ผ่านไปสักพัก ในห้องคุมขังที่หนาวเย็นก็เหลือแค่สองพี่น้อง
ตั้งแต่ต้นธิชาไม่ได้ขยับเลยสักนิด ก็ได้คุกเข่าอยู่ตรงนั้น ก็ยังมีสายตาแบบเดิม เหมือนกับเป็นความดื้อรั้นอย่างหนึ่ง
คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ได้ถอยลงไปแล้ว ธาวินก็ได้ก้าวไปข้างหน้ากี่ก้าว จับแขนของเธออยากที่จะประคองเธอขึ้นมา
ธิชากลับดิ้นรนปฏิเสธ ไม่ยอมให้เขาประคอง
เธอคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ขยับ ก็เหมือนกับรูปปั้นคนอย่างนั้น
ธาวินไม่สามารถที่จะประคองเธอลุกขึ้นได้ ก็ได้ขมวดคิ้วแล้วก็นั่งยองๆ ตรงหน้าเธอ
ในที่สุดธิชาก็ได้หันหน้ามามองเขาตรงๆ ก็ได้พูดออกไปเสียงเบาแต่ก็เป็นการประชดออกไปว่า พี่น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ผลักเธอ ถ้าเกิดฉันอยากที่จะทำร้ายเธอ ก็ไม่จำเป็นที่จะให้เธอนั้นอยู่ตรงหน้าฉันอย่างดูดีมีสุขว่าหลายเดือนแบบนี้
ใบหน้าที่เย็นชาของธาวินทำให้มองความรู้สึกไม่ออก
เธอเคยคิดว่าตัวเองนั้นรู้ใจธาวินดีที่สุด
ยังไงซะเธอกับเขาได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ บนโลกนี้ไม่มีใครแล้วที่สามารถที่จะสนิทกับธาวินอย่างไม่มีช่องว่างเหมือนเธอแล้ว
แต่ว่าพอเธอยิ่งโตขึ้น ก็ยิ่งพบว่าหลายๆ ครั้งเธอมองเขาไม่กระจ่าง
ก็เหมือนเวลานี้
ธาวินก็ได้ยื่นมือไปจับคางของเธอ เรื่องมันมาถึงตรงนี้แล้ว ความจริงมันไม่ได้สำคัญ ตระกูลมงคลวัชรกุลคิดว่าการเป็นอยู่ของเธอเป็นอันตรายต่อจุดยืนของญาณิน พวกเขาอยากกำจัดเธอ
เธอก็ได้กระตุกมุมปากยิ้ม เห็นทีพี่ก็ไม่ได้หน้ามืดตามัว สำหรับพี่แล้วความจริงไม่สำคัญ ลูกจะเป็นหรือตายกับพี่มันก็ไม่สำคัญ ที่พี่ให้ความสำคัญมันก็คือผลประโยชน์ที่ตระกูลมงคลวัชรกุลพามาให้พี่ ก็แค่นั้น
ธาวินเม้มปาก ไม่ได้เถียง
ธิชาก็ไม่รู้ว่าตัวเองไม่พอใจหรือว่าโชว์โง่กันแน่
เธอก็ได้มองหน้าของธาวิน ก็ได้พูดไปทีละคำว่า ฉันก็เป็นแค่เหยื่อในผลประโยชน์ของพวกพี่ ก่อนที่จะส่งตัวฉันให้ตระกูลมงคลวัชรกุลนั้น ฉันขออะไรเป็นครั้งสุดท้ายจะได้ไหม?
ธาวินที่ได้จ้องมองใบหน้าเธออย่างลึกซึ้ง
ปฏิกิริยาของธิชาอยู่เหนือความคาดหมายของเขา
เดิมเขาคิดว่าเธอจะโวยวาย
เธอโง่ขนาดนี้ ต้องไม่พอใจที่คนอื่นมาใส่ร้ายเธอแบบนี้แน่ เรื่องที่ไม่ได้ทำต่อให้ฆ่าเธอเธอก็ไม่มีทางยอมรับ
แต่ว่าเหมือนว่าเธอได้เปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปจนไม่เหมือนกับเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาในตอนนั้น
เหมือนว่าเธอได้มองจุดจบของตัวเองเห็นแล้ว จึงแสดงออกอย่างสงบอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เขาก็ได้ถามอย่างใจเย็น ขอร้องอะไร
ญาณินได้วางแผนที่ไร้จุดบกพร่องแบบนี้ให้ฉันมาติดกับเอง เธอทำสำเร็จแล้ว ทำให้ฉันนั้นแบกความผิดที่ไม่อาจจะล้างไปได้ แต่ว่าแต่ราคาคือครรภ์สี่เดือนของเธอ เด็กคนนั้นเป็นความหวังที่มัดพี่กับเธอไว้แน่น ฉันสงสัยว่าเธอทำไมถึงได้ตัดสินใจสละชีวิตลูกของเธอ เพื่อที่จะให้ฉันตายแบบนี้?
สีหน้าของธาวินเฉยชา ก็เหมือนว่ากำลังได้บรรยายเรื่องที่เล็กน้อยที่ไม่เกี่ยวกับเขา ฉันได้บอกกับเธอไปนานแล้ว ลูกของญาณินไม่มีทางคลอดออกมาได้ เธอลืมแล้วเหรอ?
ธิชาขมวดคิ้ว
ได้ยินเขาอธิบายอย่างไม่มีอะไร สองวันก่อนญาณินได้ไปตรวจครรภ์ ผลตรวจออกมาว่าแม่กับลูกในครรภ์นั้นได้เกิดการต่อต้านกัน คุณหมอได้แนะนำให้เธอผ่าแท้ง ไม่อย่างนั้นเรื่องแท้งเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
เธอก็ได้มองธาวินตาโต ก่อนหน้านี้เธอก็ได้ไปตรวจครรภ์หลายครั้ง ผลก็ออกมาว่าดีอยู่นี่คะ ผลตรวจคราวนี้พี่เป็นคนวางแผน?
เขาก็ได้เม้มปาก สายตาก็ได้เฉยชา ฉันเปล่า
ธิชาก็ได้มีสีหน้าที่ไม่เชื่อ เธอก็ได้คิดอยู่นาน จากมุมของธาวิน จากไลฟ์สไตล์ของเขา แล้วก็จากสิ่งที่เขาได้พูดประโยคนั้นกับเธอเมื่อหลายเดือนก่อน
ลูกของญาณินไม่มีทางคลอดออกมาได้
เธอก็ได้คิดอยู่นานถึงได้มีความคิดบางอย่าง ก็ได้เปิดปากถามลองเชิงว่า พี่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่แน่อาจเป็นตอนที่เธอตรวจว่าตั้งท้องก็ได้เริ่มลงมือแล้ว……วางยาในอาหารและเครื่องดื่มของเธอ ยาเป็นยาที่ออกฤทธิ์ช้า ทำไปทีละขั้น ให้เธอและก็หมอนั้นจับไม่ได้ รอตอนที่ตรวจพบนั้นก็ได้ท้องสี่เดือนแล้ว ก็ได้สายไปแล้ว
ตอนที่ธิชาพูดสิ่งที่ตัวเองเดาออกไปก็ได้สังเกตดูสีหน้าของธาวินตลอด ไม่ได้พลาดสีหน้าของเขาแม้แต่นิด
เขาไม่ได้มีสีหน้าที่เยาะเย้ยออกมา
ก็หมายความว่า ที่เธอเดานั้นถูกเกือบทั้งหมด
ไม่กี่วันก่อนญาณินก็ได้ตรวจเจอความผิดปกติ รู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องแท้ง ก็เลยถือโอกาสที่ดีแบบนี้มาลงมือกับเธอ
ตอนนี้ลูกไม่มีแล้ว ความผิดก็ได้โยนมาให้เธอแล้ว
เธอก็ได้เป็นศัตรูของตระกูลธนาภูวนัตถ์กับตระกูลมงคลวัชรกุล
ธาวินไม่มีทางที่จะค้นผลตรวจออกมาเพื่อที่จะช่วยเธอ
จากอำนาจของตระกูลมงคลวัชรกุล พอสงสัย ก็จะใช้เส้นสายทางการแพทย์ทั้งหมด สุดท้ายไม่มากก็น้อยก็จะสืบได้ว่าเพราะอะไรถึงได้เกิดปัญหากับลูกในท้อง
ธาวินไม่มีทางที่จะเสี่ยงอันตรายเพื่อเธอ เพราะงั้นก็ได้ยอมรับคำให้การของคนใช้ไป ก็ได้ตัดสินโทษที่ญาณินใส่ร้ายเธอให้เป็นจริง
พอได้คิดเหตุผลทั้งหมดได้ ธิชาก็ได้หัวเราะออกมา
เธอก็ได้มองใบหน้าที่นิ่งเรียบของธาวิน ค่อยๆ ถามไปว่า ฉันถูกส่งให้ตระกูลมงคลวัชรกุลด้วยมือของพี่แล้ว ยังมีโอกาสรอดกลับมาไหม?
ธาวินไม่ได้มองเธอ ตระกูลมงคลวัชรกุลทำธุรกิจที่สุจริต ต่อให้ทำศาลเตี้ยเอง ก็ไม่มีทางที่จะทำให้ใหญ่โต คนที่ทำธุรกิจที่จริงจังชอบใช้เงินแก้ไขปัญหา ถ้าจัดการไม่ได้จริงๆ ถึงจะลงมือ แต่ต่อให้ลงมือก็ไม่มีทางฆ่าคน เพราะว่าคนตายมันพาความซวยมาให้
เธอมองหน้าของธาวิน ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้นั้นเย็นชาไร้ความรู้สึก
เขาไม่ได้เป็นคนที่โหดร้ายอะไรแบบนั้นแล้ว
แต่เขานั้นไม่มีความเป็นคนอยู่ตั้งนานแล้ว
ธิชาไม่รู้ว่าตระกูลมงคลวัชรกุลสามารถที่จะทำผลประโยชน์ให้เขาได้มากขนาดไหน
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า ความมากของผลประโยชน์นั้น ก็เพียงพอที่จะให้เขานั้นเสียสละน้องสาวของตัวเองไป
เธอก็ได้หัวเราะ ก็ได้พูดออกไปด้วยน้ำเสียงสบายว่า ไม่เอาชีวิตฉัน ก็น่าจะทรมานฉันจะเกือบตาย? ญาณินโง่ขนาดนั้น เธอคิดว่าคนที่เธอรักนั้นเป็นสุภาพบุรุษที่หล่อเหลา คิดว่าฉันที่เป็นนังจิ้งจอกได้ทำลายการแต่งงานที่เต็มไปด้วยความสุขของเธอ เธอคิดว่าขอแค่ฉันจากไป เธอก็สามารถที่จะใช้ชีวิตกับพี่ดีๆได้……พี่ว่า ญาณินจะทรมานฉันแบบไหน?
ธาวินก็ได้ทนกับนิสัยแปลกของเธอไม่ไหว
เขาก็ได้ขมวดคิ้ว ในที่สุดก็ได้มีสีหน้าที่ไม่มีความอดทนออกมา
นิ้วยาวก็ได้บีบคางของเธอ สายตาเขาก็ได้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น เม้มปากพูด ตระกูลมงคลวัชรกุลยอมรอแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้เธอยังอยู่ในมือฉัน ฉันยังไม่ส่งตัวเธอไป ธิชา ฉันก็ได้อยู่ต่อหน้าเธอ ทำไมไปขอร้องฉัน พูดอะไรแปลกๆ ไร้สาระพวกนั้นออกมาให้เสียเวลาทำไม ทำไมเธอไม่ขอร้องให้ฉันช่วยเธอ
ช่วยฉัน? คางของสาวน้อยก็ได้ถูกบีบจนเจ็บ
เธอก็ยังยิ้มเหมือนเดิม ภายใต้ใบหน้าที่ซีด รอยยิ้มก็ยังมีความงดงานที่อ่อนแอ
พี่อยากให้ฉันร้องไห้ขอร้องไม่ให้พี่ส่งฉันไปให้ตระกูลมงคลวัชรกุลเหรอ? พี่จะไม่รักษาสัญญาที่ให้กับพวกตระกูลมงคลวัชรกุลเพื่อฉันเหรอ? ฉันทำไมต้องโง่จนไปขอร้องกับสิ่งที่ไม่เป็นผล ในสายตาของพี่ ฉันกับณิชานาฎติดข้างพวกพี่พวกแซ่ธนาภูวนัตถ์ ชาตินี้ให้คืนก็คืนไม่หมด ตอนนี้ก็ได้มีโอกาสที่ฉันมาแบกรับโทษมาชดใช้ให้พี่ พี่น่าจะดีใจมากใช่ไหม ฉันขอร้องพี่ทำไม มีประโยชน์เหรอ?
ธิชาคิดว่าตัวเองได้พูดออกไปอยากชิค
คำพูดที่ตรงไปตรงมาแบบนี้ก็ได้แทงไปที่ใจของธาวินทุกคำ ก็ได้ผ่าจิตใจที่อำมหิตของเขาออกอย่างชัดเจน
เขาน่าจะหงุดหงิดมากแล้วใช่ไหม