ทางบ่อน้ำ
อันเฉินรีบอธิบาย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่แมลงตัวนึงเธอก็กลัวขนาดนั้น เธอตกลงไปเอง ยังจะโทษฉันอีกหรอ?”
“นายยังมีหน้ามาพูดอีก หุบปากเดี๋ยวนี้ นายจงใจ นายรอก่อนเถอะ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่นอน” เย่ซือเยวี่ยตะโกนเสียงดังอย่างโมโห
เธอยืนอยู่กลางโคลน กำลังจะปีนขึ้นไป แต่ก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ ในสายตาก็มีความเจ้าเล่ห์ แล้วมองไปทางอันเฉินที่อยู่ข้างบน
“นายอยู่ข้างบนสะใจมากใช่ไหม ลงมาดึงฉันขึ้นไป”
ถึงแม้อันเฉินจะรู้สึกตลก แต่ก็ไม่มีทางไม่สนใจเธอแน่นอน ถึงเธอไม่พูดก็ต้องดึงตัวเธอขึ้นมาอยู่แล้ว
มองเห็นมือที่เต็มไปด้วยโคลน เขาก็เบะปาก แต่ก็อดขำไม่ได้ แล้วรีบไอเสียงเบากลบเกลื่อน แล้วยื่นไปจับมือเย่ซือเยวี่ย
กำลังจะดึงตัวเธอขึ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกมีแรงมหาศาลดึงเขาไว้อย่างไม่ตั้งตัว บวกกับยืนอยู่บนที่สูงก็ถูกดึงลงไปได้อย่างง่ายดาย
ทั้งตัวเซลงไป แล้วยังหนักกว่าเย่ซือเยวี่ยอีก
ยังดีที่เย่ซือเยวี่ยหันหลังลงมา แต่ตอนที่อันเฉินตกลงมากลับเอาหน้าลง ไม่ทันตั้งตัว หน้าก็จมลงไปในโคลนแล้ว
“ฮ่าๆ……”
เห็นท่าทางทุลักทุเลของเขา ความโมโหของเย่ซือเยวี่ยหายไปทันที แล้วหัวเราะเสียงดังอย่างเยาะเย้ย
อันเฉินโกรธจนตัวสั่น ผู้หญิงคนนี้! เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเย่ซือเยวี่ยจะทำแบบนี้ เจ็บใจชะมัด
ไม่ใช่แค่ดึงเขาลงมา เพราะยังไงบ่อน้ำนี้ไม่ลึกอยู่แล้ว ข้างล่างมีแต่โคลน ถึงแม้จะยืนขึ้น น้ำก็ไม่เลยเอวอยู่ดี
เพราะฉะนั้น เย่ซือเยวี่ยก็ล้มทับลงไปด้วย
“ผู้หญิงบ้า เธอทำอะไร” อันเฉินถูกเธอทับก็ตะโกนเสียงดัง
“ทำอะไร? ฉันเคยบอกนายไปแล้วไง ถ้าฉันไม่ทุบนายให้เละฉันจะไม่เชื่อเย่ซือเยวี่ย ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับนาย” เย่ซือเยวี่ยทับตัวเขาไว้ แล้วมือไม้ก็ไม่ไว้หน้าเลย
อาจจะพูดได้ว่า ระบายความโมโหที่เก็บกดในห้องออกมาตอนนี้ให้หมดเลย
อันเฉินโมโหกับการกระทำของเธอ เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เอาจริง ก็รู้สึกโมโหไปด้วย ทั้งสองคนก็เริ่มตีกันในโคลน
เย่ซือเยวี่ยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอันเฉินอยู่แล้ว แต่อันเฉินก็ไม่ได้ลงมือจริงๆกับเธอ แค่จับมือจับขาของเธอไว้แค่นั้น
แต่เป็นเพราะอยู่ในโคลน แล้วบวกกับเย่ซือเยวี่ยใช้ทุกวิถีทาง ทั้งขว้างโคลนมาใส่ ทั้งจับทั้งจิก แล้วหาโอกาสที่จะมาทำร้ายร่างกายเขา
อันเฉินถูกเธอทำร้ายไปหลายครั้ง ตีกันวุ่นวายไปหมด
“ผู้หญิงบ้า หยุดเดี๋ยวนี้ คิดว่าฉันทำอะไรเธอไม่ได้ใช่ไหม”
“สาระเลว นายมาสิ นายแน่จริงก็ลงมือเลย ฉันบอกนายไว้เลย ฉันก็ไม่ได้อ่อนขนาดนั้น”
พอกลุ่มลู่จิ้นยวนมาถึง ก็เห็นทั้งสองคนที่เนื้อตัวมอมแมมมีแต่โคลน เอาแต่ด่ากันตีกัน
โม่โยวกับลูกชายหน้าเหวอไปทันที ลู่จิ้นยวนก็เพิ่งเคยเห็นผู้ช่วยตัวเองเป็นแบบนี้ครั้งแรก ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“หยุดเดี๋ยวนี้ ทำไมตีกันล่ะ” โม่โยวดึงสติกลับมาแล้วรีบไปห้าม แต่เกือบจะลงไปข้างล่างก็ถูกลู่จิ้นยวนห้ามไว้
ทั้งสองคนในโคลน ถ้าจะไปดึงแบบนี้คงโดนลูกหลงไปด้วยแน่นอน
“ไว้ใจเถอะ เย่ซือเยวี่ยไม่เสียหายหรอก บ่อนี้ก็ไม่ลึก ไม่มีอันตราย รอถ้าพวกเขาเหนื่อยก็หยุดเอง”
โม่โยว: “……” พูดแบบนี้จะดีหรอ?
เธอมองเขาตาขวาง “เมื่อกี้นายก็ไม่ควรให้อันเฉินตามเย่ซือเยวี่ย สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้” แต่ไม่คิดเลยว่าจะดุเดือดขนาดนี้ จนถึงขั้นตีกันในบ่อน้ำ
ลู่จิ้นยวนจับจมูกตัวเองแล้วขำ
แต่ลู่อันหรานที่อยู่ข้างๆตากลับเป็นประกาย จนต้องปรบมือ “คุณอาอันเฉินสู้สู้ พี่สาวสู้สู้”
ลู่จิ้นยวนเลิกคิ้ว แล้วโบกมือให้เธอ กำลังจะบอกว่า: ดูสิ ลูกชายของเราใจเย็นแค่ไหน ยังมีอารมณ์มาเชียร์อีก
โม่โยว: “……” เธอรู้สึกเหนื่อยใจกับสองพ่อลูกจริงๆ
ตีกันในโคลนเหนื่อยกว่าบนบกเยอะ ยังไงเย่ซือเยวี่ยก็เป็นผู้หญิง เดี๋ยวก็หมดแรงแล้ว อันเฉินก็ถูกเธอกระทำจนสาหัสเหมือนกัน
ทั้งสองที่อยู่ในโคลน สุดท้ายก็แยกกัน โม่โยวโล่งอก “รีบขึ้นมาเถอะ”
เย่ซือเยวี่ยได้สั่งสอนใครบางคนสมปรารถนาแล้ว ไม่อยากจะยืดยื้อกับเขาอีก แล้วขึ้นมาบนด้วยตัวเอง
อันเฉินรอเธอขึ้นไปแล้วค่อยขึ้นไปตาม เขารู้สึกกลัวผู้หญิงคนนี้มาก เหมือนไม่ใช่ผู้หญิงเลย ทำไมบ้าระห่ำขนาดนี้
เป็นเพราะแบบนี้ วัตถุดิบต่างๆก็ต้องพึ่งพาทั้งครอบครัวลู่จิ้นยวน ทั้งสองคนก็แยกย้ายกลับไปในห้องแล้วอาบน้ำ รู้สึกว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยสกปรกขนาดนี้มาก่อน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองคนอาบน้ำใช้เวลาไม่ต่างกันมาก บวกกับห้องพักก็อยู่ชั้นเดียวกัน พอก้าวเดินออกจากห้องก็บังเอิญเจอกันอีก
เย่ซือเยวี่ยมองเห็นสีหน้าที่เข้มงวดของเขา แล้วหางตาก็ยังติดพลาสเตอร์ไว้ ก็รู้สึกอารมณ์ดีจนหัวเราะออกมา
“ว้าย หน้าเป็นอะไรเนี่ย? คงไม่เสียโฉมหรอกมั้ง ทีแรกก็ไม่ได้หล่ออะไรมาก ถ้ามีแผลอีกก็คงขี้เหร่ไปกว่าเดิม ฮ่าฮ่า”
อันเฉินเกือบจะกระอักเลือดเพราะเธอ ไม่ใช่แค่หน้าที่ถูกผู้หญิงคนนี้ข่วน บนตัวก็มีรอยข่วนไม่น้อย เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้หมดเลย
“ทำไม เธอสะใจมากเลยหรอ? ถ้าไม่ใช่ฉันยอมเธอ เธอคิดว่าเธอยังจะยืนอยู่แบบนี้ได้อีกหรอ?” เขากัดฟันแน่นมองไปที่เธอ
เธอกระพริบตาแล้วมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วส่ายหน้า “ตั้งแต่ไหนแต่ไร ผู้ชายที่ลงมือกับผู้หญิงก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉาน แต่แม้แต่ผู้หญิงก็สู้ไม่ได้ คงเทียบกับสัตว์เดรัจฉานไม่ได้สินะ?”
“งั้นนาย……เป็นพวกไหน?” เย่ซือเยวี่ยกำลังครุ่นคิด
อันเฉินแอบด่าในใจ ผู้หญิงคนนี้อยากจะโดนสั่งสอนจริงๆ
เย่วือเยวี่ยเห็นแบบนี้ก็เผลอหัวเราะ “พูดมาสิ นายเป็นกลุ่มไหน? ความจริงถ้านายไม่พูดก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงนายก็เป็นทั้งสองกลุ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า……”
พอเยาะเย้ยเสร็จ ผู้หญิงคนนั้นก็เดินไปอย่างสบายใจ มีแต่อันเฉินที่ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ กลัวว่าถ้าไม่ระวังตัวเองจะบีบคอเธอตาย
ตอนเย็น บนสนามหญ้ามีอุปกรณ์การปิ้งย่าง ที่นี่มีคนจัดการไว้แล้ว บนนั้นมีอาหารทะเลแช่แข็งครบถ้วน อลังการมาก
พอเห็นเย่ซือเยวี่ยกับอันเฉินเดินตามกันมา โดยเฉพาะรอยข่วนบนหน้าอันเฉิน สีหน้าก็หงุดหงิดไม่น้อย
โม่โยวรู้สึกผิดกับอันเฉิน เพราะยังไงเย่ซือเยวี่ยก็เป็นคนที่เธอพามา สุดท้ายแค่ครึ่งวัน ก็ทำร้ายคนอื่นสะแล้ว
กลัวว่าทั้งสองจะปะทะกันอีก โม่โยวก็เลยให้คนตั้งเตสย่างสี่เตา ย่างคนละเตาละกัน เย่ซือเยวี่ยอารมณ์ดี ดูอะไรก็สบายตาไปหมด