หรงซูตระหนักดี แม้นเขาจะเสี่ยงชีวิตเดิมพัน แต่คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะหลอมกลั่นให้ได้โอสถขั้นเทวะโมฆะ
โอสถชนิดนี้เป็นเพียงตำนานเท่านั้น
ในความเป็นจริง ตั้งแต่เขามีชีวิตอยู่จวบจนวัยชรา เขาเห็นอัจฉริยะมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดสามารถหลอมกลั่นโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะได้ ถึงจะเป็นจอมเทพโอสถสี่ดาวก็ตาม
สำหรับจอมเทพโอสถสามดาว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลย
ดังนั้นเขาจึงยอมรับความพ่ายแพ้โดยจำนน
แน่นอน หลังจากนี้เขาคงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีกต่อไปเช่นกัน หลังจากที่ทำใจได้แล้ว เขาคงจากออกไปอย่างเงียบๆด้วยความหดหู่
แต่ในเวลานี้เอง ความสนใจของทุกคนต่างมิได้อยู่ที่ผู้อาวุโสใหญ่นานแล้ว
ผู้อาวุโสของตระกูลหวังเอ่ยกล่าวน้ำเสียงดังชัดเจนว่า
“ผู้อาวุโสเย่ ชายโอสถเม็ดนี้ให้แก่ตระกูลหวังของเราด้วยเถิด เรายินดีมอบผลึกปราณเทวะจำนวนสามร้อยล้านก้อน!”
“ผู้อาวุโสเย่อย่าไปฟังพวกขี้เหนียวพล่าม ขายให้กับพวกเราตระกูลหยาง! ท่านรับไปเลยห้าร้อยล้านผลึกปราณเทวะ!”
“ตระกูลหลิวของเราให้ไปเลยห้าร้อยห้าสิบล้าน!”
…
ทันทีทันใด เหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ต่างโต้เถียงใช้วาจาฟาดฟันกันไปมา จนเย่หยวนปวดหัวระงม
ตามกฎของหอโอสถ แม้ว่าโอสถสุริยันจักรวาลจะถูกหลอมกลั่นขึ้นโดยเย่หยวน แต่กรรมสิทธิ์ย่อมตกเป็นของหอโอสถ
แต่หากหอโอสถตัดสินใจขายออกไป สามในสิบส่วนของราคาจะมอบให้แก่เย่หยวนโดยตรง
โอสถศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป หรือแม้แต่โอสถชำระไขกระดูกสวรรค์ที่เย่หยวนหลอมกลั่นในเขตเมืองทางตอนใต้ ราคายังแค่ห้าสิบล้านก้อนเท่านั้น
ตระกูลใหญ่เหล่านี้ ทันทีที่พวกเขาประเดิมเปิดปากก็เสนอราคาสูงกว่าหลายร้อยล้านก้อน ราคานี้ถือว่าสูงกว่าราคาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามโดยทั่วไปมากโขแล้ว
“หยุด! หยุดก่อน!”
เย่หยวนตะโกนเสียงดังลั่น
แต่ก็ไม่มีใครฟังเขาอยู่ดี พวกคนเหล่านี้ยังคงโห่ร้องเสนอราคาไม่หยุดหย่อนท่ามกลางความบ้าคลั่ง
โอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะ มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ?
สำหรับพวกเขา ราคาระดับนี้หาใช่ปัญหาไม่!
เย่หยวนสุดจะทนแล้วในยามนี้ เขาแหกปากตะโกนลั่นด้วยความโกรธว่า
“ทุกคนหุบปาก!”
เสียงแหกปากตะโกนกึกก้องนี้ เย่หยวนรวบรวมพลังปราณเทวะทั้งหมดไปที่ลำคอ พร้อมป่าวประกาศสุดเสียง ทำเอาทุกคนชะงักไปโดยพลัน
ทันทีที่เห็นว่าเย่หยวนเริ่มมีน้ำโหแล้ว พวกเขาจึงหยุดส่งเสียงทันที
ต้องล้อเล่นแล้ว ผู้อาวุโสเย่ท่านนี้ทรงพลังน่าเกรงขามเสียเหลือเกิน ยังมีใครกล้าทำให้เขาขุ่นเคืองอีก?
เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบเสียงลง เย่หยวนจึงหันมากล่าวกับซวนอี้ว่า
“ผู้อาวุโสรอง เรื่องนี้ให้ท่านตัดสินใจเป็นดีที่สุด”
ซวนอี้ยิ้มและกล่าวว่า
“เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย เนื่องจากทุกคนปรารถนาต้องการโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้ของผู้อาวุโสเย่ ไฉนเรา…ไม่จัดการประมูลขึ้นเพื่อค้นหาเจ้าของโอสถเม็ดนี้ไป ทุกคนคิดเห็นอย่างไร?”
เมื่อทุกคนได้ฟังแบบนั้นก็อดประหลาดใจมิได้
ใครบอกว่าผู้อาวุโสรองเป็นคนใจดี วิธีนี้มันโหดร้ายที่สุดแล้ว!
การประมูลเช่นนี้นับว่า ไม่มีใครสามารถพึ่งพาเส้นสายใดๆได้เลย
หลังจากวันนี้เป็นต้นไป เหล่าตระกูลใหญ่ต่างใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีเพราะเข้าถึงหอโอสถให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถึงตอนนี้ หากเป็นงานประมูลกล่าวได้ว่าต้องใช้เงินฟาดเงิน ไม่มีใครสามารถกล่าวค้านใดๆได้เลย
ด้วยวิธีนี้ ทางฝ่ายหอโอสถจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากโอสถเม็ดนี้ นี่นับเป็นผลกำไรสำหรับหอโอสถ
ท้ายที่สุดแล้ว หอโอสถมีทั้งผู้อาวุโสและสาวกจำนวนมากมาย ปริมาณสมุนไพรวิญญาณและผลึกปราณเทวะที่นำจ่ายออกไปในแต่ละครั้งเป็นจำนวนที่เยอะจนน่ากลัวยิ่ง
หอโอสถเองก็ต้องหาเงินเช่นกัน!
“ข้าไม่มีข้อขัดข้อง ทำตามที่ผู้อาวุโสรองกล่าวแล้วกัน”
“อืม เป็นเช่นนี้ย่อมมิใช่ปัญหา ข้าเองก็ไม่ขัดข้อง”
“ดีแล้ว สมกับเป็นโอสถขั้นเทวะโมฆะจริงๆ วิธีนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว!”
…
ต่อหน้าฝูงชนมากมาย แม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสหลายต่อหลายคนจะมีความคิดแตกแยกออกไป แต่พวกเขาก็ไม่กล้าหักล้างคำกล่าวของผู้อาวุโสรองเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว คำกล่าวขีดค้านต่อหน้าสาธารณชนอาจทำให้ทางหอโอสถเสียประโยชน์
พวกเขาเองก็ไม่กล้าเสี่ยงตั้งตนเป็นหัวหอกเช่นกัน
ผู้อาวุโสรองคลี่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า
“เอาล่ะ เช่นนั้นได้ข้อสรุปแล้ว ผู้ดูแลจาง เจ้าชำนาญการเรื่องพวกนี้ที่สุดแล้ว เช่นนั้นมอบหน้าที่ให้เจ้าเป็นเจ้าภาพงานประมูล”
ผู้ดูแลจางก้าวขึ้นหน้าออกมาและกล่าวว่า
“รับทราบ ผู้อาวุโสรอง!”
ส่วนเบื้องล่าง เหล่าผู้นำจากตระกูลใหญ่ต่างร้องน้ำเสียงขมขื่นไม่หยุดหย่อน
พวกเขาทราบดีว่า โอสถเม็ดนี้เป็นที่นิยมเกินไป!
เมื่อเข้าสู่กระบวนการประมูลแล้ว โอสถเม็ดนี้อาจมีมูลค่าทะลุสามถึงห้าร้อยล้านแน่นอน
การประมูลแบบนี้ทำให้พวกเขาต้องควักเนื้อจ่ายมากขึ้น
ใครกันที่บอกว่า ผู้อาวุโสรองใจดีมีเมตตา นี่มันคนซื่อสัตย์ที่วางแผนลอบสังหารอย่างแนบเนียนยิ่ง ชนิดไม่มีเลือดไหลช้ำในตาย!
แต่อย่างไรเสีย โอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะเม็ดนี้ก็ทรงเสน่ห์เกินไป พวกเขาล้วนปรารถนาต้องการอย่างยิ่งยวด
สิ่งที่ควรทราบคือ โอสถเม็ดนี้สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของตระกูลนั้นๆได้โดยตรง เมื่อเทียบกับโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปแล้ว ต่อให้ต้องจ่ายเป็นพันล้านยังนับว่าคุ้มค่า
สุดท้ายนี้ นี่มิใช่โอสถที่ใครจะสามารถหลอมกลั่นก็ได้
เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ดำรงอยู่เนิ่นนานกว่าไม่รู้กี่หมื่นปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะปรากฏขึ้น!
…
ผู้ดูแลจางค่อยๆรับโอสถเม็ดนั้นไว้ในฝ่ามืออย่างระมัดระวังสุดขีด และวางลงในกล่องบรรจุหยกบนโต๊ะตรงหน้า
“ทุกท่าน จางคนนี้ได้ปรึกษากับเหล่าผู้อาวุโสเป็นที่เรียบร้อย ราคาตั้งต้นของโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้คือ…ห้าร้อยล้านผลึกปราณเทวะระดับต่ำ! การเสนอราคาในแต่ละครั้งจักต้องไม่น้อยกว่ายี่สิบล้านก้อน”
ผู้ดูแลจางป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด
ในเวลานี้เอง เหล่าตระกูลน้อยใหญ่ต่างส่งตัวแทนเข้าร่วมการประมูลเป็นที่เรียบร้อย
แม้แต่ตระกูลที่มิได้เข้าร่วมงาน พอทราบข่าวก็รีบแจ้นเข้ามาโดยไว
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินราคาตั้งต้นของโอสถเม็ดนี้ เหล่าตระกูลเล็กต่างต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นทันที
ผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนห้าร้อยล้านก้อน นี่มันราคาของโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แล้ว!
นี่ยังคงเป็นเพียงราคาตั้งต้นเท่านั้น ราคาเสนอซื้อไม้สุดท้ายจะไม่ต่ำกว่าพันล้านแน่นอน!
ราคามหาโหดปานนี้น่ากลัวเกินไป
มิใช่ว่าพวกเขาไม่มีทุนรอนหนาพอ แต่การเดิมพันด้วยทรัพยากรทั้งหมดกับโอสถเพียงเม็ดเดียว หักลบกันแล้วดูจะมิใช่วิธีที่ฉลาดนัก
เหล่าที่จริงแล้ว เหล่าตระกูลเล็กต่างทราบดีอยู่แก่ใจ ไม่ว่าอย่างไรก็พวกตนก็ไม่สามารถต่อกรกับพวกตระกูลใหญ่ได้อยู่ดี
แต่หากไม่ลงประมูลเสียหน่อย คงรู้สึกเสียดายไปชั่วชีวิตเช่นกัน
“ณ ตอนนี้ การประมูลเริ่มขึ้นได้!”
ผู้ดูแลจางป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด
“หกร้อยล้าน!”
“หกร้อยห้าสิบล้าน!”
“เจ็ดร้อยล้าน!”
…
“เก้าร้อนล้าน!”
“หนึ่งพันล้าน!”
ทุกคนรู้ดีว่า ราคาของการประมูลครั้งนี้จักต้องสูงลิบจนน่าสะพรึงแน่นอน แต่กลับไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ราคาจะทยานขึ้นสู่ระดับพันล้านเร็วปานนี้
ผู้ดูแลจางยังอดใจสั่นมิได้ เขาเคยเป็นเจ้าภาพงานประมูลไม่รู้กี่งานต่อกี่งานแล้ว แต่ไม่มีครั้งใดที่เคยเห็นราคาทะยานขึ้นไวราวกับติดปีกปานนี้
โดยปกติในขั้นตอนการประมูล เขาจำต้องกล่าวบรรยายสรรพคุณเรียกน้ำย่อย เพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวสินค้า นี่นับเป็นจิตวิทยาที่สำคัญที่เจ้าภาพการประมูลพึงมี
แต่คราวนี้ เขายังไม่ทันพูดอะไรสักคำ ราคากลับพุ่งทะยานเกินหยุดอยู่แล้ว!
“หนึ่งพันสองร้อยล้าน!”
“หึ! โอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนี้ ตระกูลชือของเราขอสู้ตาย! หนึ่งพันห้าร้อยล้าน!!”
ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลชือตะโกนสุดเสียง
ตระกูลชือและตระกูลหนิงเป็นกลุ่มอำนาจคานอิทธิพลกันมานาน นับเป็นสองตระกูลใหญ่ของเขตเมืองชั้นใน ที่มีกำลังทรัพย์มหาศาลอย่างยิ่ง
ราคาหนี่งพันห้าร้อยล้าน เมื่อทุกคนได้ยินต่างตกตะลึงสุดขีด
โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามถูกดันราคาประมูลให้สูงถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านในไม่กี่อึดใจ นี่ไม่มีใครกล้าแม้แต่จินตนาการด้วยซ้ำ
ผู้ดูแลจางเองยังต้องลอบปาดเหงื่อ นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอการประมูลดุเดือดปานนี้
ในเสี้ยวพริบตาราคากลับพุ่งทะยานเพิ่มขึ้นสามทวีเท่า!
“หนึ่งพันห้าร้อยล้าน! ผู้อาวุโสชือซ่งเสนอราคาหนึ่งพันห้าร้อยล้าน! มีใครให้ราคาสูงกว่านี้หรือไม่?”
ในที่สุดผู้ดูแลจางก็มีโอกาสเอ่ยปากกับเขาเสียที
หลังจากเงียบไปสักครู่หนึ่ง ชายวัยกลางคนค่อยๆปริปากกล่าวขึ้นว่า
“สองพันล้าน!”
…………………………………