ธาวินได้ยินการรายงานที่มีความหมายเป็นนัยน์แบบนี้แล้วก็เหมือนว่าไม่ได้โกรธเคืองอะไร
ไม่เพียงแต่ไม่ได้โกรธเคืองสักนิด ขนาดสีหน้าที่แปลกใจยังไม่มีเลย
ธาวินเหลือบตามองเช็คเงินสดสองล้านใบนั้นอยู่ในมืออยู่สักครู่ จากนั้นก็วางมันลงทันที
เขาหยิบซิการ์มวนบางหนึ่งมวนออกมาจากกล่องใส่ซิการ์ จากนั้นก็จุดขึ้น
ไพลินจ้องมองสีหน้าของเขาที่ยากแก่การคาดเดาได้ จนในใจไม่สามารถจับจุดได้ ไม่กล้าที่แม้จะปริปากพูดต่ออะไรมากได้อีกเลย
ธาวินพ่นควันออกมาครั้งหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ถามกลับอย่างไม่รีบไม่ร้อน ไพลินคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้?
ไพลินคิดแล้วคิดอีก หลักฐานที่แสดงออกมาอย่างทนโท่ขนาดนี้แล้วถ้าว่าเธอไม่ใช้มันให้เป็นประโยชน์ เธอก็สบายใจจริง ๆ
เธอลังเลอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็ตอบกลับมา ฉันแค่รู้สึกว่าเงินสองล้านมันได้มาช่างง่ายดายเกินไปหน่อย จากการสังเกตของฉันที่มีต่อคุณธิชาแล้ว เธออายุยังน้อย แถมยังไร้ประสบการณ์ในการทำงาน ทว่าเรื่องนี้เธอกลับสามารถเอาเงินก้อนนี้มาจากมือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างดนัยกฤตมาได้อย่างง่ายดาย จนทำให้ฉันมองเธอไม่ออกแล้ว…
ธาวินชำเลืองมองเธอ คุณฉลาดเป็นกรด ยังมีอะไรที่คุณมองไม่ออกอีกเหรอ มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลย อย่าได้แต่อ้ำ ๆ อึ้งๆ อยู่
ไพลินไม่กล้าพูดใส่ไฟให้มาก ถึงอย่างไรใช่ว่าเธอดูไม่ออกว่านังปีศาจธิชานั่นมันเกาะแกะคุณชายเอาไว้แน่น ขนาดเรื่องงานวันแต่งงานของคุณชายยังไม่สามารถเขย่าฐานะของเธอได้เลย ไม่แน่เรื่องงานฉลองในคืนวันหมั้นที่ใหญ่โตในวันนั้นเธอจงใจทำขึ้นมาก็ได้….
ไม่เสียดายในการทำลายชื่อเสียงของตนเองให้ป่นปี้ แถมยังเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับคุณชายต่อหน้าต่อตาสาธารณชนแบบจัดเต็มอีก ช่างสุดยอดจริงๆ เลย
ไพลินได้แต่ส่ายหน้าไปมา ฉันไม่กล้าพูดลอย ๆ ก็แค่กล่าวรายงานไปตามความจริงเท่านั้นเอง และเชื่อว่าคุณชายย่อมมีวิจารณญาณเป็นของตัวเองเช่นกัน
ธาวินสูบซิการ์มวนบางไปครึ่งมวน สีหน้ายังคงปกติตามเดิม มองไม่ออกถึงอาการยินดีหรือโกรธเคือง
เขาโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เธอออกไป ไพลินทำได้แค่หันตัวออกไปอย่างเงียบๆ
วินาทีที่เธอเปิดประตูห้องหนังสือนั้น ก็ตกใจกับใบหน้าอันเย็นชาของธิชาที่อยู่ด้านหน้า
ตอนที่เธออ้าปากจะพูดออกมา ธิชาก็ยื่นขาออกมาเพื่อขวางเธอเอาไว้
ไพลินไม่คิดสักนิดว่าด้านหน้าประตูห้องหนังสือจะมีคนกล้าแอบฟังเธอ อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าเนื้อหาที่ตนเองกับคุณชายพูดกันอยู่นั้นผู้หญิงคนนี้จะได้ยินสักกี่มากน้อยแล้ว
ช่วงเวลาตื่นตระหนกตกใจ อีกทั้งยังไม่มีการตั้งรับใดๆ จนทำให้สะดุดขาเธอ
ธิชาไม่คิดเลยว่าไพลินที่เป็นผู้หญิงแกร่งกล้าคนหนึ่งจะมีปฏิกิริยาตอบกลับได้เชื่องช้าขนาดนี้ เมื่อเห็นท่าทางที่ล้มกองอยู่ที่พื้นอย่างทุเรศทุรังแล้ว จนเธออดไม่ได้ที่จะเม้มปากแสดงอาการดีใจออกมา
เธอไม่ยิ้มก็ยังพอทนไหว แต่นี่ถึงกลับมีเสียงหัวเราะออกมาจนยั่วทำให้ไพลินโมโหทันที
เธอรีบลุกพรวดจากพื้นทันที พร้อมทั้งรีบทรงตัวบนรองเท้าสูงปลายส้นแหลมปรี๊ดด้วยท่าทางจองหองและตอบกลับไป คุณธิชานี่มันหมายถึงอะไร ฉันไปทำผิดกับคุณเหรอไง ถึงได้ทำเรื่องปัญญาอ่อนยื่นขาออกมาให้ฉันสะดุดมีแค่คุณเท่านั้นเหรอที่สามารถทำได้ใช่ไหม?!
