เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 262 เต้นระบำเพลงดำนา

ตอนที่ 262 เต้นระบำเพลงดำนา

ตอนที่ 262 เต้นระบำเพลงดำนา

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา  ให้มันน้อย ๆ หน่อยค่ะ! ทำโคมไฟได้มันสุดยอดตรงไหน? 

จ้าวเหวินเทาหัวเราะคิกคัก  ทำโคมไฟได้ก็สุดยอดแล้วนะ ผมยังทำไม่เป็นเลย ผมไม่ได้มีความอดทนขนาดนั้นจริง ๆ ภรรยา คุณไม่ต้องทำแล้ว ถ้าไม่พอเดี๋ยวผมค่อยไปจ้างพวกชุยต้าให้ทำเพิ่มสักหน่อยก็ได้ พวกเขาทำโคมไฟให้ทีมใหญ่ด้วย ระหว่างนั้นก็จะได้ทำให้บ้านพวกเราไปด้วยเลย 

 ก็ได้ ถึงเวลานั้นคุณใช้น้ำมันดีเซลแช่สักหน่อยนะ น้ำมันก๊าดในบ้านแค่นั้นคงไม่พอใช้ 

 ได้สิ 

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ชุยต้าก็มาหาที่บ้าน

ตั้งแต่เลี้ยงกระต่าย และซื้อที่ดินสร้างบ้าน ชุยต้าก็มีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายในหมู่บ้านมีเรื่องอะไรเขาก็จะวิ่งไปช่วยเหลือตลอด มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ความคล่องแคล่วแบบนี้ทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญในหมู่บ้านเช่นกัน

 พี่หก กินข้าวอยู่เหรอ  ชุยต้ายิ้มยิงฟัน

 กินอยู่ นายกินหรือยัง ถ้ายังไม่กินก็เข้ามากินสักหน่อย  จ้าวเหวินเทาเรียก

 ผมกินเสร็จก็มาที่นี่เลย พี่สะใภ้ห่อเกี๊ยวเหรอเนี่ย  ชุยต้ามองดูเกี๊ยวที่วางอยู่บนโต๊ะพลางกล่าว

 ลองชิมสักหน่อยสิ  เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม ระหว่างที่พูดเธอก็ไปหยิบตะเกียบมาให้เขา

ชุยต้าไม่เกรงใจ เขาคีบเกี๊ยวขึ้นมารับประทานหนึ่งชิ้นก็เอ่ยปากชมว่าอร่อย เย่ฉูฉู่จึงให้เขารับประทานเพิ่มอีกหน่อย

ชุยต้าอยู่ในช่วงกำลังเติบโต แม้จะบอกว่ารับประทานอาหารจากที่บ้านมาแล้ว แต่ก็ยังรับประทานเกี๊ยวอีกหนึ่งถ้วย จ้าวเหวินเทาจึงพูดแซวเขาด้วยรอยยิ้ม ที่บอกว่า ‘เด็กกำลังโตกินจนพ่อยากจน[1]’ คือเรื่องจริงสินะ

ชุยต้าพูดด้วยรอยยิ้ม  พี่หก ตอนนี้ผมไม่ได้กินของพ่อสักหน่อย ผมกินของตัวเองต่างหากล่ะ 

ครั้งก่อนจ้าวเหวินเทาอยากให้เขาช่วยเลี้ยงกระต่าย ชุยต้าตอบตกลงแล้ว เขาสร้างบ้านใหม่ที่ตงเหลียงช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี จึงจัดการเรื่องฟาร์มกระต่ายได้สะดวก กระต่ายที่อยู่ในบ้านเขาให้น้องชายไปแล้ว บอกให้เขาเลี้ยงดูให้ดี ได้เงินมาก็สร้างบ้านสักหลัง จะได้แต่งงานแต่งการดี ๆ

จ้าวเหวินเทาเห็นเขาอายุยังไม่มาก แต่วางแผนชีวิตได้เป็นระเบียบเรียบร้อย เขาเองก็ปลื้มใจมาก ไม่เสียแรงที่เขาเคยหนักใจ

 ดึกขนาดนี้นายมาหาฉันมีอะไรเหรอ?  จ้าวเหวินเทาถาม

 เลขาบอกว่า วันที่สิบห้าพวกเราจะไม่ได้แค่จุดโคมไฟนะ แต่ยังมีระบำเพลงดำนาด้วย ทั้งคนแก่คนหนุ่มจากทั้งหมู่บ้านต่างก็เต้นระบำกันได้ ก็เลยให้ผมมาปรึกษากับพี่หน่อย ว่าจะให้ใครไป 

จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ  ปีนี้ผู้สูงวัยคนนี้เป็นอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงได้ทำเรื่องน่าประหลาดใจเยอะขนาดนี้! 

ชุยต้ายิ้ม  ปีนี้มีคนสร้างบ้านใหม่เยอะมาก ผม เจ้าหนูเมิ่ง ไหนจะเจ้ารองฉวี่อีก นี่ก็มีตั้งสิบกว่าหลัง เลขาคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีต้องมีความสุขให้มาก ๆ ก็เลยตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันระบำเพลงดำนา 

เทศกาลโคมไฟในทุกปีภายในชนบทจะจัดการแข่งขันระบำเพลงดำนาตลอด แต่มีขนาดเล็กไปหน่อย ถึงอย่างไรผู้คนก็เป็นกังวลเรื่องกินเรื่องดื่ม ไม่มีกะจิตกะใจจะทำเรื่องบันเทิง แต่ปีนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แบ่งที่ดินแยกไปทำงานกันเองแล้ว การเก็บเกี่ยวผลผลิตก็อุดมสมบูรณ์ ตลาดก็ฟื้นตัวเช่นกัน ผู้คนมองเห็นความหวัง มองเห็นอนาคตอยู่รำไร ก็ตัดสินใจว่าจะฉลองให้ดี ๆ สักหน่อย ทันทีที่มีการประกาศเรื่องแข่งขันระบำเพลงดำนา แทบจะทุกหมู่บ้านก็ไปลงทะเบียนกันหมด หมู่บ้านข้าวซานถุนมีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงกระต่ายย่อมไม่แผ่วกว่าใครอยู่แล้ว เลขาตอบกลับอย่างกระตือรือร้น ทั้งยังใช้คำพูดฮึกเหิมบอกว่าจะคว้าอันดับหนึ่งมาให้ได้!

จ้าวเหวินเทามีความสุข เลขาผู้สูงวัยคนนี้เป็นหนุ่มผู้คลั่งไคล้เลยนะเนี่ย ทะเยอทะยานไม่น้อยเลย ไม่ได้เข้าร่วมระบำเพลงดำนามาหลายปีแล้ว เข้าร่วมครั้งแรกก็จะคว้าที่หนึ่งแล้ว นี่มันเรียกว่าอะไรกัน จิตวิญญาณช่างน่ายกย่อง!

เย่ฉูฉู่กล่าว  คว้าที่หนึ่งได้หรือเปล่าเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือความสนุก 

จ้าวเหวินเทากล่าว  ถูกต้อง เรื่องนี้จะได้ที่หนึ่งหรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญหรอก มันคือความสนุก ตกลง นายไปบอกเลขาเลย ฉันเข้าร่วมด้วย แล้วอุปกรณ์ประกอบฉากกับเสื้อผ้าล่ะ ต้องให้ฉันเตรียมไว้สองสามชุดไหม? 

 ไม่ต้อง เลขาบอกไว้แล้ว เขาเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว วันที่สิบห้าให้ทุกคนไปรวมตัวกันที่ทีมใหญ่ตอนเช้าก็พอ  ชุยต้ากล่าว

 ตาเฒ่าคนนี้ทำไมไม่บอกล่วงหน้าสักคำเลย  จ้าวเหวินเทากล่าว  ไม่ให้คนได้เตรียมใจบ้างเลยนะ 

 นี่ก็เพิ่งจะสรุปได้เอง  ชุยต้าอธิบาย

หลังจากคุยกันครู่หนึ่ง ชุยต้าก็กลับไป จ้าวเหวินเทาพูดกับเย่ฉูฉู่ด้วยรอยยิ้ม  ภรรยา คุณจะไประบำเต้นดำนาด้วยกันไหม? 

