บ่วงแค้นแสนรัก – บทที่ 441 ลำเอียงอย่างชัดเจน

บทที่ 441 ลำเอียงอย่างชัดเจน

“ไม่จำเป็น”

ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?”

ห๋า?

หูยวี่อึ้ง แล้วรีบดึงสติกลับมา “บอสคะ เรื่องนี้ฉันคุยกับผู้อำนวยการโม่แล้วค่ะ เราทั้งสองก็ตกลงกันแล้ว ฉันรู้สึกว่าเป็นการ ถ่ายทอดความรู้ที่ดีมาก……”

ยังพูดไม่จบ ลู่จิ้นยวนก็เมินเธอ แล้วมองไปทางเวินหนิง น้ำเสียงก็อ่อนโยนไม่น้อย ถูกกระทำแตกต่างกันสิ้นเชิงแบบนี้ ก็ทำให้หูยวี่ดึงสติกลับมา โมโหจนกัดฟันแน่น ในใจก็ยืนยันว่าจะทำให้ถึงที่สุด

“เวินหนิง เธอตกลงที่จะแข่งกับเธอ?”

เวินหนิงยักไหล่ “ฉันไม่ได้ตอบตกลงเธอตรงๆ แล้วไม่ได้รู้สึกอยากขนาดนั้นด้วย แล้วอีกอย่าง ฉันไม่แน่ใจว่าในบริษัทอนุญาตให้มีการแข่งขันแบบนี้หรือเปล่า ก็เลยมาถาม”

ลู่จิ้นยวนเข้าใจทันที สายตาที่มองไปทางหูยวี่ก็ยิ่งไม่เป็นมิตร “อย่างนี้หรอ การแข่งขันที่ว่า ผู้อำนวยการหูเป็นคนพูด? คุณว่างมากเลยหรอ?”

หูยวี่กัดฟันแน่น ในใจก็เกร็ง แต่พอคิดอะไรได้ก็เอ่ยพูดพรวด “บอสคะ กฎของบริษัทไม่มีข้อจำกัดข้อนี้ไม่ใช่หรอคะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ลองดู?”

“หรือว่า จริงๆผู้อำนวยการโม่ไม่กล้าแข่งกับฉัน? หรือว่าความสามารถในด้านออกแบบของเธอก็มีแค่เปลือก แล้วเอาออกมาโชว์ไม่ได้”

“หุบปาก คุณกล้ามาก” ลู่จิ้นยวนเอ่ยตำหนิ แล้วรู้สึกถึงแรงกดดันจนทำให้หูยวี่สะดุ้งตกใจ สีหน้าซีดขาว

ในใจเธอเต้นแรงมาก ตัวแข็งทื่อ ค่อยรู้สึกตัวว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรออกไป

เวินหนิงเป็นคนที่บอสพามาเอง เมื่อกี้เธอบอกว่าเวินหนิงมีแค่เปลือก นี่กำลังหักหน้าการตัดสินใจแล้วสายตาของบอสงั้นหรอ?

หูยวี่ทั้งกลัวทั้งหงุดหงิด แล้วรีบอธิบาย “ขอโทษค่ะบอส ฉัน ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ว่าฉันอยากจะเชิญคุณโม่มาแข่งจริงๆ เมื่อกี้ใจร้อนก็เลยพูดผิดค่ะ”

“ในเมื่อแบบนี้ ผมก็จะบอกคุณอีกรอบ การแข่งขันครั้งนี้ ไม่จำเป็น คุณได้ยินชัดเจนหรือยัง?” ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง

หูยวี่: “……”

เธอกัดฟันแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ก็เลยยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับตัว สีหน้าของลู่จิ้นยวนย่ำแย่ไปกว่าเดิม กำลังจะโมโหก็ถูกเวินหนิงห้ามไว้

เธอมองไปทางหูยวี่ แล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ในเมื่อคุณอยากแข่ง งั้นก็แข่งเถอะ”

เวินหนิงมองเห็นท่าทางของเธอ ในใจก็มีลางสังหรณ์บางอย่าง ถึงแม้วันนี้ลู่จิ้นยวนจะปกป้องไม่ให้เธอไปแข่งกับหูยวี่ แต่นิสัยผู้หญิงคนนี้ วินาทีหลังจากนั้น ข่าวคราวทุกอย่างก็จะแพร่กระจายไปทั่วแผนกออกแบบแน่นอน

ข่าวอะไรงั้นหรอ แค่คิดก็รู้ คงจะเป็นคำซุบซิบที่ว่าเธอมีแค่เปลือกไม่มีความสามารถ แล้วไม่กล้ารับคำท้าอะไรพวกนี้

ในเมื่อแบบนี้ งั้นก็แข่งเถอะ ยังไงเธอก็เป็นคนแผนกออกแบบบี ถ้าแข่งกับแผนกเอ ถึงแม้จะแพ้ก็คงไม่มีอะไรเสียหายมาก

เวลาเดียวกัน เธอก็อยากเห็นเหมือนกัน หูยวี่ที่มีความสามารถแล้วได้เป็นผู้อำนวยการของแผนกออกแบบเอจะเก่งแค่ไหน

ในเมื่อเลือกเดินในทางการออกแบบแล้ว อยากจะทำให้มันเปล่งประกายก็ต้องสร้างมาจากการแข่งขันแต่ละครั้ง ก็แค่การแข่งขันเล็กๆเอง

แม้แต่คำท้าแบบนี้เธอก็ไม่กล้ารับ อีกหน่อยจะเดินต่อไปในเส้นทางนี้ให้ไกลกว่านี้ได้ยังไง

หูยวี่รู้สึกดีใจ จากนั้นก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นกับความเสียดสีรู้สึกว่าเวินหนิงถูกตัวเองกระตุกต่อมอารมณ์แล้ว ในใจก็สะใจมากด้วย

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว เวินหนิงเพิ่งมารับตำแหน่งแผนกบีไม่นาน ถ้าแข่งกับหูยวี่ตอนนี้ ชนะก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าแพ้ ก็ต้องมีเสียงต่อต้านมากมายดังมาแน่นอน

เขามองไปที่เวินหนิงอย่างลังเล แต่พอเห็นสีหน้าเธอมุ่งมั่น ก็เลยจำใจต้องตอบตกลง

ตัวเองคิดทุกวิถีทางอยากจะให้เวินหนิงเดินในสายอาชีพนี้อย่างราบรื่น แต่ระหว่างทางก็จะมีคนที่ไม่เจียมตัวโผล่มาตลอด ก็เลยทำให้เขาหงุดหงิด

เพราะฉะนั้น

เขามองไปที่หูยวี่ เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “อยากจะแข่งก็ได้ แต่ผมจะเพิ่มเงื่อนไขหนึ่งข้อ ผู้อำนวยการหู ถ้าคุณแพ้ ตำแหน่งผู้อำยวนการแผนกเอ คุณก็ต้องยอมลุกออกไปเอง แล้วให้คนที่มีความสามารถมานั่งต่อ”

หูยวี่รู้สึกอึ้ง รีบเงยหน้าแล้วพูดพรวดออกมา “ทำไมคะ?”

สีหน้าลู่จิ้นยวนเข้มงวด “คุณว่าอะไรนะ?”

สีหน้าหูยวี่ย่ำแย่มาก สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเอ่ย “แล้วผู้อำนวยการเวินล่ะคะ ถ้าเธอแพ้จะทำยังไง?”

“ถ้าผู้อำนวยการเวินแพ้ก็คือแพ้ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น” ลู่จิ้นยวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง

เวินหนิง: “……”

ลำเอียงชัดเจนมาก หูยวี่รู้สึกโมโหแล้วรู้สึกเกลียด เหมือนมีมดกำลังกัดกินหัวใจอย่างนั้น ไม่สบอารมณ์มาก

“บอสคะ นี่ไม่ยุติธรรม”

“ที่ผมคุณยังอยากจะได้ความยุติธรรม? ผมไม่เห็นด้วยกับการแข่งครั้งนี้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณยืนยันจะทำแบบนั้น ก็ต้องชดใช้กับผลที่ตามมา”

“แล้วอีกอย่าง คุณเป็นถึงผู้อำนวยการแผนกออกแบบเอ ถ้าแพ้ให้แผนกบี อย่างคุณยังมีหน้ามาเรียกร้องความยุติธรรมกับผม? ผมไม่สั่งย้ายคุณไปสาขาแยกก็ถือว่ายุติธรรมกับคุณมากแล้ว”

หูยวี่: “……”

“หรือว่า คุณอยากจะไปรับตำแหน่งที่สาขาแยก? ผมก็จะไม่ปฏิเสธ”

หูยวี่เบิกตากว้างจนลืมความโมโหไปทันที “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น”

ถึงแม้จะรู้สึกโมโหกับความลำเอียงที่บอสมีให้เวินหนิง แต่ไม่ว่ายังไง การแข่งขันที่ตัวเองอยากได้ก็จะมาถึงแล้วไม่ใช่หรอ?

ถึงเวลา รอให้ตัวเองชนะเวินหนิง เป้าหมายของเธอก็จะสำเร็จ

ถ้าแพ้? หูยวี่ไม่เคยนึกถึงความเป็นไปได้นี้เลย ในสายตาเธอ นี่เป็นไปไม่ได้ เมื่อกี้ที่โมโห ก็โมโหเพราะความลำเอียงที่บอสแสดงออกกับเวินหนิงอย่างชัดเจน

พอได้รับการตกลงจากลู่จิ้นยวน ข่าวเรื่องการแข่งขันนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วสำนักงาน

พอเป็นแบบนี้ ทุกคนก็รู้เรื่องอย่างรวดเร็ว หูยวี่แผนกเอเป็นคนเอ่ยพูดกับบอสเองว่าอยากจะแข่งกับเวินหนิง ถึงแม้บอสจะตกลง แต่ถ้าหูยวี่แพ้ ก็ต้องไสหัวออกไปจากตำแหน่ง

แต่ถ้าเวินหนิงแพ้ ไม่มีการลงโทษอะไรเลย ควรจะเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น

พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ทั้งบริษัทเริ่มฮือฮา

แน่นอน สิ่งที่พวกเขาฮือฮากันไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นการกระทำที่บอสกระทำต่อผู้อำนวยการทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือว่ามูลค่าทางธุรกิจ หูยวี่แผนกเอก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ บอสก็ไม่ไว้หน้าหูยวี่ต่อหน้าคนอื่น แล้วยังลำเอียงเวินหนิงขนาดนั้น นี่ก็เลยทำให้ทุกคนเริ่มเดาความสัมพันธ์ระหว่างเวินหนิงกับบอสของตัวเอง

มีคนไม่น้อยตั้งตารอการแข่งขันครั้งนี้ แน่นอน สิ่งที่พวกเธอคาดหวังไม่ใช่เวินหนิง แต่เป็น……ถ้าหูยวี่แพ้ จะทำยังไง?

กฎการแข่งขันเรียบง่ายมาก แต่เพื่อความทางการ ลู่จิ้นยวนก็เลยเป็นคนจัดการแข่งขันเอง แล้วเพื่อความยุติธรรม ก็เลยสุ่มเอางานในแผนกที่ยังไม่ได้ทำมาเป็นโจทย์การแข่งขัน

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

Status: Ongoing

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท