เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 – เล่มที่ 2 ตอนที่ 50 ไม่ได้ทุจริตสินะ?

เล่มที่ 2 ตอนที่ 50 ไม่ได้ทุจริตสินะ?

เซี่ยเสี่ยวหลานมีความมั่นใจอยู่ไม่น้อย

อย่างไรเสียในขณะที่ข่าวจากเซี่ยนอีจงยังไม่มา เธอก็ยังทำธุรกิจเหมือนเดิม พอหาเวลาว่างได้จึงค่อยอ่านหนังสือ

ไปส่งปลาไหลที่เมืองซางตูอีกครั้ง จูฟ่างยังคงประหลาดใจ

 เสี่ยวหลาน วันนั้นลุงของเธอบอกว่าเธอจะเริ่มเรียนหนังสืออีกครั้ง อีกหน่อยธุรกิจนี้อาจจะไม่ทำแล้ว? 

เซี่ยเสี่ยวหลานรีบอธิบาย  มีแผนแบบนั้นจริง แต่ฉันต้องผ่านเดือนพฤศจิกายนไปก่อนค่อยวางแผนตกลงกันให้แน่นอน อีกอย่างถึงตอนนั้นก็ไม่มีปลาไหลให้จับอยู่แล้ว 

จูฟ่างสับสนยุ่งเหยิงเหลือเกิน

สำหรับใครก็ตาม การเรียนล้วนเป็นเรื่องที่สมควร หญิงสาวที่สวยสะพรั่งอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานเลี้ยงดูครอบครัวก็ไม่ใช่เรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เธอเพิ่งจะอายุสิบกว่า ถ้าไม่หางาน ก็เรียนหนังสือต่อไป หรือไม่ก็ออกเรือน มีเพียงแค่สามทางนี้ให้เลือกเดินเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากเลือกการแต่งงาน จูฟ่างชมชอบที่เธอตั้งใจพัฒนาตน ที่รู้สึกยุ่งเหยิงเพราะหลังจากเดือนพฤศจิกายนจะไม่ได้พบเซี่ยเสี่ยวหลานอีกแล้ว—แม้เป็นเพียงแค่ความคิดที่ยังไม่แน่นอนชัดเจน แต่ยามดึกดื่นคืนที่รู้ข่าวจูฟ่างถึงขั้นนอนไม่หลับ กว่าจะรอถึงเซี่ยเสี่ยวหลานมาส่งของได้ เขาจึงไม่รีรอถามถึงการวางแผนของเซี่ยเสี่ยวหลานทันที

เซี่ยเสี่ยวหลานยอมรับเรื่องจะเรียนหนังสือต่อไป จูฟ่างรู้สึกอ้างว้าง

แต่เขารู้ดีว่าที่เซี่ยเสี่ยวหลานพูดนั้นย่อมไม่ผิด เดิมทีเพราะเซี่ยเสี่ยวหลานส่งปลาไหลให้ภัตตาคารหวงเหอ ทั้งสองคนถึงได้ไปมาหาสู่กัน ไร่นาของชนบทช่วงเดือนพฤศจิกายนก็จับปลาไหลไม่ได้แล้ว การจัดส่งสินค้าของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องถึงจุดสิ้นสุดชั่วคราว

พอถึงเวลาใครจะรู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานยังจะส่งสินค้าให้ภัตตาคารหวงเหออีกหรือไม่ ถ้าทำอีกเธอจะควรขายอะไร?

จูฟ่างสลดหดหู่

พอกลับบ้านไปก็โดนมารดาของเขาดูออกจนได้

เมื่อมารดาต้อนถาม ลูกแหง่จูฟ่างคนนี้ก็ไม่ปิดบังเรื่องราวไว้ เขาเทเรื่องราวคับอกข้องใจออกมาข้างนอกโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

 ไม่อย่างนั้นบ้านเราหางานสักอย่างให้เซี่ยเสี่ยวหลานไหม? เธออยากเรียนมหาวิทยาลัยมิใช่เพราะอยากลงหลักปักฐานในเมืองหรือ? 

