ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 73 ล้มเลิกงานแต่ง

ตอนที่ 73 ล้มเลิกงานแต่ง

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกเดือดอยู่ภายในใจ มีความรู้สึกอยากจะฉีกกระดาษแผ่นนี้ทิ้งไปในทันที แต่สีหน้าของนางกลับยังคงรักษาความใจเย็นเอาไว้เหมือนเดิม แม้แต่เสียงก็ยังเรียบเฉย

 นี่มันอะไรกัน 

 นี่เป็นหนังสือแต่งงานที่ท่านพ่อเขียนเมื่อครู่  จี้เฉินเดินตามมาก่อนจะตอบ

 ไม่ใช่  อวิ๋นเจี่ยวผงะไป  เขาไม่ได้ไปเตรียมเงินค่ารักษาเหรอ เอาหนังสือแต่งงานมาให้ข้าทำไม 

 นี่คือค่ารักษาไง  จี้เฉินตอบ  สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในวัง ก็คือตำแหน่งราชินี  เขาตอบออกมาอย่างสมเหตุสมผล สายตาที่มองมายังนางยังแฝงไปด้วยความเคือง ประมาณว่า ข้าเห็นท่านเป็นผู้มีพระคุณ แต่ท่านกลับอยากเป็นแม่ข้า

โลกมารเป็นแบบนี้หมดเหรอ

 ใครบอกว่าจะเป็น…  อวิ๋นเจี่ยวมีแต่คำว่า MMP เต็มไปทั่วท้อง

สาวรับใช้ในห้องต่างคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนจะพูดเสียงดังว่า  ขอแสดงความยินดีกับท่านราชินี! 

 …  ราชินีอะไรกัน อย่าเรียกมั่วซั่วสิ!

 ตั้งแต่ที่ท่านแม่ของข้าตายไปเมื่อห้าร้อยปีก่อน ท่านพ่อของข้าก็ไม่เคยชอบใครอีกเลย ข้าไม่คิดว่าเขาจะตัดสินใจแต่งงานกับท่าน  จี้เฉินมองนางด้วยสายตาเศร้าสลดและเสียดาย

เห้ย! ยังเป็นการแต่งรอบสองอีก! ไม่ใช่สิ นายกำลังเสียดายอะไรกัน

อวิ๋นเจี่ยวสูดลมหายใจเข้าหนึ่งที ก่อนที่จะสยบคำด่ามากมายในใจไว้ได้ สุดท้ายนางถึงเรียกสติกลับมาได้  พวกเจ้าเข้าใจความหมายของข้าผิดไปแล้ว ราชามารอยู่ที่ไหน ข้าจะไปคุยกับเขา 

นางแค่อยากได้เงินค่าตอบแทน ไม่ใช่การแก้แค้น!

 ท่านพ่อได้ประกาศว่าจะแต่งงานกับท่านไปทั่วทั้งโลกมารแล้ว ตอนนี้คงจะกำลังหารือเรื่องงานแต่งอยู่  จี้เฉินตอบ

 พาข้าไปหาเขา  นางต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ

 แต่ว่า…  จี้เฉินลังเลเล็กน้อย  พรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่งงานแล้ว วันนี้พวกท่านอย่าเพิ่งเจอหน้ากันดีกว่า 

 พรุ่งนี้!  แต่งงานกันง่ายอย่างนี้เลยเหรอ  พาข้าไปตอนนี้ เวลานี้ เดี๋ยวนี้! 

 หมออวิ๋น… 

 หากเจ้าไม่อยากให้น้องสาวเจ้ามีเรื่องละก็!  นางจงใจมองไปยังปีศาจแมวที่นอนอยู่บนเตียง เมื่อคนเราร้อนรน เรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น! เชื่อไหมล่ะ

จี้เฉินผงะไป จากนั้นถึงได้เดินนำนางไปยังตำหนักด้านข้าง

ราชามารโสดมากว่าห้าร้อยปี ไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะแต่งงานรอบสองอีก อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็นเพียงคนธรรมดา เมื่อนึกถึงหมออวิ๋น เขาก็รู้สึกร้อนลุ่มในใจ

ปกติแล้วเขามักจะดูถูกคนธรรมดา เพราะว่าคนธรรมดานั้นมีแต่คนจิตใจแย่ ไม่เหมือนมารอย่างพวกเขาที่ตรงไปตรงมา อย่างมากก็สู้กันสักตั้ง อีกทั้งเหล่าคนธรรมดานั้นช่างอ่อนแอ แตะแค่นิดเดียวก็สามารถล้มได้ แม้เผ่ามารมักจะหลอกใช้คน ดึงเอาพลังของคนมาเพิ่มการฝึกฝน แต่ตัวของเขาเองกลับไม่ชอบ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเช่นนี้ จะมีที่ใช้ได้สักกี่คนกัน สู้เขาฝึกฝนเองเสียดีกว่า

ดังนั้นเขาจึงมองคนธรรมดาในแง่ลบจากใจ จนกระทั่งหูจี๋ได้นำพาหมออวิ๋นกลับมา ตอนแรกเขาไม่ได้มีความหวังอะไรมาก แต่กลับไม่คิดว่านางสามารถรักษาโรคที่แม้แต่หมอในโลกมารยังไม่สามารถรักษาลี้เอ๋อให้หายได้ นางใช้เข็มเงินเพียงไม่กี่อัน นอกจากรักษาชีวิตของลี้เอ๋อไว้แล้ว ยังทำให้ลี้เอ๋อสามารถกลายร่างเป็นคนเหมือนเดิมได้อีก

ราชามารให้คำนิยามคนใหม่ภายในใจเป็นครั้งแรก เป็นเพราะเขาไม่ได้ออกจากโลกมารเป็นเวลานาน ทำให้เขาไม่รู้ว่าในโลกมนุษย์มีคนเก่งเช่นนี้อยู่ หากนางสามารถทำประโยชน์ให้โลกมารได้ เช่นนั้นคงจะทำให้ตำแหน่งของโลกมารต้องขยับเขยื้อนในสามโลกแล้ว

ในฐานะที่เป็นราชาคนหนึ่ง เขาจึงเกิดความคิดที่จะรั้งคนเอาไว้ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับยื่นข้อเสนอขอสิ่งล้ำค่าที่สุดเป็นค่าตอบแทน เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก สำหรับหมอแล้วอะไรถึงจะล้ำค่าที่สุด เงินทองคงจะไม่เข้าสายตานาง หญ้าสมุนไพรพิเศษนางคงจะเห็นจนชิน ไม่แน่ว่าอาจมีคนที่ต้องการให้นางรักษานำมามอบให้ก็เป็นได้

เขาเป็นถึงราชามาร คิดพิจารณาของมีค่าต่างๆ ในวังจนหมดแล้ว กลับไม่พบว่ามีสิ่งใดที่ดูมีค่าสำหรับนาง นอกเสียจากว่าสิ่งที่นางพูดไม่ใช่สิ่งของ แต่หากว่าเป็นอย่างอื่น

เขาคิดไปคิดมา ทั้งวังนี้ สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดก็คงเป็นตำแหน่งราชินีแล้ว หรือว่าหมออวิ๋นอยากจะ…แต่งงานกับเขา?

ราชามารหน้าแดงขึ้นมา เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องยังไม่รู้สึก แต่ในเมื่อตอนนี้กำหนดงานแต่งเรียบร้อยแล้ว ถึงได้พบว่าใจของเขาเต้นเร็วมาก อีกทั้งยังรู้สึกเขินอายแบบไร้สาเหตุด้วย หลายปีมานี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีมารมาขอแต่งงาน แต่เขากลับไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย หากแต่ว่าเมื่อกี้เขากลับตอบตกลงอย่างง่ายดาย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าหมออวิ๋นเป็นคนเก่ง เพื่ออนาคตของโลกมาร ให้นางอยู่ที่นี่มีแต่ประโยชน์ อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า…หัวของเขาปรากฏภาพใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา เขาพบว่าหมออวิ๋นหน้าตา…ค่อน…ค่อนข้างสวย เป็นแบบที่เขาชอบเลย

(//▽//)

หัวใจของราชามารเต้นเร็วยิ่งขึ้น

 ท่านอ๋อง ข้าได้นำข่าวที่ท่านจะแต่งงานประกาศให้ทั่วทั้งโลกมารรู้แล้ว เผ่ามารในรัศมีร้อยลี้นี้ล้วนเดินทางเข้ามายังเมืองหลวง เตรียมของขวัญสำหรับพรุ่งนี้  มารตัวหนึ่งในตำหนักรายงาน

เผ่ามารทำงานอย่างรวดเร็ว ราชามารโสดมาหลายปีแล้ว ทั้งวังต่างก็คาดหวังให้เขามีคู่ครอง ตอนนี้ราชามารคิดได้แล้วที่จะมีคู่ครองอีกครั้ง เผ่ามารทั้งหมดได้แสดงความดีใจออกมาอย่างสุดซึ้ง อีกทั้ง พวกเขาไม่มีพิธีรีตองมากเท่ากับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ดังนั้นในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม งานแต่งงานของราชามารในวันพรุ่งนี้ก็ได้ประกาศให้โลกมารได้รับรู้แล้ว

เหตุการณ์ที่มีความสุขเช่นนี้จะดึงดูดเผ่าพันธุ์มารจำนวนมากให้มาร่วมงาน แต่สำหรับพวกที่ฝึกฝนจนกลายเป็นมาร ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน มันก็แค่ความแตกต่างระหว่างการใช้หนึ่งคาถาหรือสองคาถาเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงงานแต่งงานใหญ่ในวันพรุ่งนี้ หากจะจัดขึ้นในวันนี้ก็ไม่มีปัญหา ตอนนี้เผ่าพันธุ์มารจำนวนมากได้รวมตัวกันในเมืองหลวงแล้ว

 อืม ดี!  ราชามารกระแอมไอ ก่อนจะดึงความคิดกลับมา และสั่งกำชับว่า  เรื่องนี้ต้องจัดการให้ดี 

 รับทราบ ท่านอ๋อง! 

ราชามารยังอยากจะสั่งการอีก แต่มีมารน้อยตัวหนึ่งเดินเข้ามารายงานว่า  เรียนท่านอ๋อง หมออวิ๋นรอพบอยู่ด้านนอก บอกว่ามีเรื่องด่วนต้องเจอท่านอ๋อง 

 นาง…นางมาทำไม  ราชามารตะลึง หรือว่าอยากเจอเขาจนทนรอไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตื้นตันภายในใจ กำลังจะบอกให้ไปเชิญมา แต่คนตรงประตูกลับบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 ท่านราชามาร ข้าว่าเรื่องนี้มีความเข้าใจผิด ข้าอธิบายได้  อวิ๋นเจี่ยวโบกหนังสือแต่งงานในมือ ภายในใจเต็มไปด้วยไฟลุกโชน แต่บนใบหน้ายังคงเรียบเฉย

ทันใดนั้นเหล่ามารที่กำลังรายงานเรื่องงานแต่งภายในตำหนักนั้นต่างหันหน้ามองมา สายตาเหลือบมองราชามารที่อยู่บนที่นั่งด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

 แค่ก…ไม่รีบ  ราชามารรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่แล้วก็มีความอยากอวดขึ้นมา เห็นหรือยัง นี่คือราชินีในอนาคตของพวกเจ้า

 พวกเจ้าถอยไปก่อน  เขาโบกมือให้ข้ารับใช้ในตำหนักถอยไป จากนั้นมองไปยังคนที่เข้ามากะทันหัน  หมออวิ๋น…เสี่ยวอวิ๋นมีเรื่องด่วนอะไร  เขาเปลี่ยนคำเรียกแทน

 ข้าชื่ออวิ๋นเจี่ยว!  นางพูดแก้ เสี่ยวอวิ๋นคืออะไรกัน

 อวิ๋นเจี่ยว  ราชามารเรียกอย่างไหลลื่น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเอ็นดู?

Related

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท