เฉียวเหวยอีอยู่ที่ร้านผลไม้ตรงข้ามโรงพยาบาล ถือกล่องมะเฟืองที่ถังอี้ชอบกิน วางแผนว่าจะเป็นฝ่ายพูดขอโทษถังอี้ก่อน ถึงอย่างไรก็เป็นลี่เย่ถิงที่ทำร้าย
และถามเขาว่ารู้เรื่องด้านปัญหาความรักของถังหยวนเป่าไหม
เพิ่งจะเดินไปถึงชั้นห้องผู้ป่วยVIPของถังอี้ ทันใดนั้นก็มองเห็นมุมทางเดิน ปรากฏร่างเล็กที่คุ้นเคยแวบหนึ่ง
เฉียวเหวยอีชะงักไปเล็กน้อย คิดว่าตัวเองตาฝาด
อันหนิงเดินอยู่ด้านหน้า หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ชายร่างสูงในชุดดำใส่หน้ากากอนามัย มือล้วงกระเป๋า เดินตามหลังอันหนิง
ถ้าหากเมื่อกี้อันหนิงเป็นเธอที่ดูผิด มั่วหานเซิงที่อยู่ด้านหลังล่ะ?!
เฉียวเหวยอีชะงักไปชั่วขณะ รีบเดินตามพวกเขาเข้าไป
อันหนิงเดินไม่ค่อยมั่นคง ท่าทางหัวเข่าไม่ตรง มั่วหานเซิงเดินอยู่ด้านหลังเธอ จ้องมองเด็กตัวเล็กที่ดื้อรั้นคนนี้เงียบๆ
อันหนิงคุกเข่าทั้งคืน ตอนเช้าคุกเข่าจนนอนหลับไปแล้ว ในฝันก็ยังพูดพึมพำ“ฉันไม่ผิด …พี่คิงก็ไม่ผิด…”
ตอนเช้าคิงโทรศัพท์เข้ามา ไม่รู้ว่ารู้เรื่องที่อันหนิงทำได้ยังไง ถามสองสามประโยคว่าอันหนิงได้รับบาดเจ็บไหม ช่วงนี้เชื่อฟังไหม
ความจริงคิงเข้าใจแล้ว อันหนิงอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง เพื่อปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉียวเหวยอี
เด็กถูกตีและลงโทษ คิงก็ค่อนข้างจะรักและสงสารมาก
“เดินช้าหน่อย”มั่วหานเซิงเห็นอันหนิงท่าทางเดินอย่างรวดเร็ว พูดเสียงต่ำ
อันหนิงไม่สนใจเขา ตัวเองหาประตูห้องของถังอี้พบแล้ว
กำลังจะเคาะประตู ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง“อันหนิง!”
อันหนิงมือที่เคลื่อนไหวก็หยุดลง หันหน้าไปมองเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอียืนอยู่ด้านหลังมั่วหานเซิงห่างกันไม่กี่ก้าว ถือกล่องผลไม้อย่างเหนื่อยหอบ จ้องมองเธอกับมั่วหานเซิงทั้งสองคน
อันหนิงเห็นเฉียวเหวยอี ยืนอยู่ที่เดิมสองสามวินาที หลังจากนั้นก็วิ่งไปอยู่ด้านหลังมั่วหานเซิง หลบซ่อนอยู่ด้านหลังของมั่วหานเซิง กอดขาของมั่วหานเซิงไว้ ท่าทางเหมือนไม่อยากเห็นเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีก้มมอง ก็สบตากับมั่วหานเซิง
ในเมื่อถูกเฉียวเหวยอีเจอแล้ว มั่วหานเซิงก็ไม่ช่วยพวกเขาปกปิดแล้ว ชำเลืองมองเฉียวเหวยอีและพูดอย่างเรียบเฉย“บังเอิญจริงๆ”
“อาจารย์”เฉียวเหวยอีเรียกมั่วหานเซิง เม้มปาก มองไปทางอันหนิง
เพราะว่าในสมองมีคำถามมากมาย เวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรดี เฉียวเหวยอีไม่พูดจา เพียงแค่ค่อยๆเดินเข้าไปตรงหน้าทั้งสองคน
อันหนิงเห็นเฉียวเหวยอีเข้ามา ก็ยิ่งหดตัวอยู่ด้านหลังมั่วหานเซิง
อันหนิงไม่ยอมใกล้ชิดเธอ ท่าทางเหมือนพบคนแปลกหน้าที่เกลียด ทำให้ในใจเฉียวเหวยอียิ่งเหมือนถูกทิ่มแทง
เฉียวเหวยอีเงียบไม่พูดจานานมาก นำผลไม้วางไว้ด้านข้าง ขมวดคิ้วพูดเสียงหนักแน่นกับอันหนิง“อันหนิง บอกฉันมา เกิดอะไรขึ้น?เธอทำไมถึงอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง คิงล่ะ?”
อันหนิงทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเฉียวเหวยอี เหมือนกับนกกระจอกเทศตัวเล็ก นำใบหน้าเล็กซุกบนตัวมั่วหานเซิง ไม่พูดจา
“เธอไม่รู้ อันหนิงเพื่อเธอเลือกจะอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง?”มั่วหานเซิงพลิกฝ่ามือลูบศีรษะของอันหนิงเบาๆ ย้อนถามเฉียวเหวยอีด้วยเสียงเรียบเฉย
เฉียวเหวยอีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จึงเข้าใจทันที คิง เข้ามาที่เมืองเจียงเฉิง
“ในเวลานั้นเขานำสิทธิ์ในการเลี้ยงดูอันหนิงทิ้งไว้ที่ฉัน และกลับประเทศbไปคนเดียว”มั่วหานเซิงพูดกับเธอต่อไป
ชั่วพริบตาเดียว เฉียวเหวยอีก็แข็งทื่อ
คืนนั้น เวลาที่คิงโทรศัพท์เข้ามาหาเธอ เขาก็อยู่ไม่ไกลจากประตูห้องผู้ป่วย