มารดาของเขาเกือบเป็นฟืนเป็นไฟ

ลองฟังคุณสมบัติแล้ว โอ้สวรรค์ ภูมิลำเนาชนบท เรียนจบมัธยมต้น เป็นคนขายปลาไหล! ปลาไหลเนียะนะ กลิ่นคาวแรง เหนอะหนะนุ่มนิ่ม เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั่วไปไม่กล้าจับกัน หญิงสาวชนบทนั่นติดต่อกับปลาไหลเหม็นหึ่งทั้งวี่ทั้งวัน จะคุยกันรู้เรื่องหรือ?

ข้อดีหนึ่งเดียวคือหน้าตาสะสวย

สาวบ้านนอกแสนสวยอายุสิบกว่าออกมาทำธุรกิจ ดันปรากฏตัวต่อหน้าจูฟ่างได้ ทำให้จูฟ่างหลงใหลหัวปักหัวปำ ถึงขนาดจะหางานให้สาวบ้านนอก—มารดาจูฟ่างสงสัยว่าเป็นกับดักเสน่หาที่จงใจทำให้ลูกชายของเธอ แม้แต่ส่งสินค้าให้ภัตตาคารหวงเหอก็มีเป้าหมาย วางกับดักซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ จนสามารถดึงความสนใจจากลูกชายซื่อบื้อของเธอได้เสียแล้ว

มารดาของจูฟ่างโกรธจนจะตายให้ได้ แต่ยังไม่สามารถบอกสิ่งเหล่านี้ให้จูฟ่างฟัง

เพราะจูฟ่างเขาไม่เชื่อ!

อายุยี่สิบกว่าและยังไม่มีแผนจะแต่งงาน คุณสมบัติก็ไม่ด้อยกว่าใคร เพียงแต่มาตรฐานสูงไปบ้างเท่านั้น จูฟ่างชอบเซี่ยเสี่ยวหลานเข้าแล้ว เขาเป็นคนเห็นแก่รูปลักษณ์อย่างไม่ปิดบัง มารดาเขาตั้งใจจะพบกับสาวเจ้าเล่ห์จากชนบทเสียหน่อย จึงไม่ปฏิเสธลูกชายโดยสิ้นเชิง ทว่าใช้คำพูดหลอกล่อจูฟ่างแทน

 หน้าตาสวย? ภัตตาคารหวงเหอของพวกลูกไม่ได้กำลังรับบริกรหญิงหรือ? 

พนักงงานหญิงของภัตตาคารหวงเหอน่ามองกว่าบ้านพักรับรองคณะกรรมการประจำเมือง แต่ไม่มีคนไหนจะเทียบเทียมเซี่ยเสี่ยวหลานได้ หากได้เห็นรูปลักษณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลาน เธอจะต้องเป็นที่เตะตาต้องใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นแน่ จูฟ่างก็กลัวว่าเธอจะสะดุดตาเจ้าหน้าที่มากเกินไป อีกอย่างงานบริกรคือการดูแลและบริการ จูฟ่างยังทำใจไม่ได้น่ะสิ

จูฟ่างทำท่าจะรบเร้ามารดาของเขาอีก มารดาเขาก็ไม่ใช่พวกกินพืชเสียด้วย แค่กล่าวว่าต้องพบกับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยตนเองก่อนถึงจะตัดสินใจได้

แต่เซี่ยเสี่ยวหลานจะได้พบมารดาของจูฟ่างหรือ?

เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังรอผลคะแนนของเธออยู่!

ก็แค่ข้อสอบเจ็ดชุด ทำไมเซี่ยนอีจงตรวจไปสองวันแล้วยังไม่มีผลคะแนนอีก?

ตอนนั้นเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานส่งข้อสอบ อาจารย์ซุนก็ถูกคนเรียกตัวไปแล้ว

เดิมทีอาจารย์ซุนอยากดูกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างละเอียดเสียหน่อย ทว่าเธอทำได้เพียงรีบร้อนนำข้อสอบส่งให้อาจารย์ฉีประจำมัธยมปลายปีสามเท่านั้น

 พี่ฉี เอาข้อสอบวางไว้บนโต๊ะให้พี่แล้ว 

อาจารย์ฉีต่างหากที่ประจำปีสาม มีธุระประเภทย้ายโรงเรียนเข้าเรียนกลางภาคก็เป็นหน้าที่อาจารย์ฉีรับผิดชอบ พื้นฐานของเซี่ยเสี่ยวหลานแย่มาก อาจารย์ฉีจึงไม่มีความหวังต่อนักเรียนมัธยมต้นคนนี้เลยแม้แต่น้อย—เซี่ยนอีจงถือเป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่เยี่ยมที่สุดในเขตอันชิ่งแล้ว ตาสีตาสาธรรมดาอยากเรียกก็เรียนกันได้หรือ? อย่างไรเสียเบื้องบนยินยอมลงมา อาจารย์ฉีจึงทำได้แค่จัดการสอบหนึ่งครั้ง ตัวเธอเองรำคาญ จึงมอบหมายธุระให้แก่ผู้มาใหม่อย่างอาจารย์เสี่ยวซุน

อาจารย์เสี่ยวซุนส่งข้อสอบให้อาจารย์ฉี รายหลังก็มิได้นำพา

มัธยมปลายปีสามมีภาระการสอนหนัก จะมีปีไหนที่โรงเรียนไม่อยากได้คนติดมหาวิทยาลัยเพิ่มสักหน่อยเล่า เซี่ยนอีจงยอดเยี่ยมมากในเขตอันชิ่ง แต่ถ้าเทียบกับในขอบเขตทั้งเมือง ทั้งมณฑล และทั้งประเทศ คุณภาพการสอนยังด้อยกว่ามากโข ผู้สอบติดมหาวิทยาลัยของเซี่ยนอีจงในปีนี้มีทั้งหมด 8 คน และนี่ไม่ใช่จำนวนรวมของนักเรียนที่จบการศึกษาปีนี้ แต่เป็นจำนวนรวมของนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษาและนักเรียนซ้ำชั้น

เกาเข่าโหดร้ายเช่นนี้ การแข่งขันก็สูงมากตามไปด้วย อาจารย์ฉีไม่เชื่อว่านักเรียนที่เรียนจบแค่ชั้นมัธยมต้นคนหนึ่งจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของเซี่ยนอีจงได้

เธอจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลาน

ภาระงานในโรงเรียนเยอะแยะมากมาย อาจารย์ฉีจึงนำข้อสอบกลับไปตรวจที่บ้าน

งานจุกจิกที่บ้านก็ไม่น้อยเลย เธอโยนข้อสอบไว้บนโต๊ะแล้วไปทำอย่างอื่นแทน ผ่านไปสองวันอาจารย์ฉีไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย ถึงเฉินชิ่งจะมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ทั้งวัน แต่คงมิอาจพุ่งตัวเข้าไปถามว่าทำไมยังตรวจข้อสอบไม่เสร็จได้สินะ?

สามีอาจารย์ฉีก็ทำงานเป็นอาจารย์ของเซี่ยนอีจง หอพักอาจารย์ขนาดเล็ก จัดวางได้เพียงโต๊ะหนังสือหนึ่งตัว เวลาอยู่บ้านทั้งสองคนจึงทำงานโดยผลัดเปลี่ยนเวียนกัน เซี่ยเสี่ยวหลานสอบเสร็จไปสามวันแล้ว อาจารย์ฉีเลิกงานกลับบ้านมา พบว่าสามีกำลังตรวจข้อสอบอยู่บนโต๊ะทำงาน

 วันนี้ห้องคุณไม่มีสอบนี่คะ? 

 ไม่ใช่ห้องผมหรอก ผมช่วยคุณตรวจข้อสอบบนโต๊ะน่ะ ข้อสอบนี้น่าสนใจทีเดียวนะ กลับไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงนักเรียนคนนี้เลย 

อาจารย์ฉีถึงนึกขึ้นมาได้ เธอลืมข้อสอบของเซี่ยเสี่ยวหลานไปแล้ว!

 เป็นนักเรียนที่อยากเข้าเรียนกลางภาคน่ะ ไม่เคยเรียนมัธยมปลายด้วยซ้ำ อยากจะร่วมสอบเกาเข่าในปีหน้า โรงเรียนนี่ก็จริงๆ เลย เพียงเพื่อต้นกล้าที่มีความหวังสักต้น ก็ดันยินยอมให้ใครเข้าเรียนกลางภาคได้… เป็นอย่างไรบ้างคะ? ข้อสอบทำได้แย่มากล่ะสิ? 

สามีอาจารย์ฉีส่ายศีรษะ  คือมันน่าสนใจน่ะ เธอเก่งเพียงบางวิชาทว่าเก่งถึงขั้นวิกฤตเลย 

เก่งบางวิชาถึงขั้นวิกฤตหรือ?

ตรวจถึงวิชาภาษาจีน เห็นได้ชัดเจนว่าคำถามท่องจำสำหรับให้นักเรียนได้คะแนนง่ายนั้นเธอตอบไม่ถูก การอ่านวิเคราะห์ก็งูๆ ปลาๆ ทว่าเรียงความกลับเขียนได้เสียตาลุกวาว ไม่เบนจากหัวเรื่องหลัก ทั้งยังมีความลึกซึ้งพอสมควร ไม่เหมือนนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาเขียนสักเท่าไร

วิชารัฐศาสตร์นี่น่าอนาถเกินไปแล้ว เกือบล้มเหลวโดยสมบูรณ์

แต่ข้อสอบภาษาอังกฤษทำได้งดงามมากเหลือเกิน!

‘ภาษาอังกฤษ’ ถูกบรรจุในเกาเข่าไม่ถึงสองปี นักเรียนมากมายไม่เข้าใจแม้แต่ตัวอักษร 26 ตัว ระดับความถูกต้องของข้อสอบภาษาอังกฤษชุดนี้เอาไว้ก่อน แค่เพียงเรื่องที่คำศัพท์แต่ละคำเขียนได้สละสลวยมากก็เป็นเรื่องน่าทึ่งมากแล้ว ขณะจรดปากกาเจ้าของไร้ซึ่งความลังเล ไหลลื่นไม่ติดขัด สามารถดูได้จากลักษณะปลายปากกาเลยทีเดียว

สามีของอาจารย์ฉีเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ

ส่วนอาจารย์ฉีก็คืออาจารย์สอนวิชาภาษาจีน

ข้อสอบภาษาจีนและข้อสอบภาษาอังกฤษ สอบได้คะแนนสุดโต่งทั้งสองขั้ว ดังนั้นจึงบอกว่าเป็นนักเรียนที่ทำข้อสอบได้น่าสนใจ

อาจารย์ฉีเห็นข้อสอบภาษาจีนก็รู้สึกไม่พอใจนัก ความรู้ท่องจำแสนง่ายดายยังไม่รู้ นี่มันทัศนคติต่อการเรียนแบบไหนกัน?

ทว่าพอลองดูคำถามอื่นแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกลับตอบได้ตั้งใจมาก

อาจารย์ฉีและสามีตรวจข้อสอบวิชาภาษาจีนและภาษาอังกฤษจนหมด ทั้งสองล้วนรู้สึกมหัศจรรย์มาก เซี่ยเสี่ยวหลานร่วมสอบเซี่ยนอีจงผ่านไปเป็นวันที่ 4 ในที่สุดอาจารย์ฉีก็ได้ไหว้วานอาจารย์คนอื่นให้มาตรวจข้อสอบของเธอด้วยกันจนเสร็จสิ้น

ดูผลคะแนนที่ออกมาแล้วทำเอาอาจารย์ฉีฉงนงงงวยอยู่ไม่น้อย เธอจึงเรียกอาจารย์ซุนมา

 เสี่ยวซุน วันนั้นเธอได้คุมนักเรียนหญิงนั่นอย่างแน่นหนาจริงๆ ใช่ไหม ไม่ได้ทุจริตสินะ?! 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

เธอคือประธานเซี่ย หญิงผู้แข็งแกร่ง และยังเกิดใหม่เป็น เซี่ยเสี่ยวหลาน หญิงสาวชื่อแซ่เดียวกับเธอที่ฆ่าตัวตายท่ามกลางคำนินทาในยุค 80 เธอมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องมาอยู่อย่างอดสูแบบนี้ด้วยเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท