เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 2 ตอนที่ 47 การสอบของเซี่ยนอีจง

เล่มที่ 2 ตอนที่ 47 การสอบของเซี่ยนอีจง

หลายวันต่อมา เซี่ยเสี่ยวหลานส่งปลาไหลเข้าเมืองซางตูโดยส่งแบบเว้นหนึ่งวันส่งหนึ่งครั้ง แล้ววันใดที่ไปส่งค่อยขนกากน้ำมันกลับมาด้วย

ธุระปะปังที่เหลือไม่ต้องให้เธอกังวลใจ แม้แต่กากน้ำมันที่ขนกลับมาก็เป็นหน้าที่หลิวเฟินนำไปขายในหมู่บ้านข้างเคียง การหย่าและเรื่องเซี่ยเสี่ยวหลานอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยสองเรื่องนี้ทำให้หลิวเฟินมีสติและมีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เธอขายของจะฝีปากคมคายสู้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ แต่ดีที่กากน้ำมันมีราคากำหนดไว้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เธอไม่ต้องวุ่นวายหาลูกค้า เกษตรกรที่เลี้ยงหมูล้วนต้องการมันทั้งสิ้น

เซี่ยเสี่ยวหลานขายส่งปลาไหลยิ่งง่ายดายขึ้นอีก

จูฟ่างคนจัดซื้อของภัตตาคารหวงเหอเป็นคนดีมาก เซี่ยเสี่ยวหลานแค่กล่าวว่าอยากหาตลาดอื่นให้กับปลาไหล จูฟ่างก็บอกว่าสามารถช่วยเหลือได้ เขายังช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานติดต่อภัตตาคารอื่นอีกสองแห่ง ซึ่งจริงแล้วระดับอาจไม่ทัดเทียมเท่าภัตตาคารหวงเหอ แต่นับว่ามีชื่อเสียงในซางตูอยู่มากทีเดียว

ทางบ้านพักรับรองคณะกรรมการประจำเมืองสั่งจำนวน 20 ชั่ง ภัตตาคารหวงเหอสั่ง 50 ชั่ง ส่วนภัตตาคารอีกสองแห่งสั่งล่วงหน้าร้านละ 20 ชั่ง

ทุกสองวันเซี่ยเสี่ยวหลานจะส่งปลาไหลเข้าเมืองเป็นจำนวนรวม 110 ชั่ง

ทุกชั่งจะได้กำไรอย่างน้อย 4 เหมา 100 ชั่งจะได้สักประมาณ 45 หยวน ตอนขากลับเธอขนกากน้ำมัน 300 ชั่ง หนึ่งรอบได้กำไรราว 18 หยวน… หลังจากเธอมอบบุหรี่สองซองให้แก่ยามเฝ้าประตูโรงงานและคนขายกากน้ำมันแล้ว ราคาของกากน้ำมันก็ลดลงเหลือ 2 เฟินต่อหนึ่งชั่งตามที่คาด อันที่จริงพวกเขาเข้มงวดไม่เบา ทว่าแค่จ่ายเงินในจำนวน 300 ชั่ง ในหนึ่งรอบเธอสามารถขนได้เท่าไรก็ขนไปเท่านั้น

เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังกายไม่เพียงพอ ไม่อย่างนั้น 400 ชั่งเธอก็ขนได้ ขนเพิ่มสัก 50 ชั่งไม่ต้องมีต้นทุน เธอสามารถทำกำไรเพิ่มได้อีก 4 หยวน ในความเป็นจริงการขนกากน้ำมันกลับไปทุกรอบเธอทำเงินได้อย่างน้อย 20 หยวน สองวันหาเงินได้ 65 หยวน กำไรต่อเดือนของเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่ 900 กว่าหยวน แต่มีอีกหลายสิบหยวนที่เธอเตรียมไว้เป็นเงินคงความสัมพันธ์ ดังนั้นจึงยึดกำไรเพียง 900 หยวนมาคำนวณ

สำหรับโรงงานสกัดน้ำมัน เธอสามารถเปลี่ยนคนมาซื้อเป็นลุงของเธอหรือผู้อื่นมาเมื่อไรก็ได้ ยามหน้าประตูรู้จักจักรยานคันนี้ของเธอดี แค่บอกไว้สักคำย่อมไม่มีปัญหา

แต่ที่ที่ส่งปลาไหลไปจำเป็นต้องอธิบายให้แจ่มแจ้งก่อน ความสัมพันธ์ยังไม่สนิทกันถึงขนาดเปลี่ยนคนได้ตามใจชอบ

อย่างเช่นคุณจูฟ่างผู้จัดซื้อของภัตตาคารหวงเหอ ทุกครั้งที่เซี่ยเสี่ยวหลานส่งสินค้ามา อีกฝ่ายจะยินดีมีน้ำใจอย่างสุดซึ้ง… เซี่ยเสี่ยวหลานค่อนข้างซื่อบื้อในเรื่องของความรู้สึก แต่ในด้านความเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นนั้น เธอไม่โง่

หากเธอเป็นพวกโง่เง่าในเรื่องมนุษยสัมพันธ์จริง เมื่อก่อนอาจนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงไม่มั่นคงแล้ว คำพูดคำจาของจูฟ่างถือว่าสุภาพเหมาะสม เพียงแค่ได้พบกับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่กี่ครั้งเป็นเพียระยะเวลาสั้นๆ แต่ทุกครั้งล้วนสวมเสื้อผ้าแตกต่างกัน ทรงผมก็เปลี่ยนไป ครั้งที่สามยังราวกับจงใจเผยให้เห็นนาฬิกาใหม่บนข้อมือและรองเท้าหนังขัดเงาใหม่เอี่ยมอ่องด้วย

ผู้ชายหาคู่ครอง แน่นอนว่าต้องแสดงให้เห็นจุดเด่นของตนเอง

เห็นได้ชัดว่าจูฟ่างคิดว่าข้อได้เปรียบของเขาคือฐานะทางบ้านดีกว่าผู้อื่น มิอาจปฏิเสธได้ว่าชายคนนี้นั้นหัวไม่ทึบ เซี่ยเสี่ยวหลานลำบากลำบนขายปลาไหล ต้องเป็นเพราะสถานะทางการเงินไม่ดีเท่าไรแน่ จูฟ่างถือว่าแสดงความโดดเด่นอย่างมีวัตถุประสงค์

น่าเสียดายที่ถึงแม้สายตาของเขาไม่ถึงกับส่งให้คนตาบอดดู [1] ทว่าในสมองของเซี่ยเสี่ยวหลานมีเพียงสูตรและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ ไม่ว่างไปสัมผัสความรู้สึกของจูฟ่างเลยด้วยซ้ำ… เธอทำงานค้าขาย จะรังเกียจผู้ชายที่ทำหน้าที่จัดซื้อสินค้าคนหนึ่งได้อย่างไร แต่ต่อให้เธอจะหาผู้ชายที่เป็นคนจัดซื้อในยุค 80 ก็ไม่มีทางเลือกเขาเพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเขามีปัญญาซื้อนาฬิกาข้อมือใหม่และสวมร้องเท้าหนังเอี่ยมเป็นแน่

ต้องเพราะเป็นคนคนนั้น เพราะว่าเธอ ‘ชอบ’ ชายคนนั้นต่างหากเล่า

เพื่อการหาเงิน เซี่ยเสี่ยวหลานจึงยังไม่สามารถหักหาญความรู้สึกของจูฟ่างได้

เมื่อก่อนเธอเคยพูดถึงพนักงานขายหญิงแสนสวยว่ามีดีแต่หน้าตา ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ทุกคนก็ทำเพื่อดำรงชีวิตอยู่กันทั้งนั้น ซึ่งมันช่างไม่ง่ายดายเอาเสียเลย!

 เสี่ยวหลาน มะรืนนี้เธอมาเร็วหน่อยสิ เพื่อนฉันส่งตั๋วหนังมาให้สองใบ ฉันอยาก… 

 ขอโทษนะคะ มะรืนนี้ฉันจะวานให้ลุงมาส่งสินค้าแทน ฉันเองมีธุระนิดหน่อย 

จูฟ่างอยากนัดเซี่ยเสี่ยวหลานไปดูภาพยนตร์ ดันถูกตัดบทเสียได้ สหายจูยังไม่ทันได้ผิดหวัง ก็ใส่ใจกับจุดสำคัญในคำพูดของเซี่ยเสี่ยวหลานขึ้นมา

 ลุงเธอจะมาส่งของแทนหรือ? 

เช่นนั้นก็ยิ่งดี คุณลุงเป็นผู้อาวุโสที่ใกล้ชิดกัน หากสามารถแนะนำตัวเองให้กับลุงของเซี่ยเสี่ยวหลานได้ มิใช่ว่าความสัมพันธ์ของเขากับเซี่ยเสี่ยวหลานจะได้เข้าใกล้กันอีกนิดหนึ่งหรือ? แม้เขาจะเคยพบเซี่ยเสี่ยวหลานเพียงแค่สี่ครั้ง แต่คงไม่ต้องสาธยายว่าจูฟ่างชอบเธอมากแค่ไหน

จูฟ่างไม่เคยเจอหญิงสาวที่สะสวยขนาดนี้มาก่อน เซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตางดงาม ไม่ว่าจะได้พบอีกกี่ครั้ง ความสวยที่แสนดึงดูด ความงามแบบวิจิตรบรรจงนั่นมักทำให้จูฟ่างปากคอแห้งผากอยู่เสมอ แรงโจมตีทางสายตาที่มีต่อเขาไม่อ่อนกำลังลงแม้แต่น้อย สายตาที่เธอมองเหมือนคลื่นน้ำกระทบแสงใส เอวบางร่างน้อย หน้าอกหน้าใจอุดมสมบูรณ์… สาวงามไร้เทียมทานอันดับหนึ่งเช่นนี้ กลับมีวาจาท่าทีจริงจังเปิดเผย

เธอไม่ได้ตั้งใจออดอ้อนคน แต่เป็นเพราะน้ำเสียงที่มีแต่กำเนิดเป็นแบบนี้จริงๆ

ถ้าเธอตั้งใจจะออดอ้อน ไม่แน่ว่าจูฟ่างคงได้หัวสมองกระสับกระส่าย อาจถึงขั้นหุนหันพลันแล่นสั่งจองปลาไหล 100 ชั่งทุกวัน เพียงเพื่อได้พบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็นแน่

ด้วยความใจกว้างและจริงจังเช่นนี้ แม้จูฟ่างทำราวกับเป็นนกยูงรำแพนหางอยากดึงดูดความสนใจของเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่สำหรับเธอแล้วกลับไม่มีคำพูดล่วงเกินเลยสักครั้ง

คุณปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยทัศนคติอย่างไร คนอื่นย่อมปฏิบัติกับคุณด้วยทัศนคติแบบนั้น

กฎข้อนี้เหมาะในการใช้คบค้าสมาคมกับคนปกติ จูฟ่างเป็นคนหนุ่มที่ทะนงในตนเองพอสมควร แต่ยังคงจัดอยู่ในประเภทคนปกติ เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานคงไม่อาจทนคนแทะโลมพร้อมหาเงินไปพร้อมกันได้ อย่างไรก็ตามเธอได้เกิดใหม่ จึงยังมีนิสัยดั้งเดิมเช่นนี้อยู่

 ใช่แล้ว ลุงของฉันมาส่ง คงไม่ยุ่งยากสินะคะ? 

จูฟ่างกล้าบอกว่ายุ่งยากที่ไหนกัน

เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มให้เขาพลางกล่าวลา จิตใจของจูฟ่างได้เดินตามเซี่ยเสี่ยวหลานไปด้วย

เมื่อเขาเรียกสติกลับมา เซี่ยเสี่ยวหลานก็ขี่จักรยานหายลับไปบนถนนจงหยวนแล้ว จูฟ่างรู้สึกหัวเสียนิดหน่อย

 ลืมถามเธอว่าธุระอะไรเสียได้ 

มีโอกาสที่จะออกตัวช่วยเหลือได้ ถ้าไม่กระตือรือร้นสักหน่อย จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนอย่างจูฟ่างได้ย่างไร?!

เซี่ยเสี่ยวหลานใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการพลิกอ่านแบบเรียนมัธยมปลาย

เธอละทิ้งการทบทวนภาษาจีนและรัฐศาสตร์ไว้ชั่วคราว ภาษาอังกฤษไม่ทบทวน หลักๆ ยังคงเป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา แต่เพราะสัดส่วนคะแนนของชีววิทยาน้อย ที่จริงแล้วในหนึ่งสัปดาห์เธอจึงทบทวนเพียงสามวิชาหลักๆ ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี

การได้กลับมาอ่านแบบเรียนมัธยมปลายอีกครั้ง เธอที่เคยนึกว่าตัวเองได้ลืมความรู้จนหมดสิ้นแล้ว กลับพบว่าตัวเองยังคงจำได้บางส่วน ตัวเซี่ยเสี่ยวหลานยังรู้สึกคาดไม่ถึง

ยกตัวอย่างข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ปี 84 ชุดนั้น เธอจบการศึกษามาตั้งหลายปี ทว่าความทรงจำนี้ยังคงเก็บไว้ในสมอง รอแค่โอกาสเปิดใช้งานก็สามารถค่อยๆ ระลึกหวนกลับมาได้มากกว่าครึ่ง ความรู้ของแต่ละวิชาก็เป็นแบบนี้ เธอใช้เวลาทบทวนไปเรื่อยๆ ต้องได้รับสิ่งใหม่จากการทบทวนความรู้เก่าบ้าง และสามารถเก็บสิ่งที่เคยเรียนในชาติก่อนขึ้นมาได้

เซี่ยเสี่ยวหลานตระเตรียมทุกอย่างไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว เฉินชิ่งกลับเป็นกังวลมาก เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตัวเธอกำลัง ‘ทบทวน’ แต่สำหรับเฉินชิ่งเซี่ยเสี่ยวหลานกำลัง ‘เรียนรู้’ เป็นครั้งแรก

ความรู้ของมัธยมศึกษาตอนปลายกับตอนต้นมีความยากไม่เหมือนกัน ผลการเรียนมัธยมต้นของเซี่ยเสี่ยวหลานก็ยินมาว่าไม่ได้ดีเท่าไร เนื่องจากไม่มีอาจารย์คอยอธิบาย เฉินชิ่งกังวลใจว่าเมื่อเธอเผชิญหน้ากับแบบเรียนมัธยมปลายแล้วจะอ่านไม่รู้เรื่อง จากนั้นจะถอดใจเรื่องมาสอบที่เซี่ยนอีจงเสียดื้อๆ พอถึงวันที่กำหนด เมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานขี่จักรยานมาปรากฏตัวตรงหน้าประตูโรงเรียน เฉินชิ่งถึงยอมวางใจจนได้!

แผลบนหน้าผากของเซี่ยเสี่ยวหลานเหลือเพียงรอยจางๆ เท่านั้น เธอจึงตัดผมหน้าม้าปิดบังไว้ เหล่าสาวน้อยในอนาคตมักถ่ายรูปตนเองกับหน้าม้าซีทรู [2] ลงเวยซิ่น [3] กันทั้งวัน เมื่อตัดคู่กับใบหน้าเน็ตไอดอลโดยกำเนิดของเซี่ยเสี่ยวหลานนี้ ทำให้เธอดูน่ารักบริสุทธิ์ขึ้นอีกไม่น้อย

เธอมีเสน่ห์แพรวพราวแล้วจะทำอะไรได้?

มิใช่ว่าพวกเราต้องพยายามสุภาพสง่างามหรอกหรือ?

 เสี่ยวหลาน เธอมาแล้ว 

เฉินชิ่งต้องเป็นพยานให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน ลุงยามหน้าประตูโรงเรียนถึงยอมปล่อยเซี่ยเสี่ยวหลานเข้าไปข้างในได้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ให้คนที่บ้านมาเป็นเพื่อนเข้าร่วมการสอบ หลิวเฟินจึงยืนหยัดให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่—หลิวหย่งเข้าตัวเมืองไปซื้อผ้า หลี่เฟิ่งเหมยยืมจักรเย็บผ้าจากบ้านคนอื่นมาตัดให้ รูปแบบของชุดก็ไม่ใช่รูปแบบที่ทันสมัยมากมาย แต่คนในครอบครัวไม่ยอมปล่อยเธอสวมเสื้อผ้าเก่ามาเซี่ยนอีจงเป็นแน่ เนื่องจากกลัวว่าคนอื่นจะดูแคลนเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานพอเข้าใจได้

ชาติก่อนไม่มีคนกังวลแทนเธอเช่นนี้

วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ต่อให้เฉินชิ่งจะพาเธอไปยืนต่อหน้าอาจารย์โรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่ง เธอก็ไม่ตื่นสนาม

อาจารย์หญิงอายุน้อยไม่ค่อยใส่ใจกับการสอบครั้งนี้ เพียงแต่ชี้ไปยังโต๊ะสำนักงานในห้องพักครูให้เซี่ยเสี่ยวหลานเท่านั้น

 ข้อสอบอยู่ตรงนั้น เธอก็ไปหยิบมาทำเอาเองนะ 

เชิงอรรถ

[1] 媚眼做给瞎子看 ส่งสายตาให้คนตาบอดดู หมายถึง ส่งสายตาเสน่หาให้คนตาบอด อีกฝ่ายก็ไม่รับรู้อยู่ดี เปรียบเปรยว่า ทำดีแค่ไหนแต่ไม่มีใครชมเชยหรือรู้สึกยินดี

[2] 空气刘海 หน้าม้าซีทรู คือ ผมหน้าม้าที่บางและงุ้มเข้าด้านในเล็กน้อย

[3] 微信 เวยซิ่น คือ แอพลิเคชั่นสื่อสารในลักษณะการพิมพ์โต้ตอบข้อความสนทนาของประเทศจีน คล้ายกับแอพลิเคชั่นไลน์

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท