“ไม่ต้องกังวลครับคุณหญิง โลกภายนอกยังไม่รู้เรื่อง และผู้จัดการยังไม่ได้ประกาศออกไป” มารุตส่ายหัวและตอบ
เพราะยังไง อยู่ดีๆ ประธานของบริษัทไชยรัตน์จำกัดก็หายตัวไป นี่ถือว่าเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทและในตลาดธุรกิจ
ราคาตลาดหุ้นของบริษัทไม่เพียงจะลดลง แต่พวกบริษัทที่อิจฉาก็จะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ มา แอบเอาผลประโยชน์ของบริษัทไป
ดังนั้นทางผู้จัดการถึงได้ปิดข่าวอยู่ตลอดเวลา ในตอนนี้นอกจากพวกเขาเพียงไม่กี่คนแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่นัทธีหายตัวไป
ใจของวารุณีก็หวนคืนสู่ที่เดิม “ก็ดี แต่การทำแบบนี้ต่อไปมันก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา มันปิดบังได้แค่ชั่วขณะ แต่ไม่สามารถปิดบังไปช่วยชีวิตได้”
“ใช่ ตอนนี้ผมกังวลว่านิรุตติ์จะใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างปัญหา โดยการเผยแพร่ข่าวการหายตัวไปของประธาน” มารุตขมวดคิ้วและกล่าว
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องใส่ใจในตอนนี้
วารุณีกัดริมฝีปากของเธอ “อีกเดี๋ยว ฉันจะส่งวิดีโอให้นายดู”
“วิดีโอ?” มารุตงง
วารุณีพยักหน้า “โลกภายนอกรู้ดีว่านัทธีมักจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อมาอยู่ฉัน ถ้านิรุตติ์และคนอื่นๆ ปล่อยข่าวการหายตัวไปของนัทธีจริงๆ เราต้องใช้มาตรการนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อพิสูจน์ว่านัทธีไม่ได้หายตัวไป วิธีเดียวที่จะพิสูจน์ได้ก็คือการปลอมแปลง ฉันมีคลิปวิดีโอที่นัทธีเล่นกับเด็กทั้งสองคน ฉันจะให้อารัณแก้ไขเวลาของวิดีโอ รวมถึงคำพูดที่นัทธีพูดในคลิป ถ้าเป็นแบบนี้ ก็น่าจะสามารถผ่านไปได้ชั่วคราว”
มารุตตาเป็นประกาย “นี่เป็นวิธีการที่ดี หากข่าวการหายตัวไปของประธานถูกแพร่ออกไป เราสามารถเผยแพร่วิดีโอนี้ได้ เพื่อแสดงว่าประธานไม่ได้หายตัวไป แต่แค่ไปที่ประเทศอื่นแล้ว”
“ใช่” วารุณียิ้ม
อารัณตบหน้าอกของเขา “หม่ามี๊ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม ผมจะแก้ไขวิดีโอเพื่อไม่ให้ดูออกว่าเป็นของปลอม”
“อืม รบกวนด้วยนะอารัณ” วารุณีแตะใบหน้าเขา
อารัณยิ้มและส่ายหัว “เพื่อพ่อ ผมสมควรที่จะทำ”
วารุณียิ้ม ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้เขา “เอาไปสิ”
“ครับ ผมจะทำเดี๋ยวนี้” อารัณหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งไปที่คอมพิวเตอร์
นี่คือห้องผู้ป่วยระดับสูง มีทีวีคอมพิวเตอร์ในห้องนั่งเล่น และมีของใช้อื่นๆ
อารัณเปิดคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อโทรศัพท์ และเริ่มทำงาน
มารุตและเชอรีนพาไอริณยืนดูข้างๆ
วารุณีมองไม่เห็น ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงนอนบนเตียงในโรงพยาบาล เธอจ้องมองไปที่เพดานอย่างเหม่อลอย และหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความปรารถนาและความกังวลที่ต่อนัทธี
นัทธี คุณอยู่ที่ไหน
ในประเทศ ในโรงพยาบาลเมืองเล็กๆ
จุ๊บแจงมองไปที่ชายบนเตียงในโรงพยาบาลที่ยังไม่ตื่น และเธออดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล
เธอโทรหาหมอและถามว่าทำไมชายคนนั้นยังไม่ตื่น
หมอเปิดเปลือกตาของชายคนนั้นแล้วตรวจดูอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ตอบว่า “ศีรษะของชายคนนี้ถูกตีอย่างรุนแรง ไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาตอนไหน บางทีอีกไม่นานก็ตื่น บางทีต้องผ่านไปหลายวันถึงจะตื่น ถ้าคุณจุ๊บแจงเป็นกังวลจริงๆ คุณสามารถส่งชายคนนี้ไปที่โรงพยาบาลในเมืองใหญ่ ที่นั่นมีอุปกรณ์ที่ดีกว่า แล้วก็เป็นผลดีต่อชายคนนี้ด้วย”
“ไม่!” จุ๊บแจงปฏิเสธ
ไปโรงพยาบาลในเมืองใหญ่ไม่ได้
ถ้ามีคนเคยเห็นเขา เขาอาจจะถูกพาตัวกลับไป?
จะเป็นแบบนี้ไม่ได้
เมื่อเห็นจุ๊บแจงต่อต้านอย่างมาก หมอก็มองเธอแปลกๆ
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แฟนของเธอเหรอ?
ทำไมถึงไม่ยอมพาแฟนไปโรงพยาบาลใหญ่?
แต่นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวคนอื่น ส่วนเขาก็เป็นคนนอกถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่เหมาะที่จะพูดอะไรมากนัก เขาดันแว่นแล้วตอบว่า “ในเมื่อคุณจุ๊บแจงไม่เต็มใจก็ลืมไปเถอะ โชคดีที่คนผู้นี้ไม่มีบาดแผลร้ายแรงใดๆ ในร่างกาย…มีอาการบาดเจ็บที่รุนแรงแค่ส่วนศีรษะ รอดูก่อนแล้วกัน ถ้าในอีกสองสามวันยังไม่ฟื้น คุณจุ๊บแจงส่งตัวเขาไปโรงพยาบาลใหญ่เพื่อวินิจฉัยจะดีกว่า”
จุ๊บแจงพยายามจะยิ้มออกมา “เข้าใจแล้ว ขอบคุณหมอ”
“ยินดีครับ” หมอโบกมือแล้วเดินออกไป
จุ๊บแจงมองไปที่ชายคนนั้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรัก
“เมื่อไหร่คุณจะตื่น” จุ๊บแจงกระซิบ
ตามจริงแล้ว เธอต้องการให้เขาตื่นขึ้นจริงๆ เพื่อที่เธอจะได้บอกเขาได้ว่าเธอคือผู้ช่วยชีวิตของเขาไว้ และบางทีเขาอาจจะชอบเธอและอยากอยู่กับเธอด้วยเหตุนี้
แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็กลัวเขาจะตื่นขึ้นมาเหมือนกัน ถ้าหากเขาไม่รักเธอ และยังอยากจากไปล่ะ?
จุ๊บแจงกัดริมฝีปากของเธอ ก่อนที่จะจมอยู่ในความลังเล
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วันก็ผ่านไปแล้ว
ก็เป็นเหมือนกับที่มารุตและวารุณีรู้สึกเป็นกังวล นิรุตติ์และคนอื่นๆ ได้ปล่อยข่าวการหายตัวไปของนัทธี
ทันใดนั้น ก็เกิดเรื่องที่น่าตกใจครั้งใหญ่ขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพราะยังไง นี่ก็เป็นการหายตัวไปของประธานบริษัทข้ามชาติ สามารถกล่าวได้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก
คนในบริษัทไชยรัตน์จำกัดกำลังตื่นตระหนก ในขณะที่บริษัทอื่นๆ กำลังเตรียมพร้อมอย่างกระตือรือร้น
บริษัทที่ไม่มีประธานก็เหมือนกับการทึ่ไม่มีที่เสาหลัก บริษัทที่ไม่มีเสาหลักก็เป็นแค่กลุ่มคนทั่วไป ซึ่งเวลานี้ก็เหมาะกับการแสวงหาผลประโยชน์
ในตอนที่พวกเขาพร้อมที่จะลงมือ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทไชยรัตน์จำกัดก็ได้ปล่อยวิดีโอออกมา
ในวิดีโอนัทธีกำลังเล่นสร้างบล็อคกับลูก 2 คน นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กสองคนปรากฏตัวในที่สาธารณะ
ชาวเน็ตทั่วโลกเชื่อว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของเขาจริงๆ เพราะอารัณนั้นเหมือนกับเขาจริงๆ
ในวิดีโอนัทธีบอกทุกคนว่าเขาไม่ได้หายไปไหน แต่ไปต่างประเทศเพื่อไปแข่งขันพร้อมกับภรรยาของเขา อย่าไปเชื่อข่าวลือว่าเขาหายไป
วิดีโอไม่นาน หลังจากนัทธีพูดจบ วิดีโอก็จบลง โดยบอกว่าเขาจะเล่นกับเด็กๆ ต่อแล้ว
สรุปสั้นๆ หลังจากวิดีโอนี้แพร่ออกมา ทุกคนเชื่อว่านัทธีไม่ได้หายไปจริงๆ และเขาอยู่กับภรรยาของเขา
บริษัทที่เตรียมโจมตีบริษัทไชยรัตน์จำกัด ต่างก็หน้าแตกกันหมด
พวกเขาได้ถอดกางเกงออกไปแล้ว และสุดท้ายก็บอกพวกเขาว่าทุกอย่างเป็นแค่ข่าวลือ แต่การกระทำและความทะเยอทะยานของพวกเขานั้นถูกเปิดเผย คราวนี้พวกเขาจะต้องโดนนัทธีเกลียดชัง
ดังนั้นหัวหน้าของบริษัทเหล่านี้จึงรีบจัดประชุมเพื่อหาวิธีขอโทษ จะต้องทำยังไงถึงจะสามารถทำให้ความโกรธของราชาคนนั้นหายไป เพื่อป้องกันไม่ให้เขามาจัดการกับตัวเองหลังจากที่ราชาคนนั้นกลับมาในประเทศ
แน่นอน แม้ว่าประธานเหล่านี้จะไม่พอใจที่นัทธีไม่เป็นไรแต่ทำเหมือนหายตัวไป แต่พวกเขาก็เกลียดคนที่ปล่อยข่าวลือมากกว่า
สำหรับชาวเน็ตธรรมดาคนอื่นๆ ต่างก็ให้ความสนใจกับเด็กทั้งสองคน
“น่ารักจัง เป็นฝาแฝดชายหญิงหรอ พี่ชายหน้าเหมือนประธานเลย”
“ใช่ เหมือนกันทุกประการ ต่อจากนี้ไป เขาจะเป็นประธานที่เอาแต่ใจและมีเด็กสาวหลายพันคนมาหลงใหล”
“อ่า อ่า น้องสาวก็น่ารักมากด้วย น้องสาวไม่ค่อยเหมือนกับคุณนัทธีเลย น่าจะเหมือนแม่ไหม น้องสาวยังเด็กขนาดนี้แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าโตมาจะต้องสวยมาก คิดๆแล้ว ภรรยาของคุณนัทธีก็ต้องสวยมากแน่ๆ
“ไม่ไหว เด็กทั้งสองคนหน้าตาดีมาก ฉันเองก็อยากมีลูกบ้าง ฉันตัดสินใจแล้ว จากนี้ไปฉันจะเป็นแฟนคลับรุ่นแม่ของเด็กแฝเคู่นี้ น่าเสียดายที่คุณนัทธีไม่บอกเราแฝดคู่นี้ชื่ออะไร”
วารุณียิ้มในขณะดูความคิดเห็นที่ประจบประแจงเกี่ยวกับเด็กสองคนบนอินเทอร์เน็ต
หลังจากพักฟื้นสองสามวัน สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก ไม่ขาวเหมือนตอนแรก และร่างกายของเธอก็ไม่อ่อนแอเหมือนตอนแรก แต่แผลยังไม่หาย และเธอยังต้องนอนอยู่บนเตียง
“โชคดีที่เราเดาได้ว่า นิรุตติ์และคนอื่นๆ จะทำอะไร ก็เลยได้ทำวิดีโอไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นบริษัทไชยรัตน์จำกัดอาจจะมีปัญหาได้” วารุณีนวดขมับของตัวเองและพูดด้วยความยินดีอย่างยิ่ง