มู่เฉียนซีกล่าว ว่ามา
ท่านผู้นำตระกูลเป็นนักปรุงยาด้วยใช่ไหมขอรับ ?
เมื่อครู่ท่านผู้นำอยู่ในห้องยา ขั้นตอนวิธีการปรุงแม้แต่อวิ๋นเซิ่งยังทำไม่ได้ถึงขนาดนี้
นักปรุงยารึ ? ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เจ้าจงรวบรวมตำราเกี่ยวกับการปรุงยาของเจ้าหมอคนนั้นมา ส่งไปที่เรือนสุ่ยซีของข้า ข้าจะเรียนรู้ดู
แต่เดิมนางเคยเป็นประมุขหมอปีศาจ วิธีการทำยาของหัวเซี่ย (ประเทศจีน) กับการปรุงยาของโลกนี้ไม่เหมือนกัน
การปรุงยาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่นายหญิงของพวกเขากลับพูดแค่ ‘เรียนรู้ดู’
ถ้าหากว่าแค่เรียนก็เป็นหมอปรุงยาได้แล้วล่ะก็ กลัวว่าหมอปรุงยาทั้งทวีปเสวียคงจะหาก้อนเต้าหู้ชนปลิดชีพ
ขอรับ
เรื่องต่อไป ตามข้าไปห้องยา ข้าต้องไปห้องยาเพื่อปรุงบางสิ่ง
ขอรับ
หลิงซือหลินคุ้นเคยกับห้องยาเป็นอย่างดี มู่เฉียนซีต้องการอะไร เขาก็หามาให้ด้วยความรวดเร็ว
แต่พวกเขาไม่รู้จริง ๆ ว่านายหญิงนำตัวยาแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกันมาใส่รวมกัน ทำไปเพื่ออะไร ?
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าฤทธิ์ยาต้องตีกัน แต่ท่านผู้นำตระกูลกลับนำพวกมันมารวมเข้าด้วยกันโดยไม่เกิดเหตุการณ์ใดขึ้น
มู่เฉียนซีนำยาที่ปรุงเสร็จมาเทใส่ขวดและกล่าวขึ้นว่า ไป ตามข้าไปเรือนอวู่โยว
เรือนอวู่โยว หลิงซือหลินมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินชื่อเรือนนั้น
ที่นั่นเป็นเรือนที่มู่อวู่ซวงคุณชายสามแห่งตระกูลมู่ของพวกเขาพำนักอยู่ ผู้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแคว้นจื่อเยี่ย
ใช่
ขอรับ หลิงซือหลินก้มหน้า
เรือนอวู่โยว ในตระกูลมู่ทั้งหมดนอกจากเจ้าของเรือนนี้แล้ว ผู้ที่สามารถเดินเข้าออกตามต้องการก็มีเพียงมู่เฉียนซี ผู้นำตระกูลคนนี้เท่านั้น
หลิงซือหลินมาถึงที่หน้าประตูก็ถูกขวางทาง มู่เฉียนซีจึงเอื้อมมือไปรับยาและกล่าวว่า… เจ้ากลับไปก่อนไป
ท่านผู้นำตระกูลนำยามาหาคุณชายสาม ยานั้นคงไม่ใช่ยารักษาโรคของคุณชายสามหรอกนะ! หลิงซือหลินแอบคิด
เมื่อเดินเข้ามาใกล้เรือนอวู่โยวที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไผ่ ก็เห็นบุรุษสวมชุดขาวนั่งอยู่บนรถเข็นในกลางดงไผ่ทึบ เขานั่งสงบนิ่งมองนกที่โผบินผ่านไปมา
ปอยผมพาดร่วงลงมาที่ไหล่ แสงแดดที่สาดส่องผ่านต้นไม้ ประกายแสงกระทบเข้าใบหน้าเขาทำให้ดวงหน้าอันผุดผ่องดั่งหยกนี้มีความงดงามโดดเด่นเหนือใคร
เมื่อได้ยินเสียงเดิน เขามีรอยยิ้มที่สงบเหมือนสายลมที่พัดผ่านจิตใจคน ซีเอ๋อร์มาแล้วหรือ ?
ท่านอาเล็ก วันนี้ข้ามาไม่ดีนะ มู่เฉียนซีถือยา กล่าวด้วยรอยยิ้ม
มาไม่ดี เพราะเจ้าจะบังคับให้อาเล็กดื่มยาใช่ไหม ?
มู่เฉียนซีปรุงยาในห้องยาเป็นเวลานาน ยังมีกลิ่นยาติดร่างกายอยู่ กลิ่นยังไม่เลือนหายไป
นี่อย่างหนึ่ง มู่เฉียนซีเดินเข้ามาใกล้ กล่าวขึ้น อ้าปาก เชื่อฟัง ดื่มให้หมด
มู่อวู่ซวงมุมปากกระตุกเล็กน้อย ข้าไม่ใช่เด็ก ๆ ดื่มเองได้
มู่อวู่ซวงรับขวดยามาพร้อมจะดื่มก็มีคนชุดดำปรากฏตัวตรงหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงอันร้อนรน คุณชายสาม ไม่ได้…
ผู้นำตระกูลน้อยคนนี้ธรรมดาก็วุ่นวายพอแล้ว วันนี้ยังจะส่งยาให้คุณชายสามดื่มอีก ถ้าเกิดยานั้นเป็นยาพิษจะทำอย่างไรกัน ?
ถอยไป มู่อวู่ซวงกล่าวด้วยใบหน้าอันเยือกเย็น
นายท่าน… คนชุดดำหันไปมองมู่เฉียนซี สายตาส่อแววไม่พอใจ
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วเล็กน้อย นี่คืออาเล็กของข้า ตอนนี้เป็นญาติเพียงคนเดียวของข้า ถึงข้าจะวางยาพิษกับคนทั่วทั้งแคว้น ข้าก็ไม่อาจวางยากับท่านอาเล็กของข้าได้ เจ้าพอใจรึยัง ?
คนชุดดำชะงักไปสักพัก มองมู่เฉียนซี คำพูดของนางแต่ละคำแต่ละประโยคเด็ดขาดแน่นอนทำให้คนไม่สามารถสงสัยได้ เขารู้สึกได้ว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้นำตระกูลน้อยที่ไร้ความสามารถ แต่เป็นผู้นำที่มีความสามารถในใต้หล้าคนนั้น
ถอยไป…
คนชุดดำไม่พูดอะไรและถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
มู่อวู่ซวงไม่รีรอรีบดื่มยาในขวดนั้น
มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้น ร่างกายของท่านอาเล็กจำเป็นต้องได้รับการบำรุง ในเจ็ดวันนี้ข้าจะให้คนนำยามาส่ง ท่านจำเป็นต้องดื่มให้หมด หลังจากเจ็ดวันข้าจะเปลี่ยนตัวยา
ได้ เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเอ่ย ท่านอา ข้าเปลี่ยนแปลงไปมาก ท่านไม่ประหลาดใจบ้างเลยรึ ?
นางไม่ใช่เจ้าของร่างคนเดิม มีอาเล็กเป็นญาติเพียงคนเดียว นางไม่ต้องการปกปิด แต่ว่าอาเล็กฉลาดหลักแหลม ไหนเลยจะมองไม่ออก
มู่เฉียนซีอึ้งไป นางได้รับความทรงจำจากเจ้าของเดิมแค่สามปี ความทรงจำก่อนหน้านั้นสามปี เหมือนกับเด็กแรกเกิด ไม่รู้ประสีประสา
อาเล็กให้นางเป็นท่านผู้นำของตระกูลมู่ หลังจากนั้นถูกมู่หรูอวิ๋นและคนเหล่านั้นชี้นำแบบผิด ๆ รวมถึงร่างกายที่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถฝึกฝนได้ทำให้กลายเป็นคนไร้ค่าดั่งเช่นวันนี้
มู่เฉียนซีเอ่ยถาม อาเล็กไม่เคยบอกกับมู่เฉียนซีคนก่อน วันนี้อาเล็กบอกกับข้าได้หรือไม่ ?
ไม่ได้
เพราะอะไรถึงไม่ได้ ?
เพราะความสามารถของเจ้ายังไม่เพียงพอ รู้แล้วมันไม่เป็นผลดีกับเจ้ามากนัก
ต้องทำอย่างไรความสามารถถึงจะพอ ถ้าต้องใกล้เคียงกับความสามารถของอาเล็ก ตอนนี้ข้ายังห่างไกลนัก
ท่าทางแปลก ๆ ที่อาเล็กแสดงออกมา บอกนางว่าการที่นางย้อนมาอยู่ต่างดินแดนนี้ มาเป็นมู่เฉียนซีไม่ใช่แต่เรื่องบังเอิญ หรือว่านาง…
.