ตอนที่ 109 ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว~
เงินจำนวน 160.53 หยวน นี่เป็นเงินที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
ก่อนหน้านี้ยังมีเงินที่ได้จากการออกไปขายของตามหมู่บ้านกับเย่หมิงเป่ยด้วย
จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม ภรรยาจ๋า นำเงินสมุดบัญชีออกมาสิ ผมขอดูหน่อยว่าพวกเรามีเงินเก็บกี่หยวนแล้ว?
เย่ฉูฉู่หยิบกล่องออกมา ก่อนจะหยิบสมุดบัญชีที่อยู่ในนั้น
ในสมุดบัญชีเงินฝากมีเงินทั้งหมดสามรายการ รายการแรกคือเงิน 100 หยวนจากตอนแยกบ้าน รายการที่สองคือเงินที่ได้ก่อนและหลังซื้อรถอีก 100 หยวน ส่วนรายการที่สามคือเงินเก็บก่อนที่หิมะจะตก เป็นเงินที่ได้มาจากการออกไปขายของข้างนอกกับเย่หมิงเป่ย เมื่อแบ่งอย่างเท่าเทียมกันแล้วได้มาคนละ 200 หยวน
เงิน 400 หยวนอยู่ที่นี่แล้ว หากรวมเงินก้อนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปด้วย รวมถึงเศษเงินส่วนอื่น ๆ ที่ยังไม่นับรวมเข้าไป เงินเก็บในบ้านก็มีอยู่ประมาณ 600 หยวนแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่พี่สะใภ้สามบอกว่าไม่มีการค้าขายไหนที่ไม่ร่ำรวย เป็นแบบนี้จริง ๆ ด้วยค่ะ เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม นี่ใช้เวลาแค่ไม่เท่าไหร่เองก็ได้เงินมากขนาดนี้แล้ว
จ้าวเหวินเทามองธนบัตรกองเล็กนี้และจำนวนตัวเลขในบัญชี กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า นั่นก็เพราะเป็นพวกเรานะ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นจะได้เงินมาเยอะขนาดนี้เหรอ?
เย่ฉูฉู่ยิ้ม คุณเลิกโอ้อวดสักที มันเป็นเพราะเข้าสู่ยุคที่ดีพอดีต่างหากล่ะคะ ถ้าเป็นปีก่อนหน้านี้อย่าว่าแต่ทำเงินได้ไหมเลย คิดเหรอว่าเขาจะไม่จับคุณไปขัง?
เหมือนกับหลี่เฉียจื่อนั่นอย่างไรเล่า
จ้าวเหวินเทากล่าว ถ้าเป็นเหมือนกับก่อนหน้านี้ผมก็คงไม่ทำแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ
เย่ฉูฉู่เก็บเงิน รอธนาคารเปิดก่อน แล้วค่อยเอาเงินไปฝากนะคะ
ได้เลย จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
มีเงินก้อนนี้ ปีหน้าก็สามารถสร้างบ้านใหม่ได้ ลูกเมียเขาจะได้อยู่ในบ้านหลังใหม่แล้ว!
เช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นวันข้ามปีแล้ว
หากยึดตามความเคยชินของช่วงข้ามปี ตอนเช้าก็จะรับประทานเกี๊ยว ยัดไส้ด้วยลูกชิ้นเนื้อ อ้าปากและปิดปากก็ห่อเกี๊ยวด้วยกัน
นำหัวหอมสับลงหม้อ ใส่เกี๊ยวลงไปหลังจากน้ำเดือดแล้ว เมื่อต้มจนได้ที่ ใส่เต้าหู้ วุ้นเส้น หมูเส้น สาหร่าย ผักกาดขาวหั่นฝอยลงไป จากนั้นก็รับประทานทั้งน้ำซุปหนึ่งถ้วยอย่างมีความสุข เมื่อรับประทานจนร่างกายร้อนแล้ว ก็เริ่มวันสุดท้ายของปีที่แสนวุ่นวาย
ตามธรรมเนียมทางฝั่งนี้ของพวกเขา หากไม่รับประทานเกี๊ยวส่งท้ายปี ปีนี้ก็จะยุ่งไม่จบสิ้น!
วันนี้เป็นวันข้ามปี ต่อให้เป็นพี่สามจ้าวและพี่สะใภ้สี่จ้าวที่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวก็ใจกว้างเช่นกัน
ในเกี๊ยวยัดไส้ด้วยเนื้อ ตอนที่ใส่หัวหอมสับลงไปในหม้อก็ยังเติมน้ำมันลงไปไม่น้อย ใส่วุ้นเส้น เต้าหู้ ผักและเนื้อหั่นฝอยลงไปแบบครบเครื่อง พวกเด็ก ๆ ต่างกินกันอย่างพึงพอใจ
หลังจากกินเสร็จก็พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ถ้าได้ใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวันก็คงจะดี!
เมื่อรับประทานมื้อเช้าเสร็จ เหล่าผู้หญิงและเด็กสาวก็เริ่มเตรียมอาหารมื้อเที่ยง ส่วนผู้ชายก็จะพาลูกชายไปแปะกลอนคู่และแขวนกว้าเฉียน รวมถึงงานตกแต่งบางส่วน
จ้าวเหวินเทาพูดกับภรรยาด้วยรอยยิ้ม ภรรยาจ๋า คุณหยิบกลอนคู่ที่คุณเขียนไว้ออกมาสิ?
เย่ฉูฉู่หยิบกลอนคู่ที่เธอเขียนไว้อย่างดีออกมาจากด้านในตู้ส่งให้เขา
จ้าวเหวินเทาไม่เข้าใจของชิ้นนี้ แต่เขาก็ไว้หน้าภรรยาของเขาด้วยการเพ่งมองอย่างละเอียด เมื่อได้เห็นตัวอักษรที่อยู่ด้านบน ก็พบว่าตัวอักษรที่เขียนมีเส้นคมกริบยิ่งกว่าจ้าวเหวินจื้อเสียอีก
ทันทีที่เห็น เขาก็เงียบขรึมไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตะโกนเสียงดัง เยี่ยม เขียนได้เยี่ยมเลย!
จริงเหรอคะ? เย่ฉูฉู่แย้มยิ้มพลางมองเขา
จริงสิ ๆ ภรรยาของผมเขียนสวยที่สุดเลย! จ้าวเหวินเทาพยักหน้า
เถี่ยต้านมองก็เอ่ยถามว่า อาเล็ก อาสะใภ้เล็กเขียนว่าอะไรเหรอครับ?
จ้าวเหวินเทานิ่งงันไปเพราะอ่านไม่ออก ตัวอักษรที่เขียนโดยพู่กันของภรรยาแอบมีตัวหวัดอยู่นิดหน่อย
คุณนี่มันห่วยจริง! เย่ฉูฉู่จะมองสีหน้าของเขาไม่ออกได้อย่างไรกัน เขายังไม่ทันได้เห็นว่าเธอเขียนอะไรก็ประจบประแจงเสียแล้ว!
ภรรยาจ๋า ผมอ่านหนังสือมาน้อย แต่คุณเขียนได้ดีจริง ๆ นะ ดูแล้วทรงพลังมากกว่าปกติ พู่กันเคลื่อนดั่งมังกร แข็งแรงดุจเหล็กแต่นุ่มนวลดุจเงิน เขียนได้ดีเป็นพิเศษเลยล่ะ! จ้าวเหวินเทาคิดอย่างทุกวิถีทาง ในสมองของเขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร ถึงได้ผุดสองคำนี้ออกมา
เย่ฉูฉู่แสดงความสุขผ่านสีหน้าโดยพลัน นางมองเขา จริงเหรอคะ?
ชาติที่แล้วองค์ชายเคยพูดเช่นนี้กับเธอ บอกว่าเธอเขียนตัวอักษรได้สวยมาก พู่กันเคลื่อนดั่งมังกร แข็งแรงดุจเหล็กแต่นุ่มนวลดุจเงิน เหมือนกันทุกตัวอักษรเลย
จริงสิ ไข่มุกก็ยังไม่จริงเท่านี้เลย! จ้าวเหวินเทารีบพยักหน้า จากนั้นก็ใช้เท้าเตะเถี่ยต้าน รีบออกไปซะ
เถี่ยต้านหัวเราะหึ ๆ วิ่งออกไปแล้ว เขามองออกว่าอาเล็กกำลังปลอบอาสะใภ้เล็กอยู่
คุณรู้หรือเปล่าว่านี่คืออักษรอะไร? เย่ฉูฉู่มองกลอนคู่พร้อมกับจ้าวเหวินเทาอย่างอ่อนโยนพลางกล่าว
อักษรอะไร อักษรภรรยา? จ้าวเหวินเทาพูดพลางยิ้มตาหยี
เย่ฉูฉู่ยิ้ม นางอธิบายว่า นี่เรียกว่าอักษรบรรจง แบบตัวหวัด
ภรรยาของผมสุดยอดไปเลย! จ้าวเหวินเทาไม่รู้ว่าอักษรบรรจงคืออะไร แต่เขาก็ยกยอปอปั้นภรรยาของตนเองโดยปราศจากอคติ
ไปแปะกลอนคู่เถอะ เย่ฉูฉู่ที่เป็นนักกวีหมาดๆ จึงเกิดความพึงพอใจอยู่ในใจ
ส่วนจ้าวเหวินเทาก็แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่เงียบ ๆ
ประตูห้องทั้งสองบานถูกแปะด้วยกลอนคู่ ประตูทางเข้าห้องโถงหนึ่งคู่ ประตูใหญ่ด้านหลังบ้านอีกหนึ่งคู่ นอกจากนี้ยังมีเป็นแนวนอนอีกสี่แผ่น รวมถึงกว้าเฉียนด้วย
ที่หน้าประตูบ้านมีกว้าเฉียนสี่แผ่น ตรงประตูทางเข้าห้องโถงแปะไว้หกแผ่น ประตูลานกว้างแปะไว้แปดแผ่น หรือสิบแผ่น นี่เป็นสัญญาณที่ดีของการขอพรให้ปลอดภัยทั้งสี่ฤดู ราบรื่นทุกประการ ความสุขมาเยือนถึงถิ่น มีความสมบูรณ์ไร้ที่ติ
นอกจากสิ่งนี้ กรงกระต่ายก็ยังแปะกว้าเฉียนไว้สองแผ่น ทำให้มันเป็นคู่อย่างไรล่ะ
กลอนคู่ไม่ได้แปะไว้ เขาแปะไปหนึ่งแผ่น คำนี้คืออะไรนะ? เงยหน้าก็พบความสุขเหรอ? ไม่น่าใช่
จ้าวเหวินเทามองกลอนคู่ที่ภรรยาของเขาเขียนไว้ครึ่งค่อนวัน ท้ายที่สุดก็อ่านไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ภรรยาจ๋า กรงกระต่ายนี้คุณเขียนไว้ว่าอะไรเหรอ ทำไมผมถึงไม่รู้จักเลยล่ะ? ด้านหลังของกลอนคู่ทุกแผ่นจะถูกเขียนสถานที่ไว้แปะทั้งหมด ดังนั้นจ้าวเหวินเทาจึงถามเช่นนี้
ก้มหน้าเก็บเงิน เย่ฉูฉู่กล่าว เธอยืนอยู่หน้าประตูขณะยิ้มให้สามี ชอบไหมคะ?
จ้าวเหวินเทายิ้ม ชอบสิ อันนี้ดีเลย ก้มหน้าเก็บเงิน งั้นผมจะทำตามคำมงคลของภรรยานะ!