ธิชาแสยะยิ้ม และเผยอปากเยาะเย้ย เมื่อเทียบกับคุณไพลินที่รู้ทั้งรู้ว่าไนต์คลับห้องนั้นเป็นถิ่นของคนอื่น แต่กลับจงใจผลักฉันให้ส่งไปตาย ความสามารถของฉันแน่นอนว่ามันไร้เดียงสาอยู่มาก ใครจะกล้าลงมือได้แสบทรวงกว่าคุณกัน
ไพลินถูกคำยอกย้อนจากเธอจนสีหน้าประหม่าออกมาทันที แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไร
ผู้ชายที่อยู่ในห้องหนังสือตื่นตระหนักกับเสียงของพวกเธอที่กำลังทะเลาะกันอยู่ และเดินมาถึงประตูด้วยสีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก
ไพลินเห็นว่าธาวินเดินออกมาแล้ว จึงรีบปรับความเฉียบคมบนใบหน้าของตนเอง พลันแสดงท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจในการอดทนอดกลั้นเอาไว้ พลางส่งเสียงกระซิบงึมงำอย่างอ่อนโยน คุณชาย…
สีหน้าของธิชาก็ไม่มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด เมื่อเห็นเขาก็ไม่ได้หือไม่ได้อืออะไรต่อ
ธาวินชำเลืองมองเธอ พลางเบนสายตาไปทางไพลิน นี่พวกคุณกำลังทะเลาะอะไรกันอยู่
ในใจของไพลินกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คำพูดจุกปากแต่ไม่กล้าจะเอาเรื่องยิบย่อยไปรบกวนเขา
แค่กลัวว่าตนเองจะคิดมากเกินไปจนไปยั่วอารมณ์ให้เขาโมโหขึ้นมา
เวลานั้นเธอก็ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรออกมา ทว่าธิชาได้แต่แสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา พลางพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึมแปลกพิกล ไม่รู้ว่าคุณไพลินไปทำอะไรที่ใจคอไม่สู้ดีมาเหรอถึงได้รีบร้อนจะออกไป พอเปิดประตูออกมาก็ร้อนรนจนไม่ยอมมองทาง โตขนาดนี้แล้ว ยังหกล้มได้ จนทำให้ฉันยังตกใจตามเลย
ไพลินมองเธอที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จนนัยน์ตาจะระเบิดอารมณ์ความโกรธอยู่แล้ว
ธาวินจ้องมองใบหน้าเล็กอันดื้อรั้นหัวชนฝาของธิชา ในใจคงคาดเดาเอาเองไปเรื่อยเปื่อยแล้ว
ซึ่งสีหน้าของเขาก็ยังคงเช่นเดิม พลางยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเธอ พลางดึงเธอเข้าหาด้านข้างของตนเอง พร้อมทั้งถามกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ทำไมอารมณ์คุณบูดบึ้งขนาดนี้เนี่ย ปกติแล้วไพลินทำงานเยอะมาก ตอนนี้ยังต้องคอยสอนคุณทำงานอีก เธออายุมากกว่าคุณตั้งสองปี ถึงอย่างไรก็ควรจะเรียกว่าพี่นะ โตป่านนี้แล้วทำไมถึงไม่เข้าใจกฎระเบียบบ้างล่ะ?
ไพลินได้ยินคำพูดของธาวินแล้ว ทั้ง ๆ ที่กำลังกล่าวโทษอย่างเปิดเผยอยู่ แต่ในทางกลับกันแสดงความหมายเป็นนัยน์ไม่ได้คิดเอาความใดๆ
เธอเสียหน้าเล็กน้อย คำพูดที่ต้องการจะฟ้องเลยทำได้แค่กลืนลงท้องไปทั้งหมด
ธิชาแสดงท่าทีเชื่อฟัง พร้อมทั้งยิ้มหวานให้เธอ พี่ไพลิน ต่อไปเวลาเดินก็ต้องระมัดระวังหน่อยนะ จะได้ไม่ล้มจนทำให้ตัวเองบาดเจ็บอีก เวลาก็ดึกดื่มแล้ว คุณควรจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ
หลังจากพูดจบ เธอก็มองใบหน้ารูปไข่อันวิจิตรงดงามไพลินที่กำลังหน้าชาอยู่ จนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกรธเคืองออกมาและหันหลังเดินกลับไป
ธิชาแสยะยิ้มอย่างได้ใจ เรื่องนี้ถือว่าจบกันสักที
นิ้วเรียวยาวของธาวินบีบปลายคางของเธอ ริมฝีปากอันงดงามอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ผมให้คุณไปเรียนรู้งานกับไพลิน แต่คุณนี่ดีจริง ๆ ไปโกรธเคืองอะไรกับเธอล่ะ?
เธอกะพริบตาไป แถมยังทำหน้าไร้เดียงสา ฉันจะกล้าไปอารมณ์เสียใส่พี่ไพลินได้ยังไงกัน ใครหน้าไหนไม่รู้บ้างว่าพี่ไพลินเป็นคนโดดเด่นมากในสายตาของคุณชายธาวิน แต่ว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าฉันเลยจงใจทำให้ฉันลำบากใจเท่านั้นเอง ฉันจะกล้าไปยั่วโมโหเธอได้ยังไงกันคะ
ธาวินเดินโอบตัวเธอกลับไปที่ห้อง และไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเล็กน้อยที่แสนน่าเบื่อพวกนี้เลย ได้แต่สอบถามเธอว่าช่วงนี้เรียนอะไรมาบ้างแล้ว
ธิชาตอบหมดเปลือก ตอนแรกในใจยังมีเรื่องบางอย่างค้างอยู่ เพราะว่าคอยกังวลว่าธาวินจะถามเรื่องเช็คใบนั้นขึ้นมา
ทว่ายากมากนักที่ธาวินไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเรื่องดนัยกฤตเลย เธอย่อมไม่เสนอหน้าพูดออกไปเอง เรื่องนี้เหมือนว่ามันไม่ได้ส่งผลจนสร้างปมอะไรในใจเขาเลย
ในทางกลับกัน เหมือนว่าธาวินเองก็ดีใจมากกับการพัฒนาของเธอที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งเป็นคนเอ่ยปากถามเธอก่อนว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญด้วยซ้ำ
ธิชาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ยากนักที่ธาวินจะใจกว้าง เธอไม่สามารถปล่อยผ่านโอกาสนี้ไปได้เลย
ปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับเธอในช่วงนี้คือความอิสระเพราะว่า ธาวินมักจะให้คนขับรถคอยติดตามเธออยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอไม่กล้าไปฉีดยาคุมที่โรงพยาบาลเลย
นอกจากนี้ ตอนนี้เธอไปอยู่สองที่คือที่มหาวิทยาลัยกับอยู่ในคลับ ถ้าไม่มีคนขับรถคอยตามอยู่ ตนเองก็ยิ่งไม่สะดวกเข้าไปใหญ่
ดังนั้นในใจของเธอคิดขึ้นมา พลางใช้เสียงกระซิบลองถามดู ฉันอยากได้รถยนต์หนึ่งคัน ไม่ว่าจะไปเรียนหรือว่าไปทำธุระอะไรก็จะได้สะดวกขึ้นค่ะ
ตอนที่เธอถามมีอาการหดหู่เล็กน้อย เพราะมีการเตรียมการถูกปฏิเสธกลับมาเอาไว้ก่อนแล้ว
หลังจากนั้นธาวินก็ไม่ได้มีท่าทางลังเลแต่อย่างใดเลย พลางพยักหน้าตกลงทันที
หลังจากนั้นหลายวัน ธิชาก็เห็นรถปอร์เช่คันใหม่กริ๊บจอดอยู่ด้านหน้าสนามของวิลล่า
สีรถยนต์แน่นอนว่าต้องเป็นสีชมพูระเรื่อ ไม่ได้เป็นสีที่ฉูดฉาดมากนัก แต่ก็สะดุดตาอยู่พอควร ยิ่งสาวๆ พอเห็นแล้วยิ่งทำให้ชื่นชอบกันยกใหญ่
ผู้ช่วยคนหนึ่งของธาวินเป็นคนเอารถมาส่ง
เขาเอากุญแจรถยื่นให้ธิชากับมือ
แถมยังท่าทางได้สอพลอเกินตัว และยิ้มหน้าบานตอนที่พูดออกมา ประธานธาวินได้สั่งจองกับทางโรงงานโดยตรง รถยนต์คันนี้ราคาแพงหูฉี่ และยังดำเนินการเอาเข้ามาจากโรงงานโดยตรงด้วยการสั่งทำ ขอแสดงความยินดีกับคุณธิชาด้วย สีนี้มันช่างเหมาะกับนิสัยของคุณเป็นพิเศษ
ธิชาเองก็แปลกใจมาก จนถึงขั้นตะลึงเล็กน้อย
ตลอดปีที่ผ่านมา ขนาดเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันธาวินยังขี้เหนียวกับเธอเลย อย่าได้เอ่ยถึงส่งของขวัญอะไรให้เลย
เงินที่ใช้สอยในชีวิตประจำวันกับค่ายาของณิชานาฎก็ได้มาจากการที่เธอไปนอนกับธาวินทั้งสิ้น ราคารถคันนี้อย่างน้อยหลายล้านมาก ถ้าธาวินไม่ได้ส่งให้เธอฟรี ๆ เธอเกรงว่าคงต้องหลับนอนถึงขั้นขาอ่อนก็ยังไม่ยอมให้นอนแล้วมั้ง…
####บทที่ 43 แต่ว่านี่เป็นสิ่งที่คุณหาเรื่องใส่ตัวเองนะ
ในมือของธิชากำกุญแจเอาไว้แน่น และยืนตะลึงอยู่นาน
เธอเริ่มคิดไม่ออกว่าทำไมธาวินถึงได้ซื้อรถที่ราคาแพงหูฉี่ขนาดนี้ให้กับเธอ เธอก็แค่ต้องการรถยนต์เป็นอุปกรณ์ในการเดินทางเท่านั้น และไม่กล้าเสนอข้อเรียกร้องพิเศษอะไรกับเขา
หรือว่าช่วงนี้เขาอารมณ์ดี เลยซื้อให้สักคันเท่านั้นเอง?
หรือว่า…นี่คือสิ่งชดใช้แทนคำพูดของเขาเหรอ?
คำว่าชดใช้สองคำนี้มันผุดขึ้นมาในหัวสมองของเธอในเวลานี้ จนทำให้เธอใจเต้นโครมคราม
ถ้าไม่ใช่ว่าเธออ่อนไหวมากเกินไปแล้วละก็ ระยะนี้ธาวินช่างดีกับเธอขึ้นบ้างแล้ว
ที่สำคัญคือตอนนี้เวลาพูดคุยกับเธอก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นแล้ว ฟังดูแล้วก็เหมือนว่าไม่ได้ต่อต้านกับเธอมานานมากแล้ว…
ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เหมือนว่าจะเกิดขึ้นหลังจากวันหมั้นหมายแล้ว
เขาแสดงละครฉากใหญ่ขนาดนั้น จนทำให้ชื่อเสียงของเธอป่นปี้ไป แถมความสัมพันธ์กับญาณินยังขาดสะบั้นอีก
จิตใต้สำนึกของธาวินรู้ตัวแล้วเหรอว่าตนเองช่างโหดร้ายเกินไป เลยจำใจเมตตาเธอบ้างแล้วสิ?
ธิชารู้สึกเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก
ในทางกลับกันธาวินก็ให้มาแล้ว งั้นเธอก็ไม่มีอะไรที่ต้องเกรงใจอีกแล้ว พลางขึ้นรถแล้วลองขับออกไปกินลมชมวิวทันที
……
ธิชาไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับรถยนต์คันนี้ และก็ไม่เลือกมาก แถมยังขับได้คล่องมือเลยขับอยู่ทุกวัน
ทว่ารถยนต์ปอร์เช่สีชมพูบลอนด์ที่สั่งจองโดยเฉพาะมันช่างทิ่มแทงลูกนัยน์ตาของไพลินอย่างหนักหน่วง
รถสปอร์ตคนสีแดงของไพลินคันนั้นธาวินเป็นคนซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดในปีนี้
เธอหลงรักมาก ทั้งปลื้มสุดๆ ตอนขับมาทุกวันก็ยิ่งภาคภูมิใจมาก เหมือนว่าตอนที่ขับรถอยู่ก็เหมือนได้อวดความรักของธาวินที่มีต่อเธอเลย
ทว่าในเวลานี้ มีบางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
ความรู้สึกในการถูกเอาใจอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอดมันแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว
ความรู้สึกอันตรายที่อยู่ในใจของไพลินมันเข้าขั้นวิกฤตแล้ว กลัวว่าตอนที่ธาวินใกล้จะประกาศงานแต่งงานกับตระกูลมงคลวัชรกุล เธอกลับไม่เคยมีตัวตนอยู่แล้ว
ข่าวคราวก็ไม่รู้ว่าไปหลุดออกมาจากคนปากมากคนไหน
เหมือนว่าแค่คืนเดียวผู้คนต่างรู้เรื่องปอร์เช่ของธิชาเป็นของขวัญที่ธาวินสั่งทำให้เธอโดยเฉพาะ
ทว่าในสายตาทุกคนก็ไม่ได้ตาบอดจนมองไม่ออกว่า รถสปอร์ตสั่งทำคันนี้ ราคามันเกินค่ามากกว่าเงินสองล้านที่เธอเอามาได้จนเห็นได้ชัด
พอเรื่องนี้เกิดขึ้น ชื่อเสียงลือนามของธิชาที่อายุยังน้อยหน้าตาสวยแถมยังรักหลงเป็นคนโปรดมากก็ดังกระฉ่อนออกไป ไม่เพียงแต่บรรดาลูกน้องของไพลินเท่านั้น ขนาดทุกแก๊งก็ต่างได้ยินข่าวนี้กันทั้งหมด
ความเก่งกาจเฉพาะตัวของไพลินเหมือนว่าโดนข่าวใหม่ของธิชากลบข่าวไปหมดแล้ว
ในสายตาของเธอนั้นยิ่งนานวันเข้าก็ทนสภาพไม่ได้กับการที่ต้องปล่อยผ่านยัยคนหน้าเงินที่กำลังอ่อยให้พี่ชายต่างแม่ไปได้
…………
หลังจากช่วงบ่ายของวันนี้ ไพลินก็มาส่งเอกสารให้กับธาวินที่วิลล่า
ธาวินอยู่ที่ห้องหนังสือด้านบน ดังนั้นคนที่ไพลินเจอเป็นคนแรกก็คือญาณิน
ญาณินนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา สีหน้าดูย่ำแย่มาก
อาจจะเป็นเพราะว่าในห้องรับแขกไม่มีคน เธอเลยไม่ต้องปกปิดความรู้สึกของตนเองเอาไว้ ราวกับกำลังเอาความอิจฉาและความโกรธเกลียดที่มีต่อผู้หญิงคนหนึ่งเอามาไว้อยู่ในดวงตา
ญาณินถูกบีบจนใกล้จะประสาทเสียอยู่แล้ว
เดิมเธอก็คิดว่าตนเองสามารถทนได้ เพราะว่าเธอนั้นรักธาวินจริง ๆ พร้อมทั้งยินยอมลงทุนมหาศาลเพื่อจะได้แต่งงานกับเขา
แค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ไม่สามารถจะมาเป็นอุปสรรคขวางทางเธอได้เลย
แต่ว่าตอนนี้เธอยังเข้ามาอยู่ในตระกูลอย่างเป็นทางการ และยังไม่เคยนอนห้องเดียวกันกับธาวินอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ แต่ธิชาดันอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างเปิดเผย
ผู้อาวุโสของตระกูลมงคลวัชรกุลต่างเกลี้ยกล่อมเธอให้อดทนเอาไว้ แม้ว่าจะจัดการให้ธิชาตายคามือ ก็ต้องรอโอกาสที่ประจวบเหมาะ
รอจนเธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอก็คือนายหญิงของตระกูลธนาภูวนัตถ์
ก็แค่ภาระที่เอามาฝากไว้มันจะสักแค่ไหนกันเชียว เธอมีวิธีการเป็นร้อยเป็นพันที่ทำให้ธิชาตายอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
แต่ในเวลานี้ เธอทำได้แค่ตนเองตาบอดไปเท่านั้นเอง
แต่การแกล้งตาบอดนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายขนาดนั้น
วันนี้เธอรู้ว่าธาวินจะกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน เธอจึงได้แต่งตัวเป็นพิเศษเพื่อจะได้มาอยู่กับเขา
จากนั้นตอนที่เธอกำลังมุ่งหน้าเดินไปทางห้องอาหารนั้น พลันได้ยินเสียงกรีดร้องครวญครางของหญิงสาวดังระงมอย่างสดใสมาจากในห้องอาหาร
ญาณินระงับความแปลกใจของตนเองเอาไว้ไม่อยู่ เธอยืนอยู่ในตำแหน่งด้านข้าง เพื่อไม่ให้เปิดเผยเงาร่างกายของตนเอง และสามารถมองเห็นภาพในห้องอาหารจากมุมนี้ได้
ธิชาถูกธาวินกอดและกดทับลงบนโต๊ะอาหาร
ขาข้างหนึ่งของเขาเบียดแทรกหัวเข่าของเธอทั้งสองข้าง ส่วนมือนั้นราวกับกำลังหยิบอาหารเพื่อป้อนเข้าปากของธิชา
ธิชาเหลือบมองเวลา จนสีหน้าแสดงอาการร้อนรนออกมา จนใช้มือทั้งสองข้างวางตรงแผ่นอกของเขาและดันเขาออกอยู่สองครั้ง
ฉันจะเข้าเรียนสายแล้ว ธาวินคุณอย่าก่อกวนนะ!
ธาวินใช้มือข้างหนึ่งบีบเค้นบริเวณเอวคอดของเธอ แถมสีหน้าไม่แยแสและพูดออกมา ผมไม่สนใจ มันยากมากนะที่ผมจะกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน คุณต้องนั่งกินข้าวให้หมดเป็นเพื่อนผม
ธิชาขมวดหัวคิ้ว แต่ถ้าฉันสายต้องถูกหักคะแนนตั้งใจเรียนนะ
ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาจ้องมองเธอเอาไว้ แววตานั้นแสดงความรักและเอ็นดูอย่างที่ญาณินไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาถกกระโปรงของธิชาขึ้นมาทันที พร้อมทั้งใช้ฝ่ามือใหญ่มุดแทรกเข้าไปด้านในจน ธิชากรีดร้องออกมาอย่างเศร้าโศก
อย่า อย่าหาเรื่องเลย ธาวินคุณทำเกินไปแล้วนะ!
ธาวินลูบคลำเธอแต่ยังไม่พอ จากนั้นก็ประกบตัวพร้อมทั้งจูบเธอทันที และการจูบนั้นอ้อยอิ่งเนิ่นนาน เหมือนว่าเขาจูบอย่างหนักหน่วง จนตอนสุดท้ายนั้นใบหน้าของธิชาถือกลับแดงแจ๋ทั่วใบหน้า
ธิชาย่นคิ้วหากัน สีหน้าไม่ดีใจเอาซะเลย แถมยังยกต้นขาเปล่าเปลือยทั้งสองข้างขึ้นมา
คุณเล่นสนุกพอหรือยัง ฉันจะสายจริงๆ แล้วนะ
รอยยิ้มของธาวินช่างชั่วร้ายมาก ราวกับเด็กผู้ชายตัวโตที่ชอบเล่นสนุกๆ ที่ทำยังไงก็มัวแต่ไม่ยอมปล่อยมือจากของเล่นที่ตัวเองรัก
เขาก็พูดอย่างร้ายกาจและชั่วร้ายออกมา ให้คุณมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนผมให้หมดดีๆ คุณก็ไม่ยอม นี่ถือว่าคุณหาเรื่องใส่ตัวเองนะ!
ธิชาไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เห็นว่าเขาแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตรงเนินนมของเธอออก พลางประกบตัวและจัดการเม้มกัดทันที
ธิชาอายจนหน้าแดงพร้อมทั้งผลักศีรษะของเขาออกทันที คุณมันโรคจิต เจ็บนะ คุณกัดฉันเบาๆ หน่อย คุณทำให้ฉันเจ็บแล้วนะ….
ญาณินเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนถึงได้จ้องมองหนังสดอย่างคนโง่เขลาไปได้นะ
แต่ว่าเธอก็ควบคุมตนเองไว้ไม่ได้
บางทีธาวินเริ่มแรกคือแกล้งหยอกเธอเล่น แต่พอเล่นเพลินไปหน่อยจนอารมณ์ปะทุมาแล้ว ผู้ชายอายุขนาดนี้แล้วพอคิดเรื่องนี้ขึ้นมา มันก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
ญาณินจ้องมองตาโตตอนที่เขาจูบด้านบนกับเธอแล้วยังไม่พอ
เขาจัดแจงยกขาทั้งสองข้างของธิชาขึ้นทำให้เป็นรูปแบบตัว M ซึ่งแยกออกจากกันอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างเปิดเผย
เขาก้มศีรษะลง จากนั้นก็เริ่มบรรเลงจูบลงไปจนธิชากรีดร้องเสียงดังลั่นอย่างสบายใจ ราวกับปลาโลมากำลังร้องเสียงครวญครางอยู่เช่นนั้น….
ดวงตาของญาณินเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงฉาน มือทั้งข้างกำหมัดแน่น แถมยังเกลียดจนร่างกายสั่นสะท้าน
ธาวินในใจของเธอนั้นก็เหมือนกับจักรพรรดิที่ยังมีชีวิตอยู่ อยู่เหนือคนอื่น ไม่สัมผัสมลทินใดๆ
ทว่าเขากับทำเรื่องพรรค์นี้ก็เพื่อธิชา…
ตั้งแต่ญาณินคบหาดูใจกับเขามาตลอด ขนาดฝันยังไม่กล้าจะคิดเลย
เธอได้ยินเสียงขาดๆ หายๆ ของอีดาวยั่วธิชา จนปรารถนาอย่างแรงกล้าต้องการถือมีดปอกผลไม้พุ่งเข้าไปแทงเธอให้ตายเสียจริง
แต่ว่าเธอกล้าไหม
เธอไม่กล้า
เพราะว่าเธอรู้ว่าถ้าเธอกล้าแตะต้องธิชา ธาวินจะเอาชีวิตของเธอทันที
แต่เธอเป็นคุณนายธนาภูวนัตถ์นี่ ส่วนนังธิชานั่นมันก็แค่อีผู้หญิงเลวที่ไม่มีอนาคตคนหนึ่งเท่านั้นเอง
……
หลังจากความบ้าคลั่งในห้องอาหารจบลงแล้ว ธิชาก็รีบจัดแจงตนเอง พร้อมทั้งใส่เสื้อผ้าและรีบหนีออกมาทางด้านนอก
ตอนที่เธอหนีออกมานั้นญาณินก็หลบซ่อนตัวแล้ว เธอยืนอยู่ในมุมมืด พร้อมทั้งมองเห็นธิชาโดนชายหนุ่มเอาจนบํารุงได้มาจนร่างกายอิ่มเอิบแล้ว
……
ในเวลานี้เอง ไพลินสังเกตสีหน้าของญาณิน
เธอไม่เพียงแต่เอาใจผู้ชายเก่งเท่านั้น และยิ่งเข้าใจผู้หญิงด้วยกันมากพอ และยิ่งไปกว่านั้นคืออารมณ์ความรู้สึกตามความเป็นจริงที่ไม่รู้จักการปกปิดของญาณินคุณหนูพันล้าน
ไพลินยิ้มแย้มแจ่มใสและเดินไปยืนตรงหน้า และถามกลับด้วยความเป็นห่วงเป็นใย คุณนายอารมณ์ไม่ดีเหรอ?