ขณะที่ธิชากำลังขึ้นด้านบนก็คิดตลอดทางว่าจะเอ่ยปากยังไงดี
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างณิชานาฎกับเธอนั้นไม่ถือว่าลึกซึ้งเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าใช้ชีวิตในฐานะมารดาผู้ให้กำเนิดมาร่วมสิบกว่าปี
ท่าทางร้องไห้อย่างกะทันหันของเธอทำเอาจิตใจของธิชาตื่นตระหนก
ณิชานาฎเป็นคนที่หลงใหลในเงินทองเยี่ยงชีวิต แต่ว่าเป็นผู้หญิงที่หลงใหลในหน้าตายิ่งกว่าเงินทอง
หนึ่งปีมานี้ ณิชานาฎผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมากจริงๆ
นอกจากอาการป่วยแล้ว ธาวินยังส่งคนมาจับตาดูเธอตลอดเวลาอย่างแน่นอน ก็คงจะจำกัดขอบเขตอิสระของเธออยู่เป็นแน่ เธอแทบจะไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลไปสถานที่อื่นได้เลย
แล้ววันนี้จู่ๆเธอก็พูดว่าอยากไปอเมริกาอย่างกะทันหัน
แต่ว่าธิชาเองก็พิจารณาได้จากคำพูดของเธอว่าแผนการนี้น่าจะคิดวางแผนมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว
คงเป็นเพราะความร่วมมือกันระหว่างธาวินกับตระกูลมงคลวัชรกุลทำให้เส้นทางการพัฒนาของตระกูลธนาภูวนัตถ์นั้นราบรื่นเหมือนน้ำไหล และไม่ว่าใครในตระกูลธนาภูวนัตถ์เองก็ไม่มีโอกาสที่จะสั่นคลอนตำแหน่งของเขาได้
เป็นอย่างที่ณิชานาฎได้กล่าวไว้ นี่เป็นเวลาที่มีการป้องกันที่ต่ำที่สุดของเขา
บางทีเขาอจจะคิดว่าณิชานาฎที่เป็นผู้หญิงป่วยหนักคนหนึ่งคงจะกลับมาซัดคลื่นพัดถล่มเขาอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว จิตใจอาจจะมีความเมตตากรุณามอบเงินให้เธอสักก้อนแล้วส่งออกไป
……
ธิชาถูกเลขาพาไปในห้องทำงานของประธานอย่างรวดเร็ว
เธอเคาะประตูเข้าไป ธาวินกำลังอยู่ที่โต๊ะทำงานตรวจดูเอกสารอยู่
พอเขาเห็นเธอก็เลยขบเม้มริมฝีปาก มองไปแล้วเหมือนว่าอารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ……
ธิชาก็คิดในใจว่า ไม่งั้นก็ใช้โอกาสนี้เอ่ยปากออกไปดีกว่า รอไปอีกสองวันแล้วอารมณ์เขาไม่ดีก็จะซวยเอา ถึงเวลานั้นคิดจะพูดออกไปก็คงหาเรื่องตายชัดๆ
ธาวินกวักมือเรียกเธอเข้าไป เธอจึงเดินเข้าไปแต่โดยดี เห็นว่าแก้วชาบนโต๊ะของธาวินนั้นว่างเปล่า ก็เลยเติมน้ำชาให้กับเขาด้วยตัวเอง
ผู้ชายเหมือนว่าจะเลิกคิ้วขึ้นมา และพิจารณามองเธออย่างวิเคราะห์ถี่ถ้วน ไม่ได้พูดอะไร
ธิชาไม่ปิดบังความเอาใส่ใจลงเลยแม้แต่น้อย เธออ้อมไปทางด้านหลังของเก้าอี้ ยื่นมือออกมาและเริ่มนวดบ่าของเขา
ทั้งนวดทั้งบีบทั้งทุบ ปรนนิบัติอย่างชำนาญ
ธาวินรีบวางมือจากงานที่อยู่ตรงหน้าทันที เอนศีรษะไปพิงที่พนักพิงของเก้าอี้ ปิดตาผ่อนคลายไปกับการนวดของเธอ
คำพูดของธิชามาจุกอยู่ที่ปากแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง ท่าทางเอาใจใส่ผิดปกติของเธอ ดูจากอารมณ์ของธาวิน คงอดกลั้นได้ไม่ถึงสองนาทีก็คงตรงเข้ามาหาเธอถามว่าเป็นอะไรแล้ว
รอถึงเวลานั้นแล้วค่อยเอ่ยปาก คงจะถูกจังหวะมากกว่านี้สักหน่อย……
ดังนั้นเธอเลยตั้งใจปรนนิบัติเขาต่อไป
ธาวินขมวดคิ้ว สั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: คงใช้ตามากเกินไปจนลาย คุณนวดขมับให้ฉันที
เธอทำตามอย่างว่าง่ายเชื่อฟัง ไม่กล้าออกแรงหนักเกินไป ใช้นิ้วค่อยๆคลึงวนไปเรื่อยๆ
ค่อยๆนวดค่อยๆนวด……จนกระทั่งถูกชายออกแรงจากมือใหญ่มาคว้าจับข้อมือของเธอไว้
ธิชาเข้าไปในอ้อมกอดของเขา นอนอยู่บนตักของเขา
คางที่อ่อนนุ่มบอบบางถูกฝ่ามือของเขาหยอกล้อไปมา
วันนี้กินยาผิดไปหรือเปล่า? ว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ มีอะไรจะขอร้องฉันหรือเปล่า?
หัวใจของธิชาเริ่มสั่นเทา เธอกัดเม้มริมฝีปาก ใบหน้าสับสนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เป็นเวลานานกว่าจะเค้นคำพูดออกจากริมฝีปากได้ เมื่อกี้เพิ่งจะไปโรงพยาบาลมา แม่ของฉันบอกว่า……อาการป่วยของเธอไม่ค่อยคงที่ สภาพจิตใจเองก็ไม่ค่อยจะดี เลยอยากจะเปลี่ยนที่รักษาตัว และก็อยากจะเปลี่ยนคุณหมอเฉพาะทางด้วย บางทีมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งที่อเมริกานั้นล้ำสมัยกว่ามาก……เธอเลยอยากที่จะไปรักษาตัวที่อเมริกา
เธอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดทันใด เพียงแต่มองดูสีหน้าของธาวินอย่างอ่อนแรงเท่านั้น
ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องต้องการเงินห้าล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นออกมาอีก
เธอรู้สึกว่าปัญหาหลักยังคงจะเป็นธาวินว่าจะยอมปล่อยณิชานาฎจากไปหรือไม่…..
ถ้าหากเขายินยอม ปัญหาเรื่องเงินก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
ธาวินบีบคางของเธอไม่เบาไม่หนัก บนใบหน้าก็ไม่แสดงออกอารมณ์ใดๆ มองไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธอยู่
ธิชายังคงนอนคว่ำด้วยท่าทางอึดอัดอยู่ในอ้อมกอดของเขา เอวเจ็บปวดทรมานจนไม่กล้าจะเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ธาวินไม่พูดออกมาสักคำ เธอตื่นเต้นกังวลจนเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา
ไม่ง่ายเลยที่จะอดทนรอเขายิ้มออกมา พูดขณะที่เม้มปากบางเล็กน้อย: ไปอเมริกาอย่างนั้นเหรอ แม่คุณนี่ใจกล้าไม่เบาเหมือนกันนะ นี่ขนาดป่วยหมดทางเยียวยารักษาแล้ว ยังจะคิดใช้รูปหน้าตาของเธอไปจับพวกคนรวยในอเมริกาเป็นบันไดขึ้นไปอีกอย่างนั้นเหรอ?
เธอคิดว่าคำพูดพวกนี้ของชายหนุ่มถึงแม้ว่าว่าจะไม่น่าฟังอยู่บ้าง แต่ว่าน้ำเสียงฟังไม่ออกถึงความโกรธเท่าไหร่นัก
เธอคิดว่ายังมีหวังอยู่บ้าง
กัดริมฝีปาก น้ำขึ้นให้รีบตัก ผู้ป่วยอาการสาหัสขนาดนั้นจะมีกะจิตกะใจคิดเรื่องพวกนั้นได้ยังไงกัน แม่ฉันป่วยหนักจริงๆ คุณเองก็รู้ว่าเนื้องอกลุกลามไปทั่วร่างกาย ก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน อาการป่วยของเธอปิดบังคุณไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ถึงอย่างไรเธอก็ยังอายุน้อยแค่สามสิบหกปีเท่านั้นเอง คุณช่วยทำความปรารถนาของเธอให้เป็นจริงได้หรือเปล่า……
ธาวินหรี่ตามอง พูดด้วยหน้าเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม: ถ้าฉันปล่อยเธอไป เธอก็คงเก็บรวบรวมเงินอยู่ในที่ลับ สักวันหนึ่งก็จะโผล่กลับมาเมืองJโดยไม่ทันตั้งตัว ปล่อยคลื่นมาซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง ฉันก็ไม่อยากจะเสี่ยงสูงขนาดนั้น พี่เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง ความเสี่ยงเหมาะสมถึงจะพอรับได้
ธิชาค่อนข้างกังวล พูดอย่างไม่คิดไตร่ตรอง ไม่ใช่ว่าฉันยังอยู่ในกำมือของคุณเหรอ ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นลูกสาวของเธอ เธอก็ไม่เห็นจะสนใจว่าฉันจะเป็นหรือตาย แล้วยิ่งมีหลังอำนาจของพี่ชายอย่างคุณอยู่ เธอก็คงรีบยอมแพ้ที่จะต่อสู้กับคุณไปนานแล้ว……
ธาวินไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไรจนจบ ก็กดไหล่ของเธอลงไปทันที ผลักร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอลงไป ให้เธอนั้นแทรกตัวเข้าไปตรงช่องว่างใต้โต๊ะทำงาน
เขาลูบหัวของเธอเหมือนกับกำลังปลอบสัตว์เลี้ยงตัวน้อย
เรื่องที่คุณขอฉันในวันนี้เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ไม่ใช่จะโน้มน้าวฉันได้ด้วยคำพูดเพียงคำสองคำ ในเมื่อมีเรื่องจะขอร้อง ก็ต้องให้พี่ชายเห็นความจริงใจของคุณก่อน