เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 160.2

เล่ม 4 บทที่ 160.2

เล่ม 4 บทที่ 160.2

ไม่ได้ใช้เวลาช่วงเย็นคนเดียวแบบนี้มาตั้งนาน

ท่านพ่อคงจะอยู่ประชุมที่ร้านค้าเพลเลสดึกหน่อย เธอเลยนั่งกินข้าวคนเดียว หลังจากนั้นก็มานั่งอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปพลาง

ก๊อก ก๊อก

ในตอนนั้นเองก็พลันได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น

 เข้ามาได้ 

พอเธอตอบกลับไป ประตูก็เปิดออกอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ลาลาเน่จะเดินเข้ามา

 ขอคุยด้วยสักครู่ได้มั้ย เทีย 

 แน่นอนสิ นั่งเลย ลาลาเน่ 

ลาลาเน่มีสีหน้ากระวนกระวายใจเล็กน้อยสาเหตุที่นางเป็นเช่นนั้นเธอเองก็พอจะเดาได้ แต่ก็ทำตัวปกติแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร

 ดื่มชาสักแก้วหน่อยมั้ย 

 มะ ไม่เป็นไร ข้าดื่มมาแล้ว แล้วก็นี่ 

ลาลาเน่ลังเลไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งช่อดอกไม้สีขาวให้เธอ

ดอกไม้ดอกเล็กสีขาวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือถูกมัดรวมเอาไว้เป็นช่ออย่างงดงาม

 ดอกลังพาน่ะ กลิ่นมันค่อนข้างเข้ม เพราะฉะนั้นวางไว้ริมหน้าต่างดีกว่านะ 

 ขอบใจนะ ลาลาเน่ ชาดอกไม้ที่ให้มาคราวก่อนข้าก็ดื่มมันอย่างดีเลย 

 หมดเมื่อไหร่ก็บอกได้ตลอดนะ เทีย ข้ายังมีอีกเยอะเลย 

 อื้อ มีเรื่องให้ต้องขอบคุณลาลาเน่ตลอดเลยนะเนี่ย 

มันเป็นแค่คำพูดที่พูดออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร

แต่ลาลาเน่ที่นั่งกะพริบตากลมโตสีฟ้าปริบๆ กลับเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่ว

 คนที่ต้องขอบใจคือข้าต่างหาก เทีย 

มือทั้งสองข้างของลาลาเน่กำแน่นวางอยู่บนหน้าตักจนชุดเดรสยับย่นไปหมด

 เรื่องวันนี้ขอบใจนะ ข้าแวะมาเพราะอยากจะบอกเรื่องนี้แหละ  เสียงของลาลาเน่สั่นเครือเล็กน้อย

 อืมม ลาลาเน่ ข้าคงไม่ได้ยุ่งเรื่องของเจ้ามากไปใช่มั้ย  เธอเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง

 หืม มะ ไม่หรอก! ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยนะ เทีย  ลาลาเน่ตกใจรีบโบกมือทั้งสองข้างเป็นพัลวัน

 เพราะเจ้าข้าถึงได้พบท่านอาบีน็อกซ์… 

บนใบหน้าของลาลาเน่ที่ก้มหน้าลงเล็กน้อยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจาง ช่างเป็นรอยยิ้มที่งามมากจริงๆ

เธอเอ่ยถามเย้าหยอก

 ชอบท่านอาบีน็อกซ์มากขนาดนั้นเลยเหรอ ลาลาเน่ 

 หืม อา เรื่องนั้น… 

ตายจริงแค่คำถามของเธอคำถามเดียว กลับทำให้ใบหน้าของลาลาเน่แดงก่ำเสียจนไม่น่าจะแดงไปได้มากกว่านั้นอีกแล้ว

เดิมทีลาลาเน่เองก็มีนิสัยสงบเสงี่ยมพูดน้อยอยู่แล้ว แต่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้เห็นนางมีใบหน้าแดงก่ำขนาดนี้

 ท่านอาบีน็อกซ์ทำให้ข้าหัวเราะได้น่ะ 

พักใหญ่กว่าลาลาเน่จะเปิดปากพูดขึ้น

 เทียเองก็คงรู้อยู่แล้ว ข้าน่ะเป็นพวกขี้อาย เวลาอยู่กับคนอื่นๆ ก็มักจะกระอักกระอ่วนใจ ทั้งยังตื่นเต้นมากด้วย แต่เวลาข้าได้อยู่กับท่านอาบีน็อกซ์ ถึงได้พบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ข้ากำลังหัวเราะอยู่ 

 เป็นตัวของตัวเอง… 

 เพราะสามารถรับรู้ว่าเขาเป็นคนที่คิดถึงข้าจากใจจริงละมั้ง ถึงได้รู้สึกวางใจ  ท่าทางของลาลาเน่ยามพูดเช่นนั้นดูสบายใจเป็นอย่างมาก

 เป็นเรื่องที่แปลกมากเลยเนอะ เทีย กระทั่งพ่อแม่ที่คลอดและเลี้ยงดูข้ามา หรือกระทั่งน้องชายที่เติบโตมาด้วยกัน ข้ายังไม่เคยรู้สึกปลอดภัยได้ถึงขนาดนี้มาก่อนเลย 

เธอลูบหลังมือของลาลาเน่เป็นการปลอบโยนเด็กสาวที่เอ่ยออกมาอย่างเศร้าหมอง

 คิดถึงแต่ตัวเองบ้างเถอะ ลาลาเน่ ถ้าลาลาเน่ชอบและสบายใจ ก็ทำมันไปเถอะนะ 

 เทีย… 

ลาลาเน่มองเธอด้วยนัยน์ตาสั่นไหว ก่อนจะยิ้มขมขื่น

 ว่าแล้วเชียว รู้เรื่องคู่หมายของข้าแล้วสินะ 

 คร่าวๆ น่ะ ดำเนินการไปถึงไหนแล้วล่ะ 

 โล่งอกที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ก็แค่ท่านพ่อท่านแม่บอกให้ข้าเตรียมใจเอาไว้เฉยๆ น่ะ แต่ดูเหมือนจะเลือกเอาไว้อยู่หลายคน 

 เลือก? 

 เทียก็รู้ไม่ใช่เหรอ สถานการณ์ของท่านพ่อตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อนน่ะ 

 อา…  เธอเองก็เผลอถอนหายใจเสียงแผ่วโดยไม่รู้ตัว

เบเจอร์คงจะกำลังคำนวณอยู่ว่าจะต้องส่งบุตรสาวออกเรือนไปกับชายตระกูลไหน ถึงจะกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองได้มากที่สุด

การผูกสัมพันธ์โดยการให้บุตรสาวเพียงคนเดียวแต่งงานนั้น อาจจะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ หรือจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ก็ได้ทั้งสิ้น

 ข้าเองก็รู้ว่า การตอบรับความรู้สึกของท่านอาบีน็อกซ์ในสถานการณ์เช่นนี้ มันเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวมากขนาดไหน แต่ข้าเองก็ชอบท่านอาบีน็อกซ์มาก… 

เสียงของลาลาเน่เริ่มเจือไปด้วยเสียงสะอื้น

ลาลาเน่เติบโตโดยถูกกรอกหูมาตลอดว่า นางจะต้องแต่งงานกับชายที่ครอบครัวเป็นผู้เลือกให้

บางทีสำหรับนางแล้ว แค่ตกหลุมรักกับอาบีน็อกซ์ทั้งๆ ที่กำลังจะหมั้นหมาย ก็คงจะรู้สึกผิดมากเป็นแน่

เธอย้ายไปนั่งตรงข้ามลาลาเน่เงียบๆ และดึงตัวลาลาเน่เข้ามากอดเอาไว้แน่น

 อย่างที่ข้าเคยบอกเจ้าเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ลาลาเน่แค่คิดถึงตัวเองก็พอ ในเมื่อยังไม่ได้มีการระบุตัวอะไรทั้งนั้น ก็อย่ารีบเศร้าไปเลยนะ 

 ขอบใจนะ เทีย…  ร่างกายของลาลาเน่สั่นเทาเล็กน้อย

เธอช่วยลูบแผ่นหลังสั่นระริกนั่นอยู่นิ่งๆ พลางกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูของลาลาเน่

 ไม่เป็นไร ลาลาเน่ ต่อไปจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไม่มีใครล่วงรู้ได้หรอก 

* * *

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

แคลอฮันกำลังต้อนรับแขกที่จู่ๆ ก็แวะมายังร้ายขายเสื้อผ้าอย่างกะทันหันด้วยใบหน้าอึดอัดใจ

ไม่มีการติดต่อนัดหมายมาก่อนล่วงหน้า จู่ๆ ก็ทะเล่อทะล่าเข้ามาถึงห้องทำงานของเขาซึ่งตั้งอยู่ที่สาขาใหญ่ของร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันตามอำเภอใจ

การที่จู่ๆ ก็โผล่มาหาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายรู้อยู่แล้วว่าแคลอฮันจะอยู่ที่ไหนเวลาใด

อีกอย่างคนที่มาหาเขาในวันนี้ก็เป็นคนที่จัดการได้ยากมาก แคลอฮันจึงได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความตึงเครียด

ไม่คิดจะแสดงสีหน้าออกไปให้อีกฝ่ายได้เห็นเขายืดไหล่ขึ้น เอ่ยถามแขกผู้มาเยือนด้วยเสียงอันนิ่งสงบ

 จู่ๆ มาถึงที่นี่มีธุระอะไรหรือครับ ท่านเจ้าตระกูลชานตั้น เซอเชาว์ 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท