Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1581

ตอนที่ 1581
ตอนที่ 1581 ไถ่ถาม

“หยวนเอ๋อ เจ้าจะออกไปแล้วรึ?”

อ้าวจุนจับมือเย่หยวนแน่นราวกับไม่เต็มใจที่จะแยกทางกับลูกชายตนเองมากนัก

ในที่สุดพวกเขาก็หลุดพ้นจากคำสาปได้ และนางเองก็สามารถสนทนากับลูกชายได้อย่างคนทั่วไป ทว่าบัดนี้ลูกชายของเขากำลังจะจากไปอีกแล้ว

เย่หยวนร่วมใช้ชีวิตอยู่กับนางในดินแดนเนรเทศนี้มานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ในที่สุดจำต้องอำลากันเสีย

อ้าวจุนทราบข่าวการตายของจี้เฉินหยังแล้ว หลายวันมานี้นางเองก็รู้สึกหดหู่ไม่น้อย

เย่หยวนและลี่เอ๋อต่างพยายามปลอบโยนอ้าวจุน พยุงจิตใจของนางให้กลับมาสดใสร่าเริง

“ท่านแม่ ลูกคนนี้ติดหนี้บุญคุณหลินเสวียมากมายเกินไป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าเอาแต่โทษตัวเองมาโดยตลอด หากไม่สามารถช่วยชีวิตนางได้ในวันข้างหน้า ตัวข้าเองก็ไม่สบายใจไปตลอดชีวิต!”

เย่หยวนเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมคลื่นอารมณ์แสนแปรปรวน

ในที่สุดเขาก็กลับมาอาศัยร่วมกับท่านแม่ได้ดั่งครอบครัวปกติ ดังนั้นภายในใจลึกๆของเย่หยวนแล้ว เขาเองก็ไม่ต้องการที่จะลาจากแม้ตนเองไปเช่นกัน

แต่มหาพิภพถงเทียนยังมีอีกหลายสิ่งอย่างรอเข่าอยู่ และมิอาจล่าช้าได้นานกว่านี้แล้ว

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูไม่เต็มใจของท่านแม่ เย่หยวนก็ยิ้มกล่าวว่า

“ตอนนี้ลูกชายคนนี้มีสมบัติวิเศษติดตัวอยู่ ดังนั้นการจะเดินทางเข้าออกห้วงอวกาศก็หาใช่ปัญหาอีกต่อไป ตราบใดที่อนาคตข้ามีเวลาว่างเมื่อใด ข้าจะรับกลับมาหาท่านทันที!”

ท่านบรรพบุรุษกล่าวเสริมขึ้นว่า

“บุตรแห่งสวรรค์มีความทะเยอทะยานกว้างไกลนับว่าเป็นเรื่องดีแล้วมิใช่รึ? ในเมื่อรู้ดีว่าโลกภายนอกกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด อนาคตของเขาจะหยุดอยู่แค่ในมุมเล็กๆได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินท่านบรรพบุรุษกล่าวเช่นนั้น อ้าวจุนก็อดเศร้าใจมิได้ แต่นางก็รู้ดีว่าตนก็ไม่สามารถรั้งเย่หยวนได้เช่นกัน ดังนั้นนางจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันขื่นขมว่า

“หยวนเอ่อ แม่รู้ดีว่าตลอดเส้นทางที่ฝ่าฟันมานี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับลูก เช่นนั้นเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้นในมหาพิภพถงเทียน!”

เย่หยวนพยักหน้าหนักแน่นกล่าวตอบว่า

“มั่นใจได้เลยท่านแม่ ข้าจะระมัดระวังตัวให้ดี!”

เย่หยวนออกจากดินแดนเนรเทศ เพื่อออกไปพบคุนหวูอีกครั้ง

ในอดีตที่พานพบกัน ระดับพลังความลึกล้ำของคุนหวู เย่หยวนไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลย และเมื่อพบกันในครั้งนี้ก็ยิ่งทำให้เย่หยวนประหลาดใจเข้าไปใหญ่

เขาในปัจจุบันก็ไม่สามารถหยั่งรู้ถึงระดับพลังของคุนหวูได้เหมือนเดิม!

คุนหวูมีพลังอยู่ในอาณาจักรใดแล้วกันแน่?!

เย่หยวนตกใจที่ได้เห็นเขา แต่แท้จริงแล้ว คุนหวูกลับตกใจที่ได้เห็นเย่หยวนเสียยิ่งกว่า

นึกถึงตอนที่เย่หยวนจากออกไป ตอนนั้นคุนหวูมองเย่หยวนในแง่ร้ายนับร้อยพันเท่า

แต่ใครจะไปคิด หลังผ่านไปแค่ร้อยปี ไม่เพียงเขาจะสามารถกลับมาที่นี่ได้อย่างปลอดภัย แต่เย่หยวนยังทะลวงขึ้นไปยังอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางราวกับเสือติดปีกขึ้นทะยาน!

นอกจากนี้เขายังสัมผัสได้อย่างชัดแจ้งว่า เย่หยวนได้สะบั้นศาสตร์แห่งสวรรค์ที่เชื่อมต่อไปแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังสามารถระดมใช้ศาสตร์แห่งสวรรค์ได้ดังเดิม ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย

“เจ้าหนู เจ้าทำเรื่องอัศจรรย์เช่นนี้ได้อย่างไร?”

คุนหวูจับจ้องไปที่เย่หยวนพลางเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

ศึกสัประยุทธ์ระหว่างเย่หยวนกับเทพนอกรีตบาแสวรรค์ คุนหวูย่อมทราบตระหนักดี

ในตอนนั้นทำให้เขาประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน

ทันทีทันใด ร่างของหวูเฉินก็ปรากฏกายออกมาและยิ้มกล่าวว่า

“ตาแก่ ทั้งข้าและเจ้าต่างคิดผิดกันทั้งคู่! ศักยภาพของไอ้เด็กนี่เหนือชั้นกว่าตาเฒ่าจอมเทพนิรันดร์อย่างมาก!”

สายตาคู่นั้นของคุนหวูขยับขยายจับจ้องเย่หยวนดูจริงจังขึ้นหลายส้วน

“แล้ว?”

หวูเฉินพลางลูบเครายาวของตนเล็กน้อยและกล่าวว่า

“สิ่งที่จอมเทพนิรันดร์เคยทำสำเร็จ เขาเองก็ทำสำเร็จแล้ว ส่วนเรื่องที่จอมเทพนิรันดร์ยังทำไม่สำเร็จ เขาเองก็ทำสำเร็จแล้วเช่นกดัน! ข้าตั้งหน้าตั้งตาคอยดูอยู่ว่า ความสำเร็จของเขาจะสูงส่งเพียงใด!”

รูม่านตาดำของคุนหวูตีบแคบลงในทันใด เขาเอ่ยกล่าวขึ้นด้วยความติ่นตะลึงยิ่งว่า

“หากตาเฒ่าจอมเทพนิรันดร์ไม่ตายไปเสียก่อน เขาเองก็ขึ้นกลายเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เช่นกัน! หรือเป็นไปได้ไหมว่า เจ้าเด็กนี่จะมีแววไต่เต้าขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เช่นกัน?”

คุนหวูยิ้มแต่กลับมิได้ปริปากกล่าวใดๆ นี่ยิ่งเพิ่มความสับสนให้แก่คุนหวูเข้าไปใหญ่

เดิมทีเย่หยวนต้องการปลดปล่อยคุนหวูออกจากหุบเขาเหวพระเจ้าเช่นกัน แต่กลับค้นพบว่าแม้ศาสตร์แห่งสวรรค์ในปัจจุบันจะฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถรองรับระดับชั้นการดำรงอยู่เฉกเช่นคุนหวูได้ ดังนั้นเย่หยวนจึงจำต้องตัดใจจากเรื่องนี้ทิ้งไปก่อน

หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้น เย่หยวนก็นำลี่เอ๋อ ลู่เอ๋อ อิ้งหมัวหู่และภูตเพลิง เข้าสู่โถงบัลลังก์ม่วงและข้ามฝ่าห้วงอวกาศออกไป

ทั้งลี่เอ๋อ อิ้งหมัวหู่ และภูตเพลิงยามนี้พวกเขาต่างทะลวงขึ้นกลายมาเป็นเซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้ากันหมดแล้ว

แม้แต่ลู่เอ๋อเองยังทะลวงขึ้นเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดแล้วเช่นกัน

พวกเขาเหล่านี้ที่กำลังเดินทางไปยังมหาพิภพถงเทียน ยามนี้ดูจะตื่นออกตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขาเร่งคว้าร่างของหนิงซืออวี๋และเหลียงหวางหรูเพื่อมาไถ่ถามต่างๆนาๆไม่หยุดหย่อน ราวกับเด็กน้อยทั้งสี่ที่เปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เหลียงหวานหรูอาศัยอยู่ในมหาพิภพถงเทียนตั้งแต่กำเนิด นางจึงเอ่ยอธิบายออกไปตามที่อีกฝ่ายเอ่ยถาม ยามนี้นางรู้แล้วว่า ตนควรเว้นระยะห่างกับเย่หยวนในฐานะพี่น้องเท่านั้น

เย่หยวนไม่แม้แต่จะกล้าสัญญาใจกับลี่เอ๋อ แล้วนี่นับประสาอะไรกับนาง?

ด้วยเหตุนี้ทำให้เหลียงหวางหรูทำใจได้ในที่สุด และกลับมาเป็นคนร่าเริงผูกมิตรกับพวกเขาทั้งสี่จนสนิทกันอย่างรวดเร็ว

แต่ในขณะเดียวกัน เย่หยวนตรงมายืนข้างเจ้าท้วมและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า

“การเดินทางครั้งนี้ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“เฮ้อ ข้านึกไม่ถึงจริงๆว่า แม้แต่เจ้าก็ยังมีอดีตที่น่าเศร้าเพียงนี้!”

สถานที่แห่งนี้คือบ้านเกิดของเย่หยวน ทั้งเจ้าท้วมและคนอื่นๆล้วนสงสัยเรื่องราวในอดีตของเย่หยวนเป็นธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงไล่ตระเวนสอบถามจากคนอื่นๆพร้อมทราบว่า ในอดีตเย่หยวนเคยถูกพี่ชายของตนทรยศหักหลัง และท่านพ่อของเขาก็ยังถูกฆ่าโดยพี่ชายที่เคยไว้ใจคนนั้น

ต่อมาจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์คนที่เป็นที่รักของเขาก็ยังมีถูกทรมานไม่จบไม่สิ้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เย่หยวนต้องออกเดินทางมาที่มหาพิภพถงเทียนเพื่อหาทางช่วยเหลือนาง

ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของเหลียงหวางหรูและเจ้าท้วมไม่มีคุณสมบัติกล่าวถึงเลย เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตอันเลวร้ายของเย่หยวน

หากมิได้ยินเรื่องราวเหล่านี้จากหูของพวกเขาเอง พวกเขาก็นึกไม่ออกเช่นกันว่าคนที่โชคดีอย่างเย่หยวนยังคงมีอดีตแสนน่าเศร้าเช่นนี้จริงๆ

เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมา เจ้าท้วมย้อนกลับมานึกถึงเรื่องของตัวเองพลางคิดไปว่า หากตัวเขาเป็นเย่หยวน เขาคงกลายเป็นบ้าและฆ่าตัวตายไปนานแล้ว

แต่เย่หยวนกลับไม่เคยโทษสรวงสวรรค์หรือสิ่งใดเลย

เขาพยายามยืนหยัดด้วยลำแข้งของตนและค่อยๆเดินหน้าต่อไปทีละก้าวอย่างมั่นคง ทั้งนี้ก็เพื่อแก้แค้นให้แก่ท่านพ่อและช่วยเหลือคนอันที่เป็นรัก

กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ เย่หยวนต้องเข้มแข็งขนาดไหนกัน!?

เย่หยวนพยายามอย่างมากกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้

เจ้าท้วมหันมองเย่หยวนด้วยความซาบซึ้งใน ใบหน้าของเขายามนี้คลี่เผยถึงรอยยิ้มที่ห่างหายไปเสียนาน และกล่าวว่า

“เย่หยวน ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆสำหรับทุกอย่าง!”

เย่หยวนหัวเราะคิกคักกล่าวว่า

“นั้นมินับเป็นอันใดเลย! เพื่อทำให้รอยยิ้มดั่งวันวานของเจ้ากลับคืนมา นี่นับว่าคุ้มค่าแล้ว!”

….

ภายในหอโอสถ ปัจจุบันหลู่เมิงยังคงเอ่ยปากด่าสบถให้ผู้อาวุโสใหญ่โย่วซวี๋ไม่หยุดหย่อน

“ท่านผู้อาวุโสใหญ่ จะให้ไอ้เด็กเหลือขอไร้ความสามารถขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสได้อย่างไร! จอมเทพโอสถสามดาวกลายมาเป็นผู้อาวุโสในหอโอสถเช่นนี้ ใครรู้ต่างไม่เป็นที่ขำขันของผู้คนเกินไปรึ?”

ผู้อาวุโสใหญ่ยังคงนั่งฟังอย่างเงียบงัน สีหน้าไร้ซึ่งการแสดงออกใดๆไม่ว่าเป็นสุขหรือทุกข์โศก

เมื่อหลู่เมิงกล่าวจบ โย่วซวี๋ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างแช่มช้าว่า

“เรื่องนี้ได้รับการตัดสินโดยบุคคลระดับสูง ข้าเองจึงไม่ทราบรายละเอียดเช่นกัน! ข้าขอถามเจ้าเสียว่า เด็กนั้นแข็งแกร่งเพียงใด?”

หลู่เมิงกล่าวตอบอย่างไม่พอใจว่า

“มีดีอะไรกัน! มันหรือแข็งแกร่ง? ในความเห็นของข้ามันจงใจแสร้งทำเป็นลึกลับให้ผู้คนหวาดกลัวเสียมากกว่า!มันเป็นแค่จอดเทพโอสถสามดาว มีหรือจะปัญญาชี้แนะลวี่อี้ได้? ข้ามั่นใจอย่างยิ่งว่า แท้ที่จริงแล้วลวี่อี้เก็บงำฝีมือที่แท้จริงมาโดยตลอด แต่แสร้งว่าตนได้รับความชี้แนะจากไอ้เด็กเหลือขอนั้นจึงทำให้ตนเองเก่งขึ้นในชั่วพริบตา! ทั้งหมดเป็นเพราะความโชคร้ายของข้าเองเสีย ถึงหลงกลติดกับดักของมันเข้าเต็มเปา!”

จนถึงตอนนี้หลู่เมิงก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่า เย่หยวนจะสามารถชี้แนะลวี่อี้ภายในหนึ่งชั่วยามจนสามารถหลอมกลั่นโอสถเจ็ดตรัสรู้อริยะได้จริงๆ

สิ่งเหล่านี้ไร้สาระสิ้นดี

คู่คิ้วผู้อาวุโสใหญ่ขมวดถักแน่น เขากล่าวว่า

“ความหมายของเจ้าคือ เด็กนั้นเป็นเพียงตัวหมากตัวหนึ่งของซวนอี้เพื่อหลอกพวกเรา?”

หลู่เมิงพยักหน้าและกล่าวว่า

“นอกเหนือจากความเป็นไปได้ในข้อนี้ก็ไม่มีอื่นใดแล้ว! อย่างไรก็ตาม ท่านผู้อาวุโสใหญ่ต้องระวังตัวให้ดี ศาสตร์แห่งโอสถจของซวนอี้พัฒนายาลึกล้ำยิ่งนัก ถึงนั้นที่ว่าหลอมกลั่นโอสถชำระไขกระดูกสวรรค์ขึ้นได้ ข้าได้ยินมาว่าโรคที่รักษาไม่หาย แต่เด็กนั้นกลับรักษาได้ มีความเป็นไปได้สูงว่าซวนอี้ยืมเย่หยวนมาเป็นฉากหน้าเท่านั้น!”

ผู้อาวุโสใหญ่อดรำพึงกับตนเองมิได้ การปรากฏตัวของเย่หยวนทำให้การเตรียมการทั้งหมดของเขาหยุดชะงักไป

แต่เขาก็ยอมรับว่าความกังงวลของหลู่เมิงหาใช่เรื่องไร้สาระ

มิอาจปฏิเสธได้ว่า เย่หยวนคนนี้มีความแข็งแกร่งอยู่บ้างจริงๆ มิฉะนั้นซวนอี้คงไม่แยแสเช่นกัน

แต่หากบอกว่าเย่หยวนทรงพลังถึงขนาดสั่งสอนชี้แนะจอมเทพสี่ดาวได้ เรื่องพรรค์นี้เขาไม่มีทางเชื่อเป็นอันขาด

“เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งเกินอิทธิพลข้าจะตัดสินใจ เย่หยวนมีความสามารถแค่ไหนไม่ทราบ แต่การประลองในหอโอสถครั้งนี้ เจ้าต้องไปท้าทายมันด้วยตัวเจ้าเอง!”

ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวสั่งการทันที

…………………………………

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท