ธิชารีบร้อนขึ้นมาแก้มแดงระเรื่อ แววตาก็แฝงด้วยความวิตกกังวล
น้ำเสียงของเธอจริงจังมาก ไม่เหมือนกว่าเป็นการพลั้งปากพูดออกไปเลยสักนิดเดียว
สีหน้าธาวินสงบเยือกเย็นอย่างที่ผ่านมา เขาเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ดึงตัวธิชาที่อยู่ในผ้าขนหนูยึดไว้ข้างผนัง
สายตาของเขาเยือกเย็นลึกล้ำ แฝงด้วยการข่มขู่คุกคาม คุณพูดว่าอะไรนะ
แผ่นหลังของธิชาแนบติดกับผนังอันเย็นเฉียบ ตรงหน้าคือแผงอกที่เปลือยเปล่าและร้อนรุ่มของเขา
เสมือนว่าถูกบีบอยู่ตรงกลางระหว่างน้ำแข็งและไฟ หนาวๆ ร้อนๆ อย่างทรมาน
เธอมองไปยังดวงตาของธาวิน ในหัวไม่อาจจำได้กระจ่างชัดเลยว่าเมื่อครู่พวกเขาทำเรื่องบ้าระห่ำอะไรกัน……
ยิ่งนึกย้อนกลับไปหน้าก็ยิ่งร้อนผ่าว
ความสัมพันธ์ของเธอกับธาวิน ตกลงว่า ตกลงว่าพัฒนาไปถึงขั้นนี้ได้อย่างไรกัน
เห็นชัดว่าเธอถูกบังคับ ไม่อาจที่จะขัดขืนได้เลย
แต่จนถึงวันนี้…..เธอเริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
สีหน้าของธิชาเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด เมื่อเธอนึกย้อนกลับไปว่าตนเองทำอะไรไปบ้างในหัวก็เต็มไปด้วยเหลือเชื่ออย่างไม่คาดคิด
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความอับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี……..
ตอนที่ญาณินใช้คำหยาบคายพวกนั้นมาดุด่าว่าเธอ แต่ถูกเธอปฏิเสธไปทั้งหมดเลย
ตอนนั้นเธอยังสามารถปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาดว่าตนเองไม่ใช่นังแพศยาที่ทำลายการแต่งงานของญาณิน
แล้วตอนนี้ล่ะ……
ตอนนี้เธอกำลังทำเรื่องอะไรอยู่!
ธาวิน พวกเราจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ญาณินเป็นว่าที่ภรรยาของคุณ ไม่ว่าระหว่างพวกคุณจะรักกันหรือไม่ หลังจากแต่งงานวางแผนจะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไร…..นี่เป็นปัญหาระหว่างพวกคุณ ฉันไม่ควรจะแทรกกลางระหว่างพวกคุณ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป…..ฉันก็จะกลายเป็นมือที่สามแล้วจริงๆ …..
เสียงของธิชาเบามาก ในน้ำเสียงแฝงด้วยความตื่นตระหนก
เธอรู้สึกว่าตนเองวิงเวียนศีรษะแล้วจริงๆ
รู้อยู่แก่ใจว่าตอนนี้ญาณินสามารถเข้าออกคฤหาสน์ได้อย่างอิสระตลอดเวลา เธอกลับยังมาพลอดรักกับธาวินในสระว่ายน้ำราวกับว่าอยู่กันตามลำพังไม่มีคนอื่น…ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก……
เรียกได้ว่า หน้าไม่อายอย่างที่สุด
คำพูดนี้ของธิชาพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด แต่พูดออกมาจากใจของตนเอง
แต่คำพูดนี้เห็นชัดว่าไปกระตุ้นเส้นประสาทบางอย่างของธาวินเข้า
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง ร่างที่แนบชิดเธอมีความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา
เขาหน้าบึ้ง รูม่านตาที่ปั่นป่วนเหมือนกำลังสะกดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่
กำลังดีอยู่แล้วเชียว เธอจะโวยวายอะไรอีก
น้ำเสียงของธาวินยังถือว่าเบาอยู่ ไม่ได้โกรธอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนกำลังกลั้นอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างอยู่
ธิชารีบส่ายหน้า ฉันไม่ได้โวยวาย ฉันก็แค่คิดว่าคุณบ้าไปแล้ว แล้วยังจะพาให้ฉันบ้าตามคุณไปด้วย ญาณินไม่ได้ทำอะไรผิด เธอก็แค่รักคุณ เต็มใจแต่งงานกับคุณ ไม่ว่าหลังแต่งงานคุณจะนอกใจกี่ครั้ง ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงดูผู้หญิงไว้ข้างนอกกี่คน แต่สถานะมือที่สาม….จะให้ฉันเป็นคนรับไว้ไม่ได้! พี่คะ ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไปแล้ว คุณให้ฉันย้ายออกไปนะ ขอแค่ฉันย้ายออกไป คุณกับญาณินจึงจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันตามปกติ
ธาวินหรี่ตามอง มีอารมณ์บางอย่างที่คาดเดาไม่ได้แฝงอยู่ในส่วนลึกของดวงตา
จู่ ๆ เขาก็ยื่นมือออกมากระชากผ้าขนหนูบนตัวของธิชาออก
ในหัวของธิชาสับสนวุ่นวาย ได้แต่ส่งเสียงร้องเบาๆ ขัดขวางไว้ไม่ทัน
ร่างสูงใหญ่ของเขาขวางอยู่ตรงหน้าเธอ ก็เหมือนภูเขาสูงตระหง่านลูกหนึ่ง บดบังไม่ให้เธอได้รับลม
ธาวินยกน่องข้างหนึ่งของเธอขึ้นมา ยืดตัวตรงแล้วกระแทกเข้าไปโดยไม่การเตือนล่วงหน้า
เธอไม่ได้ตั้งตัว ส่งเสียงร้องอย่างไม่พอใจ
รอจนเธอตั้งสติกลับมาได้อย่างไม่เต็มใจ พยายามส่งเสียงขัดขวางเขา
ธาวินกลับกัดที่ริมฝีปากเธอ จูบหนักหน่วงรุนแรง ราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปในท้องอย่างนั้น
เวลาที่เขาโหดร้ายขึ้นมาก็ไม่เคยเก็บอารมณ์ ยิ่งไม่สนใจว่าเธอจะทนไหวหรือไม่ ได้แต่กระแทกกระทั้นอย่างแรงอย่างกับเครื่องจักรกำลังตกเสาเข็ม
ธิชาเจ็บจนหน้าผากมีเหงื่อผุดออกมา พลันเบิกตาโพลงพูดอะไรไม่ออก
แม้จะทำมาปีกว่าแล้ว…..
แต่ขนาดของเธอและธาวินไม่เคยเข้ากันได้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะปรับจูนกันอย่างไรสำหรับเธอก็มีแต่ความเจ็บปวด
มีเพียงแค่ตอนที่สถานะและบรรยากาศอันเหมาะสม เธอจึงได้รู้สึกสบายขึ้นมา
ธาวินหยาบคายป่าเถื่อน เธอมีแต่จะยิ่งตื่นตระหนก ยิ่งเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ …….
……
ธิชาถูกเขากดขี่ข่มเหงอย่างได้ใจ เหมือนกับตัวโมเดลที่แข็งทื่อถูกเขายึดติดไว้กับผนัง
ชายหนุ่มสีหน้าเย็นชา หน้าตาแฝงด้วยความเกลียดชัง ร่องรอยที่เขาโอบกอดเธออย่างอ่อนโยนในสระว่ายน้ำเมื่อตอนบ่ายสลายหายไปแล้ว
เขามองความเจ็บปวดของธิชา มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มกว้างมากขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่เสียงก็แสดงออกถึงความสุขในการปลดปล่อย สบายมั้ย ที่แท้ก็ยังชอบถูกการถูกข่มขืนแบบหักดิบ วิธีที่อ่อนโยนเกินไปไม่เหมาะกับคุณ มันเป็นเรื่องง่ายดายที่จะให้คุณลืมตัวตนของเธอ เริ่มคิดฟุ้งซ่านถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงพวกนั้น
ธิชาเกลียดเขาที่เป็นนี้อย่างยิ่ง
แต่เพราะว่าเจ็บมากจริงๆ เธอยังอ้อนวอนขอร้องเบาๆ อย่าง เบาๆ หน่อยได้มั้ย เจ็บ เจ็บมากจริงๆ …
ธาวินยิ้มอย่างชั่วร้าย ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
จะเบาได้ยังล่ะ ก็อยากจะให้คุณเจ็บนี่ เจ็บถึงจะได้ตื่นตัว เห็นชัดว่าคุณชอบแบบนี้ ยิ่งเจ็บยิ่งรัดแน่น ของชั้นต่ำโดยพรสวรรค์แท้ๆ
ธิชามองดวงตาคู่นั้นของเขาแฝงด้วยความเกลียดชัง ไม่เพียงแค่ร่างกายที่ได้รับความอับอาย ด้านหลังสะโพกยังถูกกระแทกเข้ากับผนังครั้งแล้วครั้งเล่า จนเอวใกล้จะถูกกระแทกจนแตกแล้ว
เธอทั้งเจ็บทั้งเสียใจ
พูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า ทำไมคุณถึงไม่ยอมฟังฉันพูดอย่างใจเย็นบ้าง ญาณินคือคนที่คุณเลือกตระกูลมงคลวัชรกุลสำหรับคุณแล้วถือว่าสำคัญมากขนาดนั้น คุณทำเพื่ออำนาจผลประโยชน์ถึงขั้นยอมแลกด้วยการแต่งงานของตนเอง เช่นนั้นทำไมไม่จัดงานแต่งงานครั้งนี้ให้ดี ญาณินไม่ใช่ผู้หญิงไร้เดียงสาที่จะยอมให้ใครรังแกเหยียดหยาม สุดท้ายจะต้องมีสักหนึ่งที่เธอเหลืออด คุณ คุณจะปล่อยฉันไปไม่ได้เหรอ…. โอ๊ย!!
เธอเพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียวก็ถูกเขาจงใจทำให้เจ็บ เจ็บเหมือนถูกไฟแผดเผาอย่างนั้น ทำได้แค่หอบหายใจ แต่กลับไม่อาจแสดงท่าทีต่อต้านขัดขืนอะไรออกมาได้เลย
ธิชาน้ำตาไหลอย่างเงียบๆ ในหัวมีแต่ความสับสนวุ่นวายและความอัปยศอดสู
เธอไม่อาจหลุดพ้นจากธาวิน แต่มโนธรรมและความอดทนที่มีจำกัดทำให้เธอไม่อาจเห็นแก่ตัวเป็นมือที่สามได้
ยิ่งอยู่กับธาวินนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น….
นับตั้งแต่เริ่มความเจ็บปวดและการบีบบังคับร้อยเปอร์เซ็นต์ จนถึงวันนี้….เธอก็ยิ่งเหมือนเป็นผู้หญิงร่านสำส่อนอย่างที่ธาวินพูด
ธาวินคงจะไม่อยากได้ยินคำพูดไร้สาระใดๆ จากเธออีกต่อไป
พลางเอามือขึ้นมาปิดปากเธอไม่ให้เธอส่งเสียงอะไรได้อีก
บรรยากาศภายในห้องนอนเงียบสงบลงในชั่วพริบตา เงียบจนได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงของกันและกัน เสียงเรือนร่างที่ชนกระทบกันดังเปรี๊ยะๆ รวมถึงเสียงน้ำเหนียวๆ …..
……
รอจนเขาปลดปล่อยพอแล้ว
เขากดศีรษะธิชาบังคับให้เธอคุกเข่าลงกับพื้น
ใช้มือข้างหนึ่งเชยคางเธอ สั่งด้วยสีหน้าไร้ความปรานีว่า เลีย
ธิชาแสดงท่าทีต่อต้านอย่างไร้เสียงเป็นการปฏิเสธ
เขาไม่มีการลังเลเลยแม้แต่น้อย เงื้อมือขึ้นตบหน้าหนึ่งฉาด ทำให้ใบหน้าขนาดเล็กเท่าฝ่ามือสะบัดหันไปอีกด้าน
เสียงของธาวินราวกับมาจากในนรก
เลียจนกว่าจะสะอาด ไม่ยอมเลียก็อยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ หรือจะให้ฉันเรียกเพื่อนรักของคุณขึ้นมาสอนที่ชั้นบนด้วยตัวเอง