อย่าพูดว่าคนอื่นแปลกใจ เฉียวเหวยอีตัวเองก็แปลกใจมาก
“เหวยอี”ถังหยวนเป่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
กำลังจะพูดอะไรต่อ จู่ๆก็มีรถพุ่งออกจากหัวมุมข้างหน้า จอดแนวขวางหยุดอยู่หน้ารถของเธอ
รอจนถังหยวนเป่าตอบสนองกลับมาก็เลี่ยงไม่ทันแล้ว ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ
“เหยียบเบรกรถ!”วิกฤติอันตรายมาก เฉียวเหวยอีนั่งอยู่ข้างคนขับยื่นมือออกไป ดึงพวงมาลัย ชนเข้ากับราวจับข้างถนนจึงหยุด
ในรถหมอกควันลอยเป็นเกลียวขึ้นมา ถุงลมนิรภัยกระเด็นออกมา
“รถคันนี้บ้าไปแล้วเหรอ?!”ถังหยวนเป่าสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะได้สติกลับมา เกิดรู้สึกหวาดกลัวภายหลัง
โชคดีที่เฉียวเหวยอีรัดเข็มขัดนิรภัย ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะชนจนกลายเป็นยังไง!
เฉียวเหวยอีจับขมับ เจ็บจนต้องขมวดคิ้วขึ้น
ยังไม่ทันได้ตรวจว่าถังหยวนเป่าได้รับบาดเจ็บไหม เสียงเคาะกระจกเบาๆก็ดังออกมาจากด้านนอก
หลานซวี่ยืนอยู่ด้านนอก จ้องมองซึ่งกันและกันผ่านกระจกรถ พูดเสียงต่ำกับเฉียวเหวยอี “คุณผู้หญิง คุณชายเชิญคุณลงจากรถ”
เฉียวเหวยอีค่อยๆสูดลมหายใจ มองไปทางรถมายบัคตรงหน้า
ลี่เย่ถิงเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ
เธอมองถังหยวนเป่าที่อยู่ด้านข้าง ถังหยวนเป่ากับเธอมองหน้ากัน หลานซวี่พูดต่อ“ไม่ต้องห่วง ทางด้านคุณถังพวกเราจะจัดการเอง”
เธอเพิ่งจะดึงเปิดประตูรถของลี่เย่ถิง ยังไม่ได้นั่งลง ลี่เย่ถิงยื่นมือออกมา ดึงเธอมาถึงด้านหน้า พูดถามเสียงหนักแน่น“ซุ่ยซุ่ยอยู่ที่ไหน?”
เฉียวเหวยอีนิ่งอึ้งไป อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น เขาไม่รู้ว่าซุ่ยซุ่ยไปตระกูลฟู่แล้ว?
“เฉียวเหวยอี ถ้าลูกชายเกิดอุบัติเหตุอะไรเธอจะเอาอะไรมาชดเชย?เธอไม่สนใจเขาแต่ฉันสนใจเขา!!!”ลี่เย่ถิงเห็นเฉียวเหวยอีไม่พูด กัดฟันพูดด้วยความโกรธต่อไป
เฉียวเหวยอีคิดว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ซุ่ยซุ่ยเป็นฝ่ายมาหาเธอ จนถึงวันนี้ เธอไม่ได้ทำอะไรเกินไปกับซุ่ยซุ่ย แต่ยังทำกับเขาเหมือนให้กำเนิดด้วยตัวเอง!
ลี่เย่ถิงคำพูดนี้ เหมือนกับว่าเธอปฏิบัติกับซุ่ยซุ่ยอย่างโหดร้าย
“ฉันไม่สนใจเขาเมื่อไหร่?”เธอกับลี่เย่ถิงจ้องมองกันหลายวินาที เพียงแค่คิดก็น่าขัน พูดย้อนถามเสียงเบา
ซูหรูเยียนดีกับซุ่ยซุ่ย เขาไม่ไปถามจากซูหรูเยียน กลับจะมารบกวานเธอ?!
ก็เป็นเวลานี้ โทรศัพท์ของลี่เย่ถิงดังขึ้นมา เฉียวเหวยอีชำเลืองมอง มองชื่อหน้าจอ คือ“คุณตา”
ฟู่หย่วนซานโทรศัพท์มาหาลี่เย่ถิง
“รับสายโทรศัพท์”เธอชี้ไปที่โทรศัพท์ของลี่เย่ถิง พูดเสียงเบา“ฟังว่าลูกชายคุณอยู่ที่ไหน”
……
ตระกูลฟู่
เฉียวเหวยอีนั่งอยู่บนม้านั่งยาวนอกประตู มองไปยังลานบ้านเล็กๆ
หลายปีแล้วที่ไม่ได้มา นี่ก็ยังเหมือนเดิม ในฤดูใบไม้ร่วงใบต้นอู๋ถงจะใบร่วงเต็มพื้นดิน ต้นแปะก๊วยเก่าแก่ด้านหลัง แมกไม้แทบจะสูงระฟ้า
บนถนนที่ยาว ทุกลานบ้านเหมือนกัน นอกจากเลขที่ของประตูบ้าน
ข้างบ้านคือบ้านของฟู่ฉือ ไกลออกไปเล็กน้อย คือบ้านฟู่หลี่
ฟู่ฉือบ้านเป็นสีดำ ผ้าม่านปิดแน่น เหมือนไม่มีคนเข้ามานานแล้ว
รถจี๊ปขับเข้ามาจากที่ไกล หยุดห่างจากเธอไม่กี่ก้าว บนรถมีผู้หญิงหยักศก ผู้หญิงเซ็กซี่ผลักเปิดประตูรถลงมา
เฉียวเหวยอีกับเธอจ้องมองซึ่งกันและกัน ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ตัวยาว เงียบไม่พูดจาหลายวินาที กลับไม่มีความกล้าจะเรียกชื่อเธอ เรียกว่าอะไรก็ผิด ถึงยังไงเธอก็เป็นแม่ของลี่เย่ถิง
ไม่เจอกันหลายปี ฟู่จยาก็ยังไม่เปลี่ยน อายุแค่ทำให้เธอสวยขึ้น เพิ่มเสน่ห์มากขึ้น
ในความเป็นจริง นิสัยเฉพาะตัวของอันถงห่างไกลจากฟู่จยา เพียงแต่ใบหน้าดูนุ่มนวลและงดงามมากกว่า ทำให้คนเห็นรักและทะนุถนอม ฟู่จยามีความสง่าและงดงาม
เฉียวเหวยอีถือว่าเป็นผู้หญิง แต่ชอบแม่แบบอย่างฟู่จยา ดูเป็นตัวเองและมีความมั่นใจ แต่ว่าผู้ชาย มักจะอ่อนโยนต่อผู้หญิงอ่อนแอเสมอ
ฟู่จยามองเห็นเฉียวเหวยอีนั่งอยู่ด้านนอก ค่อยๆขมวดคิ้วขึ้น แต่ไม่พูดอะไร ปิดประตูรถ หมุนตัวเดินเข้าประตูใหญ่