เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นของนัชชา เนื่องมาจากเกี่ยวข้องถึงคำสำคัญของเตนัทลอว์เฟิร์มและการกระโดดตึกนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกระจายข่าวนี้ออกไป อีกสักพักก็คงกลายเป็นข่าวดังสำหรับวันนั้น
บางคนเดาว่าเหตุการณ์เป็นเตนัทลอว์เฟิร์มทำเรื่องชั่วๆ เลยคนนั้นจึงมากระโดดลงตึกที่อาคารนี้
บางคนเดาว่าคนนั้นไม่มีเหตุผล ไปหาเรื่องเพราะอยากให้เตนัทลอว์เฟิร์มชดเชยเขา
ในเวลานั้นแต่ละคนมีคำพูดของแต่ละคน นักข่าวเฝ้าอยู่ทางออกทุกทางของอาคาร เพื่อจะได้เจอหน้าเตชิต ถ้าเจอหน้าพนักงานของเตนัทลอว์เฟิร์มก็ได้
แต่ว่าเตชิตเข้มงวดมาก ไม่มีใครจะกล้าไปพูดอะไร
แถมความช่วยเหลือของฝ่ายประชาสัมพันธ์เตนัทลอว์เฟิร์ม อีกไม่กี่วันก็หายไปหมดแล้ว เตชิตก็ให้คำสั่งแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงนัชชาตั้งแต่ต้นจนจบ นัชชาก็ไม่มีใครสนใจ
จนถึงวันนั้นบริษัทสื่อข่าวเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียง เขียนบทความที่เกี่ยวกับเตชิตและนัชชา เรื่องทั้งหมดถูกเผยแพร่ออกมา แถมทำให้นัชชากลายเป็นจุดเด่น
เธอเป็นใครกัน เรื่องการแต่งงานของเธอ เธอกำลังติดการฟ้องร้องหย่าร้างอยู่ ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะเหมือนกับเป็นนิทานที่มีแต่คนเดาไปเดามา เขียนไปเขียนมา แต่ไม่มีใครสนใจความจริงของเรื่องเหล่านี้เลย
เรื่องนี้ณัชชนม์กับเมทนีไม่ได้บอกให้นัชชาฟัง นัชชาไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้นจนอาการของเธอดีขึ้น เธออ่านข่าวในมือถือโดยที่ไม่ตั้งใจ จึงรู้ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในช่วงนี้
นัชชาอะไรก็ไม่พูดอ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้หมด รายละเอียดของเรื่องนี้รู้แค่คู่กรณีก็ถูกเผยแพร่ออกมา
รวมถึงเธอเข้ามาเตนัทลอว์เฟิร์มยังไงประสบการณ์การทำงานของเธอ ทั้งยังมีเรื่องการฟ้องร้องหย่าร้างก็ถูกเผยแพร่ออกมาด้วย
เตชิตในฐานะท่านประธานของเตนัทลอว์เฟิร์มและหัวหน้าของเธอ ยังเป็นทนายที่รับผิดชอบการฟ้องร้องของเธอ คำต่างๆที่อดคิดแล้วปวดหัวได้แบบนี้รวมตัวกันขึ้นมา ทำให้คนอื่นคิดกันไปใหญ่
นัชชากลายเป็นผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวทางเตชิตก็โดนใส่ร้าย แต่ว่าสังคมนี้ให้การอะลุ่มอลวยต่อผู้ชายมากกว่า เพราะงั้นคำที่คนด่านัชชาจึงเยอะกว่าเตชิต
อีกไม่กี่วันเธอกลายเป็นสตอร์มเซ็นเตอร์ บอกว่าไม่มีใครผลักอยู่ด้านหลัง ถ้าเป็นคนที่มีสมองอยู่ก็ไม่เชื่อหรอก
นัชชาพยายามติดต่อเตชิตแต่ว่าโทรไม่ติด ตั้งแต่เกิดเรื่องอุบัติเหตุมาเธอพักที่โรงพยาบาลหกวันแล้ว ร่างกายของเธอดีขึ้นแล้ว แต่ไม่เคยเห็นเขามาเยี่ยมเลย
ราวกับว่าเมื่อก่อนที่เขาเข้ามาในชีวิตเธอจู่ๆ และตอนนี้หายตัวไปก็แบบนี้
นัชชารู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ริมหน้าผา ไม่รู้จะเล่าเรื่องเหล่านี้กับใคร
จนถึงหนึ่งคืน ณัชชนม์กับเมทนีกำลังกลับบ้านจะเก็บกระเป๋า ธนัทปรากฏตัวในประตูห้องคนไข้
นัชชารู้สึกว่าประหลาดใจมาก เธอกำลังจะลุกขึ้นต้อนรับ คุณธนัท คุณมาได้ยังไงคะ…
ธนัทจับแขนเธอเบาๆ เธอนั่งเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ
เขามองไปทั่วห้อง นั่งเก้าอี้ที่ข้างๆเตียง เธอรู้สึกเป็นไงบ้าง
ดีขึ้นแล้วค่ะ เผชิญหน้าของธนัทสองต่อสองทำให้นัชชารู้สึกตื่นตัวมาก เพราะว่าเขาเป็นหัวหน้าทั้งก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเตชิต จึงทำให้เธอคิดมาก
เธอไม่ต้องเกรงใจหรอก เตชิตยังไม่วางใจเลยให้ฉันมาเยี่ยมแทน ธนัทโกหกโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า กลัวว่าเธอไม่เชื่อแล้วแก้ตัวว่า ตอนนี้ข้างนอกนักข่าวเต็มไปหมดเขาไม่สะดวกจะมาที่นี่
ในขนาดนี้ นัชชาตะลึง เขาบอกให้คุณมาเหรอคะ
ใช่ เธอสองคนทะเลาะกันเหรอ ท่าทางของธนัทดูเป็นสุภาพบุรุษมาก แต่ว่าก็เห็นออกเขาห่างจากนัชชา ท่าทางคุยกันกับนัชชาของเขาตอนนี้ ทำให้คนอื่นไว้ใจอย่างง่ายๆ
คุณรู้ได้ยังไงคะ
ธนัทหัวเราะอยู่ในหัวใจ ช่วงนี้เตชิตเหมือนจะบ้าไปแล้วเพราะว่าเขาก็เรียกธนัทออกไปกินข้าวกับลูกค้าทุกคืน จนเขาเกือบจะพาลูกค้ากลับบ้านไปแล้ว
ธนัทแอบพูดในใจ แต่ว่าใบหน้ายังยิ้มแย้มแจ่มใส ผมเคยได้ยินเตชิตเคยว่า เพราะว่าสามีเก่าของเธอ
นัชชาไม่เคยคิดว่าเตชิตเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้ ตอนนี้คนอื่นก็รู้อยู่แล้ว เธอก็ไม่อยากจะซ่อนอะไรอีกต่อไป หลายวันที่ผ่านมาไม่มีใครมาคุยด้วยเลยแม้แต่สักคนเดียว เธอทนไม่ไว้แล้วจนเล่าเรื่องนี้ให้ธนัทฟังไปจนหมด
คุณคิดว่าฉันทำแบบนั้นเพื่อดวิษเหรอ ที่จริงฉันทำเพื่อเด็กที่น่าสงสารนั้น
เด็ก? ธนัทเคลื่นริมปากด้วยความสงสัยก่อนจะถามเธอ ข่าวเรื่องนี้ คุณรู้ไหมว่าเป็นใครเผยแพร่ออกมา
นัชชามองตาเขา สองคนนี้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่าเหมือนกับว่าเข้าใจภายในหัวใจแล้ว
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาฉุกเฉินขนาดนี้อีกทั้งแปลกประหลาดมาก ที่จริงคนที่รู้ก็ไม่เยอะเลือกไปเลือกมาก็เหลือคนเดียว
ธนัทพยักหน้า ใช่แล้ว ดวิษ
นัชชาเม้มปากผลการนี้เธอไม่ตกใจหรอก เธอเคยคิดไปล่วงหน้าแล้ว แค่ขาดแต่คำยืนยันเท่านั้น ถ้าคุณธนัทก็พูดแบบนี้ งั้นคนที่ทำเรื่องนี้ก็ต้องเป็นดวิษแน่ๆ
เขาสามหาวเพื่อทำร้ายชื่อเสียงของเธอ
ข่าวพวกนั้น มีหลายข้อไม่ใช่ความจริง นัชชาคิดว่าคุณธนัทมาโทษความผิดของเธอ
ฉันรู้ แต่เขาไม่ค่อยอยากจะรู้เยอะกว่านี้หรือว่า แล้วก่อนจะให้ทนายดรณ์รับผิดชอบการฟ้องร้องนี้ เราก็รู้แล้วว่าดวิษเขาจะต้องทำแบบนี้
ทำอะไรคะ นัชชางง
เขาให้คุณทนายดรณ์รับผิดชอบการฟ้องร้องนี้ ไม่ใช่ว่าเขาโกรธเรื่องที่เธอเอาวิดีโอไปให้จรรยา ความจริงคือเขาคิดถึงเรื่องพวกนี้…
ถ้าเตชิตไม่ลงมือทำแบบนี้ ตอนนี้เขาน่าจะไม่มีโอกาสที่จะแก้ตัวได้ คำพูดของธนัทซีเรียสขึ้น เตชิตมันไม่ได้โกรธเรื่องที่เธอส่งวิดีโอคืนไปให้จรรยาแต่เพราะเธอเชื่อคนที่อยู่ในบ้านตระกูลฤทธิเดชง่ายเกินไป ถ้าผู้หญิงของดวิษท้องจริงๆ ทำไมต้องมาจัดการเธอ
นัชชาเงยหน้าขึ้นทันใดนั้น หมายความว่า ปณิตาไม่ได้ท้องจริงๆเหรอ?
ธนัทไม่พูดต่อแต่ท่าทีของเขาแสดงความหมายของเขาออกทั้งหมดช่วงนี้ สำหรับฝีมือพวกนี้ของดวิษ พวกเขาก็รู้อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนของเขา
เตชิตรู้แล้วเขาไม่ประหลาดใจ เอาตรงๆ เขาอาจจะไม่เคยที่จะเชื่อ แต่ว่าเขาไม่ปฏิเสธการขอร้องของนัชชาที่จะส่งวิดีโอให้คนอื่น สิ่งที่เขาสนใจ คือทัศนคติของเธอของเธอ
เห็นทัศนคติของเธอแบบนี้ก็ทำให้เขาผิดหวังมาก
ธนัทมองหน้าเธอ จู่ๆจะตั้งใจพูด ความจริง เตชิตก็ไม่ใช่คนที่ดีพร้อมอย่างที่คนอื่นได้เห็นกัน มันก็เคยผ่านช่วงเวลาที่มืดมิด ตอนที่มันอายุสิบหกปีพ่อเขาหย่ากับแม่แล้วไปมีครองครัวใหม่ พ่อมีลูกสาวใหม่ เตชิตเหมือนกับเป็นส่วนเกินของครอบครัวนั้นไปโดยปริยาย ชีวิตของหมอนั่นยากจนลำบากมาก ผ่านช่วงเวลานั้นด้วยความช่วยเหลือของรัฐบาล ณ นโยบายการเยียวยาคนยากจน หลังจากเขาเป็นคุณทนายแล้วชีวิตของเขาเริ่มดีขึ้นได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ ทำงานชั่วคราวทั้งสามอย่างภายในวันเดียว นี่คือเตชิตที่ฉันรู้จัก
น้องสาว? นัชชาประหลาดใจ เธอไม่เคยได้ยินเขาเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับครองครัวของเขาเลย
อืม เธออยู่ที่ต่างประเทศ ธนัททำไม่พูดเยอะ ดวงตาของเขาลึกมาก รู้ไหมว่าทำไมเขาต้องมาเป็นทนาย
นัชชาไม่รู้จะตอบยังไง นัยน์ตาของเธอสั่นขึ้น