กลับไป?
โม่โยวลังเลนิดหน่อย แต่ก็ถูกลูกชายลากออกไป
ลู่อันหรานลากแม่ของตนเองกลับไปที่บริษัท เขาไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่า ผู้หญิงบ้าคนนั้นจะต้องไปฟ้องร้องแน่
เป็นไปอย่างที่คิด ทั้งสองเพิ่งเดินเข้าประตูใหญ่ของบริษัท ลู่อันหรานก็ได้รับสายโทรศัพท์ของอันเฉิน ทั้งสองขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องทำงานชั้นบนสุดโดยตรง
ผู้หญิงบ้าคนนั้นก็น่าจะเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน พวกเขายังไม่ทันได้เข้าไป อยู่ด้านนอกก็ได้ยินคุณหนูฟิลคนนี้ฟ้องอย่างกลับตาลปัตร
ลูกชายของท่านประธานลู่อายุยังน้อย พอเจอหน้าก็ด่ากันไม่ว่า แถมยังลงไม้ลงมือ แล้วยิ่งไปกว่านั้นคือโยนกระเป๋าของฉันทิ้งลงพื้นโดยตรง ไม่รู้จริง ๆ ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาแบบไหน”
“ท่านประธานลู่ ส่วนภรรยาของคุณ เธออยู่ข้าง ๆ ไม่ห้ามปรามไม่ว่า ยังปล่อยให้บอร์ดี้การ์ดเข้ามาห้าม ที่แท้นี่ก็คือวิธีการต้อนรักแขกของบริษัทยักษ์ใหญ่ คุณหนูอย่างฉันได้รับความรู้แล้วจริง ๆ”
“คุณอาคะ ภรรยาและลูกชายของประธานลู่ท่านนี้ทำเกินไปจริง ๆ นะคะ พวกเรามาเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจ ไม่ได้มารองรับความโมโห พันธมิตรแบบนี้ พวกเราไม่เอาก็ยังได้ค่ะ ”
ความคิดของฟิลง่ายดายอย่างมาก เธอคิดว่า ครอบครัวของพวกเขามาที่นี่ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ มาเพื่อคัดเลือกพันธมิตรที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติเหมาะสม
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็คืออำนาจการตัดสินใจอยู่ในมือของพวกเขา คนที่นี่สามารถร่วมมือกับตระกูลของพวกเขาได้ นั่นก็เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ดังนั้นเรื่องหรือคนที่ทำให้เธอไม่พอใจ ก็ไม่สามารถปล่อยไปได้
เธอถูกโม่โยวและลู่อันหรานทำให้โมโห แน่นอนว่าต้องให้ประธานลู่คนนี้ระบายอารมณ์แทนเธอ เป็นวิธีที่ดีมากที่สุด
ความร่วมมือในต่างประเทศนี้ สำคัญมากสำหรับคู่ค้าทั้งสอง คนที่สามารถมาที่นี่ในฐานะตัวแทนได้ แน่นอนว่าไม่ใช่คนไร้สมอง
ไฮสันฮอร์ตันไม่ได้เป็นแค่คุณอาของฟิล และยังเป็นคนระดับสูงที่มีอำนาจที่แท้จริงส่วนหนึ่งของตระกูลฮอร์ตัน สำหรับหลานสาวของตัวเองนั้น เขารู้จักเป็นอย่างดี
ดังนั้นได้ยินหลานสาวของตัวองฟ้องเป็นชุดแบบนี้ ในใจของเขากลับชัดเจนเป็นอย่างมาก เรื่องที่แท้จริงเดาว่าไม่ใช่แบบนี้แน่ ใบหน้าของเขาไม่แสดงออกใด ๆ ทั้งสิ้น แต่นี่ก็เกี่ยวดองถึงหน้าตาของตระกูลฮอร์ตัน เขาจำเป็นต้องจัดการปัญหาเรื่องนี้ให้ดี
ไฮสันตบมือของหลานสาว ให้เธอใจเย็นลง แล้วหันไปมองลู่จิ้นยวนที่อยู่ตรงข้าม “ประธานลู่ครับ ต้องขอประทานอภัยจริง ๆ นะครับ ฟิลหลานสาวของพวกเรามักพูดตรงไปตรงมาเสมอ ได้โปรดอย่าถือสานะครับ”
“เพียงแต่ว่า ถ้าหากคุณนายลู่กับไม่ยินยอมที่จะไปเป็นเพื่อนฟิล ก็สามารถพูดตรง ๆ ได้ครับ พวกเราก็จะไม่ฝืนใจคนอื่น”
คำพูดนี้คือเชื่อในสิ่งที่ฟิลพูดแล้ว
ลู่อันหรานหงุดหงิด ลากคุณแม่ของตัวเองก้าวเดินเข้าไปในห้อง “คำพูดนี้ของคุณถูกต้องครับ พวกเราไม่ยินยอมที่จะไปเป็นเพื่อนหลานสาวคนนั้นของคุณจริง ๆ”
การปรากฏตัวของพวกเขา สายตามของทุกคนมองไป ฟิลก็มองไปอย่างโมโห
ลู่จิ้นยวนไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาโดยตลอด หลังจากที่ได้เห็นโม่โยวเขาก็ยิ้มออกมา เรียกให้ทั้งสองเดินเข้ามา เขาดึงโม่โยวเข้ามานั่งข้างเขา
โม่โยวถึงแม้จะเขินอาย แต่เธอไม่มีทางหักหน้าเขาต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ อีกอย่างมีลู่จิ้นยวนอยู่ เธอไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับปัญหาวุ่นวายนี้
ไฮสันมองลู่อันหรานอย่างไม่เข้าใจ “คนนี้ก็คือคุณชายน้อยของบริษัทตระกูลลู่ใช่ไหม ไม่ทราบว่าคำพูดเมื่อสักครู่ของคุณชายน้อง หมายความว่ายังไง?”
ลู่อันหรานมองร่างกายเล็ก ๆ ของตนเอง รู้สึกว่าเตี้ยไปนิดหน่อย ดูไม่ค่อยมีพลัง จึงบอกให้บอร์ดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังอุ้มเขาขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ
เขานั่งไขว่ห้าง กอดอก ถลึงตาโต จ้องมองไปที่ไฮสัน ไม่เพียงแต่ไม่มีความหวาดกลัว แต่กลับมองเขาอย่างไม่มีความเกรงใจ จากนั้นก็เบ้ปาก
“ตาเฒ่า ยัยผู้หญิงคนนั้นคือหลานสาวของคุณสินะ งั้นคุณชาายน้อยอย่างผมหวังว่าคุณจะดูแลหลานสาวของคุณดี ๆ หน่อย อย่าให้เหมือนกับสุนัขบ้ากัดคนอื่นไปทั่ว”
“คุณครูของพวกผมเคยพูดไว้ว่า สุนัขบ้ากัดคนอาจจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ น่ากลัวมาก ๆ”
ทุกคน “…”
นอกจากลู่จิ้นยวน ไม่มีใครคาด ว่าหนุ่มน้อยคนนี้จะใจกล้าขนาดนี้ เขาพูดเอ่ยปากพูดแบบนี้โดยำม่พะว้าพะวงใด ๆ แถมยังพูดอย่างมีหลักการ ทำให้ทั้งห้องประชุมเงียบไปในทันที
ไฮสันสีหน้าเคร่งขรึม ส่วนฟิลโมโหจนตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม เธอหน้าดำหน้าเขียว ชี้หน้าเขา “นายหุบปากไปเลยนะ ใครเป็นสุนัขบ้า? นายว่าใครหนะ?”
เธอหันไปมองลู่จิ้นยวนในทันที “คุณลู่คะ คุณดูสิคะ นี่คือลูกชายตัวดีของคุณ”
“เหอะ เธอไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่สายตาไม่เลว แน่นอนว่าฉันคือลูกชายตัวดีของคุณพ่อฉัน เธอไม่จำเป็นต้องพูด” ลู่อันหรานพูดอย่างยั่วโมโหคน
เขาพูดจบ ใบหน้าเล็กก็มองไปที่ลู่จิ้นยวน แล้วเริ่มฟ้อง
“คุณพ่อครับ ผมบอกไว้นะครับ ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจมาก ๆ ผมกับคุณแม่รอพวกเธออยู่ที่ชั้นล่างตั้งนาน ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้ลงมา ก็ใช้คุณแม่ราวกับคนใช้ โยนกระเป๋าร้าย ๆ ของตัวเองมาตรงหน้าพวกเรา แล้วใช้ให้คุณแม่ถือกระเป๋าให้เธอ”
“เธอยังพูดอีกว่า คนอื่นห้ามถือ เธอจะให้คุณแม่ถือให้”
ปากน้อย ๆ ของลู่อันหรานขมุบขมิบ พูดอย่างชัดเจน จากนั้นก็หันไปถลึงตาใส่ฟิล ดวงตาเต็มไปด้วยสายตาดูหมิ่น
”เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? ใช้ให้คุณแม่ถือกระเป๋าให้เธอ? ฝันกลางวันก็ไม่ควรจะฝันแบบนี้ นี่มันผิดปกติชัด ๆ”
หนุ่มน้อยฟ้องต่อ “ไม่เพียงเท่านี้นะครับ เธอยังด่าผม ด่าอย่างไม่น่าฟังมาก ๆ ทุกคนที่ห้องโถงได้ยินกันหมด”
“คุณพ่อครับ ผู้หญิงคนนี้คุณสมบัติต่ำจริง ๆ ครอบครัวที่สามารถอบรมสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ได้ เดาว่าคุณสมบัติคงไม่สูงเท่าไหร่ พวกเราอย่าร่วมคือกับคนแบบนี้ดีกว่านะครับ”
ตระกูลฮอร์ตันของประเทศ M อยากจะร่วมมือกับบริษัทตระกูลลู่ของพวกเขา การติดต่อระหว่างสองฝ่ายไม่ใช่ครั้งแรก เริ่มต้นตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว แน่นอนว่าเขาได้ทำการตรวจสอบคู่ค้ามาอย่างละเอียดแล้ว
เป็นเพราะรู้ว่าคุณหนูฟิลของตระกูลฮอร์ตันนี้ไม่ใช่ของดีอะไร ดังนั้นเขาจึงให้ลูกชายของตัวเองไปด้วย มีลูกชายอยู่ โม่โยวไม่มีทางเสียเปรียบแน่นอน
แต่คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดอะไรสักนิด ทำอะไรพูดอะไรตามอำเภอใจ ไม่รู้จริง ๆ ว่าโง่จริง ๆ หรือว่ามั่นใจตัวเองมากเกินไป หึ ๆ
เขามองไปทางไฮสันอย่างเฉยชา ขมวดคิ้วนิดหน่อย “คุณไฮสัน ผมให้ภรรยาและลูกชายของผมไปเป็นเพื่อนหลานสาวของคุณ แต่ตอนนี้ดูท่าแล้ว ความหวังดีของผม เหมือนกับเกินความจำเป็นไปหน่อย”
ไฮสันขมวดคิ้ว หน้าเสียนิดหน่อย เขารู้สึกโมโห ไม่ว่าจะเป็นลู่จิ้นยวนหรือฟิล แต่เขารู้ลำดับความสำคัญของเรื่อง
ฟิลไม่รู้ แต่เขารู้อย่างชัดเจน ว่าบริษัทตระกูลลู่ไม่ได้เป็นแบบที่หลานสาวพูด
ธุรกิจของตระกูลพวกเขา ที่ประเทศ M เจริญรุ่งเรื่องเป็นอย่างมาก แต่ก็เทียบเท่ากับตระกูลใหญ่ ๆ ตระกูลอื่น อยากจะทำลายความเท่าเทียมนี้ ยากยังกับขึ้นสวรรค์
แบบนี้แล้วอยากจะขยายธุรกิจ จึงทำได้เพียงมุ่งเน้นไปที่ประเทศอื่น ๆ
ประเทศจีนคือช่องว่างขนาดใหญ่ ประชากรเยอะ ความต้องการเยอะ ถ้าหากสามารถแบ่งเค้กได้ก้อนหนึ่ง เช่นนั้นแล้วกำไรจะน่าดูชมทีเดียว
ส่วนบริษัทตระกูลลู่นี่ ถึงก่อนหน้านี้ไม่ได้มีความร่วมมือซึ่งกันและกัน ตระกูลฮอร์ตันก็เคยได้ยินชื่อเสียงของฝ่ายตรงข้ามมาบ้าง ในเมื่อประเทศ M ก็มีบริษัทย่อยของบริษัทตระกูลลู่ แถมขอบข่ายไม่เล็ก