แต่ว่าปฏิกิริยาของธาวินได้อยู่นอกเหนือการคาดเดาของเธอ
เขาขมวดคิ้วแน่น นิ้วที่ได้บีบคางของเธอก็ได้ไปจับแก้มของเธอ
ลูบใบหน้าของเธอแบบไม่พูดอะไร
ธิชาเม้มปาก แล้วก็ได้ตบมือของเขาออก พูดอย่างเย็นชาว่า ฉันไม่มีทางที่จะขอร้องให้พี่ช่วยฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นพี่ที่ได้ผลักฉันไปตายเอง ให้ฉันรับกรรมแทนพี่ ถ้าเกิดฉันตาย ก็ได้ตายเพราะน้ำมือของพี่ ทำไมฉันต้องไปขอร้องคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องแบบพี่?
ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มก็ยังไม่มีสีหน้าหงุดหงิด
ผ่านไปสักพัก เขาก็ได้พูดออกมาสั้นๆ ว่า เธอขอร้องฉัน ฉันก็คิดหาวิธีช่วยเธอ
อยู่ๆ ธิชาก็ได้ทำตาโต ไม่รู้ว่าเพราะตะลึงหรือว่าโกรธ
มือสองข้างของเธอก็ได้วางอยู่ที่น่อง กำหมัดแน่น แล้วก็ส่ายหน้าอย่างแรง ได้พูดออกไปอย่างแน่วแน่ว่า ฉันไม่ขอร้องพี่ ตายไปก็ดี ก็ให้ตระกูลมงคลวัชรกุลใช้โอกาสนี้เอาคืนฉันให้สาสม ไม่ต้องให้ฉันรอดกลับมา ตายไปแล้วก็ไม่ต้องมาเจอพี่แล้ว ธาวิน ฉันนั้นอยากที่จะหลุดพ้นมันให้ได้โดยเร็วจริงๆ
เธอพูดไปถึงท้ายๆ ก็ได้เริ่มสะอึก
จากนั้นเธอก็ได้โกรธตัวเองในใจอย่างอดไม่ได้
รังเกียจตัวเอง
ไม่ใช่เพราะว่าได้ตัดใจอย่างเด็ดขาดจากเขาไปแล้วเหรอ
เดิมทีธาวินก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีความเป็นคนอยู่ เธอถึงได้ผิดหวังขนาดนี้ทำไม
บ้าไปแล้วเหรอ
ต่อหน้าผลประโยชน์มากมายนั้น ธาวินก็ได้ใช้เธอเป็นเหยื่อแล้วส่งให้ตระกูลมงคลวัชรกุล
ไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่นิด
……
ธิชาก็ได้กำหมัดแน่น ในความคิดนั้นเธอได้ใจเย็นมาก ไม่ยอมแพ้แม้แต่นิด
แต่แล้วเธอกลับรู้สึกถึงมือที่ใหญ่ของธาวินได้มาจับใบหน้าเธออีกครั้ง
เขาขมวดคิ้ว นิ้วที่หนานั้นก็ได้จับไปมาตรงแก้มของเธอ แล้วก็ได้เช็ดคาบน้ำตาของเธอไปทีละนิด
เขาที่ดูเหมือนว่าเยือกเย็น แต่ว่าในน้ำเสียงนั้นก็ได้มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกซ่อนไว้อยู่
เขาได้เช็ดน้ำตาให้เธอไป แล้วก็ได้ถามเธออย่างจริงจังไป ไหนๆ ก็อยากที่จะหลุดพ้นแล้ว เธอร้องไห้ทำไม?
แววตาของธิชาก็ได้อึ้ง ก็ได้มองเขาอย่างทำตัวไม่ถูก
จากนั้นก็ได้รีบถอยหลัง หลบมือของเขา
เธอเหมือนว่าไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังร้องไห้
ในตอนที่ไม่รู้ตัวนั้นน้ำตาก็ได้ไหลออกมาอย่างไม่ได้ควบคุม
ปอดแหกจริงๆ ขายหน้าชะมัด
ตัวของเธอก็ได้ถอยหลัง หวังที่จะหลบเขา
แต่ว่าความเสียใจที่ไม่สามารถจะกดมันได้ก็ได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
สองมือของเธอก็ได้ปิดหน้า แทบที่อยากจะกดน้ำตาที่ได้ไหลออกมาอย่างไม่ฟังเธอกลับไปให้หมด
ฉันร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย ฉันก็แค่รู้สึกว่าตัวเองนั้นน่าสงสารเกินไปแล้ว……อย่างน้อยฉันก็ได้รู้จักกันนายมาสิบเอ็ดปีแล้วนะ ธาวิน ก็ได้นานกว่าครึ่งชีวิตที่ฉันมี……ฉันเป็นน้องสาวตามกฎหมายของนายเพียงคนเดียว ก็ได้เรียกนายว่าพี่มาสิบเอ็ดปี……ถึงขั้นที่ว่าฉันได้นอนกับนายมาแล้วหนึ่งปี!
ธิชาคุกเข่าบนพื้นคอนกรีตเป็นเวลาหลายชั่วโมง ร่างกายได้แข็งจนขยับแทบไม่ได้ ตอนที่ขยับนั้นก็พบว่าเข่าของตัวเองได้ชาจนไม่เป็นเข่าของตัวเองแล้ว
เธอนั้นกลับไม่สนความเจ็บปวดของร่างกาย ใช้สองมือมาปิดตาของตัวเองแน่น ก้มหน้าลง
อย่างน้อยฉันก็ถูกนายเอามาแล้วหนึ่งปี หนึ่งปีนะ……ต่อให้เป็นโสเภณีหรือนางบำเรอก็น่าจะถูกเอาจนเกิดความผูกพันแล้วไหม แต่ว่านายก็ได้ส่งฉันไปตายอย่างไม่รู้สึกอะไรเลย!
ท่าทางที่เสียสติไปของธิชาขนาดตัวเธอเองก็รู้สึกไม่คุ้นเคย
ต่อจากนี้ขนาดตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไป
เธอรู้แค่ว่าตัวเองกำลังด่าเขา
แทบที่จะเทศัพท์ที่หยาบคายทั้งหมดในสมองออกมาสาปแช่งเขา
แต่ว่ายิ่งด่าแรงไปเท่าไหร่
เธอก็ยิ่งเกลียดตัวเองเท่านั้น……
ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่โง่ขนาดนี้แบบเธอนะ
เธอได้เยาะเย้ยญาณินว่าโง่ไร้เดียงสา แต่ว่าตัวเองก็ได้โง่กว่าญาณินอีก!
เธอคิดว่าธาวินได้ทรมานเธอ ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อที่จะเอาคืนณิชานาฎ
เธอคิดว่าในใจของธาวินตัวเองยังมีความสำคัญอยู่บ้าง
ถ้าเกิดว่าได้เกลียดเธอมากๆ จริงๆ ทำไมเขาไม่ฆ่าเธอไปเลยล่ะ หรือว่าส่งเธอออกไป ชาตินี้ไม่ต้องให้เธอกลับมาอีก ไม่ต้องเจอกันอีกไม่ดีกว่าเหรอ
แต่ว่าเขานั้นกลับได้รั้งตัวเองไว้เพื่อทรมานอยู่ข้างๆ
ธิชาคิดว่านี่เป็นเพราะว่าเขาทำใจเสียเธอไปไม่ได้
ความรู้สึกตลอดสิบปี จะบอกว่าให้ลืมไปให้หมดแล้วก็จะลืมไปได้หมดได้ยังไง
แต่ว่าเธอก็ได้ทนอยู่มาหนึ่งปี เป็นนางบำเรอไม่มีราคาให้เขาเล่นตามใจมาหนึ่งปี
มาถึงตรงนี้แล้วกลับพบว่าตัวเองนั้นคิดผิดแล้ว
ธาวินไม่ได้สงสารอะไรเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้จ้องมองเธอตกกับดักที่ญาณินสร้างขึ้นกับตาแบบไม่มีการห้ามแบบนี้
เขาก็แค่อยากเล่นเธอ ชอบเห็นเธอเจ็บปวด
ขนาดความรู้สึกแบบพี่น้องทั่วไปก็ไม่มีให้ แล้วจะเอาอะไรไปพูดว่ารักเธอ
ตอนนี้เธอก็ได้ตาสว่างสักที แต่ว่าก็เหมือนว่าได้สายไปแล้ว
……
ธาวินก็ได้มองเธอที่ระเบิดอารมณ์เงียบๆ
รอให้เธอร้องไห้จนหายใจไม่ออกแล้วนั้น เขาถึงได้เข้าไปแล้วก็กอดเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ฝ่ามือที่ใหญ่ก็ได้ตบหลังของเธอให้เธอหายใจสะดวก
ธิชาก็ได้ร้องไห้จนหมดแรง อยากที่ผลักเขาออกแต่ก็ไม่มีแรง
เขาก็กอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่น
น้ำเสียงก็ได้นิ่งเรียบเหมือนเดิม
ด่าเสร็จหรือยัง?
คนในอ้อมกอดนั้นตัวได้อ่อนไปหมด พิงอยู่ในอ้อมกอดของเขาไม่พูดอะไร
ธาวินก็ได้นวดท้ายทอยเธอสักพัก
ด่าเสร็จแล้วก็ใจเย็น แล้วฟังที่ฉันพูด
พรุ่งนี้ฉันจะให้พงศ์พนาส่งเธอไปต่างประเทศ อยากจะไปประเทศไหนก็เลือกเอง ออกไปแล้วก็มีแม่บ้านแล้วก็บอดี้การ์ดทำหน้าที่ดูแลเธอเหมือนเดิม อยากจะเรียนโรงเรียนอะไรค่อยเลือกอีกทีก็ได้ เธอโตแล้ว รู้จักเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง ออกไปแล้วก็ใช้ชีวิตดีๆ ต้องการอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอด ตอนที่ติดต่อฉันไม่ได้ก็ติดต่อพงศ์พนา
ธิชาได้ยินแบบนั้น สมองก็เหมือนได้หยุดทำงาน เลือดในร่างกายได้หยุด ไม่ขยับต่อ
ชายหนุ่มก็ยังใช้น้ำเสียงที่นิ่งเรียบสั่งเสียเธอเหมือนเดิม แต่ว่าประโยคต่อมาทั้งหมดสมองของเธอก็ได้หยุดรับไปแล้ว ฟังไม่ชัดเลยแม้แต่คำเดียว
รอให้เธอนั้นบังคับให้ตัวเองตั้งสติให้ได้
เธอก็ได้ผลักธาวินออกจากอ้อมกอด มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ที่แท้ตอนที่เขาจะมาเก็บหลักฐานโยนความผิดให้เธอนั้น ก็ได้คิดทางหนีให้เธอแล้ว?
ส่งเธอออกประเทศ ส่งไปที่ที่ตระกูลมงคลวัชรกุลไม่มีทางที่จะหาเจอ นี่ก็เป็นแผนที่เขาได้คิดให้เธอเหรอ?
ธิชาได้สับสนจนไม่มีกะจิตกะใจไปด่าเขา
เธอได้จ้องมองเขาอยู่นาน ในที่สุดก็ได้ถามอย่างอึ้งๆ พี่จะส่งฉันออกประเทศ?
ใบหน้าของธาวินได้นิ่งเรียบ ก็ยังมีสีหน้าที่ไม่มีความรู้สึกอะไร ทำให้ธิชาที่มองอยู่นั้นอยากที่จะฉีกหน้าของเขาเป็นชิ้นๆ
เขาได้เม้มปาก ก็ได้พูดสั้นๆ ว่า นี่เป็นทางเดียวที่ช่วยเธอได้ ส่งเธอไปต่างประเทศ รอให้ฉันจัดการตระกูลมงคลวัชรกุล ค่อยไปรับเธอกลับมา
ธิชาก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ ก็ได้พยายามกดความโมโหที่แทบจะถ่มน้ำลายใส่บนหน้าเขา
งั้นฉันต้องไปกี่ปี สามห้าปี สิบปี ยี่สิบปี?! เบื้องหลังของตระกูลมงคลวัชรกุลในเมืองJมันลึกมาก เป็นตระกูลหมื่นล้านชื่อดัง พี่ต้องรอให้ตระกูลมงคลวัชรกุลฉิบหายแล้วจริงๆ ถึงได้รับฉันกลับมาเหรอ? ฉันจะอยู่รอดรออยู่ถึงตอนนั้น?
ธาวินก็ได้มีใบหน้าหมดความอดทนเล็กน้อย
เขาก็ได้นวดหว่างคิ้ว อาจเป็นเพราะว่าถูกเธอโวยวายจนรำคาญแล้วจริงๆ
ก็ได้พูดไปงั้นๆ ว่า ไม่นานขนาดนั้น น้อยที่สุดครึ่งปี อย่างมากก็สองสามปี