รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า – บทที่ 121 เรื่องเล็กๆ ของคุณ มันต่างก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านประวิทย์ทั้งนั้น

บทที่ 121 เรื่องเล็กๆ ของคุณ มันต่างก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านประวิทย์ทั้งนั้น

ธิชามองไปที่เธอด้วยความช็อก

สำหรับผู้ป่วยโรคเก็บตัวที่ยังไม่เคยได้รักษานั้น……เสียงของเพียงวรินทร์มันดูจะใจเย็นไปจริงๆ

ใจเย็นจนทำให้ธิชารู้สึกสงสัยขึ้นมาทันทีว่า นอกจากว่าอาการของเธอเมื่อก่อนหน้านี้มันจะเป็นแค่การแสดงเท่านั้น?

แต่เธอก็นึกถึงครั้งแรกที่ได้พบกับเพียงวรินทร์……เธอก็อ่อนแอจนน่าหวาดกลัวเลย

จะมีใครสามารถแสดงได้ดีขนาดนั้นกัน?

คงไม่มีใครโหดร้ายกับตัวเองถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น……ร่างกายที่ผอมแห้งจนต้องใช้อาหารเหลวเพื่อดำรงชีวิต มันถือเป็นการทำร้ายตัวเอง และเป็นการฆ่าตัวตายอย่างช้าๆแล้ว

แววตาของเพียงวรินทร์นั้นดูเฉยชา ราวกับไม่ได้สนใจทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเลย ซึ่งมันก็เป็นอาการที่คนป่วยเป็นโรคเก็บตัวชอบทำจริงๆ

ธิชายังคงไม่ชอบคิดให้มันเลวร้ายเกินไปโดยที่ไม่มีหลักฐาน เธอจับปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยของเพียงวรินทร์ไว้อย่างใจเย็น  เพียง ใจเย็นๆ มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกับฉัน เรามีเวลาอีกมาก ตอนนี้เราไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนมั้ย เธออยากกินอะไร ในโรงเรียนมีร้านอาหารตั้งหลายร้าน เดี๋ยวฉันพาเธอไปเดินเล่นให้คุ้นเคยก่อนดีมั้ย? 

ธิชาพาเพียงวรินทร์เดินวนโรงอาหารไปรอบหนึ่ง เธอถามเพียงวรินทร์ซ้ำๆ ว่าอยากกินอะไร สุดท้ายเพียงวรินทร์ก็ชี้ไปที่ร้านอาหารอิตาลี

แล้วธิชาก็พูดขึ้นมาว่า  ร้านอาหารอิตาลีร้านนี้เพิ่งเปิด ฉันเองก็ยังไม่เคยกินเลย เราไปลองกินกันดูเนาะ? 

ในเวลานี้พวกนักศึกษาเฉพาะทางส่วนใหญ่ก็น่าจะเลิกเรียนกันหมดแล้ว เป็นช่วงพีคของมื้อเที่ยง ร้านอาหารอิตาลีก็เป็นร้านที่เพิ่งมาเปิดได้ไม่นาน นักศึกษารู้สึกแปลกใหม่ จึงมีนักศึกษาไปรวมกันค่อนข้างเยอะแถมยังต้องต่อแถวรอคิวกันด้วย

พวกเธอมีกันแค่สองคน จึงรอไม่นานเท่าไหร่ แค่สิบนาทีก็ได้นั่งแล้ว

ทันทีที่สั่งอาหารเสร็จ ก็มีชายใส่สูทดำที่เหมือนบอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามาทางประตูของโรงอาหาร

ในมือของพวกเขานั้นถือกล่องข้าวเก็บความร้อนกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทานอาหารเข้ามา แล้ววางไว้บนโต๊ะของพวกเธอ

พอพนักงานในโรงอาหารเห็นแบบนั้น ก็รีบเดินเข้ามาห้าม  คุณครับ ต้องขออภัยด้วยนะครับ ทางโรงอาหารของมหาลัยไม่อนุญาตให้นำอาหารจากด้านนอกเข้ามานะครับ 

พนักงานคนนั้นก็เหมือนจะเป็นนักศึกษา น่าจะเป็นการหารายได้เสริมระหว่างเรียน ทั้งๆ ที่เขาก็พูดอย่างมีมารยาทแท้ๆ แต่กลับถูกชายชุดดำสองคนนั้นมองหน้าอย่างไม่พอใจ

ดูชั่วร้ายมาก

ทำเอาพนักงานตกใจจนหน้าซีดเลย และรีบหุบปากแล้วทำเหมือนไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้น

ธิชานั้นมักจะทำตัวไม่โดดเด่นเวลาที่อยู่ในโรงเรียน และไม่เคยอายขนาดนี้มาก่อน

แล้วได้ยินบอดี้การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและมีมารยาทว่า  คุณธิชาครับ นี่คือมื้อเที่ยงของคุณเพียงวรินทร์ที่นักโภชนาการในบ้านจัดเตรียมมาให้ตามคำแนะนำของหมอครับ คุณเพียงวรินทร์ไม่เหมาะกับการทานอาหารที่มันจนเกินไป 

ธิชายังไม่ทันได้พูด เพียงวรินทร์ก็ได้ยื่นมือแล้วผลักมันออกไป ด้วยแรงที่ผลักไป ทำให้กล่องข้าวเกือบล้ม ยังดีที่บอดี้การ์ดรับเอาไว้ได้ทัน

การต่อต้านของเพียงวรินทร์นั้นชัดเจนมาก จนทำให้บรรยากาศนั้นอึดอัดขึ้นมาทันที

ผ่านไปพักใหญ่เธอถึงได้เปล่งเสียงที่แหบซ่านออกมาจากลำคอว่า  ฉัน ไม่ กิน 

บอดี้การ์ดทั้งสองหันมามองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังลำบากใจ

แต่หนึ่งในนั้นก็ยังพูดต่อว่า  คุณเพียงวรินทร์ครับ คุณเองก็รู้ว่าร่างกายของคุณไม่ค่อยแข็งแรง ถึงมันจะเป็นอาหารเพียงมื้อเดียว แต่เรื่องเล็กของคุณนั้นมันก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านประวิทย์เลยนะครับ ยังไงก็ขอให้คุณให้ความร่วมมือด้วย อย่าทำให้ลูกน้องอย่างพวกผมต้องลำบากใจเลยนะครับ ถ้าเป็นแบบนี้เราเองก็ไม่รู้ว่าไปสู้หน้าท่านประวิทย์ยังไงเหมือนกัน…… 

เพียงวรินทร์ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาจากทางสีหน้าเลย สีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ได้สนใจอะไรเลย

ถึงเธอจะพูดไม่เยอะ แต่การแสดงออกกลับดูแน่วแน่มาก คือยังไงก็ไม่ยอมกินอาหารที่บอดี้การ์ดเอามาให้

ความรู้สึกไม่สบายใจของธิชาก็ได้เพิ่มมากขึ้น

ถึงไอคิวของเธอจะไม่ได้สูงมาก แต่ยังไงก็ใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลกูลธนาภูวนัตถ์มานานหลายปี นิสัยของธาวินก็ไม่ดี และเธอก็ถือว่าเรียนรู้การอ่านใจมาได้ด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคิดมากเกินไป ถึงคำพูดของบอดี้การ์ดจะฟังดูมีมารยาท……แต่ในคำพูดนั้นมันกลับแอบแฝงไปด้วยการข่มขู่

โดยเฉพาะคำว่า  เรื่องเล็กของคุณนั้นมันก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านประวิทย์ 

เหมือนมันกำลังข่มขู่อะไรเพียงวรินทร์อย่างเงียบๆ

เพียงแต่……กับผู้ป่วยโรคเก็บตัวนั้น ก็ต้องคอยโอ๋เหมือนเด็กคนหนึ่งไม่ใช่รึไง

แล้วทำไมถึงใช้……วิธีการข่มขู่แบบนี้ล่ะ?

ธิชารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพียงวรินทร์กับประวิทย์นั้นมีค่าที่จะให้สนใจมากเข้าไปทุกทีแล้ว

แต่เธอก็พูดไกล่เกลี่ยด้วยสีหน้าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นี่พี่ชายทั้งสอง เพียงวรินทร์เธอป่วยมาตั้งนาน น่าจะไม่ได้กินอาหารข้างนอกมานานมากแล้ว ถึงแม้อาหารที่อยู่ข้างนอกอาจจะมีประโยชน์สู้อาหารที่นักโภชนาการจัดให้ไม่ได้ แต่เรื่องความปลอดภัยของอาหารในมหาลัยนั้นก็ได้รับการรับรองเหมือนกัน ที่สำคัญเมื่อกี้ตอนที่สั่งอาหารก็ไม่ได้สั่งอะไรที่มัน มันเกินไป……ยิ่งไปกว่านั้น โรคเบื่ออาหารของเธอก็เพิ่งดีขึ้น การที่อยากอาหารจึงถือเป็นเรื่องดี ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบเอง ถ้าคุณประวิทย์เอาเรื่องพวกคุณ พวกคุณก็ผลักภาระมาที่ฉันได้เลย 

พอธิชาพูดมาอย่างนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองก็ไม่ได้ดึงดันต่อ

พวกเขาออกจากโรงอาหาร แล้วไปยืนอยู่ในที่ๆห่างออกไปหลายสิบเมตรอย่างเงียบๆ

ธิชาตบๆ ที่หลังมือของเพียงวรินทร์ และไม่รู้ว่าจะให้กำลังใจยังไงดี

ตอนนี้เธอเชื่อคำพูดของเพียงวรินทร์แล้ว ถึงประวิทย์จะให้เพียงวรินทร์มาที่มหาลัยแล้ว แต่ก็ยังค่อยจับตาดูอย่างไม่ให้คลาดสายตาอยู่ดี

หลังจากที่กินมื้อเที่ยงเกินครึ่งไปแล้ว เพียงวรินทร์ก็ได้กระซิบออกมาว่า  นี่ธิชา เธออยากรู้รึเปล่าว่าฉันเจอเรื่องอะไรบ้างตอนอยู่ที่อังกฤษ…… 

 

รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า

Status: Ongoing

ตอนอายุ8ปี เธอคอยตามก้นคุณชายธาวิน ตระกูลธนาภูวนัตถ์ อยู่ร่ำไป ธาวินประคบประหงมเธอดั่งไข่ในหิน ธิชานึกว่าเขาจะทำเช่นนี้ตลอดไป แต่ต่อมา……คืนวันที่เธออายุครบ18ปี …..เรื่องราวกลับแปรเปลี่ยน เธอกลายเป็นของเล่น เป็นลูกไก่ในกำมือคุณชายธาวิน ซึ่งโดนย่ำยีศักดิ์ศรีอย่างไม่สนใจไยดี ธิชานึกว่าเธอจะไม่มีวันได้ตื่นจากฝันร้ายครานี้ จนกระทั่งเธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง…… ชายผู้นั้นเหมือนดั่งชายขี่ม้าขาว ความรักดั่งกุหลาบซ่อนหนามที่มอบให้กับเธอ ทำให้ชีวิตของเธอกลับตารปัตร….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท