ธิชามองหน้าเขา ปากก็ได้สั่นเล็กน้อย
รอเธอมั่นใจแล้วว่าที่ธาวินพูดมาแต่ละคำนั้นได้จริงจังมาก ไม่มีทางล้อเธอเล่น
ในที่สุดเธอก็ได้หัวเราะออกมาเลยทันที
เธอก็ได้ถอยหลังเล็กน้อย ได้สร้างระยะห่างกับเขา
ฉันไม่ไป
ริมฝีปากธาวินกระตุกไปสักพัก ก็ได้หรี่ตาจ้องเธอ เธอพูดอะไร?
เธอก็ได้เบิกตาโตจ้องเขา เสียงก็ได้ดังขึ้นเล็กน้อย นายหูหนวกเหรอ ฉันบอกว่าฉันไม่ไป ฉันไม่ไปจากเมืองJ ณิชานาฎอยู่ที่เมืองJ เธอยังป่วยอยู่ อาการป่วยจะรุนแรงขึ้นตอนไหนก็ได้ ฉันที่เป็นลูกสาวของเธอจะจากไปไม่ได้ แล้วก็ลุงรัณ ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อแท้ๆของฉัน แต่ว่าในใจฉัน เขาได้รับเลี้ยงฉัน เลี้ยงดูฉันจนโต มีบุญคุณกับฉัน ขอแค่เขากับแม่ของฉันอยู่ที่นี่วันหนึ่ง ฉันก็ไม่มีทางไปจากที่นี่
ธาวินได้ทำหน้าเครียด เอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากเธอ
เธอตาสว่างหน่อย ตอนนี้ไม่ได้เป็นเวลาที่เธอจะมามีนิสัยแบบเด็กๆ กับฉัน ถ้าเธออยู่ที่เมืองJฉันก็มีแค่ส่งเธอให้ตระกูลมงคลวัชรกุล ไม่มีทางเลือกอื่น ธิชาเธอไม่อยากจะมีชีวิตรอด แล้วอยากจะตายจริงๆ ใช่ไหม?
ตาใสๆ ของธิชา ก็ได้มองเขาอยากจริงจังเอามากๆ ไม่มีการหวั่นไหวเลยสักนิด
ยังไงซะฉันไม่มีทางไปจากเมืองJ ฉันไม่ไปต่างประเทศ ฉันจะอยู่ที่นี่ พี่จะจัดการกับฉันยังไงก็ได้ ฉันไม่ไปจากที่นี่!
สีหน้าของธาวินก็ได้แย่ลงในเวลาไม่กี่วิ
ผิวที่ขาวของเขาก็ได้เริ่มอึมครึมเล็กน้อย นั้นเป็นความโมโห
ธิชารู้ว่าตัวเองได้ทำเขาโมโหอีกแล้ว
ใครให้เธอนั้นรู้จักเขาดี ก็ได้มีวิธีที่ทำให้เขาโมโหได้สำเร็จ
เขาเหมือนว่าได้สูดหายใจเขาลึกๆ ก็ได้กดอารมณ์นั้นไว้ ทำได้แค่พยายามใช้น้ำเสียงที่สันติมาเน้นย้ำกับเธอ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือก ไหนๆ มันเป็นเรื่องที่เปลี่ยนไม่ได้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเจรจา คืนนี้เธอเก็บของ พรุ่งนี้ก็ฟังที่พงศ์พนาจัดการ ธิชา เธออายุสิบเก้าแล้ว ไม่ได้เป็นเด็กเจ็ดแปดขวบ ตอนนี้ฉันไม่ได้มาเจรจากับเธอ ไม่ต้องโชว์โง่ เชื่อฟัง!
ธิชาก็ได้กระตุกมุมปาก ยิ้มแบบประชด
ที่จริงตอนที่เธอฟังแผนที่เขาได้เตรียมการให้เธออย่างจริงจังนั้น เธอก็รู้แล้วว่าธาวินที่ตัดสินใจทำแบบนี้ออกมาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้
ไม่แน่เขาอาจจะวางแผนแบบนี้มาตั้งแต่แรก
เขาจะแต่งงาน ต้องกล่อมให้ญาณินเชื่อฟังไม่สร้างเรื่อง กล่อมให้ตระกูลมงคลวัชรกุลเป็นหินที่ให้เขานั้นเดินขึ้นตำแหน่งอย่างว่าง่าย
การได้อำนาจมานั้นมันต้องมีการเสียสละ
เธอก็แค่หมากที่ต้องเสียสละตัวหนึ่งเท่านั้น
คุณนายธนาภูวนัตถ์มองเธอไม่เข้าตา เพราะงั้นเธอก็ทำได้แค่ไสหัวไป
นอกจากการไสหัวไปแล้ว ก็มีแค่การตายแล้ว
ที่จริงธิชาไม่เข้าใจตัวเองว่าวันนี้ไปเอาความกล้าที่จะมาเถียงกับธาวินจากไหนมา
เธอส่ายหน้า ก็ได้ปฏิเสธไปอย่างจริงจังอีกครั้งว่า ฉันไม่ไป ต่อให้พี่บังคับส่งฉันไป ฉันก็จะหาวิธีหนีกลับมา ฉันจะใช้ชีวิตที่เมืองJ ต่อให้ตายก็ตายที่เมืองJ
เธอมองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยน
เขาวางแผนเก่งไม่ใช่เหรอ?
ธาวินอย่างเขาเป็นนักวางแผนที่เก่งที่สุดในโลกไม่ใช่เหรอ?
เธอนั้นก็อยากที่จะทำให้แผนที่เขาวางไว้ทั้งหมดล่มไม่เป็นท่า
เธอไม่ให้ความร่วมมือกับแผนของเขา
หมากรุกในกระดาษหมากนั้นก็มีวันที่จะเดินผิดไป
ยิ่งไปกว่านั้นเธอที่เป็นคนคนหนึ่ง
……
ธาวินทำหน้าตึงเครียด สีหน้าได้หงุดหงิดถึงขีดสุด
บรรยากาศได้ควบคุมไม่อยู่แล้ว ผ่านไปนานเขาถึงได้ถามเธอด้วยความหงุดหงิดว่า เธอเป็นบ้าอะไรกันแน่ เธออยากจะทำอะไร?
ธิชาก็ได้หัวเราะแล้วพูด พี่ยังไม่เข้าใจเหรอ? ฉันได้เอาชีวิตของฉันมาแย่งความรักของพี่กับคุณนายธนาภูวนัตถ์ พี่จะหลอกใช้ตระกูลมงคลวัชรกุล งั้นก็ต้องกล่อมให้ญาณินมีความสุข แต่ว่าญาณินมีความสุขแล้วฉันก็มีความสุขไม่ได้ วันนี้ฉันก็ให้พี่เลือกเอง ฉันกับญาณินเลือกได้แค่คนเดียว
หน้าของธาวินได้เครียด แววตาก็เหมือนได้มีไฟความโกรธ
อยู่ๆ เขาก็ได้ยกมือ น่าจะเป็นเพราะโมโหมากจนอย่างตบเธอ
ธิชาไม่เพียงไม่หลบ แต่ก็ได้เชิดหน้าขึ้น แล้วก็ได้ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ฝ่ามือเขา
สีหน้าของเขาดูแล้วรู้สึกตลกไม่น้อย ก็น่าเป็นเพราะว่าคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอนั้นจะโดดออกมาแล้วก็มาทำลายแผนที่เขาได้ตั้งใจวางออกมาอย่างจงใจ
แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สุดท้ายธาวินก็ไม่ได้ตบเธอ
เขาได้ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกจากห้องคุมขัง เสียงก็ได้เยือกเย็นจนทำให้เธอหนาวสั่น
เขาอยู่ที่ประตูห้องคุมขัง หันหลังพูดกับเธอว่า เป็นฉันที่ทำดีกับเธอเกินไป เอาใจเธอจนเธอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไหนๆ เธอไม่ยอมที่จะออกจากประเทศ งั้นก็ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ฉันส่งเธอไปที่ตระกูลมงคลวัชรกุล อย่าเสียใจทีหลัง
……
ห้องหนังสือ
พงศ์พนาก็ได้เตรียมหาเส้นทางที่จะเดินทางไปต่างประเทศเสร็จแล้วไปถามความเห็นของธาวิน แล้วก็ได้ถามเขาว่าสุดท้ายคุณหนูได้เลือกไปประเทศไหน
ธาวินพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เธอจะอยู่รอความตาย ช่างเธอเถอะ พรุ่งนี้นายส่งเธอไปตระกูลมงคลวัชรกุลด้วยตัวเอง
…… พงศ์พนาหน้ามืดโดยทันที
ผ่านไปนานถึงได้พยายามเรียกสติกลับมา น่าจะเป็นเพราะว่าสองพี่น้องตกลงกันไม่ได้ ไม่เพียงตกลงกันไม่ได้ เกรงว่าว่ายังแตกหักกันอีก
เขาก็ได้ไอออกมาเบาๆ ก็ได้พูดกล่อมว่า คุณหนูได้ถูกเข้าใจผิดขนาดนี้ ก็คงไม่ได้เตรียมใจชั่วขณะ เอางี้ไหมครับให้ผมไปพูดกล่อมเธอ คุณหนูนั้นก็ไม่ได้เอาแต่ใจตัวเองจนเป็นนิสัย น่าจะพูดได้อยู่ ให้ผมไปลองดูหน่อยไหมครับ
แต่ว่าพงศ์พนายังไม่ทันได้พูดจบก็ได้เจอกับสายตาที่เย็นชาของเขา
มองซะเขาไม่กล้าที่จะพูดมันต่อไป
มุมปากของธาวินได้กระตุก ขนาดคำพูดของฉันเธอยังไม่ฟัง นายมั่นใจเหรอว่าสามารถที่จะกล่อมเธอได้?
พงศ์พนาก็ได้ส่ายหน้าอย่างทำตัวไม่ถูก
เขารู้สึกได้ว่าคุณชายโมโหไม่น้อย ก็ได้ไม่พูดอะไร ไม่กล้าที่จะบ่น
ธาวินก็ได้เงียบอยู่นาน จนกระทั่งพงศ์พนาสงสัยว่าเขาได้หายหงุดหงิดแล้ว
เขาก็ได้ยกมือแล้วก็ปัดของบนโต๊ะตกลงมาทั้งหมด
พงศ์พนารู้ว่าเขาได้หงุดหงิดมากๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดด้วย เงียบไปนานถึงได้พูดออกมาว่า คุณ คุณชาย……คุณหนูได้เชื่อฟังที่คุณพูดมาตลอดไม่ใช่เหรอครับ? คราวนี้เธอไม่ยอมออกประเทศ อาจเป็นเพราะทำใจไปจากคุณไม่ได้ ถึงได้ต่อให้ตายก็ไม่ยอมจากไป……
…………
ธิชาก็ได้นอนอยู่ที่ห้องกังขัง
ไม่ดื่มไม่กินทั้งคืน
ตอนที่คนใช้เขามาดูเธอนั้น ก็พบว่าเธอได้สลบล้มไปกับพื้นแล้วก็ยังมีไข้
คนใช้เป็นห่วงมากๆ ป้าจันก็เป็นเพราะว่ามีเรื่องกับคุณชายถึงได้ถูกสั่งให้หยุดพักแล้วก็ส่งกลับไปที่บ้านเก่า พวกเธอก็ทำได้แค่ไปหาผู้ช่วยพงศ์พนา ถามผู้ช่วยพงศ์พนาว่าควรทำยังไง
พงศ์พนาเข้าไปที่ห้องคุมขังเช็กอาการของธิชา
เธอไม่ได้สลบ ก็แต่เป็นไข้อ่อนๆ น่าจะไม่ถือว่าหนักหนาอะไร
พงศ์พนาก็ได้ปลุกเธอ ป้อนน้ำอุ่นให้เธอดื่ม
จากนั้นก็ได้จัดการพูดอย่างเป็นกลางว่า คุณหนูธิชาตื่นแล้วใช่ไหมครับ เมื่อวานคุณชายได้สั่งให้ผมส่งคุณออกประเทศไป คุณได้ปฏิเสธแล้วใช่ไหมครับ? ตอนนี้คุณมีโอกาสที่จะเปลี่ยนคำพูดครั้งสุดท้าย ผมสามารถที่จะส่งคุณไปที่สนามบินได้ในตอนนี้
ธิชาได้ทรมานไปทั้งตัว สีหน้าได้ซีด
แต่ว่าเธอมีสติที่แจ่มแจ้งดีมาก ตาที่ได้หนักก็ได้มองไปทางพงศ์พนา ส่ายหน้าอย่างจริงจัง
พงศ์พนาก็ได้ถอนหายใจเบาๆ ก็ได้ครับ พวกเราจะส่งคุณให้ตระกูลมงคลวัชรกุลจัดการ
……
ธิชาถูกมัดขึ้นรถที่จะส่งเธอไปที่ตระกูลมงคลวัชรกุล
เธอก็ได้ถูกส่งไปที่ห้องเก็บของเล็กๆ ของตระกูลมงคลวัชรกุล
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ญาณินไม่ได้ปรากฏตัว ถึงขั้นไม่มีคนของตระกูลมงคลวัชรกุลแม้แต่คนเดียวมาปรากฏตัว
มีแค่ไพลินที่มาสายๆแล้วในมือถือถ้วยยาสีดำประกายแดง