เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 131 วิธีกำราบสามีของฉูฉู่

ตอนที่ 131 วิธีกำราบสามีของฉูฉู่
ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยนี้ เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่ใช่คนทางฝั่งนี้ของพวกเขาด้วย
“นายเป็นใครเนี่ย ทำไมถึงถามเรื่องนี้?” จ้าวเหวินอู่ขมวดคิ้วพลางกล่าว
คนคนนี้รีบยิ้มขอโทษ “ฉันเอาปุ๋ยคอกมาส่งให้ญาติ แต่ดันไปเหยียบที่ดินผืนนั้น ฉันรู้สึกไม่ดี ก็เลยมาขอโทษ”
ดีขนาดนี้เลย?
จ้าวเหวินอู่ไม่เชื่อ มาส่งปุ๋ยคอกแล้วเหยียบโดนที่ดินคนอื่นเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นใครรีบไปขอโทษขอโพย หากไม่ถูกจับได้ต่างก็ไม่ยอมรับกันทั้งนั้น
แผลเป็นจากใบมีดนั้นของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่คิดจะยั่วโมโห จึงกล่าวว่า “นั่นเป็นที่ดินของตระกูลจ้าว แต่ไม่ใช่ที่ดินตระกูลจ้าวของฉัน นายไปถามคนอื่นเถอะ”
คนคนนี้ก็ไม่ได้ตอแย กล่าวขอบคุณด้วยความเกรงใจก่อนจะจากไป
จ้าวเหวินอู่เห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ยิ่งสงสัย ที่ดินผืนนั้นเขารู้ว่าเป็นของจ้าวเหวินเทา คนในครอบครัวเดียวกัน ลูกพี่ลูกน้องที่มีปู่คนเดียวกัน
เขาและจ้าวเหวินเทาอายุเท่ากัน ทุกคนต่างก็นำพวกเขาไปเปรียบเทียบกัน
พวกเขาแบ่งได้ที่ดินอะไรย่อมถูกนำมาเทียบ ดังนั้นจ้าวเหวินอู่จึงทราบดีว่าที่ดินที่คนคนนี้ถามถึงเป็นที่ดินของจ้าวเหวินเทา
จ้าวเหวินเทาไปทำอะไรมาอีกเนี่ย ถึงทำให้คนคนนี้มาถามหาแบบนี้?
จ้าวเหวินอู่ฉงนสงสัย จึงออกไปถามดู ก็พบว่าคนคนนั้นยังคงถามหาเจ้าของที่ดินผืนนั้น แน่นอนว่าเพียงไม่นานเขาก็ทราบแล้วว่าเป็นที่ดินของจ้าวเหวินเทา จากนั้นจึงเดินทางมาที่หมู่บ้านตะวันออก
“จ้าวเหวินเทา? รู้สิ เจ้าหกจ้าวของตระกูลจ้าวไง! นายถามหาเขามีธุระอะไรเหรอ?” คนในหมู่บ้านต่างก็ช่างนินทา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอคนแปลกหน้า จึงถามด้วยความกระตือรือร้น
คนคนนั้นเองก็อยู่เป็น ยื่นบุหรี่ให้ถึงปากหนึ่งมวน
ก่อนอธิบายว่าเพราะเหตุใดถึงตามหาจ้าวเหวินเทา พูดเหมือนกับที่เล่าให้จ้าวเหวินอู่ฟัง จากนั้นจึงถามอ้อม ๆ ว่าจ้าวเหวินเทาคุยด้วยง่ายหรือไม่
คนในหมู่บ้านสูบบุหรี่ พ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างมีความสุข กล่าวว่า “หมอนั่นเป็นคนไม่เอาไหน อย่าว่าแต่รถของนายเหยียบโดนที่ดินเขาเลย ต่อให้นายขโมยที่ดินเขาไปก็ยังไม่รู้!”
“ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?” คนคนนี้แสดงท่าทางสงสัยใคร่รู้
“ฉันจะบอกอะไรให้ จ้าวเสี่ยวลิ่วคนนั้นเอ้อระเหยลอยชายจะตายไป ไม่ทำอะไรสักอย่าง ปรับหน้าดินยังจ้างให้คนอื่นมาทำเลย! ส่วนตัวเองวิ่งไปในเมือง กลับมาก็ถูกพ่อแม่ด่าไปยกนึง ถึงได้แบกพลั่วเหล็กไป ปากก็บอกว่าไปขึ้นรูปคันนา สรุปแล้วนายว่าไปไหนล่ะ?” คนในหมู่บ้านอุบไว้
“ไปไหนเหรอ?” คนคนนั้นถามเพราะไว้หน้าอีกฝ่าย
“ก็ไปเล่นพนันที่หมู่บ้านตะวันตกน่ะสิ เล่นทั้งคืนเลยนะ โอ๊ย คนคนนี้เนี่ย ทำให้ตระกูลจ้าวเสียหน้าจะแย่อยู่แล้ว พวกพี่ชายตระกูลจ้าวต่างก็ใช้ชีวิตเป็นกันทั้งนั้น ก็มีแต่หมอนี่แหละที่ทำตัวเหลวแหลก ไม่เอาไหนตั้งแต่เด็ก!” ชาวบ้านกล่าว
คนคนนั้นยื่นบุหรี่ให้อีกมวนโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ถามว่าจ้าวเหวินเทาไปเล่นพนันที่ไหน? ไปกับใคร?
“หม่าลิ่วจื่อไง!” คนในหมู่บ้านกล่าว “เรื่องนี้มีใครไม่รู้บ้าง เขาทำเรื่องนี้แหละ วันๆ ก็เอาแต่หาคนไปเล่น แถมยังเคยถูกจับด้วยนะ ถ้านายไม่เชื่อ นายไปถามทุกคนได้เลย เขารู้กันหมดนั่นแหละ!”
คนในหมู่บ้านรับประกันด้วยการสาบานอย่างน่าเชื่อถือ
คนคนนั้นกล่าวขอบคุณ เขาไปสอบถามจริง ๆ และการสอบถามครั้งนี้ทำให้เขาได้ทราบข้อมูลมาพอสมควร จ้าวเหวินเทาจ้างชุยต้าคนในหมู่บ้านแห่งนี้ไปปรับหน้าดินให้ นี่ก็เพิ่งจะปรับหน้าดินตรงที่ดินติดแม่น้ำเสร็จไป ส่วนที่ดินบนเขายังไม่ได้ทำอะไร ตนเองก็เข้าเมืองและไปเล่นพนันแล้ว ตอนนี้กำลังนอนอยู่ที่บ้าน
ทำไมถึงพูดแบบนี้?
เพราะเล่นพนันทั้งคืน มีหรือที่จะไม่ง่วงนอน?
อีกฝ่ายกล่าวคล้ายกับเห็นด้วยตาตัวเองอย่างไรอย่างนั้น และจัดให้จ้าวเหวินเทาเป็นผีพนันชนิดหาตัวจับได้ยาก
คนคนนั้นไม่เชื่อ เขาเองก็ไปดูที่ดินผืนนั้นแล้ว คันนาไม่ได้ถูกปรับให้เรียบจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่พิสูจน์ว่าจ้าวเหวินเทาไปเล่นพนัน ไม่มีโอกาสได้ไปที่ดินผืนนั้นหรอก
เช่นนั้นของเหล่านั้นที่เขาทำหล่นไว้และไม่กล้ากลับมาหยิบ สรุปแล้วถูกใครหยิบไปกันแน่? สมบัติที่ตนเองเสี่ยงชีวิตขุดกลับมา ถูกคนอื่นเก็บไปแล้ว!
จ้าวเหวินเทาไม่ได้ทราบเรื่องนี้ เขานอนจนถึงบ่ายก็ตื่นขึ้นมาเพราะปวดปัสสาวะ
หลังจากได้ปลดปล่อยออกไป กลับมาก็นอนไม่หลับแล้ว เขาจึงแปรงฟันแล้วกินบะหมี่ร้อนกับยำผักกาดขาวที่ภรรยาเตรียมไว้ให้ รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
“ภรรยาจ๋า” จ้าวเหวินเทากินเสร็จก็ยิ้มตาหยีมองภรรยาตัวเอง
แม้ว่าเย่ฉูฉู่จะพูดกับคุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวว่าตนเองเชื่อใจเหวินเทาด้วยท่าทางนิ่งสงบมาก แต่เมื่ออยู่กับจ้าวเหวินเทา บนใบหน้าของเธอกลับไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ท่าทางนิ่งเฉยนัก
“ภรรยาจ๋า?” เขาตะโกนเรียกหนึ่งเสียง เมื่อเห็นว่าภรรยายังคงนิ่งไม่ไหวติง จ้าวเหวินเทาจึงรีบตะโกนเรียกอีกครั้ง
เย่ฉูฉู่นั่งเย็บเสื้อผ้าเด็กด้วยท่าทางนิ่งสงบราวกับภูเขา แม้แต่หนังตาก็ไม่เหลือบปรายขึ้นมามองด้วยซ้ำ
จ้าวเหวินเทาพูดในใจว่าแย่แล้ว ภรรยาโกรธเข้าแล้วสิ
เวลาที่ภรรยาโกรธตอนนี้ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนหน้านี้เธอต้องพุ่งตัวพ่นไฟใส่เขา คำพูดด่าทอมีหมดทุกอย่าง ไม่เกรงใจเขาแม้แต่น้อย
แต่ในตอนนี้ภรรยาของเขาตอนที่กำลังโกรธกลับไม่ได้ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนั้น เธอดูเงียบสงบ ไม่พูดอะไรเลย เอาแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง ดูคล้ายกับลมนิ่งคลื่นสงบก็ไม่ปาน
แต่จ้าวเหวินเทาทราบดี ว่าภรรยาของเขาโกรธแล้ว!
จ้าวเหวินเทาไม่กล้าอวดฉลาด เขารีบพูด “ภรรยา เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันมีสาเหตุนะ ผมเป็นคนแบบไหนมีเหรอที่คุณจะไม่รู้? ผมไม่ชอบเล่นพนัน ผมแค่ชอบหาเงิน อีกอย่างสถานที่เส็งเคร็งเสียงดังวุ่นวายแบบนั้น เมื่อคืนตอนที่เพิ่งเหยียบเข้าไปแทบแพ้ท้องแน่ะ!”
ขนาดแพ้ท้องก็พูดออกมาแล้ว
เย่ฉูฉู่กลับยังอยู่ในท่าทางนิ่งเฉย แม้แต่ยิ้มก็ยังไม่ยิ้มเลยด้วยซ้ำ
“ภรรยา คุณอย่าสิ อย่าใช้ความรุนแรงที่เย็นชากับผมแบบนี้” จ้าวเหวินเทารีบเข้ามาสวมกอดภรรยา
สีหน้าของเย่ฉูฉู่จึงอ่อนโยนลง นางมองเขาพลางกล่าว “ฉันรู้ว่าถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็คงไม่ไปสถานที่แบบนั้น พูดมาสิคะ ว่าเป็นเพราะอะไร?”
จ้าวเหวินเทาเห็นสีหน้าของภรรยาไม่ได้เหินห่างแบบนั้นแล้ว จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามองไปด้านนอกประตู จากนั้นชะโงกหน้าเข้ามากระซิบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนไปจัดการคันนาเมื่อวานให้ภรรยาฟัง
เล่าจบจึงพูดว่า “ภรรยา เพราะเรื่องนี้แหละ ผมถึงไปกับหม่าเสี่ยวลิ่ว สถานที่สกปรกแบบนั้นไปครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ครั้งหน้าทุบตีผมให้ตายก็ไม่ไปหรอก คุณคงไม่รู้ถึงความสกปรกนั่น จนถึงตอนนี้แค่คิดผมจะอยากจะอ้วกแล้ว ไม่ไหวแล้ว อย่าพูดถึงเลย”
จ้าวเหวินเทาพูดด้วยความรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย
เย่ฉูฉู่เองก็มองออกว่าเขาไม่ชอบสถานที่แห่งนั้น เช้าวันนี้เขาก็กลับแล้ว ทั้งยังเปลี่ยนเสื้อทั้งนอกและในไปรอบหนึ่ง จะไม่รังเกียจได้อย่างไรกัน?
จ้าวเหวินเทามองหน้าภรรยาตัวเอง กล่าวว่า “ภรรยา พวกเราอย่าโกรธกันเลยนะ?”
เย่ฉูฉู่เหลือบมองเขา สิ่งที่ควรพูดก็ยังต้องพูดอยู่ “ครอบครัวของเราไม่มีประเพณีนิยมเป็นผีพนัน อีกอย่างเรื่องนี้ก็ถือว่าให้อภัยได้ ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะไม่ติดใจเอาความ ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่ถ้าฉันรู้ว่าคุณติดใจเรื่องแบบนี้ เรื่องของเราก็ต้องรีบคุยกันให้เข้าใจ ฉันจะเป็นคนเลี้ยงลูกเอง บ้านแม่ของฉันคุณเองก็ทราบดี ต่อให้ฉันพาลูกกลับไปใช้ชีวิตที่นั่น ที่บ้านฉันก็ต้องดูแลพวกเราสองคนแม่ลูกอยู่แล้ว”
เธอย่อมไม่เลิกกับเหวินเทาอยู่แล้ว แต่เรื่องเล่นพนันแบบนี้ เย่ฉูฉู่เองก็ต้องใช้ไม้ทุบเขาสักครั้งให้หลาบจำไปนาน ๆ อย่าให้ผ่านครั้งนี้ไปแล้วทำให้เขาพบโลกใบใหม่ ต้องรีบตัดความคิดนี้ของเขาออกไป
“ภรรยา คุณทำแบบนี้ทำร้ายจิตใจผมเกินไปแล้วนะ ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้กับล่ะ?” จ้าวเหวินเทารีบพูด
เย่ฉูฉู่กล่าว “ที่ฉันทำก็เพื่อเตือนคุณล่วงหน้า ถึงเวลานั้นพวกเราสองแม่ลูกจะได้ไม่ต้องอดอยากปากแห้ง”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คนๆ นั้นที่มาหาเหวินเทาเป็นใครกันนะ เจ้าของทรัพย์สมบัติที่เหวินเทาเก็บได้เหรอ
เหมือนเห็นพ่อกระต่ายกลายเป็นหมาน้อยเวลาโดนเจ้านายดุอย่างไรไม่รู้ค่ะ ฟาดแรง ๆ เลยนะฉูฉู่
ไหหม่า(海馬)
เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท