกับแฝงไปด้วยเสแสร้ง
“ไม่เจอกันนาน” เป๋าฮวนทักทายเรียบๆ
อันเยว่มองสำรวจเธอหนึ่งรอบ ใบหน้ามีความเหยียดหยามเล็กๆ
เสื้อผ้าที่เป๋าฮวนสวมไม่มีของแบรนด์เนม และดูแล้วไม่มีแบรนด์ใดๆ คิดว่าตอนนี้คงมีชีวิตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไปเรียนต่างประเทศคงแค่สร้างภาพเท่านั้น ไม่แน่ว่ายังเป็นหนี้กู้ยืมเรียนอีกหนึ่งก้อน
แต่ว่าสิ่งเดียวที่อันเยว่สงสัย ก็คือความสัมพันธ์ของเป๋าฮวนกับเวินซือเหยี่ยน ดูแล้วเหมือนดีต่อกันมาก เป๋าฮวนล่อลวงเวินซือเหยี่ยนยังไงกัน?
แต่ทั้งสองคนดูไม่เหมือนความสัมพันธ์แบบนั้น กลับเหมือนเพื่อนสนิทกันด้วยความจริงใจ
“ฮวนฮวน ได้ยินว่าเธอแสดงเป็นกุยหลาน ก่อนหน้านี้เป็นกัวเจินจูเป็นคนแสดง เป็นโปรดิวเซอร์เวินขอเธอมาช่วย
เหรอ?” อันเยว่ถามด้วยความสนใจ
เวินซือเหยี่ยนกลับแย่งพูดก่อน “ฮวนฮวนเป็นเพื่อนผม ผมขอเธอมาช่วยจริงๆ”
“เพื่อน!?”
นี่เป็นเสียงร้องแหลมของฉินฟางฟาง