เพียะ!
เสียงของธิชายังไม่ทันจะหมดก็ถูกโจมตีอีกครั้ง เธอได้แต่กัดริมฝีปากกลืนเสียงร้องเข้าไปในลำคอ
ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังจูบอย่างดุเดือด: ฉันไม่ให้สิทธิ์คุณในการเลือกโน้นเลือกนี่จู้จี้จุกจิก
เธอกัดริมฝีปากแน่น บังคับตัวเองให้อดทนเอาไว้ พยายามไม่ให้มีเสียงเล็ดลอด
ดนัยกฤตทำเหมือนกับกำลังหยอกล้อลูกแมวน้อยที่เพิ่งซื้อกลับมาของตัวเอง ค่อยๆเล่นหยอกล้อทีละนิดๆ ทำเบาไปแมวก็จะหัวเราะ หนักไปก็คงกลายเป็นร้องไห้ ดังนั้นเขาจึงทำไม่เบาไม่หนัก ไม่รีบไม่ช้าจนเกินไป……
ผู้หญิงเหมือนว่าจะถูกเขาครอบงำชีวิตไปซะแล้ว ร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้
เธอคิดว่าค่าตอบแทนที่เธอจะต้องจ่ายนั้นคงเป็นเรื่องน่าอับอายเลวทรามสักหนึ่งฉาก
แต่เขานั้นกลับไม่เพียงแต่ดูไม่มีความสนใจที่จะหาทางระบายอารมณ์ตามอำเภอใจ แต่ยังทำราวกับว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่นกับเธอด้วยซ้ำ
ถึงอย่างไรธิชาก็อายุเพียงสิบเก้าเท่านั้น ถูกพัฒนาได้อย่างจำกัด และยังเปราะบางอย่างมาก
ผู้ชำนาญการอย่างดนัยกฤต เพียงใช้นิ้วไม่กี่นิ้ว ก็ทรมานเธอจนน้ำรักทะลักไหลพรั่งพรู ครั้งแล้วครั้งเล่า……
……
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าโดนทรมานมายาวนานแค่ไหน
รู้สึกเพียงแต่ว่าเข่าทั้งสองข้างที่คุกเข่าอยู่นั้นเริ่มอ่อนแรงเป็นที่เรียบร้อย
ขาทั้งคู่นั้นสั่นไม่หยุดหย่อน ผิวบริเวณต้นขาสองข้างทั้งชื้นและเย็น
ชายหนุ่มไม่ได้จริงจังมากทำ เพียงแต่ทำอย่างหลีกเลี่ยงจุดสำคัญเอาไว้ บรรลุผลก็มีความสุขแล้ว
เขาจับจ้องมองร่างกายเธอเงียบงันจนยากที่คาดเดาความคิดได้ ยิ้มแฝงความดูถูกเหยียดหยาม: ร่างกายของคุณนี่ช่างน่าสนใจทีเดียว ไม่น่าธาวินถึงได้อาลัยอาวรณ์คุณนัก ทั้งรู้สึกไวแถมยังน้ำเยอะ ผู้ชายไม่จำเป็นต้องใช้กระสุนจัดการยิงคุณด้วยซ้ำ ตัวคุณเองก็สามารถผ่อนคลายได้ถึงขนาดนี้ หมกมุ่นโดยกำเนิดจริงๆ……ฉันคงจะประเมินคุณต่ำไปจริงๆ
อารมณ์ความรู้สึกของธิชาในเวลานั้นไม่สามารถใช้คำง่ายๆอย่างคำว่าอับอายหรือดูถูกเหยียดหยามมาบรรยายได้อีกต่อไป
เธอปิดตาลง คิดซะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมดเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น
ฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ธาวินนั้นมองเธอไม่เป็นมนุษย์เสียด้วยซ้ำ กระทั่งเหยียบย่ำเธอต่อหน้าบอดี้การ์ด
แม้กระทั่งดนัยกฤตก็ขี้เกียจที่จะแตะต้องตัวเธอ น่าจะเป็นเพราะว่าเกลียดเธอที่ถูกธาวินเล่นจนสกปรกไปแล้วแน่ๆ ท่าทีดูถูกเหยียดหยามของเขานั้นเหมือนกับกำลังเล่นกับสัตว์น้อยตัวหนึ่ง……
ไม่ว่าจะเป็นใคร……ก็ไม่เคยคิดจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลย
ธิชาปิดตาแน่น ของเหลวอันขมขื่นไหลย้อนกลับมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กลืนเข้าไปในลำคอ ความขมขื่นถูกบีบบังคับไว้ในใจ
……
ขณะที่เธอกำลังคิดว่าคืนนี้คงจะต้องถูกทรมานอย่างน่าอับอายเป็นเวลาช้านานอยู่นั้น
โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มดังขึ้น ขัดจังหวะกระบวนการในขณะนี้ลง
เขาพูด อือ ออกมา ออกคำสั่งเสียงเรียบ ส่งขึ้นมาข้างบนให้ฉัน
ธิชารู้สึกแย่จนไม่ได้คิดไตร่ตรองว่าเขาคุยสายอยู่กับใคร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าส่งขึ้นมาคืออะไร
ขนาดเธอฝันก็คงคาดไม่ถึง หลังจากนั้นสองนาที ประตูก็มีเสียงเคาะดังขึ้นมา
ดนัยกฤตกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ตอบรับด้วยเสียงเรียบเฉย: เข้ามา
ขณะที่ประตูห้องถูกผลักเปิด ธิชาเกือบจะกรีดร้องออกไป
เธอพยายามที่จะแอบซ่อนร่างกายของตัวเอง แต่ว่ามือทั้งคุ่นั้นถูกยึดตรึงเอาไว้ เปิดเผยร่างกายอย่างอ้าซ่า ——
เธอมองอย่างหวาดกลัวไปทางประตู และผู้หญิงที่เดินเข้ามานั้นก็เหมือนว่าจะตกตะลึงกับฉากที่เห็นตรงหน้า
อี๊ฟเปิดปากออกมาด้วยความประหลาดใจ จากนั้นรีบเบนสายตาทันที บังคับสายตาหันมาที่ดนัยกฤต เอ่ยปากพูดด้วยความเคารพ: ท่านดนัย นำเอกสารมาส่งให้ท่านแล้วค่ะ
ความตกตะลึงบนใบหน้าของอี๊ฟนั้นไม่เหมือนเสแสร้งแกล้งทำเลยแม้แต่น้อย เธอคิดไม่ถึงว่าท่านดนัยจะสั่งให้เธอเข้ามา นึกไม่ถึงว่าจะให้เธอมาดูเกมฮาเร็มที่รสจัดจ้านด้วยตาตัวเอง
เธอนำเอกสารวางไว้บนโต๊ะกาแฟด้านหน้าดนัยกฤต รีบหันหัวกลับรีบเร่งจะออกไป
แต่ผู้ชายเรียกเธอเอาไว้ด้วยใบหน้าเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม อี๊ฟ ฉันให้คุณไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
อี๊ฟรีบหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมา ยืนอย่างอ่อนน้อม ไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น
เธอฟังออกจากน้ำเสียงที่ผิดปกติของผู้ชาย ประกอบกับการปะติดปะต่อเรื่องราวจากฉากที่ธิชาเปลือยเปล่าและถูกมัดเอาไว้……
อี๊ฟกล้าที่จะสรุปว่าทั้งสองคนนั้นคงจะทะเลาะกัน
เธอหลบสายตาลงต่ำ ไม่กล้าที่จะดูซี้ซั้ว
ดนัยกฤตพูดสั่งทีละคำทีละประโยค: คืนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่มีเวลาจะปรนนิบัติคุณธิชา แต่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงละเลยได้อี๊ฟ คุณมาทำแทนหน่อย
อี๊ฟดวงตาเบิกกว้าง หน้าตาแสดงออกว่าไม่อยากจะเชื่อ
ท่านดนัย นี่ท่าน……
ในน้ำเสียงของอี๊ฟมีความลังเลจนทำให้เขาหุบยิ้ม เม้มปากบางแน่น พูดห้ามใครแทรกแซงได้: เรื่องพวกนี้ยังจำเป็นจะต้องให้ฉันสอนคุณอีกหรือ? ถอดออกซะ ปรนนิบัติคุณธิชาอย่างเชื่อฟัง ฉันไม่บอกให้หยุด คุณก็จงทำต่อไป
สุดท้ายธิชาก็เสียน้ำตาออกมา เธอละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง อะไรก็คงรักษาไว้ไม่ได้แล้ว อย่าทำแบบนี้เลยนะ ดนัยกฤต อย่าทำกับฉันแบบนี้เลยนะ อย่า……
ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา: ผู้หญิงนั้นเป็นพวกปากกับใจไม่ตรงกัน มาอี๊ฟ เอาความสามารถของคุณแสดงออกมา ให้คุณธิชาได้เปิดโลกสักหน่อย
อี๊ฟก้าวออกไปข้างหน้าอย่างเขินอาย ยังคงไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาที่ให้ถอดเสื้อผ้า
เธอพูดด้วยหน้าสีแดงก่ำ: นี่ ท่านดนัย……นี่ไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า……
เสียงคมชัดดัง เพียะ
เสียงของอี๊ฟเพิ่งจะหายไปก็มีตบหน้าฉาดใหญ่อย่างรุนแรง
เธอถูกตบจนโงนเงน ร่างกายเริ่มสั่นระริก
น้ำเสียงของดนัยกฤตนั้นไม่ได้แฝงความล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว: ขนาดคุณเองก็กล้าที่จะไม่ฟังคำสั่งของฉันอย่างนั้นเหรอ?
อี๊ฟเม้มริมฝีปาก ไม่กล้าที่จะลังเลอีกแม้เพียงวินาทีเดียว ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดบนร่างกายออกอย่างรวดเร็ว
อี๊ฟไม่กล้า……
มือเล็กอันอ่อนนุ่มของหญิงสาวลงไปจับเอวของธิชา เธอร้องไห้อย่างเศร้าโศกราวกับว่าโดนไฟดูด อย่า ดนัยกฤต ขอร้องละคุณอย่าทำแบบนี้ อย่าทำให้ฉันอับอายมากขนาดนี้……