ยิ่งตื้นตันใจยิ่งดี ตื้นตันใจจนสุดท้ายขาดเขาไม่ได้ยิ่งดี
ตอนนี้สำหรับลู่จิ้นยวน เขาต้องยิ่งระวังเรื่องความรู้สึกระหว่างตัวเองกับเวินหนิง เขาไม่มีทางมั่นใจได้เหมือนแต่ก่อนว่าสุดท้ายเวินหนิงจะเลือกเขา
เพราะฉะนั้น โอกาสเล็กน้อยที่จะทำให้เวินหนิงอยู่ข้างกายเขาได้ เขาก็จะไม่ปล่อย
หลังจากการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ว่ากันผลการแข่งขันจะเป็นยังไง ทั้งเรื่องที่หูยวี่ถูกถอนออกจากตำแหน่ง เวินหนิงได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ทำให้ทั้งบริษัทฮือฮาอีกครั้ง
กับท่าทางของลู่จิ้นยวนในการประชุมผู้บริหารครั้งก่อน ความฮือฮาครั้งนี้คณะกรรมการคนอื่นเรียบนิ่งมาก ก็เลยทำให้ลู่จิ้นยวนรู้สึกพอใจ
เป็นเพราะแบบนี้ เวินหนิงก็เลยได้เข้าไปแผนกออกแบบเอง
ถึงแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งหัวหน้า แต่ถ้าเข้าไปในแผนกเอ นี่แหละถึงจะเป็นแกนหลักสำคัญในการออกแบบของบริษัทตระกูลลู่
คฤหาสน์ตระกูลลู่
ครั้งก่อนที่ลู่จิ้นยวนกับเย่หว่านจิ้งทะเลาะกันไป เย่หว่านจิ้งก็เงียบไปสักพัก แต่จะให้ท่านเงียบแบบนี้ตลอด เป็นไปไม่ได้
บนโต๊ะอาหาร ท่านยกจานผลไม้ไปที่โซฟา แล้วนั่งลงข้างลู่อันหรานที่กำลังดูการ์ตูนอยู่
“อันหราน ดูทีวีอยู่หรอ ช่วงนี้ไม่เห็นหนูอยู่ในบ้านเลย หนูไปที่ไหนกัน” เย่หว่านจิ้งเอ่ยถาม
ลู่อันหรานหยิบกล้วยขึ้นมากิน “คุณพ่อพาผมออกไปครับ”
ถ้าเป็นแต่ก่อน กับคำถามของคุณย่าคนนี้ ลู่อันหรานก็ต้องตอบตามความจริงอยู่แล้ว
แต่หลังจากครั้งก่อนที่เวินหนิงมาคฤหาสน์ ไม่ว่าจะคำถามที่เกี่ยวกับแม่ตัวเองอะไร ก็จะเริ่มลังเลแล้วปิดบัง
“อันหราน มาคุยกับคุณย่าหน่อยสิ” เย่หว่านจิ้งยิ้มแล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาบนตัก
“คุณย่าอยากคุยอะไรครับ?” ลู่อันหรานมองไปด้วยดวงตาน่ารัก
“คุยอะไรก็ได้……อันหราน คุณย่าถามหนู หนูอยากมีคุณแม่ใช่ไหมครับ” เย่หว่านจิ้งลังเลไปครู่หนึ่งแล้วลองถาม
“อยากครับ” เขาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
ท่านดีใจแล้วยิ้ม “ได้ คุณย่ารู้แล้ว เดี๋ยวหนูคุยกับคุณพ่อเองว่าหนูอยากมีคุณแม่รู้ไหม?”
เด็กน้อยกระพริบตา “แต่ว่าคุณย่าครับ ผมมีคุณแม่แล้ว”
สีหน้าของเย่หว่านจิ้งตึงเครียดทันที ท่านรู้ว่าคุณแม่ในปากของเด็กน้อยเป็นใคร นี่เป็นสิ่งที่ท่านยอมรับไม่ได้
“พูดไปเรื่อย อันหรานหนูต้องรู้ หนูยังไม่มีคุณแม่ อีกหน่อยห้ามพูดแบบนี้อีกรู้ไหม” ท่านรีบสั่งสอนทันที
ลู่อันหรานเบะปากแล้วกระโดดลงมาจากตักของท่าน ทำหน้าผีใส่ด้วยสีหน้าไม่มีความสุข
“ผมไม่ได้พูดไปเรื่อย ผมมีคุณแม่อยู่แล้ว คุณแม่ของผมชื่อเวินหนิง ผมจะเอาแค่คุณแม่คนเดียว คุณย่านิสัยไม่ดี” เขาพูดจบก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนทันที
เย่หว่านจิ้งรู้สึกโมโหกับเด็กน้อยมาก
ท่านนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าไม่ดีมากนัก ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปอีกหน่อยเวินหนิงต้องเข้ามาในตระกูลลู่แน่นอน นี่เป็นสิ่งที่ท่านไม่อยากเห็น
เย่หว่านจิ้งไม่ชอบเวินหนิงอยู่แล้ว หลังจากครั้งก่อนที่ไม่เคารพท่าน ก็ทำให้ท่านไม่ชอบยิ่งไปกว่าเดิม มีแต่ความรังเกียจ
อีกหน่อยลูกชายตัวเองจะแต่งงานกับใครท่านก็ทนได้ แต่เวินหนิงคนนี้ ท่านทนไม่ได้ ตัวเองต้องคิดหาวิธีแล้วเลือกลูกสะใภ้ที่ตรงใจตัวเองให้ลูกชายแล้วล่ะ
ทีแรกยังไม่รู้เลยว่าจะหาใคร แต่ไม่คิดเลยว่าผ่านไปไม่กี่วัน สวรรค์ก็ส่งตัวมาให้ท่าน
“หนูคือกงมั่วใช่ไหม น้าจำได้ตอนเราเด็กน้ายังเคยอุ้มเรา แต่ต่อมาทั้งครอบครัวเราก็ย้ายไปที่ต่างประเทศ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี สวยขึ้นเยอะเลยนะ”
วันนี้มีแขกมาในคฤหาสน์ ชื่อว่ากงมั่ว ปีนี้อายุยี่สิบหกปี เป็นหลานสาวของเพื่อนรักเถ้าแก่ลู่ตอนที่ยังหนุ่มๆอยู่
ได้ข่าวว่าพ่อแม่ของกงมั่วเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็ก แล้วเธอถูกคุณปู่เลี้ยงดูมา กี่ปีนี้ก็อยู่ต่างประเทศตลอด
ช่วงเวลาก่อนคุณปู่ของเธออายุมากเกินไปแล้วเพิ่งเสียชีวิต ก่อนเสียชีวิตก็โทรหาเพื่อนรักในประเทศ โทรหาเถ้าแก่ลู่ก็เพื่อที่จะฝากฝั่งหลานสาวตัวเองให้เพื่อนรักดูแล
ยังไงถ้าตัวเองตายแล้ว ญาติของหลานสาวตัวเองก็เหลือไม่เยอะ ถึงแม้จะยังมี แต่ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้น ถ้าจะฝากพวกเขามาฝากให้เพื่อนรักตัวเองดูแลดีกว่า
ตอนที่เถ้าแก่ลู่ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนแล้วก็รู้สึกดีใจมาก ก็เลยตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
กงมั่วหน้าตาสวยงาม เทียบกับเวินหนิงได้เลย ท่าทางที่เย่หว่านจิ้งมีต่อเธอก็ดีกว่าเวินหนิง อย่างฟ้ากับเหว
“คุณน้าลู่ ตอนเด็กหนูก็เคยมาที่นี่ หนูยังจำได้ รู้สึกว่าคุณน้าไม่แตกต่างกับตอนนั้นเลย”
เย่หว่านจิ้งยิ้มอย่างดีใจ “ปากหวานมากเลยนะเนี่ย พูดอะไรก็ลื่นหูไปหมด”
“เถ้าแก่บอกน้าแล้ว หนูก็อยู่ในบ้านอย่างสบายใจเถอะ คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเองแล้วกัน”
“ตอนนั้นที่น้าคลอดจิ้นยวน ก็อยากได้ลูกสาวมาก ลูกสาวทั้งเป็นเด็กดีไม่ดื้อ ตอนนี้ดูเหมือนว่าสวรรค์ทำให้น้าสมปรารถนาแล้ว”
กงมั่วนั่งหลังตรง ใส่ชุดเดรสที่ดูเข้ากับเธอมาก ท่านั่งก็ดูเป็นผู้ดี รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูสวยมาก
เย่หว่านจิ้งมองไปที่เธอ ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกชอบ ยิ่งมองก็ยิ่งพอใจ พอรู้สึกพอใจก็มีความคิดบางอย่างที่หักห้ามไว้ไม่อยู่
ลูกสะใภ้ของท่าน ก็ควรจะเป็นแบบกงมั่ว ชาติตระกูลดี เป็นผู้หญิงที่มีความรู้แบบนี้สิ
“ใช่สิ จิ้นยวนลูกชายของน้า หนูยังจำได้หรือเปล่า ตอนเด็กหนูน่าจะเคยเจอ แต่ว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้วหนูอาจจะจำไม่ค่อยได้”
“ไม่เป็นไรหรอก รอจิ้นยวนกลับมาเดี๋ยว น้าจะให้เขาพาเราไปเที่ยวให้ทั่วๆเอง จะได้รู้จักกันด้วย ถ้ามีอะไรที่ชอบก็ให้จิ้นยวนซื้อให้ เราอย่าเกรงใจเด็ดขาด”
ตากงมั่วเป็นประกายแล้วยิ้ม “พี่จิ้นยวน หนูจำได้ค่ะ ตอนเด็กเขาเข้มงวดมาก กี่วันนี้ที่หนูกลับมาในประเทศ ก็เห็นเขาบนปกนิตยสารค่ะ”
พอพูดแบบนี้ เธอก็นึกถึงรูปนั้นทันที ใบหน้าที่หล่อเหลาบนปกนิตยสารของเขา ทำให้มุมปากกงมั่วยิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์
ตอนลู่จิ้นยวนกลับมา ก็เห็นกงมั่วที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร เธอเห็นเขาก็รีบลุกขึ้นทันที
เย่หว่านจิ้งแนะนำทั้งสองคน ลู่จิ้นยวนก็เลยค่อยรู้ว่ากงมั่วเป็นใคร แต่สีหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกมาก แต่ในใจกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์
เวินหนิงยังไม่ได้เข้ามาในตระกูลลู่ แต่กลับมีผู้หญิงแปลกหน้าเข้ามาก่อน นี่เป็นข่าวที่ทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์จริงๆ
แต่ยังไงก็เป็นหลานสาวเพื่อนรักเถ้าแก่ลู่ เขาก็เลยพูดอะไรเยอะไม่ได้