เย่ฉูฉู่เชิดคางขึ้น  อย่าคิดว่าฉันเต้นระบำไม่เป็นนะคะ ตอนที่ฉันอยู่บ้านก็เข้าร่วมทีมเต้นระบำมาก่อนเหมือนกัน! 

จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ  ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย? 

 หมู่บ้านของพวกเรานับจากหลัง คุณจะรู้ได้ไง  เย่ฉูฉู่พูดด้วยความเสียใจ  ตอนนั้นทั้งหมู่บ้านมีสิบกว่าคน ไปแค่ไม่กี่หมู่บ้านก็เสร็จแล้ว เสื้อผ้ากับอุปกรณ์ประกอบฉากก็มีไม่กี่ชุดเอง ไม่น่าสนใจเลย ไม่รู้ว่าปีนี้จะเป็นยังไงบ้าง 

จ้าวเหวินเทา  งั้นคุณก็ไปสิ ให้แม่เลี้ยงลูกให้ก็ได้ 

เย่ฉูฉู่ส่ายหน้า  ถ้าไปก็ต้องไปทั้งวัน ลูกยังต้องกินนม ไม่ได้หรอก ฉันไม่ไปดีกว่า ดูจากหน้าบ้านนี่แหละ บอกให้แม่ไปเถอะค่ะ จะได้ไปเที่ยวให้สนุกด้วย 

 งั้นก็พาลูกไปด้วยสิ?  จ้าวเหวินเทามองออกว่าภรรยาอยากไป

เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม  ไม่ใช่ว่าหลังจากนี้จะไม่มีโอกาสสักหน่อย รอให้ลูกโตฉันค่อยเข้าร่วมก็ได้ ยังจะให้พาลูกไปอีก คุณนี่ใจกว้างจริง ๆ เลยนะ 

 ก็เพราะผมอยากเห็นภรรยาระบำเพลงดำนาไง ผมยังไม่เคยเห็นเลยนะ  จ้าวเหวินเทากล่าว

 งั้นให้ฉันเต้นให้ดูตอนนี้เลยไหมล่ะ?  เย่ฉูฉู่หยอกเขา

 เอาสิ ภรรยา คุณเต้นให้ดูสักหน่อย!  จ้าวเหวินเทาเกิดความกระตือรือร้นขึ้นมา

เย่ฉูฉู่ก็ไม่ได้ตื่นเวที เธอยืนเต้นบนพื้นทันที การย่างเท้ามีทักษะ การเคลื่อนไหวกล้าหาญ หนึ่งคนเต้นทำให้เกิดความรื่นเริงของคนหนึ่งกลุ่ม!

จ้าวเหวินเทาดูพร้อมกับปรบมือและยิ้มไม่หยุด เขาเองก็ค่อย ๆ ถูกป้ายยา จึงลงจากเตียงมาเต้นกับเธอด้วย

เสี่ยวไป๋หยางที่อยู่บนเตียงมีความสุขเช่นกัน ลูกลิงเห็นเช่นนี้ก็เต้นรำด้วย สิ่งนี้ทำให้เย่ฉูฉู่ถึงกับหลุดขำจนตัวโยน

เทศกาลโคมไฟวันที่สิบห้าเดือนหนึ่งตามปฏิทินจันทรคติ เป็นรายการช่วงค่ำ ช่วงเช้าเป็นการเต้นระบำเพลงดำนา ช่วงเช้าลุงป้าน้าอาคนแก่และหนุ่มสาวต่างก็ไปรวมตัวกันที่ทีมใหญ่ พวกเขาสวมด้วยชุดที่เลขาเช่ามา เสื้อผ้าไม่พอก็หยิบผ้าลายดอกจากที่บ้านตัวเองมาคลุม มีสีสันและสวยงามมาก

เมื่อใกล้ถึงเวลาแล้ว ทุกคนก็นั่งรถล่อและลาลาก แน่นอนว่ายังมีรถที่ใช้เชื้อเพลิงของจ้าวเหวินเทาด้วย ต่างมุ่งหน้าเข้าสู่ชนบทอย่างยิ่งใหญ่

ห่างออกไปสิบลี้ ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว เสียงฆ้องและกลองดังมาแต่ไกล มีเสียงประทัดด้วย จุดที่ห่างออกไปมองเห็นธงหลากสีสันโบกพลิ้วปลิวไสว ผู้คนเนืองแน่น ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าครึกครื้นขนาดไหน!

 ทุกคนกระฉับกระเฉงหน่อย งานเริ่มแล้ว!  เลขาตะโกนเสียงดัง

หัวหน้ากับบัญชี และหัวหน้าหมู่บ้าน รวมถึงหัวหน้าทีมย่อยก่อนหน้านี้ ต่างก็รีบจัดระเบียบทุกคนให้ลงจากรถ ปล่อยมังกรสองตัวออกจากน้ำ เต้นรำเรือบกและขี่ลาอยู่ด้านหน้า ส่วนคนที่เป็นแป๊ะยิ้มเดินอยู่ด้านหลังเป็นการปิดท้ายทีมใหญ่

เลขายืนอยู่ด้านบนรถถือธงสีแดงแกว่งไปมา วงเครื่องดนตรีเกิดเสียงบรรเลงดังขึ้น จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงฆ้องและกลองดังตุ้งแช่ๆ กึกก้องทั่วท้องฟ้า ด้านหน้าสุดคือจ้าวเหวินเทา และพวกเด็กหนุ่มร่างสูงทรงพลังในหมู่บ้านที่เดินเชิดหน้า อกผาย ไหล่ผึ่ง สะบัดแขน บิดเอวเต้น คนที่อยู่ด้านหลังก็สะบัดแขนเตะขา ผ้าไหมสีแดงพลิ้วไหว พัดกลายเป็นดอกไม้ ทีมงานทุกคนมีความสุขและเต็มไปด้วยพละกำลัง มองจากไกล ๆ คล้ายกับมังกรยักษ์ที่มีสีสันตัวหนึ่ง ดูมีชีวิตชีวาคล้ายกับพร้อมที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ทุกเมื่อ

ทุกคนบิดเอวเต้นไปพลางเดินเข้าสู่ที่ว่าการอำเภอเมืองไปพลาง นี่คือชุมชน และเป็นจุดแวะพักจุดแรก

แต่เมื่อมาถึงสถานที่ก็พบว่าไม่สามารถเข้าไปในลานได้ รอบ ๆ คือผู้คน กำแพงและบนต้นไม้เต็มไปด้วยพวกเด็ก ๆ ที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บนนั้น

ทีมเต้นระบำในหมู่บ้าน 5-6 ทีมจัดแถวอยู่ด้านนอก เพื่อรอที่จะได้เข้าไปด้านใน มีที่เต้นเสร็จไปแล้วสิบกว่าหมู่บ้าน จึงย้ายไปยังจุดอื่นแล้ว

เลขากดธงสีแดงในมือลง ทุกคนจึงหยุดนิ่ง

 เลขา ทำไมพวกเราไม่เข้าไปล่ะ? 

 ด้านในนั้นเต้นเป็นยังไงบ้าง? 

 มองไม่เห็นอะไรเลยเนี่ย 

ทุกคนต่างก็กระโดดโหยงเหยงด้วยความร้อนใจ

…………………………………………………………………………………………………………………………

[1] เด็กกำลังโตกินพ่อยากจน (半大小子吃死老子) หมายความว่า เด็กที่อยู่ในวัยกำลังเติบโตกินเยอะ ทำให้พ่อแม่ต้องหาเงินจำนวนมากอย่างยากลำบากเพื่อมาสนับสนุนและเลี้ยงดู

สารจากผู้แปล

ท่าทางน่าสนุกนะคะ ทำให้นึกถึงขบวนแห่นางสงกรานต์หรือแห่นาคขึ้นมาเลย

ไหหม่า(海馬)

 

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท