เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 172 เดินหนึ่งก้าวมองไปสิบก้าว

ตอนที่ 172 เดินหนึ่งก้าวมองไปสิบก้าว

พี่สามจ้าวได้ยินก็รู้สึกไม่มีความสุข  อาเล็กของพวกแกดีขนาดนั้นก็ไปอยู่กับเขาเลยสิ ข้าวก็ปิดปากพวกแกไม่ได้! 

หม่าต้านและเอ้อร์หยารีบเงียบเสียงทันที

พี่สะใภ้สามจ้าวนำผักกาดขาว หัวหอมและผักชีที่ล้างสะอาดแล้วนำมาใส่ไว้ในจานใบเล็ก จากนั้นก็ราดด้วยซีอิ๊วคลุกเคล้าให้เข้ากัน

ผักจิ้มซอสในช่วงฤดูร้อนเป็นอาหารหลักของชาวบ้าน และเป็นอาหารที่ง่ายที่สุด

 คุณก็ต้องยอมรับสิ ตอนที่พวกเราไปดูบ้านใหม่ของน้องหก น้องสะใภ้หกก็บอกแล้วว่าก๊อกน้ำถ้ามีไฟฟ้าก็สามารถใช้งานได้ คนเหล่านั้นพูดอะไรล่ะ บอกว่าฟุ่มเฟือย ติดตั้งไปก็ใช้งานไม่ได้ กว่าไฟฟ้าจะเข้าถึงก็ชาติหน้ามั้ง นี่เพิ่งจะไปกี่วันไฟฟ้าก็เข้าถึงแล้ว  พี่สะใภ้สามจ้าวพูดอย่างตรงไปตรงมา

 ไม่กี่วัน? นี่เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว  พี่สามจ้าวคีบผักใบเขียวใส่ปากพร้อมกับพูดแทรกพี่สะใภ้สามจ้าวหนึ่งประโยค

พี่สะใภ้สามจ้าวยิ้มด้วยความโมโห นี่คือประเด็นสำคัญเหรอ?

ประเด็นสำคัญคือบ้านของพวกเขาติดตั้งก๊อกน้ำแล้ว ไฟฟ้าเข้าถึงทางฝั่งนี้ นี่คือความสามารถรู้หรือเปล่า? ไม่นับถือไม่ได้หรอก!

หล่อนเองก็ขี้เกียจที่จะพูดอะไรให้มากมายแล้ว จึงก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร

พี่สามจ้าวพูดต่อไปว่า  ผมได้ยินมาว่าหมู่บ้านที่มีไฟฟ้าเข้าถึงเหล่านั้นก็ไฟดับบ่อย ไม่มีประโยชน์อะไรเลย! 

หม่าต้านมองพ่อของตนเองอย่างระมัดระวัง  พ่อ แล้วไฟฟ้าจะเข้าถึงบ้านของเราไหมครับ? 

พี่สะใภ้สามจ้าวที่กำลังรับประทานอาหารชะงัก หล่อนกวาดตามองพี่สามจ้าว  คงไม่ใช่ว่าจะไม่ติดตั้งไฟฟ้าที่บ้านหรอกนะ? 

พี่สามจ้าวแค่นเสียงหึออกมาจากลำคอ   พวกคุณคิดว่าการจ่ายไฟฟ้าเข้าบ้านมันแค่ฝังเสาไม่กี่ต้น ลากสายไฟเข้ามาไม่กี่เส้นเหรอ? มันจะง่ายขนาดนั้นหรือไง? ไหนจะต้องซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า หลอดไฟอีก ของพวกนี้ต้องจ่ายเงินเองทั้งนั้นแหละ นอกจากนี้ จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้ามา ใช้ไฟฟ้าไปเท่าไรก็ต้องจ่ายเงินเองเท่านั้น นั่นเป็นเงินทั้งนั้นเลยนะ รู้บ้างหรือเปล่า? 

พี่สามจ้าวพูดจบก็ไม่ลืมที่จะเคาะถ้วย

หม่าต้านและเอ้อร์หยาจึงรีบก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร ไม่ได้ถามอะไรอีก

พี่สะใภ้สามจ้าวพูดเสียงเรียบ  ไม่ติดตั้งไฟฟ้าก็ไม่ต้องติด คุณจะใส่อารมณ์กับลูกทำไม? ถึงเวลานั้นบ้านอื่นเขาสว่างไสว บ้านเรานั่งมืดตึ๊ดตื๋อ คุณอย่าบ่นก็แล้วกัน 

พี่สามจ้าวกลับไม่สนใจ พูดต่อไปว่า  ผมก็ว่าอยู่แล้ว เจ้าหกนั่นทำไมถึงได้ใจดี บอกให้ทุกคนเลี้ยงกระต่าย ที่แท้ก็เป็นเพราะอยากให้มีไฟฟ้าเข้าถึงนี่เอง อุบายเยอะจนไม่มีที่สิ้นสุดเลย ตอนนั้นเลขาก็พูดเรื่องนำจ่ายกระแสไฟฟ้า เขากลับไม่พูดเรื่องนำจ่ายกระแสไฟฟ้า ดันพูดเรื่องเลี้ยงกระต่าย ผลลัพธ์ที่ได้ก็นั่งรออยู่นี่ไง! 

 คุณจะไม่เลี้ยงก็ได้นี่ น้องหกก็ไม่ได้บังคับให้คุณเลี้ยงสักหน่อย แถมคุณยังเป็นคนแรกที่บอกว่าจะเลี้ยงด้วย  พี่สะใภ้สามจ้าวพูด

 กระต่ายทำเงินได้ขนาดนั้น ทำไมจะไม่เลี้ยง?  พี่สามจ้าวยกถ้วยข้าวขึ้นมา พุ้ยข้าวใส่ปากไปสามสี่คำแรง ๆ ก่อนจะพูดว่า  ผมไม่เชื่อหรอก ว่าผมจะมีชีวิตดีกว่าหมอนั่นไม่ได้ คอยดูก็แล้วกัน ปีหน้าพวกเราจะสร้างบ้านใหม่อีกรอบ สร้างให้ดี ๆ เลย เขามีอะไรพวกเราก็มีแบบนั้น ส่วนเรื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าบ้าน ก็ต้องจ่ายไฟฟ้าเข้ามาอยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้หมอนั่นดูถูกเจ้าสามจ้าวคนนี้หรอก! 

ได้ยินพี่สามจ้าวพูดว่าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าบ้าน พี่สะใภ้สามจ้าวและลูก ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายลง รู้สึกได้ว่าอาหารอร่อยขึ้นเยอะเลย

คนเรามักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นที่เก่งกว่า คนอื่นมีอะไรตัวเองก็ต้องมีด้วย คนอื่นไม่มีตัวเองก็ต้องมี โดยเฉพาะการเทียบกับคนใกล้ตัว และคนที่มีความสัมพันธ์กับตนเอง

นี่คือนิสัยของมนุษย์

พี่สะใภ้สี่จ้าวท้องใหญ่มากแล้ว หล่อนนั่งเหงื่อซึมอยู่ข้าง ๆ หน้าต่าง กำลังถือพัดพัดให้ตัวเองไม่หยุด และพูดกับพี่สี่จ้าวที่กำลังนั่งรับประทานอาหารว่า  หมู่บ้านของพวกเราจะนำจ่ายไฟฟ้าจริง ๆ เหรอ? งั้นพวกเราต้องจ่ายเงินหรือเปล่าล่ะ? 

 ต้องจ่ายเงินอยู่แล้ว  พี่สี่จ้าวรีบพุ้ยข้าวฟ่างเข้าปาก

 เลขาคนนี้ไม่มีความจริงจังเอาซะเลย ชีวิตก็ยังดี ๆ จะไปนำจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่ออะไร!  พี่สะใภ้สี่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ในทันที เรื่องจ่ายเงินน่ะหล่อนไม่ยินดีอยู่แล้ว

 คุณจะไม่ติดตั้งไฟฟ้าเข้าบ้านก็ได้นะ นี่ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา  พี่สี่จ้าวพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง

 ทำไมจะไม่จ่ายไฟฟ้าเข้าบ้านล่ะ ทุกคนก็มีหัวกันทั้งนั้น คนอื่นติดตั้งไฟฟ้าแล้ว พวกเรากลับไม่ติดตั้ง จะออกไปเจอหน้าคนอื่นได้ยังไง?  น้ำเสียงของพี่สะใภ้สี่จ้าวไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก  อีกอย่าง ยังมีลูกชายของเราด้วยนะ ลูกชายบ้านอื่นมีไฟฟ้าใช้ แต่ลูกชายบ้านเราไม่มี เขาจะรู้สึกทรมานขนาดไหน? 

 งั้นก็ติดตั้ง  พี่สี่จ้าวไม่ได้พูดอะไรอีก

พี่สะใภ้สี่จ้าวออกแรงพัดอีกสามสี่ครั้ง  แต่ก็ต้องใช้เงินนะ! ทำไมเลขาไม่ทำเรื่องดี ๆ เนี่ย จะติดตั้งไฟฟ้านั่นทำไมก็ไม่รู้! 

พี่สี่จ้าวรู้ดีว่าเลขาไม่ได้อยากติดตั้งไฟฟ้า แต่เป็นความต้องการของจ้าวเหวินเทาน้องชายของเขา คืนนั้นตอนที่ประชุมในหมู่บ้านเขาได้ยินก็เข้าใจแล้ว แต่เรื่องติดตั้งไฟฟ้าพี่สี่จ้าวก็ไม่ได้แย้งอะไร

สำหรับเรื่องที่จะติดตั้งไฟฟ้าในหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างก็พูดคุยกันอย่างครึกครื้น

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวก็ได้ยินมาแล้ว

คุณพ่อจ้าวกลับมาจากเดินรอบบ้าน ใบหน้าของเขาประกายด้วยรอยยิ้ม เพียงไม่นานคุณแม่จ้าวก็เดินกลับเข้ามาจากการออกไปพูดคุยข้างนอก

 คุณ เรื่องนี้คุณคิดยังไง?  คุณแม่จ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คุณพ่อจ้าวกล่าว  คิดยังไงล่ะ ติดตั้งก็ติดตั้งไปสิ เรื่องนี้ดีจะตายไป 

คุณแม่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์  คุณไปนั่งที่บ้านของเลขามาไม่ใช่เหรอ เลขาไม่ได้พูดอะไรกับคุณเลยเหรอ? 

คุณพ่อจ้าวได้ยินก็หัวเราะ เขาหยิบกล้องยาสูบออกมาสูบ  เลขาบอกว่า ‘คนเราเดินหนึ่งก้าวมองหนึ่งก้าว คนที่เดินหนึ่งก้าวมองสามก้าวก็ถือว่าดีแล้ว แต่เสี่ยวลิ่วจื่อของนาย คนอื่นเขาเดินหนึ่งก้าวมองสามก้าว แต่เขากลับเดินหนึ่งก้าวมองสิบก้าว’  

คุณแม่จ้าวหัวเราะออกมา  ก็เป็นเพราะมองการณ์ไกลไง ทำให้เดินได้ไกลกว่าเล็กน้อย แถมยังเป็นหนี้มากขนาดนั้นอีก 

 ปล่อยเขาไปเถอะ  คุณพ่อจ้าวยิ้ม

คุณแม่จ้าวกระซิบอีกว่า  เมื่อวันก่อนฉูฉู่ให้เนื้อไก่ต้มฉันมาถ้วยหนึ่งด้วย แถมยังบอกฉันว่า รอเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ถึงเวลานั้นให้ย้ายไปอยู่ที่นั่น ที่นั่นมีแผ่นทำความร้อน ฤดูหนาวก็จะอบอุ่น 

คุณพ่อจ้าวได้ยินสีหน้าก็ดูอ่อนโยนขณะพูด  บ้านเจ้าหกเอาใจใส่ดีนะ 

เจ้าหกเป็นคนกตัญญู บ้านเจ้าหกก็ไม่ได้รังเกียจพวกเขาทั้งสองคนแม้แต่น้อย ตอนที่อยู่ที่นี่ ก็เอาของกินมาให้ ย้ายออกไปอยู่บ้านใหม่แล้ว มีของดีก็ยังไม่ลืมพวกเขาทั้งสองคน

กลับมาดูทางฝั่งครอบครัวเล็กทางฝั่งนี้

หลังจากได้ยินข่าวนี้ก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนก็ลุกขึ้นมาทดสอบเนื้อกระต่าย

 รสชาติเป็นยังไงบ้าง?  เย่ฉูฉู่ใช้มือข้างหนึ่งประคองเอว ส่วนมืออีกข้างหนึ่งคีบเนื้อกระต่ายให้จ้าวเหวินเทา

 ผมเอง ๆ ภรรยา คุณรีบไปนั่งตรงนั้นเลย  จ้าวเหวินเทารีบใช้ปากรับเนื้อไว้พลางกล่าว

 ไม่เป็นไร ฉันนั่งมาครึ่งค่อนวันแล้ว  เย่ฉูฉู่รู้สึกว่าได้ทำกิจกรรมสักหน่อยดีจะตายไป เธอมองเหวินเทา กล่าวว่า  รสชาติเป็นยังไงบ้าง? 

จ้าวเหวินเทาชิมรสชาติอย่างระมัดระวัง ดวงตาของเขาเป็นประกายมากขึ้นขณะพยักหน้ารัว ๆ  อร่อย อร่อยจริง ๆ! 

 จริงเหรอ?  เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยรอยยิ้ม

 ภรรยา อร่อยจริง ๆ ไม่เชื่อคุณก็ลองชิมดูสิ  จ้าวเหวินเทาคีบเนื้อให้ภรรยาของเขา ฝีมือการทำอาหารของภรรยาดีจนไม่ต้องพูดถึงเลยจริง ๆ

หากถามว่าทำไมจู่ ๆ สองสามีภรรยาถึงมากินเนื้อกระต่าย ก็เป็นเพราะจงย่งที่ตั้งแผงลอยอยู่ในเมืองนั่นแหละ

ธุรกิจของจงย่งนั้นดีมาก ดังนั้นตอนนี้จึงตั้งร้านอาหารด้านหน้าถนนอันซิ่งอีกหนึ่งแห่ง ธุรกิจก็ไม่เลวเหมือนกัน โดยเฉพาะเนื้อกระต่ายที่หมดเร็วที่สุด

แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เลี้ยงหมูกันน้อย อีกอย่างกว่ามันจะเติบโตก็ใช้เวลานานด้วย

ไก่และเป็ดอะไรพวกนั้นรสชาติก็งั้น ๆ อีกอย่างราคาไก่กับเป็ดก็ขึ้นอยู่กับการวางไข่ หากเลี้ยงเยอะนำไปขายก็อาจจะขาดทุนได้ เพราะนี่ก็ใกล้จะเข้าสู่ช่วงสูงสุดของการวางไข่แล้ว ผู้คนต่างก็ทำใจซื้อไม่ได้

เมื่อเทียบกับกระต่ายแล้วถือว่าคุ้มค่ากว่ามากจริง ๆ

ประเด็นสำคัญคือจ้าวเหวินเทานำมาให้ทันเวลาพอดี ในร้านของจงย่ง พวกเมนูเนื้อกระต่ายผัดน้ำแดง เนื้อกระต่ายตุ๋น เนื้อกระต่ายย่าง และเนื้อกระต่ายผักดองก็เป็นเมนูที่คนสั่ง แต่ถ้ากินไปนาน ๆ แน่นอนว่าต้องเพิ่มเมนูใหม่ ๆ เข้ามาด้วย

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ขณะที่พี่สามพี่สะใภ้สี่กำลังวุ่นวายอยู่กับว่าจะติดตั้งไม่ติดตั้งไฟฟ้า เหวินเทาก็คิดไปว่าจะทำเมนูกระต่ายอะไรออกมาขายแล้ว ถึงเวลานั้นคงทิ้งห่างทุกคนไปอีกหลายก้าว

ไหหม่า(海馬)

 

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท