กู้หลิงเฟิงหันศีรษะและมองไปยังถังอี้
ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังอี้อย่างสมบูรณ์ และเขาชี้นิ้วไปยังทิศทางนอกรถแล้วพูดว่า “นายไม่คิดเหรอว่ายังมีหนิงหนิงที่รั้งเธอไว้ได้ ฉันไม่เชื่อ นายไม่อยากให้เธอเปลี่ยนใจงั้นเหรอ ?”
กู้หลิงเฟิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ปรับการหายใจ แล้วตอบด้วยเสียงต่ำ “ฉันแค่ไม่อยากให้เธอไม่มีความสุข”
“นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร !” ถังอี้ดูงุนงง
“นายคิดว่าการที่นายไม่สนใจเฉียวเหวยอี ไม่ติดต่อหาเธอก่อน แล้วเธอจะมีความสุขงั้นเหรอ พวกนายมีเรื่องกันมานานขนาดนี้ เธอเห็นนายแล้วต้องดีใจสิถึงจะถูก เข้าใจไหม ?! ”
ถังอี้รู้สึกว่ากู้หลิงเฟิงนั้นโง่จริง ๆ เขาไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อนทำให้เขาไม่รู้วิธีจัดการความสัมพันธ์ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะใช้วิธีใดฉุดรั้งให้เฉียวเหวยอีอยู่ เขาทำได้แค่ทุ่มเทเพื่อเธอเท่านั้น
แต่ในบางครั้ง แค่ทำดีกับผู้หญิง ไม่ได้แปลว่าจะมีประโยชน์
เช่นเดียวกับเสือผู้หญิงอย่างลี่เย่ถิง ถ้าเขาต้องการอะไรละก็เฉียวเหวยอีจะไม่มีแม้แต่โอกาสได้กลับตัวกลับใจอย่างแน่นอน !
“นายคิดว่าเธอจะดีใจที่ได้เธอฉันไหม ?” กู้หลิงเฟิงถามพร้อมขมวดคิ้ว
“สิ่งที่นายถามมันก็แค่เรื่องไร้สาระ !” ถังอี้สบถออกมา “ตราบใดที่เธอห่วงใยนาย เธอจะมีดีใจสิ !”
ดวงตาของกู้หลิงเฟิงฉายแววสั่นไหว
“บางทีเฉียวเหวยอีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด” ถังอี้เห็นว่าเขาเริ่มหวั่นไหว เขาก็กระซิบอีกครั้งว่า “เรื่องหนิงหนิง นายขึ้นไปพูดเองเถอะ ฉันไม่ช่วยไปบอกแทนหรอก”
ก่อนนอนเมื่อคืนนี้ อันหนิงบอกกับกู้หลิงเฟิงว่าเธอต้องการอยู่ในประเทศจีนต่อและไม่ต้องการกลับไปที่ประเทศ B
เรื่องของหนิงหนิง มีเพียงเฉียวเหวยอีเท่านั้นที่มีสิทธิ์
กู้หลิงเฟิงเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”
ถังอี้คาดหวังว่ากู้หลิงเฟิงจะพักที่ห้องพักของเฉียวเหวยอี ไม่กลับไปแล้ว มีเพียงตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
นอกจากนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ว่าฝนจะหยุดตก และดูเหมือนว่าจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ กู้หลิงเฟิงควรคว้าโอกาสที่ดีเช่นนี้ไว้
เมื่อกู้หลิงเฟิงลงจากรถ ถังอี้จึงขับรถออกไปโดยไม่ลังเลโดยทิ้งเขาไว้ที่โรงพยาบาล
…
เฉียวเหวยอีที่ถูกลี่เย่ถิงจูบจนเสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย ทันทีที่เขาเอื้อมมือไปโอบเธอขึ้นมา เธอก็มีสติ จากนั้นเธอก็วางมือขวาของเธอระหว่างริมฝีปากของทั้งสองคนพลางกระซิบหอบเล็กน้อย “อย่านะ… ”
ร่างกายของเธอยังไม่ไหว วันนี้ไม่ได้ ยังไงก็ต้องรอเธอออกจะโรงพยาบาลเสียก่อน
ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเธออาจจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลอีกครึ่งเดือน
ลี่เย่ถิงก้มศีรษะลงและกัดจมูกเล็กๆ ของเธออย่างแรง
ยัยเด็กคนนี้ มักจะขอให้เขารอเสมอ
ยังไงซะก็รอมานานหลายปีไม่จำเป็นต้องรีบในตอนนี้หรอก
เขาพาเธอกลับไปที่เตียงและวางเธอพลางกระซิบว่า “เธอกินข้าวก่อนเถอะ”
เฉียวเหวยอีมองเขาเดินจากไป ฟังเขาเปิดหน้าต่างระบายอากาศในห้องน้ำ และอดยิ้มไม่ได้
ลี่เย่ถิงยืนอยู่หน้าหน้าต่างและเป่าลมเย็นๆ สักครู่ พยายามระงับความปรารถนาของเขา และล้างหน้าด้วยน้ำเย็นก่อนที่จะสงบลง
เขาตั้งใจที่จะออกไปเป็นเวลาสองวัน
ถ้าเขาอยู่กับเธอตลอดเวลา เขาอาจจะควบคุมสิ่งที่เขาทำกับเธอไม่ได้
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็พบว่ามีคนคุ้นเคยคนหนึ่งอยู่ชั้นล่างเดินเข้าประตูแผนกผู้ป่วยในอย่างรวดเร็ว
ลี่เย่ถิงจ้องไปที่แผ่นหลังของกู้หลิงเฟิง ดวงตาของเขาค่อยๆ เย็นลง
แล้วเขาก็หันหลังกลับเข้าไปในห้อง