ผู้อาวุโสที่ผลักการเรียนคาถาออกไปได้สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องหันหลังกลับเข้าสู่ก้นบึ้งของการทดสอบประจำวัน อวิ๋นเจี่ยวเป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่แล้ว เมื่อนางบอกว่าจะมีการจัดเปิดการสอนรอบที่สอง วันถัดมานางก็ส่งใบเสนอราคาไปยังสำนักเทียนซือ บอกว่าเปลี่ยนเป็นการทดสอบรายวัน ในคืนนั้นก็มีแบบทดสอบข่ายพลังออกมา
แต่สุดท้ายนางก็ยังไม่สามารถแจกจ่ายแบบทดสอบชุดนี้ออกไป เพราะผู้อาวุโสซึ่งเป็นเสาหลักของสำนักนั้นระดมความคิด…ใช้ข้ออ้างที่ทำให้อวิ๋นเจี่ยวไม่สามารถปฏิเสธได้
ภารกิจฉุกเฉิน? อวิ๋นเจี่ยวผงะไปครู่หนึ่ง
ใช่ๆๆ ! แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สามารถมองเห็นมันได้ แต่เจ้าสำนักสวีก็ยังคงพยักหน้าอย่างแรง สหายอวิ๋นขึ้นทะเบียนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เทียนซือระดับดอกไม้จะต้องออกไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นประจำทุกปี นี่เป็นหนึ่งในนั้น
ต้องเป็นข้าที่ไป? มีเทียนซือระดับดอกไม้อื่นอีกมากมายในสำนักเทียนซือไม่ใช่เหรอ แต่เรื่องการสอน… นางยังไม่ได้เริ่มเตรียมบทเรียนเลย
ไม่ต้องรีบ! เจ้าสำนักสวีรีบกล่าว เรื่องนี้ ผู้อาวุโสของแต่ละสำนักจะคัดเลือกผู้เรียน พวกเราจะแจกจ่ายยันต์ส่งสารของท่านออกไป
ท่านแน่ใจว่า มีแค่ข้าเท่านั้นที่สามารถไปได้ เสียงของอวิ๋นเจี่ยวกดต่ำ พูดด้วยสีหน้าสงสัย
เหอะๆ … เจ้าสำนักสวีหัวเราะแห้ง ก่อนจะหันไปมองเหล่าท่านอาวุโสที่กังวลอยู่ข้างหลัง ทำได้เพียงพูดต่อ ข้ารู้ด้วยว่าสหายอวิ๋นตั้งใจที่จะสอนพวกเรา แต่ภารกิจนี้ไม่เหมือนภารกิจก่อนหน้านี้ ต้องใช้เทียนซือระดับดอกไม้ห้าดอกขึ้นไปเท่านั้น แต่น่าเสียดายเรื่องการขึ้นทะเบียนคราวที่แล้วใช้เวลาไปค่อนข้างมาก เทียนซือระดับดอกไม้ห้าดอกล้วนถูกส่งออกไป ข้าจึงต้องมารบกวน
ไม่ใช่เพื่อโดดเรียน? นางพูดออกมา
เจ้าสำนักสวีสำลัก เหงื่อไหลออกมาจำนวนมาก เหอะ…เหอะๆๆ เป็น…เป็นไปได้อย่างไร ห้ามยอมรับเด็ดขาด
อ่อ ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่ไปเอง ไม่ใช่ว่ายังมีเทียนซือระดับพระจันทร์หรือไง
ท่าน…ท่านอา… เจ้าสำนักสวีเย็นวาบขึ้นในใจ ท่านอาวุโสทุกคนกำลังทำข้อสอบอยู่ไง
ท่านอาวุโสก็ต้อง…ยุ่งกับงานอื่นด้วย เขาหัวเราะแห้งสองสามที ก่อนจะเกลี้ยกล่อมนางต่อ เรื่องนี้ต้องเป็นสหายอวิ๋นเท่านั้น ตราบใดที่เรื่องนี้จบลง ภารกิจการขึ้นทะเบียนก็จบ เสร็จแล้วท่านจะได้รับ เงินเดือน
เงินเดือน?! ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวเป็นประกาย
ใช่ เจ้าสำนักสวีตอบ จะได้รับเงินค่าตอบแทนพร้อม …
ได้ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!
อวิ๋นเจี่ยวลุกยืนขึ้น บอกแต่แรกสิว่าจะได้รับเงินเดือนและค่าคอมมิชชั่น!
เจ้าสำนักสวี …
ท่านอาวุโส …
อย่างนี้ก็ได้?
(⊙_⊙)
อยู่ที่ไหน อวิ๋นเจี่ยวถาม
เจ้าสำนักสวีตกตะลึง จากนั้นเขาก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ในหมู่บ้านหลี่อันนอกเมืองผิงตัน ในเมืองมีสาขาของสำนักเทียนซือ เมื่อถึงตอนนั้นจะมีศิษย์บอกรายละเอียดท่าน
รู้แล้ว ข้าจะไปพรุ่งนี้ พูดจบนางก็ตัดสัญญาณยันต์ทันที
จนกระทั่งแสงสีแดงบนยันต์ส่งสารจางลง เจ้าสำนักสวีถึงได้วางยันต์ลง ปาดเหงื่อบนหน้าผากทิ้งไป และหันไปมองผู้อาวุโสที่กังวลใจอยู่ข้างหลัง
เป็นอย่างไรบ้าง มีคนถามเบาๆ สหายอวิ๋นตกลงหรือไม่
อืม ตกลงแล้ว เขาพยักหน้า นางจะไปในวันรุ่งขึ้น
เยี่ยมมาก! ทุกคนต่างดีใจและถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันใด ข้าต้องบอกข่าวดีให้เจ้าสำนักคนอื่นให้ทราบโดยเร็ว
พูดจบก็หยิบยันต์ส่งสารออกมาแจ้งข่าวดี
เจ้าสำนักหลี่…ข่าวดี! สหายอวิ๋นตกลง ฮ่าๆ …
ท่านอาวุโสจาง มีข่าวดี เรื่องนี้สำเร็จแล้ว ไม่มีสิบวันไม่มีทางกลับมาแน่นอน
เจ้าสำนักมู่ พรุ่งนี้ออกมาดื่มกัน! ข้าเลี้ยง!
ตาฟางๆ ได้ยินหรือไม่ หมากที่ลงเมื่อสองเดือนก่อนของเรายังไม่จบ คืนนี้ไปลงต่อ!
สหายหลิว…
ทุกคนยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ทั่วทั้งตำหนักเต็มไปด้วยเสียงของคน คึกคักราวกับปีใหม่ จนกระทั่งมีเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้นมาอีกครั้ง
ข้าเข้าใจว่าพวกท่านดีใจ แต่ได้โปรดอย่าใช้ยันต์ส่งสารนี้ได้ไหม จะต้องพูดกี่ครั้งว่าข้าก็ได้ยิน!
เจ้าสำนักสวี …
ผู้อาวุโส …
เจ้าสำนัก …
เฮ้ย!
(๑ŐдŐ)b
…
ในท้ายที่สุด อวิ๋นเจี่ยวก็ตัดสินใจระงับการเรียนเป็นเวลาสิบวัน เพื่อไปทำงานที่ได้รับมอบหมายจากสำนักเทียนซือให้เสร็จก่อน ในเมื่อได้เงิน! ไป๋อวี้ไม่มีความคิดเห็นใดๆ เขาเก็บสัมภาระของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่คิดว่าคนที่คัดค้านจะเป็นอาจารย์ปู่
ไม่ไป! เขาวางซุปเห็ดในมือลงทันที สีหน้าดำทะมึน
อวิ๋นเจี่ยวไม่เข้าใจในตอนแรก คิดว่าเขาอยากรอช่วงเวลาวิกฤติค่อยปรากฏเหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าอย่างนั้นท่านจะรออยู่ในสำนัก?
สีหน้าของเขาเย็นลง หันหน้าและเหลือบมองนางก่อนจะพูดว่า ไม่ไป!
อวิ๋นเจี่ยวผงะไปครู่หนึ่ง ทำไม? นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ปู่ห้ามไม่ให้พวกนางออกไป
คิ้วของเขาขมวดอีกครั้งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นถึงได้พูดขึ้น ข้างนอกมันอันตรายเกินไป หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ซุปในมือ พวกเจ้าไปแล้วข้าจะกินอะไร
อันตรายอะไร… อวิ๋นเจี่ยวหยุดชะงัก เหลือบมองอาจารย์ปู่ที่สีหน้าไม่พอใจ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงปีศาจไก่สองตัวนั้นได้ ก่อนจะถามออกมา อาจารย์ปู่กลัวว่าจะเจอปีศาจไก่เหล่านั้นอีก…จะยุ่งยากมากเกินไป?
ใบหน้าของเขาดำยิ่งกว่าเดิม แต่ก็พยักหน้า อืม
เช่นนั้นท่านสิงอยู่ในกระบอกไม้ไผ่เหมือนเดิม คนอื่นจะได้มองไม่เห็นเขา
ไม่ได้!
ทำไม? เมื่อก่อนเขามีความสุขมากกับการสิงกระบอกไม้ไผ่ไม่ใช่เหรอ
เยี่ยยวนหันไปมองนาง ใบหน้าของเขาเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะพูดออกมาว่า มีกลิ่น!
อะไร
มีกลิ่น?
กลิ่นอะไร? กลิ่นซุปไก่?
อวิ๋นเจี่ยว …
ไป๋อวี้ …
เรื่องมากเสียจริง?!
อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย หน้าตาของอาจารย์ปู่นี่เป็นปัญหาจริงๆ และยังไม่มีการโจมตีแบบไร้สายพันธุ์ ขอแค่เป็นเพศเมีย ไม่ว่าจะเป็นผีสาว ปีศาจสาว หรือแม้แต่ศิษย์หญิงล้วนถูกหน้าตาของเขาโจมตีทั้งสิ้น เพียงแค่ดูจากกระดาษจดหมายที่เผาไหม้ทุกวันก็พอแล้ว
ในเวลาต่อมานางถึงรู้ว่ามีศิษย์บางคนในวันขึ้นทะเบียน ได้บันทึกการปรากฏตัวของอาจารย์ปู่เอาไว้ แล้วแพร่กระจายออกไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมีคนจำนวนมากส่งจดหมายขอเข้าร่วมสำนักชิงหยาง
แค่เห็นภาพในยันต์ก็บ้าคลั่งเช่นนี้แล้ว ถ้าเจอตัวจริง…
อวิ๋นเจี่ยวตัวสั่น ไม่น่าแปลกใจที่อาจารย์ปู่ไม่ชอบออกไปข้างนอก ทำอย่างไรดี คงไม่อาจทำให้เขาเสียโฉมไปแล้วค่อยออกไปข้างนอกหรอกมั้ง!
เดี๋ยว!
ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวเป็นประกาย นางหันไปมองเยี่ยยวนแล้วพูดว่า อาจารย์ปู่ ท่านเป็นวิชาแปลงร่าง…กลายร่างไหม เขาเป็นเทพก็น่าจะเปลี่ยนใบหน้าได้ใช่ไหม
รู้บ้าง เขาตอบ
ถ้าเช่นนั้น…ท่านเปลี่ยนหน้าแล้วค่อยออกไปได้ไหม เนื่องจากปัญหาทางด้านรูปลักษณ์ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเป็นอีกคนก็ไม่น่ามีปัญหา
Related