รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า – บทที่ 64 ส่งให้ตระกูลมงคลวัชรกุลไปจัดการ ไม่สนว่าเป็นหรือตาย

บทที่ 64 ส่งให้ตระกูลมงคลวัชรกุลไปจัดการ ไม่สนว่าเป็นหรือตาย

มือที่คุณนายญาณินได้ออกแรงตบนั้นก็ได้หยุดกลางคัน

บนใบหน้าที่หล่อเหลาของธาวินนั้นเหมือนว่าไม่ได้มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย เขาก็ได้คว้าแขนของคุณนายญาณินอย่างไม่ได้ออกแรง จากนั้นก็ได้ปล่อยออก

ธิชาก็ได้มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในความสับสนวุ่นวาย

ธาวินก็ได้ขวางมือที่จะตบมาที่เธอ

แต่เธอมองไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้ทำแบบนี้ออกมาในฐานะอะไร

แต่ก็ได้ยินเสียงที่เศร้าของเขาว่า  ธิชามีความน่าสงสัยมากที่สุดก็จริง แต่ว่าความสงสัยไม่ได้รับการยืนยันที่ชัดเจน ผมให้คำสัญญาอีกครั้งว่า ถ้าเกิดเป็นธิชาที่ได้ผลักญาณินตกลงมาจนแท้งจริง ไม่ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจหรือว่าตั้งใจทำจริงๆ ผมก็จะส่งเธอไปให้ตระกูลมงคลวัชรกุลของพวกคุณ ให้พวกคุณจัดการเอง 

ธาวินก็ได้พูดออกมาทีละคำด้วยเสียงต่ำ ความน่ากลัวในตอนนั้นไม่ให้โอกาสคนอื่นแสดงความเห็น

ในห้องผ่าตัดที่ได้วุ่นวายเมื่อกี้นั้นก็ได้เงียบลงทันที ไม่มีใครกล้าที่จะพูดขัด

 แต่ว่าก่อนที่จะมีหลักฐานมามัดตัวนั้น ธิชาก็ยังเป็นคนของตระกูลธนาภูวนัตถ์ ไม่ว่าใครก็แตะตัวเธอไม่ได้ ยิ่งจะลงโทษเองยิ่งไม่ได้ 

เห็นได้ชัดว่าคุณนายญาณินได้ถูกออร่ารอบๆ ตัวเขากดลงไปแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่พอใจเหมือนเดิม

สีหน้าเอไม่เป็นมิตร ก็ได้พูดประชดไปเล็กน้อยว่า  ไหนๆ คุณชายธาวินก็ได้พูดออกมาแล้ว รับปากกับตระกูลมงคลวัชรกุลของพวกเราแล้วว่าจะเรียกความยุติธรรมให้ งั้นพวกเราก็ยอมรอ! แต่ว่าก่อนที่จะตรวจสอบได้ความจริงมานั้น จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้หรือเปล่า ถ้าเกิดเธอซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วก็หนีไปต่างประเทศล่ะ หรือว่าตระกูลมงคลวัชรกุลของพวกเราต้องส่งคนไปตามจับตัวเธอกลับมาเหรอ? 

สายตาของธาวินได้เข้ม ริมฝีปากได้เม้มเล็กน้อย เขาก็ได้เรียกพงศ์พนาออกมาต่อหน้าทุกคน

 พงศ์พนา ส่งธิชากลับคฤหาสน์ ขังไว้ที่ห้องคุมขัง ไม่ได้รับการอนุญาตจากฉัน ไม่ว่าใครก็เข้าไปไม่ได้ 

การกระทำแบบนี้ของธาวินก็ได้ให้เกียรติท่านทั้งสองของตระกูลมงคลวัชรกุลมากแล้ว คุณนายญาณินก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี ก็ทำได้แค่เข้าไปปลอบใจญาณิน

…………

ธิชาก็ได้คุกเข่าอยู่ในห้องคุมขังจนถึงเวลาสี่ทุ่ม ธาวินก็ยังไม่กลับมาสักที

ระหว่างนั้นคนใช้ก็ได้ส่งอาหารมาให้เธอ แต่ตอนที่พงศ์พนาเข้าไปตรวจดูนั้น ก็เห็นว่าอาหารไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว

ธิชาใส่เสื้อไหมพรมสีขาวบาง ข้างล่างก็ได้มีแค่กางเกงยีน ในห้องคุมขังไม่เพียงไม่มีลมเข้า อีกอย่างก็ไม่มีช่องฮีตเตอร์ ในฤดูหนาวนั้นก็ได้ดูหนาวชื้นเป็นพิเศษ

พงศ์พนาก็ไม่รู้ว่าได้ตัดสินใจเองหรือว่าคนอื่นสั่งมา ตอนที่เขาเอาเสื้อหนาวหนาๆ มาให้ธิชานั้น ก็ไม่ลืมที่จะเอาน้ำอุ่นๆ ใส่ในกระติกน้ำร้อนมาให้

ธิชาเหมือนว่าไม่ได้สังเกตเห็นการเข้าออกของเขาเลย สายตาก็ได้จ้องไปข้างหน้าไม่ขยับ ร่างกายก็ได้คุกเข่าตัวได้ตรง

พงศ์พนาคิดว่าที่นี่หนาวเย็นขนาดนี้ คุกเข่าบนพื้นคอนกรีตเย็นเป็นชั่วโมง กลัวว่าเข่านั้นต้องหนาวจนไม่ดีแน่

เขารู้ว่ามันอาจจะล้ำเส้นแท้ๆ แต่ว่าก็ยังพูดไปเสียงเบาว่า  คุณหนูครับ ที่จริงตอนที่คุณชายสั่งให้ผมพาตัวคุณกลับนั้น……ก็แค่พูดว่าให้คุณอยู่ในห้องคุมขังรอ ไม่ได้สั่งให้คุณคุกเข่า ตอนนี้ฟ้าก็ได้มืดขนาดนี้แล้ว คุณชายก็คงรีบกลับมาไม่ทัน คุณหนูพักก่อนไหมครับ ผมให้พ่อบ้านส่งหมอนแล้วก็ผ้าห่มมาให้คุณ? 

สายตาของธิชาก็ยังเย็นชามาโดยตลอด พงศ์พนาไม่ได้รับคำตอบ ถึงขั้นสงสัยว่าเธอได้ฟังอยู่หรือไม่

ในตอนที่ล้มเลิกแล้วก็เตรียมออกมานั้น ธิชาก็ได้กลับค่อยๆ พูดออกมา อย่างไม่ร้อนไม่หนาวว่า  เป็นหมอกกับผ้าห่มอีกแล้ว ผู้ช่วย​พงศ์พนาเตรียมที่จะแต่งห้องคุมขังเป็นห้องนอนเหรอคะ? พี่ฉันขังฉันก็เพื่อที่จะแสดงให้คนของตระกูลมงคลวัชรกุลเห็นไม่ใช่เหรอ? ญาณินอยู่ที่ตระกูลธนาภูวนัตถ์เกรงว่าไม่ได้มีคนของเธอแค่คนเดียวล่ะมั้ง ฉันที่อยู่ในห้องคุมขังได้รับการบริการแบบนี้ สุดท้ายก็คงต้องส่งไปถึงหูของญาณิน ผู้ช่วย​พงศ์พนาได้บริการดีแบบนี้ ก็ไม่กลัวว่าจะทำให้ตระกูลธนาภูวนัตถ์คุณหญิงโกรธแล้วก็อยู่ยากเหรอคะ? 

พงศ์พนาได้ยินก็ได้อึ้งไปเลย อ้าปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

เขาได้ติดตามธาวินมานาน ก็ถือว่าเห็นธิชาที่เติบโตจากเด็กน้อยเป็นผู้ใหญ่แบบนี้

ในสายตาของเขาธิชาก็เป็นเด็กดีฉลาดแบบนั้น ไม่เคยเจอเธอในด้านที่ใจเย็นแล้วก็ดูเป็นผู้ใหญ่แบบนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยได้ยินเธอที่พูดออกมาอย่างมีเห็นผล น้ำเสียงตรงไปตรงมาแต่ไม่ได้ไว้หน้ากับแบบนี้

พงศ์พนาเข้าใจถึงความน้อยใจของเธอ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่เงียบแล้วก็ถอยออกไป

……

ธิชาก็ได้คุกเข่าจนถึงตีหนึ่ง ในที่สุดธาวินก็ได้กลับมา

เขากลับมานั้นไม่ได้ไปพักผ่อน แต่ตรงไปที่ชั้นบนเปิดประตูห้องคุมขัง และเรียกคนใช้ทั้งสี่ที่เห็นเหตุการณ์เข้ามา

ป้าจันทำงานมานานที่สุด แน่นอนว่าเป็นคนพูดออกมาก่อน

เธอได้บรรยายว่าตอนนั้นญาณินได้ต่อว่าธิชาขโมยแหวน ทั้งสองก็ได้ทะเลาะกัน จากนั้นก็ได้ย้ำว่าไม่ได้เห็นธิชายื่นมือไปผลักคน แต่แค่เห็นว่าญาณินได้เสียหลักตกลงมาเอง ธิชาตกใจแล้วก็รีบตามหมายจะช่วยเธอ

แล้วก็ได้มีคนใช้อีกคนที่ได้ให้ปากคำเหมือนที่ป้าจันพูด

นอกนั้น คนใช้อีกสองคนก็ได้ชี้ว่าธิชาเป็นคนทำ

หนึ่งในนั้นพูดว่า  ตอนนั้นคุณหญิงพูดว่าคุณหนูได้ขโมยแหวนของเธอ แล้วก็ยังพูดว่าจะไปค้นที่ห้องของคุณหนู คุณหนูโมโหมาก ก็ได้ตามขึ้นไป ขวางคุณหญิงไว้ ฉันเห็นว่าคุณหนูได้คว้ามือคุณหญิงอย่างโมโห ทั้งสองก็ได้ผลักดันกัน อาจเป็นเพราะว่าคุณหนูได้พลั้งมือไป ก็ได้ผลักคุณหญิงลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ 

อีกคนก็กลับพูดว่า  ตอนที่คุณหญิงตกลงมานั้นฉันกำลังกลับมาจากการรดน้ำต้นไม้จากสวนหลังบ้านพอดีค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ฉันไม่เห็น เห็นแต่คุณหญิงที่ได้กลิ้งลงบันได อีกอย่างมือของคุณหนูก็ได้ยกค้างไว้ ได้ค้างไว้ในท่าที่เธอผลักคนตกลงมาแบบนั้น…… 

ป้าจันโมโห  พวกเธอได้เงินจากคุณหญิงเท่าไหร่ ทำไมถึงได้พูดอะไรออกมามั่วๆ แบบนี้?! คุณหนูจะไปผลักเธอได้ยังไง พวกเธอ…… 

 พอแล้ว 

ป้าจันยังไม่ทันได้พูดจบก็ได้ถูกเสียงที่เข้มของธาวินขัดไป

พงศ์พนาที่อยู่ข้างๆ ก็ได้เอาคลิปจะกล้องวงจรปิดเปิดออกมาให้ทุกคนในเหตุการณ์ดู ในกล้องนั้นได้ถ่ายตอนที่ธิชาคว้าแขนของญาณินไว้ชัดเจน ทั้งสองได้ดันกันไปมา จากนั้นก็เป็นเสียงกรีดร้องตอนตกตึกของญาณิน

ใบหน้าของธิชาได้ซีด แต่ว่าในใจกลับไม่ประหลาดใจแล้วก็ไม่ตกใจ

เรื่องเกิดขึ้นได้ยังไง เธอจำได้ชัดเจนดี

ในกล้องสามารถที่จะเห็นได้ว่าทั้งสองได้ดันกันไปมา แต่ว่ากลับไม่ได้เห็นตอนที่ญาณินแอบออกแรงสะบัดมือของเธอ

ทั้งหมดนั้นเป็นไปตามแผน ไม่มีที่ติ

พงศ์พนาก็ได้ไออย่างทำตัวไม่ถูก ก็ได้พูดกับป้าจันอย่างจริงจังว่า  แม่บ้านจัน คุณกับคุณหนูนั้นสนิทกัน คำให้การมีความเป็นไปได้ว่ามีการเข้าข้างกัน ตอนนี้ภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ และสอดคล้องคำให้การของพยานหลายคน ความคิดของคุณเป็นเพียงการคาดเดาส่วนตัว ไม่สามารถที่จะเป็นหลักฐานล้างความผิดให้คุณหนูธิชาได้ 

สีหน้าของป้าจันได้ซีด มองไปทางธิชาอย่างร้อนใจ

ธิชาไม่มีสีหน้าอะไร ก็เหมือนว่าได้เดาตอนจบได้ตั้งแต่แรกแล้ว

ธาวินสีหน้าจริงจัง ก็ได้พูดเหมือนเป็นธรรมออกมาอย่างเย็นชาว่า  ธิชา เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เธอยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม? 

ธิชาก็ได้ทำตัวตรง มุมปากก็ได้ยิ้มออกมาอย่างประชด

 หลักฐานชัดเจนขนาดนี้แล้ว หลักฐานกับคำให้การก็ได้ชี้มาที่ฉัน ขนาดฉันเองก็จะไม่เชื่อยังไม่ได้ ใช่ ฉันมองญาณินไม่เข้าตา ยิ่งมองเธอที่ท้องลูกของพี่ไม่เข้าตา เพราะงั้นฉันก็ได้มีความคิดชั่วร้าย ก็ได้ผลักเธอลงไปเองกับมือ มองเธอแท้ง ใจของฉันก็อดที่จะดีใจไม่ได้จริงๆ 

สีหน้าของธาวินไม่มีอารมณ์ใดๆ ก็ได้พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า  ไหนๆ เธอก็ได้รับปากแล้ว ฉันก็จะส่งเธอให้ตระกูลมงคลวัชรกุลจัดการ เป็นตายก็ไม่สน 

 

รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

Status: Ongoing

ตอนอายุ8ปี เธอคอยตามก้นคุณชายธาวิน ตระกูลธนาภูวนัตถ์ อยู่ร่ำไป ธาวินประคบประหงมเธอดั่งไข่ในหิน ธิชานึกว่าเขาจะทำเช่นนี้ตลอดไป แต่ต่อมา……คืนวันที่เธออายุครบ18ปี …..เรื่องราวกลับแปรเปลี่ยน เธอกลายเป็นของเล่น เป็นลูกไก่ในกำมือคุณชายธาวิน ซึ่งโดนย่ำยีศักดิ์ศรีอย่างไม่สนใจไยดี ธิชานึกว่าเธอจะไม่มีวันได้ตื่นจากฝันร้ายครานี้ จนกระทั่งเธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง…… ชายผู้นั้นเหมือนดั่งชายขี่ม้าขาว ความรักดั่งกุหลาบซ่อนหนามที่มอบให้กับเธอ ทำให้ชีวิตของเธอกลับตารปัตร….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท