“ฉันไม่เป็นอะไร แต่เธอบาดเจ็บ ฉันบอกแล้วไงว่าเธอไม่ต้องอวดเก่ง ดูสิ ถ้าฉันไม่เรียกคนไปช่วย เธอลำบากแน่”
ลู่อันหรานแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ว่าโม่โยวเห็นเขาหน้าแดงจนหูแดงไปด้วย ก็รู้ว่าเขาปากไม่ตรงกับใจ
ทั้งๆที่เป็นห่วงตัวเองขนาดนั้น……
“เราเป็นห่วงหรอ?”
“เหอะเหอะ อย่าหลงตัวเองเลย ฉันก็แค่ไม่อยากทำให้คนแปลกหน้าลำบากก็เท่านั้น ฉันไม่อยากติดค้างบุญคุณใคร”
พอถูกมองออก ลู่อันหรานก็เริ่มหงุดหงิดจนจะบ้า
“เป็นอย่างนี้หรอ? น้าก็ไม่เป็นอะไร เราไม่ต้องกลัวว่าน้าจะเกาะตัวเราไว้ ออกไปเล่นเถอะ”
โม่โยวรู้สึกว่าเด็กน้อยตรงหน้าน่ารักมาก ทั้งๆที่เป็นห่วงแต่ก็ปากแข็งไม่ยอมรับ
“คุณ คุณชายอย่างฉันก็แค่สงสารเธอ แล้วอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่” ลู่อันหรานเฝ้าอยู่ที่นี่นานแล้ว ถ้าออกไปแบบนี้ก็เสียหน้าหรือเปล่า ก็เลยรีบหาข้ออ้าง
โม่โยวเห็นว่าเขาร้อนตัวจนพูดอะไรไม่ถูก มุมปากก็ยิ้มขึ้น แต่แค่ขยับก็รู้สึกปวดไปทั้งหน้า
คนพวกนั้นลงมือหนักมาก แล้วยังโดนหน้าอีก
“ทำไม เธอเจ็บมากเลยหรอ?” เมื่อลู่อันหรานเห็นท่าทางที่เจ็บปวดของเธอ ก็เริ่มใจร้อน
โดยเฉพาะ เห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอมีรอยช้ำแล้วเริ่มบวมแดง เขาก็รู้สึกผิดไปมากกว่าเดิม
ทั้งหมดเป็นเพราะเขา ก็เลยเป็นแบบนี้
“ไม่เป็นไร”
โม่โยวส่ายหน้า ตอนนั้นที่เธอเพิ่งฟื้น อาการสาหัสกว่านี้อีก เพราะฉะนั้น แค่แผลชกต่อยแค่นี้ ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
ลู่อันหรานทำท่าทางไม่เชื่อ ผู้หญิงคนนี้แปลกมาก ถูกตีจนถึงขนาดนี้แล้วยังพูดว่าไม่เป็นไรอีก
กลัวว่าตัวเองจะเป็นห่วง?
ลู่อันหรานรู้สึกซึ้งใจ “เดี๋ยวฉันออกไปเรียกคนให้เอาถุงน้ำแข็งมาให้เธอ ถ้าประคบน้ำแข็งก็อาจจะดีขึ้น”
ทีแรกโม่โยวไม่อยากให้เขาลำบากขนาดนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยจากกระโดดลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งออกไปนอกห้องทันที
โม่โยวมองเห็นเขาวิ่งออกไป ก็อดยิ้มไม่ได้ เด็กคนนี้ถึงแม้จะปากร้าย แต่ความจริงก็ใจดีเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นเขา เธอก็นึกถึงเรื่องวันนี้ที่ว่าตัวเองมีลูกแล้ว
ถ้าเธอมีลูก ก็คงจะโตขนาดนี้แล้วล่ะมั้ง
ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน มีชีวิตดีหรือเปล่า
พอคิดถึงเด็ก สายตาโม่โยวก็เริ่มหม่นหมอง
รู้ว่าตัวเองเคยท้อง แต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกมึนงงมาก แล้วเด็กอยู่ไหน พ่อของเด็กเป็นใคร?
เรื่องพวกนี้เป็นอะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่ในอนาคตก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด
จนเธอเริ่มกังวลว่าพ่อของเด็กจะเป็นคนไม่ดีอะไรหรือเปล่า
ยังไง กับเด็กที่ตั้งท้องมาตั้งสิบเดือน ก็ยังรู้สึกติดใจอยู่เหมือนกัน
ทันใดนั้น นอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น โม่โยวคิดว่าลู่อันหรานกลับมาแล้ว พอเงยหน้าไปดู ก็เป็นร่างใหญ่ตัวสูง
นั่นเป็นผู้ชายที่หุ่นค่อนข้างดูดีทีเดียว สวมใส่ชุดสบายๆ แต่ไม่ดูเซอเลย กระดุมเสื้อก็ปลดออกหลายเม็ดจนทำให้เห็นแผ่นออกที่แข็งแกร่ง หน้าตาของเขาเหมือนลู่อันหลานมาก ระหว่างคิ้วก็ให้ความรู้สึกลึกลับแล้วเย็นชามาก เป็นความรู้สึกที่คนอื่นไม่กล้าสบตาด้วย
โม่โยวมองจนเหม่อ ในใจก็รู้สึกแปลกๆ จนทำให้เธออดดูผู้ชายคนนั้นไม่ได้
ลู่จิ้นยวนเห็นสายตาเป็นประกายของเธอ แต่กลับไม่ได้อารมณ์เสีย
แค่ไอเสียงเบาขึ้นแทรกเธอที่กำลังเหม่อ
โมโยวค่อยรู้สึกตัว เธอเป็นอะไรเนี่ย?
ปกติไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอผู้ชายที่หล่อ ทำไมพอเจอคนนี้ ถึงทำตัวแบบนี้ น่าอายมาก
“คุณคือ……ผู้ปกครองของลู่อันหราน?”
โม่โยวเดา คนคนนี้หน้าตาเหมือนลู่อันหรานมาก ถ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกัน เธอก็คงไม่เชื่อ
“ผมเป็นคุณพ่อของลู่อันหราน ขอบคุณที่คุณช่วยเขาไว้”
ลู่จิ้นยวนเดินเข้ามา ท่าทางการกระทำทุกอย่างให้ความรู้สึกเป็นผู้ดีมาก
“ฉันชื่อโม่โยว”
คิดไปคิดมา โม่โยวก็เอ่ยชื่อของตัวเองก่อน
ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ในใจรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นสายตาก็มองดูใบหน้าของผู้หญิงคนนี้
คนที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ เปลี่ยนเสื้อผ้าคนไข้ที่สะอาดแล้ว เสื้อผ้าที่สกปรกของเธอก็ถูกเขาทิ้งไปแล้ว
อาจจะเป็นเพราะตัวเธอเล็กเกินไป ใส่ชุดแบบนั้น ก็เหมือนกับเด็กที่ใส่ชุดของผู้ใหญ่ จนเผยให้เห็นไหปลาร้าอย่างชัดเจน นี่ก็เลยทำให้เขานึกถึงความรู้สึกตอนที่เขาอุ้มเธอขึ้น
ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอขนาดนี้ จะมีความกล้าออกมาช่วยเหลือเด็กที่ไม่เคยเจอหน้ากัน
กับสายตาของลู่จิ้นยวน โม่โยวรู้สึกไม่สบายตัว มองไปที่เขา ลู่จิ้นยวนก็อึ้งไปดวงตาคู่นั้น……
ดวงตาทั้งสองข้างของเธอสวยมาก เหมือนของผู้หญิงในความทรงจำเลย แต่ว่า ก็แตกต่างกันเล็กน้อย
ลู่จิ้นยวนยังอยากจะดูให้ชัดอีกหน่อย แต่โม่โยวก็ก้มหน้าลงไป
ถูกคนจ้องอยู่แบบนี้ เธอรู้สึกอึดอัดมาก
เขากำลังมองอะไรกันแน่?
หรือว่า กำลังเป็นห่วงว่าตัวเองจะมีแผนร้ายอะไร?
แต่ว่า สายตาแบบนั้น ทำไมถึงทำให้ตัวเองรู้สึกว่าคุ้นชินล่ะ?
“คือ ฉันก็แค่เดินผ่านไปแล้วช่วยเหลือแค่นั้น เป็นเพราะเด็กน่ารักมาก จะปล่อยไว้แบบนั้นก็ไม่ได้ ไว้ใจเถอะ ฉันไม่ได้มีแผนอะไร”
ชื่อลู่อันหราน ชื่อนี้เธอเอาแต่พึมพำในปาก แล้วเริ่มรู้สึกชอบ
อันหราน อันหราน หมายความว่าจะให้ทั้งชีวิตนี้ของเขาผ่านไปอย่างไร้ความกังวลงั้นหรอ?
เป็นชื่อที่น่าฟังมาก
“คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ได้สงสัยอะไรคุณ”
ลู่จิ้นยวนรีบอธิบาย กับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เขารู้สึกเอือมระอา
เธอไม่รู้หรอว่าตัวเองเป็นใคร?
ถ้าเป็นคนอื่นแล้วเห็นตัวเองโผล่มาแบบนี้ ถึงแม้จะไม่ได้บ้าผู้ชาย แต่ก็ต้องมีท่าทางที่เพ้อฝันแน่นอน อาจจะขอเงินชดเชยจากเขาด้วยซ้ำมั้ง?
เพราะยังไง ที่เมืองเจียงเฉิง ชื่อลู่จิ้นยวนหมายความว่าอะไร ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้
“คุณช่วยอันหรานไว้ คุณเป็นผู้มีบุญคุณของเขา เพราะฉะนั้น คุณเสนอเงื่อนไขอะไรก็ได้ จะเกินเลยก็ไม่เป็นไร ผมจะตอบแทนคุณเอง”
น้ำเสียงที่มั่นใจจองหองแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นพูด โม่โยวคงจะรู้สึกว่าเขาตลกมาก
แต่ว่า……สบตากับผู้ชายคนนี้ เธอก็รู้สึกเชื่ออย่างบอกไม่ถูก
ความรู้สึกที่สูงส่งแบบนี้ คำที่พูดออกมาก็ถือว่ามีความเชื่อถือ
แต่ว่า เธอไม่มีความคิดที่อยากจะได้เงินตอบแทนอะไรเลย เพราะยังไง กับลู่อันหราน เป็นเพราะเธอรู้สึกชอบก็เลยช่วยเหลือ
แต่พอเธอกำลังจะเอ่ยปากพูด เธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ปวดหัวมากจนเธอพูดอะไรไม่ออก