เพิ่งแปะกลอนคู่เสร็จ คุณแม่จ้าวก็เดินเข้ามา นางเองก็ไม่เข้าใจว่าตัวอักษรที่เขียนไว้สวยหรือไม่สวย และดูไม่ออกด้วยว่าตัวอักษรที่อยู่บนกลอนคู่นี้แตกต่างจากที่พวกนางแปะไว้ แค่เห็นว่าแปะก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
กลอนคู่ของเทพแห่งเตาไฟ แล้วก็เทพประจำบ้านทุกสารทิศ แปะหมดแล้วใช่ไหม? คุณแม่จ้าวถาม
เย่ฉูฉู่ชะงักไปครู่หนึ่ง นางหันมองจ้าวเหวินเทา เพราะนางไม่รู้ว่าต้องแปะของพวกนี้ด้วย
จ้าวเหวินเทารีบรับช่วงต่อ กล่าวว่า แม่ ผมลืมไปเลย ไม่ต้องติดหรอก พ่อกับแม่ติดก็พอแล้ว
ปากไม่มีหูรูด คุณแม่จ้าวตีลูกชายตัวเองไปหนึ่งที จากนั้นก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาพนมเพื่อกราบไหว้ ปากก็พูดพึมพำรับผิด ขอให้เทพประจำบ้านทุกหนสารทิศให้อภัยอะไรทำนองนั้น
จากนั้นจึงหันมาถลึงตามองลูกชาย ตอนนี้แกใช้ชีวิตเองแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ต้องมีไว้ นี่เป็นปีแรก เทพประจำบ้านมาแล้วไม่เห็นตำแหน่ง แบบนั้นไม่โกรธแย่เลยเหรอ?
เย่ฉูฉู่และจ้าวเหวินเทา …
เย่ฉูฉู่อยู่ในความเงียบสงบ จ้าวเหวินเทากล่าวว่า แม่ มันก็เป็นแค่เรื่องงมงายทั้งนั้นแหละ…
ก่อนหน้านี้แม่แอบบูชาตลอด ตอนนี้แกกล้าไม่บูชาแล้วเหรอ? คุณแม่จ้าวถลึงตามองเขา เรื่องงมงายอะไร? อวยพรให้แกได้ก็ถือว่าดีแล้ว วิ่งออกไปค้าขายเพราะอยากได้เงิน ก็ต้องพึ่งพาคำอวยพรจากเทพประจำบ้านเข้าใจไหม? ฟังที่แม่บอก ไป ไปหาเหวินจื้อ บอกให้พ่อของเขาช่วยเขียนกลอนคู่กลับมา อย่างอื่นทำแบบขอไปทีได้ แต่เรื่องนี้จะมาทำลวก ๆ ได้ที่ไหนกัน? ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริง ๆ!
คุณแม่พูดถูก เย่ฉูฉู่ยิ้ม แล้วกล่าวกับจ้าวเหวินเทา ที่บ้านยังมีกระดาษแดง คุณไปหยิบมาสิคะ
จ้าวเหวินเทาส่งเสียงอืม ได้ ผมจะเอาไปเขียนเดี๋ยวนี้แหละ แม่ ฝั่งนั้นแม่แปะเสร็จหมดหรือยัง อีกเดี๋ยวให้ผมไปช่วยแปะไหม?
แปะเสร็จตั้งนานแล้ว รีบไปเลย อย่าให้เสียฤกษ์งามยามดี ตอนค่ำอัญเชิญปีใหม่ก็ยังต้องขึ้นไปไหว้อีกนะ คุณแม่จ้าวกล่าว พวกเธอเพิ่งแยกบ้านออกมาใช้ชีวิตกันเอง แม่ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าพวกเธอไม่มีประสบการณ์ ดีนะที่เดินมาดู
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ถ้าฉูฉู่ได้เรียนหนังสือด้วยก็น่าจะทำงานได้เยอะขึ้นนะ ขนาดเอาความทรงจำจากชาติก่อนมายังเขียนกลอนคู่ได้ขนาดนี้
หาว่าแม่งมงาย ทีตัวเองยังเชื่อกลอนที่แปะกรงกระต่ายเลยนะเหวินเทา
ไหหม่า(海馬)