ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 37 ทำลายข่ายพลัง

ตอนที่ 37 ทำลายข่ายพลัง

ท่านเซ่าต้องการศิษย์เสวียนเหมินในการรักษาโรคของลูกชายนั้นเป็นเรื่องโกหก จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือหลอกให้พวกเขามาบูชายัญข่ายพลังนี้ พวกเขาส่วนใหญ่เป็นนักพรตพเนจร ถึงแม้บางคนจะมีสำนัก แต่ก็เป็นสำนักเล็กที่ไม่มีผู้หนุนหลัง ดังนั้นท่านเซ่าจึงไม่ได้เกรงกลัวอะไร

ข่ายพลังเสริมดวง แปลตามชื่อก็คือข่ายพลังที่เป็นการรวมพลังแห่งดวงของคนที่ดวงแข็งดวงดี ทั้งชีวิตมีแต่ความราบรื่น ร่ำรวยมากมีด้วยเงินทอง ไม่แปลกที่ตระกูลเซ่าสามารถกลายเป็นมหาเศรษฐีในตัวเมืองได้ ดูท่าทางเขาไม่ได้ใช้ข่ายพลังนี้ในการรวมดวงของคนอื่นเป็นครั้งแรก

 ไม่ต้องกลัว  ท่านเซ่ายิ่งหัวเราะอย่างได้ใจพร้อมเอ่ย  พลังของพวกเจ้ากำลังจะถูกข่ายพลังดูดซับจนหมดสิ้น พวกเจ้าจะได้กลายเป็นหนึ่งในวิญญาณของข่ายพลังนี้ ทำหน้าที่คุ้มครองตระกูลเซ่าของข้าให้รุ่งเรืองต่อไป 

ทุกคนล้วนสูดลมหายใจเข้าอย่างหนัก ที่แท้ท่านเซ่าไม่ใช่เพียงแค่ต้องการใช้พวกเขาในการบูชาข่ายพลัง แต่ยังคิดจองจำวิญญาณของพวกเขาให้อยู่ในข่ายพลังนี้ ทำให้พวกเขากลายเป็นอาหารของข่ายพลัง

ทันใดนั้นทุกคนต่างตระหนกขึ้นมา เริ่มที่จะใช้พลังโจมตีข่ายพลังอย่างบ้าคลั่ง แต่ยังคงไม่มีประโยชน์อันใด การโจมตีของพวกเขาล้วนถูกแสงสีแดงจากข่ายพลังต้านกลับมา

 ทำอย่างไรดี เจ้าหนู…  ไป๋อวี้ก็เริ่มกระวนกระวาย หันไปมองอวิ๋นเจี่ยวที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคยชิน แต่พบว่านางก้มลงนั่งยองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ในมือถือกิ่งไม้กำลังวาดราวกับกำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่ ไป๋อวี้ตะลึงไปพักหนึ่ง  เจ้าหนูนี่คืออะไร 

 หุบปาก! เงียบ!  อวิ๋นเจี่ยวไม่สนใจเขา เพียงแต่ตั้งใจคำนวณขึ้นมา

ไป๋อวี้พินิจดูสิ่งที่นางวาด ถึงได้ดูออกเล็กน้อย เจ้าหนูกำลัง…ทำลายข่ายพลังหรือ แต่ว่าโดยปกติแล้วข่ายพลังต้องใช้การคำนวณและการลองปฏิบัติหลายครั้งถึงจะทำได้สำเร็จ เช่นนี้แล้วจะทันการหรือ

 อย่าเสียเวลาเลย!  ท่านเซ่ากวาดตามองคนที่กำลังดิ้นรน ก่อนจะหัวเราะอย่างชอบใจ ใบหน้าซื่อนั้นปรากฏความชั่วร้ายขึ้นมา  พวกเจ้าหนีออกไปจากข่ายพลังนี้ไม่ได้หรอก และ พวกเจ้าก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของข่ายพลังนี้ 

