หว่านลี่พลาซ่า
ชายหนุ่มหน้าตาดีกับสาวสวยกำลังเดินจูงมือกัน
ในตาของอันฉิงมีประกายเจิดจ้า น้องชาย~ ให้พี่สาวคนนี้เลือกชุดให้หน่อยไหม
ครอบครัวของอันฉิงนั้นเป็นครอบครัวคนมีการศึกษา ส่วนตัวของเธอเองนั้นก็จบเกียรตินิยมสาขาการแข่งขันการออกแบบนานาชาติ และตัวเธอนั้นก็มีหัวทางด้านศิลป์มาตั้งแต่เด็ก
ทั้งมุมมองและรสนิยมของเธอนั้นจึงสูงมาก
เธอในตอนนี้ก็ทำงานออกแบบในบริษัท และมีเงินเดือนถึง 100,000 หยวนต่อเดือนส่วนการเล่นโยคะนั้นเป็นเพียงหนึ่งในด้านที่เธอสนใจก็เท่านั้น
แถมเธอนั้นยังถูกชักชวนโดยแมวมองมากหน้าหลายตาให้เข้าไปในวงการของนางแบบ แต่เธอก็ปฏิเสธไปทั้งหมด
ถ้าจะให้พูดง่ายๆคืออันฉิงนั้นเป็นผู้หญิงที่มีทั้งความสวยงามและความสามารถที่ไม่แพ้กันเลย
……
ร้านกระเป๋าหลุยส์วิตตอง
โซนเสื้อผ้าชาย
เจียงเฉินในตอนนี้ก็กำลังลองชุดที่อันฉิงเลือกมาให้กับเขา ทำการปรับคอเสื้อให้พอดีก่อนจะลองมองดูตัวเองผ่านกระจก
สุภาษิตที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ดูแล้วมันคงจะจริงไม่น้อย
หลังจากที่เขาใส่ชุดตัวนี้ไป มันก็ทำให้เขาดูเปลี่ยนไปทันที ทำให้ใบหน้าของเขาดูเด่นยิ่งกว่าเดิม
ดวงตาของอันฉิงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความชื่นชม นายเหมือนกับราวผ้าเลยจริงๆ จะใส่ตัวไหนก็หล่อเหมือนเดิม ตอนนี้ฉันค่อนข้างสงสัยในวิสัยทัศน์ของฉันในการเลือกเสื้อผ้าแล้วสิ
เจียงเฉินลูบหัวของเธอเบาๆ ไม่ต้องสงสัยเลย แค่เห็นผมคนนี้ก็แสดงว่าคุณมีวิสัยทัศน์ที่ดีแล้ว
หลงตัวเอง~
อันฉิงยิ้มออกมา และชื่นชมเจียงเฉิน นายชอบชุดนี้ไหม เดียวฉันซื้อให้เอาไหม?
เลือกให้ผมก็พอแล้ว เรื่องเงินเดียวผมจัดการเอง
เจียงเฉินยิ้มออกมาเบาๆ และลูบหัวเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
ก็ฉันอยากซื้อให้นายนิ
อันฉิงจ้องไปที่ตาของเจียงเฉิน ความจริงแล้ว เธอนั้นกลัวว่าการที่เธอออกตัวมากเกินไป จะทำให้เจียงเฉินนั้นไม่ชอบเธอ
ของขวัญที่ดีที่สุดไม่ใช่ว่า คุณมอบให้ผมแล้วหรอ?
เจียงเฉินยื้มออกมาอย่างชั่วร้าย
อันฉิงที่ได้ยินก็แก้มแดงและเขินอายทันที ตรงนี้มีคนตั้งเยอะนะ!
แต่เจียงเฉินกลับรู้สึกว่าอันฉิงในตอนนี้กลับดูน่ารักดี ครั้งก่อนตอนที่เธอมาล่อลวงเขา ตอนนั้นเธอไม่ได้มีอาการเขินอายแม้แต่น้อย
เพราะอันฉิงนั้นจะไม่เปิดเผยด้านนี้ของเธอให้ใครเห็นนอกจากเจียงเฉินเพียงคนเดียว
เจียงเฉินดึงมือของอันฉิงออกไปที่เคาน์เตอร์ก่อนจะทำการจ่ายเงิน
พนกงานเคาน์เตอร์หญิงอดที่จะหน้าแดงไม่ได้เมื่อเธอเห็นเจียงเฉินครั้งแรก เธอคอยก้มหัวเล็กน้อยและพยายามไม่จ้องหน้าของเขาแบบตรงๆ และดูเหมือการหายใจของเธอจะถี่ขึ้นไม่น้อยเลย
ร..รวมทั้งหมด 145,800 หยวนค่ะ
เจียงเฉินยื่นบัตรของเขาออกไปเพื่อจ่าย
และจากไปทันที
แคชเชียร์คนนี้ก็โล่งใจทันทีที่เจียงเฉินเดินออกไป
และในเวลานี้พนักงานขายข้างเธอก็เข้ามาและทักทายเธอและหันไปมองหลังของเจียงเฉินที่กำลังเดินจากไป
พี่ๆ น้องชายคนนั้นหล่อมากเลยเนอะ!
ใช่ หล่อมากหล่อจนฉันใจเต้นเลย
ไม่เพียงแต่หล่อเท่านั้น เขายังมีเงิน แถมยังใจกว้างกับแฟนของตัวเองด้วย ใครที่ได้เป็นแฟนกับเขานี่โชคดีจริงๆ!
ฉันล่ะอยากเป็นแฟนเขามั่งจัง!
ต่อให้ต้องเสียอายุขัยไป 30 ปีฉันก็ยอมถ้าได้แฟนที่ดีแบบนี้~
…
ต่อมา
เจียงเฉินและอันฉิงก็เดินดูรอบๆห้างจนเกือยจะหมดแล้ว เข้าไปดูในร้านค้าที่หรูหราต่างๆ ซื้อเสื้อและกางเกงมาเป็นโหล และซื้อเซ็ทนาฬิกาข้อมือกับรองเท้าหนังมาเป็นสิบชุด ซึ่งรวมๆแล้วราคาทั้งหมดมากกว่า 2 ล้านหยวนไปแล้ว!
และสำหรับอันฉิงนั้น เจียงเฉินก็ซื้อทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ น้ำหอม และเครื่องสำอางให้เธอและจ่ายไปไม่น้อยกว่า 400,000 หยวน!
เจียงเฉินนั้นไม่เคยขี้งกกับผู้หญิงของเขา
จนตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้ว
เจียงเฉินและอันฉิงพากันไปกินมื้อเย็น ดูหนัง จนตอนนี้ทั้งคู่ก็พร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว
ในรถแลมโบกินี่
รถขับออกไปด้วยความเร็วคงที่และลมเย็นก็พัดผ่านใบหน้าของคนทั้งสอง
อันฉิงมีรอยเลือดฝาดเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอ และพูดออกมาเบาๆว่า จะไปบ้านของนาย หรือบ้านของฉันดีล่ะ?
ผมจะพาไปที่ของผมเอง
เจียงเฉินในตอนนี้ปล่อยให้เธอพบกับบรรยากาศที่ลึกลับ
อันฉิงนั้นพบว่าเธอนั้นเอาแต่ชอบเจียงเฉินมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงเขาจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่เขายังโรแมนติกอีกด้วย
เธอรู้สึกว่าเธอนั้นโชคดีมากที่
เธอรู้สึกโชคดีมากที่ได้พบกับเจ้าชายที่มีเสน่ห์ในจิตใจของเด็กผู้หญิงทุกคน และในขณะเดียวกันเธอก็โชคดีมากที่เธอได้กลายมาเป็นผู้หญิงของเขา
เจียงเฉินขับแลมโบกีนี่มุ่งหน้าไปที่ถนนหยางคุณ
อันฉิงก็อดที่จะถามอย่างอยากรู้อยากเห็น ครอบครัวของนายอาศัยอยู่ใกล้ราชวังงั้นหรอ
เดาถูกแค่ครึ่งเดียวเองนะ ต้องตัดไปซักสองสามคำถึงจะถูก
ราชวังที่ถนนหยางคุณที่เปิดให้คนนอกเข้าแล้วหรอ
อันฉิงคิดว่าเจียงเฉินในตอนนี้จะพาเธอเข้าไปเดินชมในราชวัง
เพราะตามความเข้าใจของเธอราชวังนั้นไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้า
เธอนั้นรู้สึกว่าเจียงเฉินนั้นมีอำนาจมาก แต่เธอก็คิดว่าต่อให้เขามีอำนาจแค่ไหนก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาราชวังหลังนั้นมาเป็นที่อยู่อาศัยของตัวเองไปได้
ขับมาตลอดทาง
ในที่สุดรถแลมโบกินี่ก็จอดที่ประตูราชวัง
และพบกับชายวัยกลางคนในชุดสูทยืนอยู่ที่หน้าประตู
อันฉิงที่เห็นก่อนตื่นตระหนก มียามเผ้าอยู่ในราชวัง เราเข้าไปไม่ได้หรอก
เจียงเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเปิดประตูรถ
ชายวัยกลางคนก็เข้ามาทักทายเขาด้วยการโค้งคำนับก่อนจะพูดอย่างเคารพว่า
คุณเจียง ยินดีต้อนรับกลับครับ
ตาของอันฉิงเบิกกว้าง เธอไม่อยากจะเชื่อจริงๆ รางวังทั้งหลังนี้เป็นของนาย?
ใช่ ลงมาสิเดียวจะพาไปเดินรอบๆ
เจียงเฉินพาอันฉิงลงจากรถ ก่อนจะมองไปทางยามวัยกลางคนก่อนจะพูดว่า
เธอเป็นจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่
ยามวัยกลางคนพยักหน้าก่อนจะโค้งและพูดว่า สวัสดียามเย็นครับ คุณนายเจียง
นี่คือพ่อบ้านของที่นี่ คุณเรียกเขาว่าลุงจ้าวก็ได้นะ
อันฉิงพยักหน้าก่อนจะทักทายคนอื่นๆ
เจียงเฉินแนะนำตัวอันฉิง ก่อนจะโยนกุญแจไปให้ลุงจ้าวและให้เขาเอารถไปเก็บ
ก่อนที่ทั้งสองคนก็พากันเดินไปสำรวจรอบๆราชวังกันสองคน
หลังจากที่ทั้งคู่เดินดูจนครบหนึ่งรอบ
อันฉิงก็รู้สึกเหมือนกับว่าเธอนั้นได้เปิดโลกใบใหม่ขึ้นมา
การออกแบบของราชวังน่าจะมาจากฝีมือของนักออกแบบชื่อดังระดับโลก ฉันเคยไปราชวังเบอร์กันดีที่ต่างประเทศ และโรงแรมที่ติดท็อประดับตำนานในฝรั่งเศษมา พวกมันต่างถูกสร้างในสถานที่ประวัติศาสตร์ แต่…
ไม่มีที่ไหนดีกว่าราชวังนี้เลย
ดวงตาของอันฉิงเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือการที่เจียงเฉินได้ครอบครองมัน
ตรงไหนที่คุณคิดว่ามันออกแบบมาได้ดีที่สุดล่ะ เจียงเฉินถามออกมา
อันฉิงครุ่นคิดอยู่ซักพัก ฉันคิดไม่ออกจริงๆ เพราะที่นี่ต่างถูกออกแบบมาได้ลงตัวที่สุดแล้ว
ผิด การออกแบบห้องน้ำของที่นี่ดีที่สุด คืนนี้เราจะได้พบกับประสบการณ์ดีๆด้วย เจียงเฉินพูดออกมาอย่างจริงจัง
ดวงตาที่สวยงามของอันฉิงกลอกไปมา และเธอก็เปิดมือของเธอ: ฉันเกลียดมัน ถ้าอย่างนั้นคุณก็พาฉันเข้าไปสิ~
เจียงเฉินที่ได้ยินก็อุ้มเธอและตรงเข้าห้องน้ำทันที
ใบหน้าของอันฉิงก้เริ่มร้อยขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนเหมือนกับว่าเธอจะละลายในอ้อมแขนของเจียงเฉินให้ได้
เธอกอดคอของเจียงเฉินก่อนพูดว่า
วันนี้ฉันเหนื่อจนไม่มีแรงแล้ว นายอาบน้ำให้ฉันหน่อยได้ไหม…
ภายใต้การเคลื่อนไหวของเจียงเฉิน รูปร่างที่สง่างามของอันฉิง ก็ค่อยๆ ไม่มีอะไรมาขวางกั้น
และดูเหมือนว่าการเล่นโยคะของเธอจะให้ผลตอบแทนดีไม่น้อยเลยโดยเฉพาะส่วนโค้งเว้าของเธอ
เจียงเฉินนั้นรู้สึกเพียงว่าร่างกายของเขานั้นรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้
และแล้วเสียงหวานๆก็ถูกส่งออกมาตลอดทั้งคืน
ในที่สุด อันฉิงก็หมดสติลงในอ้อมแขนของเจียงเฉินและผล็อยหลับไปอย่างมีความสุข