คิดไปคิดมา สุดท้ายก็ต้องพึ่งลู่อันหรานอยู่ดี
ลู่จิ้นยวนโทรไปหาลู่อันหราน “อันหราน ตอนนี้แม่อยู่หรือเปล่า?”
ลู่อันหรานทำหน้าหมดคำพูด ตัวเขาใหญ่ขนาดนี้ แต่กลับถูกมองข้าม คุณพ่อเอ่ยคำแรกก็ถามถึงคุณแม่เลย
“อยู่ครับ”
ลู่อันหรานหันมองเวินหนิงที่กำลังเคลียร์งานหน้าคอมพิวเตอร์ “คุณพ่อจะทำอะไรครับ?”
ลู่จิ้นยวนเอ่ย “อันหราน อยากเปลี่ยนที่พักหรือเปล่า?”
ตาลู่อันหรานเป็นประกายทันที เขาเบื่อโรงแรมแล้ว ถึงแม้จะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ บริการต่างๆที่น่าเบื่อ ไม่สนุกเลย
เขารู้ตั้งนานแล้วว่าลู่จิ้นยวนกำลังหาที่พักใหม่ สุดท้ายก็มีข่าวสักที เขาดีใจมาก
“แน่นอนครับ พ่อหาบ้านได้แล้ว?”
“อื้อ อยากไปดูหรือเปล่า?”
ลู่จิ้นยวนพยายามหลอกล่อ ลู่อันหรานฉลาดขนาดไหน เข้าใจความหมายเขาทันที “อยากให้ผมชวนคุณแม่ไปด้วยกัน?”
ลู่จิ้นยวนอดยิ้มไม่ได้ ลูกชายเข้าใจตัวเองจริงๆ
“ผมคิดวิธีก่อนนะครับ แต่ช่วงนี้คุณแม่แปลกๆ เหมือนมีเรื่องให้คิดมาก”
ลู่อันหรานนเอ่ยอย่างกังวล “เพราะอาการคุณยายแย่เหรอครับ?”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว “อาการคุณยายเราปกติดี”
ลู่อันหรานเอ่ย “งั้นเดี๋ยวผมคิดวิธีให้คุณแม่พาผมออกไป พ่อรอเราข้างนอกได้เลย”
ลู่จิ้นนยวนตอบตกลงทันที แต่ก็อดนึกถึงคำพูดลู่อันหรานไม่ได้
ตอนนี้อารมณ์เวินหนิงไม่ดี เพราะเธอรู้ว่าเย่หว่านจิ้งคิดยังไง ลู่จิ้นยวนเลยไม่กล้ารบกวนเธอมาก กลัวว่าเธอจะอารมณ์เสีย
แต่ตอนนี้ เธอก็เหมือนไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น
ลู่จิ้นยวนคิดหนัก หรือว่า เพระเรื่องตระกูลหยง?
เวินหนิงไม่อยากบอกเขา ลู่จิ้นยวนก็จะไปยุ่งไม่ได้
เพราะหยงซือเหม่ย เรื่องนี้เลยยุ่งยากกว่าเดิม
……
ลู่อันหรานพยายามคิด จะพูดตรงๆก็ไม่ได้
“แม่ครับ ตอนบ่ายแม่ติดธุระไหมครับ?”
เวินหนิงกำลังเหม่อ ต่อหน้าเธอเหมือนดูคอมพิวเตอร์ แต่ใจลอยไปที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
ตระกูลหยง หยงซือเหม่ย คุณแม่ ลู่จิ้นยวน เรื่องของคนกลุ่มนี้เหมือนเชื่อมเป็นเส้นๆ เอาแต่วนเวียนอยู่ในหัวเธอ
เพราะฉะนั้นตอนที่ลู่อันหรานเรียกเธอ เธอเลยไม่ได้ยิน
“แม่ครับ?”
ลู่อันหรานเห็นว่าเวินหนิงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เลยกระโดดลงจากเตียง สะกิดแขนเธอ
เวินหนิงค่อยรู้สึกตัว จากนั้นจึงยิ้มให้ลู่อันหราน “อะไรคะอันหราน? เมื่อกี้แม่ไม่ได้ยิน”
“ผม ผมอยู่ในโรงแรมรู้สึกอึดอัดครับ”
ลู่อันหรานทำหน้าน่าสงสาร “ที่นี่มีแต่ขาวดำเทา ดูหม่นหมองมาก ผมรู้สึกไม่สบายตัว”
พอเวินหนิงได้ยิน ก็รู้สึกเอ็นดู
ยังไงก็ไม่ใช่บ้าน ถึงจะหรูหรามากแค่ไหน แต่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี
ลู่อันหรานยังเด็กขนาดนี้ รู้สึกไม่ชินก็เป็นเรื่องปกติ
“งั้น ไม่งั้นแม่ส่งเรากลับไปที่เมืองเจียงเฉิงก่อนไหม? คุณทวดคงจะคิดถึงเราน่าดู”
พอลู่อันหรานได้ยินก็รีบส่ายหน้าทันที “ผมจะอยู่ที่นี่ด้วย แม่ครับ ไม่งั้นเราไปดูบ้านกันไหมครับ?”
ลู่อันหรานกระพริบตามองเวินหนิง ปูพื้นมาตั้งนาน เขาพูดจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมาได้สักที
ดูบ้าน?
เวินหนิงคิด ถ้าอีกหน่อยเธอจะไปนับญาติจริงๆ อาจจะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน เอาแต่อยู่โรงแรมก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
“ทำไมเราถึงนึกได้ว่าจะไปดูบ้าน?”
เวินหนิงคิดไปมา จึงพยักหน้า
ลู่อันหรานหัวเราะกลบเกลื่อน “มีครั้งหนึ่งได้โบชัวร์โฆษณา ก็เลยนึกได้ครับ”
เวินหนิงไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะลู่อันหรานโตเร็วฉลาดอยู่แล้ว รู้เรื่องพวกนี้คงไม่แปลก
“ได้ เราชอบบ้านที่ไหน เราไปดูกัน”
ตอนนี้เวินหนิงรับช่วงบริษัทตระกูลเวินต่อ บวกกับเงินรางวัลการแข่งขันครั้งก่อน จะซื้อบ้านหลังหนึ่งคงไม่ใช่ปัญหาอะไร
“ครับผม”
ลู่อันหรานพยักหน้า หยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “ผมไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”
เวินหนิงเห็นเขาเร่งรีบขนาดนั้น ก็อดส่ายหน้าไม่ได้ เด็กหนอเด็ก
ลู่อันหรานวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นั่งบนชักโครกแล้วส่งข้อความหาลู่จิ้นยวน
“สำเร็จแล้วครับ ผมบอกว่าผมจะไปดูบ้าน คุณแม่ตกลงแล้วครับ”
พอลู่จิ้นยวนเห็น อารมณ์ก็ดีมากๆ “สมกับเป็นลูกชายพ่อ ฉลาดมาก”
“แน่นอน คุณชายอย่างผมฉลาดอยู่แล้ว พ่อรอที่หน้าประตูนะครับ”
ลู่อันหรานตอบเสร็จก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวให้หล่อๆ
ตอนเดินออกไป เวินหนิงเตรียมตัวเสร็จแล้ว “แม่ครับ เราไปเถอะครับ”
พูดไปด้วย จูงมือเวินหนิงเดินออกไปด้วย
เวินหนิงกำลังจะโบกรถ แต่ลู่อันหรานก็ชี้ไปทางรถของลู่จิ้นยวนที่จอดรออยู่แล้ว “รถคุณพ่ออยู่นั่น เรานั่งรถพ่อไปดีกว่าไหมครับ?”
เวินหนิงลังเล “อันหราน เราไปเองก็ได้ พ่อเรายุ่งขนาดนั้น”
คำพูดของหยงซือเหม่ย เธอยังจำได้ดี เธอไม่อยากเกี่ยวพันกับลู่จิ้นยวนอีกถ้าไม่จำเป็น
ลู่จิ้นยวนเห็นว่าทั้งสองแม่ลูกไม่เดินมาสักที จึงลงรถ ตอนเดินไปหาก็ได้ยินเวินหนิงพูดพอดี
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันว่าง อันหราน ขึ้นรถ”
ลู่อันหรานตามไปอย่างมีความสุข สองพ่อลูกเดินอยู่หน้า เวินหนิงยืนลังเลอยู่ข้างหลัง
“พ่อครับ พ่อทำอะไรถึงทำให้คุณแม่อารมณ์ไม่ดี แม้แต่รถของพ่อก็ไม่ยอมนั่ง?”
ลู่จิ้นยวนส่ายหน้า “เรื่องนี้ยาว เรารู้แค่ว่า ช่วยให้พ่อกับแม่คืนดีกันก็พอ”
ถึงแม้ต่อหน้าลู่จิ้นยวนจะปล่อยมือแล้ว แต่ในใจเขา เขาไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้เลย
ตอนนี้เห่อจื่ออันก็จ้องอยู่ เขาจะปล่อยให้เวินหนิงสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ยังไง
ตอนนี้ต้องรั้งเวินหนิงไว้ก่อน จากนั้นค่อยจัดการปัญหาในตระกูลลู่ เปิดใจเวินหนิงให้ได้ แล้วขอเธอแต่งงาน นี่เป็นแผนของลู่จิ้นยวน
“รู้แล้วครับ”
ลู่อันหรานตบแขนลู่จิ้นยวนเบาๆ “ผมเป็นลูกพ่อ ไม่ช่วยพ่อ จะช่วยใครล่ะครับ?”
เวินหนิงยืนอยู่ข้างหลัง เห็นทั้งสองพ่อลูกเดินไป ในใจก็ว้าวุ่นกว่าเดิม
ท่าทางพวกเขาดูเข้ากันมาก เป็นพ่อลูกที่สนิทสนมกันจริงๆ
ถ้าต้องแยกกัน ลู่อันหรานจะรับได้ยังไง
แต่ว่า ไขสันหลังที่จะช่วยคุณแม่ ยังไงเธอก็ต้องเอามาให้ได้
ช่างเถอะ ก่อนจะตัดขาดกัน ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันไปก่อน ก็ถือว่าเป็นความทรงจำที่มีค่าแล้วกัน