พูดจบก็ควักยันต์ใบหนึ่งออกมาจากตัว ราวกับอยากเร่งให้มันเร็วยิ่งขึ้น

 ท่านพ่อ! อย่า!  เสียงชายที่ไร้เรี่ยวแรงดังขึ้น มีชายคนหนึ่งวิ่งออกมาจากภายในถ้ำอย่างเร่งรีบ สีหน้าของเขาซีดเซียว ถึงแม้มือหนึ่งจะพยุงไปยังผนังถ้ำแต่ร่างของเขายังคงยืนไม่อยู่ ราวกับนาทีถัดมาจะเป็นลมล้มลงไปอย่างนั้น คนนั้นก็คือนายน้อยเซ่า หรือเซ่าเซี่ยน! เขาทำสีหน้าอ้อนวอนมองไปยังคนด้านหน้า  ท่านพ่อ ได้โปรดปล่อยพวกเขาไปเถอะ อย่าได้ก่อกรรมอีกเลย 

 เจ้าออกมาทำไม  ท่านเซ่าติเตียน บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด แตกต่างไปจากตอนเช้าที่เป็นบิดาผู้มีเมตตา จ้องเขม็งไปยังเขาก่อนจะเอ่ย  ทำไมข้าถึงได้มีลูกชายที่ไม่เอาไหนอย่างเจ้า ข่ายพลังที่ข้าสร้างนี้ล้วนทำเพื่อตระกูลเซ่า เพื่อความรุ่งเรืองของตระกูลเซ่าทั้งสิ้น! 

 แต่ว่า…ตระกูลของพวกเราก็ร่ำรวยอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ข่ายพลังนี้  เซ่าเซี่ยนยังคงเอ่ยปราม

 หุบปาก!  ท่านเซ่าราวกับยิ่งโกรธมากขึ้น ก่อนจะหัวเราะเสียงเย็นเอ่ย  อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้าเป็นคนปล่อยนักพรตที่ข้าเตรียมมาเพื่อบูชาข่ายพลังเมื่อเดือนก่อนไป หากไม่ใช่ข้าส่งคนไปตามฆ่าได้ทันเวลา ตระกูลเซ่าของพวกเรายังไม่รู้จะโดนเจ้าทำลายไปถึงไหน! 

 ตามฆ่า…  เซ่าเซี่ยนตัวสั่นสะท้าน มองไปยังท่านเซ่าด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาเพียงแค่อยากช่วยคนพวกนั้น ไม่คิดว่าสุดท้าย…ราวกับควบคุมไม่อยู่ เขาตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม

 เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้นักพรตเหล่านั้นมีชีวิตรอดไปจากที่นี่หรือ  ท่านเซ่าหัวเราะเสียงเย็น  เจ้าโยนความเมตตาที่ไร้ค่านั่นทิ้งไปตั้งแต่ตอนนี้เสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่คำนึงถึงความเป็นพ่อลูก 

 …  เซ่าเซี่ยนทำสีหน้าราวกับความศรัทธาพังทลาย ถอยหลังออกไปหลายก้าว คนในข่ายพลังเริ่มที่จะรับไม่ไหวแล้ว บางคนที่สูญเสียพลังไปมากจับหัวร้องโหยหวนขึ้นมา เซ่าเซี่ยนถึงได้สติกลับมา มองไปยังคนในข่ายพลัง เดินขึ้นหน้าไปดึงแขนเสื้อของท่านเซ่า ขอร้องด้วยเสียงที่ร้อนรน  ท่านพ่อ ได้โปรดปล่อยพวกเขาไปเถอะ ข้า…ข้าจะเป็นคนดูแลวิญญาณเหล่านั้นเอง ข้าจะไม่ให้พวกเขาก่อเรื่อง ขอแค่ท่านปล่อยพวกเขาไป ท่านพ่อ… 

ดูแลวิญญาณ!

อวิ๋นเจี่ยวที่กำลังคำนวณอยู่นิ่งไป ในหัวราวกับมีเสียง ‘ติ๊ง’ ดังขึ้น เดิมที่คำนวณอย่างไรก็ไม่มีผลลัพธ์ ทันใดนั้นก็ได้คำตอบออกมาทันที

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…

 ไม่ต้องพูดมากความ!  ทางท่านเซ่าเตะเซ่าเซี่ยนที่ขอร้องอ้อนวอนตนเองออกไป ก่อนที่จะติดยันต์ที่ถืออยู่ในมือลงบนพื้น นาทีถัดมาแสงสีแดงสว่างไสวมากขึ้นกว่าเดิม

ทันใดนั้นทุกคนในข่ายพลังล้วนรู้สึกจุกที่หน้าอก ก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ไป๋อวี้เองก็รู้สึกมีความเจ็บปวดบริเวณหน้าอกขึ้นมาเช่นกัน หันไปมองอวิ๋นเจี่ยว  เจ้าหนู…ยังไม่เสร็จหรือ 

 เสร็จแล้ว!  อวิ๋นเจี่ยวถึงได้ลุกขึ้นยืน ชี้ไปทางซ้ายก่อนจะเอ่ย  ท่านไปยืนที่ทางขวาสี่สิบห้าองศาของข้า ไกลประมาณสามเมตร…สิบฉื่อ ตาโจว ท่านไปยืนทางซ้ายไกลราวสิบห้าฉื่อครึ่ง หกสิบองศา 

พูดจบก็หันไปมองนักพรตที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ก่อนจะเอ่ย  ท่าน ตรงไปเจ็ดเมตร 

นักพรตคนนั้นคิ้วขมวด กำลังจะเอ่ยปากเถียงด้วยความเคยชิน  ทำไมข้าต้องฟัง… 

 ไป เดี๋ยว นี้!  เขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจี่ยวก็หันมากวาดตามองเขา ทันใดนั้นนักพรตคนนั้นรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่กำลังโจมตีมาทางเขา กลัวจนตัวสั่น เหงื่อเย็นไหลลงมาจากหัวทันที

ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง  ได้…ได้เลย! 

น่า…น่ากลัวเสียจริง น่ากลัวกว่าผีร้ายข้างนอกอีก!

(⊙_⊙)

อวิ๋นเจี่ยวกลับหันหน้าไปมองยังคนอื่น ก่อนจะสั่งการทีละคน  ท่าน ข้างหน้าทางซ้ายสิบฉื่อ ท่าน ข้างหน้าทางขวายี่สิบฉื่อ ท่าน ข้างหลังทางซ้ายสิบหกฉื่อ… 

นางจัดการให้ทุกคนไปยืนอยู่ในจุดที่นางบอก ไม่รู้เป็นเพราะตามเสียงส่วนใหญ่หรือไม่ แต่คนในเสวียนเหมินสิบกว่าคนไม่มีคำถามสงสัยใดทั้งสิ้น ถึงแม้จะบาดเจ็บจนเดินไม่ไหว ใช้คลานก็ต้องคลานไปยังจุดที่บอก

 ข้านับสาม สอง หนึ่ง ทุกคนถ่ายพลังลมปราณลงบนข่ายพลังที่พื้น  เห็นทุกคนยืนอยู่ประจำจุดแล้ว นางจึงเอ่ยกำชับเสียงดัง

 พวกเจ้าคิดจะทำลายข่ายพลัง!  ท่านเซ่าเห็นเจตนาของพวกเขา ตาหยีไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง ราวกับไม่ใส่ใจในการต่อต้านของพวกเขา  ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเจ้าไม่มีทางทำลายข่ายพลังนี้ได้ 

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สนใจเขา ตะโกนออกมาเสียงดัง  สาม สอง หนึ่ง เริ่ม! 

ทุกคนต่างกัดฟันสู้ ในเมื่อจะตายอยู่แล้ว สู้ตาย! ทันใดนั้นพวกเขาถ่ายพลังในตัวทั้งหมดเข้าไปในข่ายพลัง

นาทีถัดมา แสงสีขาวสว่างขึ้น ข่ายพลังสีขาวปรากฏอยู่ใต้เท้า ค่อยๆ ปรากฏเป็นรูปร่างขึ้นมาเชื่อมทุกคนเข้าด้วยกัน เพียงแต่แสงนั้นค่อนข้างสลัว ราวกับแสงของหิ่งห้อย ใช้เวลาไม่นานก็จะถูกแสงสีแดงกลืนกิน

 ฮ่าๆๆ …  ท่านเซ่าหัวเราะได้ใจมากยิ่งขึ้น  ไม่มีประโยชน์หรอก นี่เป็นข่ายพลังร้อยผีเสริมดวง ใช้ร้อยผีในการสร้างข่ายพลัง ใช้พลังห้าธาตุในการสร้างร่าง พวกเจ้าล้วนเป็นผู้ฝึกฝนทางเต๋า ล้วนอยู่ในห้าธาตุทั้งสิ้น ไม่มีทางทำลายข่ายพลังนี้ได้! 

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท