ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 23 หลินเจิ้นเป้ามาถึง องครักษ์เสือแสดงแสนยานุภาพ

บทที่ 23 หลินเจิ้นเป้ามาถึง องครักษ์เสือแสดงแสนยานุภาพ

ดูเหมือนชื่อเสียงของน้องสามจะมีประโยชน์

จริงด้วย น้องสามเป็นจอมพลใหญ่ของหน่วยทหาร ถึงแม้คนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นคนของหน่วยทหารก็ตาม แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเป็นการใช้อำนาจในเรื่องส่วนตัว เกรงว่าอาจส่งผลให้ต้องขึ้นศาลทหาร

ที่นั่นถือเป็นฝันร้ายของทหารทุกคน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเจิ้นจงก็รู้สึกกระหยิ่มใจ

คนอื่น ๆ ในตระกูลหลินรวมไปถึงคนของตระกูลอื่นต่างก็มีความคิดเช่นนี้ พวกเขาค่อย ๆ หันมองพวกของเฉินอีด้วยใบหน้าหยิ่งยโส

แต่ทว่า !

ทำไมผู้ช่วยของพวกแกยังไม่มาอีก ?

จู่ ๆ เฉินอีก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีหมดความอดทน

หลินเจิ้นหลงนิ่งเงียบไปพักใหญ่ จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ พูดออกมาว่า : น้องสามของฉันกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องภายในหน่วยทหาร ใครจะเหมือนนายที่เกณฑ์ทหารมาเป็นจำนวนมากเพื่อมาจัดการเรื่องส่วนตัวของตนเอง มันหมายความว่าอย่างไรกัน !

จริงด้วย

หลินเทียนหรงเองก็พูดขึ้นมา ต่อให้แกจะเป็นคนของหน่วยทหาร แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าทำผิดกฎของหน่วยทหาร พวกแกรอรับโทษให้ดี ๆ เถอะ ความตายกำลังรอพวกแกอยู่ข้างใน

เหอะ ๆ จะต้องติดคุกไปตลอดชีวิต แกเต็มใจจริง ๆ หรือ ? เพื่อนังแพศยาสามคนเนี่ยนะ ?

เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างยโส

แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ต้องหุบยิ้ม เพราะสายตาของเฉินอีที่เชือดเฉือนราวกับดาบคมที่กำลังทิ่มแทงเธอ

แกอยากตายหรือ ?

นังสารเลว แกกล้าล่วงเกินนายหญิงกับนายน้อยทั้งสอง อยากรนหาที่ตายหรืออย่างไร !

เสือขาวเดินตรงไปข้างหน้าแล้วตบเธอเข้าหลายฉาด ด้วยแรงมหาศาลของเขา แม้แต่หลินเจิ้นหลงที่เคยฝึกยุทธ์ก็ไม่อาจทานทนได้ นับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างหลินเทียนหรง เธอหมดสติไปทันที

แก แก แก !

เมื่อหลินเจิ้นหลงเห็นหลานสาวของคนเองถูกตบหน้า เขาก็กัดฟันกรอดด้วยความโมโหทันที

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสือขาวที่รูปร่างสูงใหญ่กำยำ หลินเจิ้นหลงเองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน

คุกเข่าลง !

เสือขาวก้าวขึ้นไปด้านหน้า แล้วใช้เท้าเตะคนของตระกูลหลินให้คุกเข่าลงทีละคน ๆ

ส่วนคนนอก เมื่อสบตาเข้ากับดวงตาที่น่ากลัวของเสือขาว ต่างก็รีบคุกเข่าลงในทันที

เมื่อเห็นตระกูลหลินซึ่งมีอิทธิพลมากขนาดนั้น กลับถูกทำร้ายอย่างไม่ไว้หน้า แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขา

คุกเข่าจนกว่าผู้ช่วยของพวกแกจะมา !

เสือขาวตะคอกเสียงดัง ขณะที่เขากำลังเดินมุ่งหน้าไปหาเฉินอี จู่ ๆ เขาก็หรี่ตาลงและหันหลังกลับในทันที และยื่นมือขวาออกไป

กระสุน !

เฉ่าเฉียงเห็นสิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของเสือขาวอย่างชัดเจน มันคือลูกกระสุน สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที

องครักษ์ทุกคน เริ่มปฏิบัติการป้องกันภัยขั้นสูงสุด !

เฉ่าเฉียงตะโกนเสียงดัง

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉินอี ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าหากมีเขาอยู่ คงไม่มีใครกล้ายิงเช่นนี้แน่นอน แต่ตอนนี้กลับมีคนทำ

รนหาที่ตายจริง ๆ !

แต่ทว่า !

พอพูดถึงผีผีก็มา

เฉินอีพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับดังเข้าหูของทุกคนพอดี

เฉ่าเฉียงหน้าถอดสี รีบหันมองด้านนอกตำหนักมังกรหยก เห็นทหารระดับพระกาฬกำลังระดมพลเข้ามาปิดล้อมที่นี่เอาไว้ในทันที

คนที่เป็นผู้นำไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินเจิ้นเป้า !

น้องสาม !

ท่าทางของหลินเจิ้นหลงราวกับได้พบเจอผู้ช่วยชีวิต เขารีบตะโกนเสียงดังทันที

หลินเจิ้นเป้าไม่ได้สวมชุดทหาร แต่เดินเข้ามาด้วยท่าทีขึงขังราวกับสวมชุดทหารอยู่

พี่ใหญ่ !

เขากำลังจะเข้าไปประคองหลินเจิ้นหลงให้ลุกขึ้น แต่กลับมีคนเข้ามาขวางด้านหน้าของเขาเอาไว้ ไม่ใช่เสือขาว แต่เป็นองครักษ์เสือ

เจ้ามังกรมีคำสั่ง ให้พวกเขาคุกเข่า แกมีปัญหาอะไรไหม ? องครักษ์เสือพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

สิ่งนี้ทำให้หลินเจิ้นเป้ารู้สึกโกรธจัดอย่างไม่ต้องสงสัย

แกคิดว่าแกเป็นใคร ? กล้าขวางทางฉันหรือ ?

ฉันเป็นใครนะหรือ ? องครักษ์เสือหัวเราะเยาะ

ฉันคือคนของสำนักมังกรลับ องครักษ์เสือ !

ตึกตึกตึก !

วินาทีถัดมา ทหารในเครื่องแบบจำนวนนับไม่ถ้วนวิ่งกรูกันเข้ามาล้อมกองทหารโหวยี่ที่หลินเจิ้นเป้าพามาเอาไว้

จำนวนนับหมื่นคน !

ต่อหน้าพวกเขา กองทหารโหวยี่กว่าสามพันนายกลับดูอ่อนแอ

ผู้บัญชาการ คนพวกนี้ไม่ใช่คนดี

ตอนที่ผมอยู่ในหน่วยทหารฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ผมไม่เคยเห็นกลุ่มคนที่ร้ายกาจเช่นนี้มาก่อน ดูเหมือนพวกเขาล้วนเกษียณตัวเองออกมาจากสมรภูมิรบ ผู้ช่วยของกองทหารโหวยี่กระซิบเบา ๆ ข้างหูของเขา

อันนี้จริงแล้วถึงเขาไม่พูด หลินเจิ้นเป้าก็พอจะมองออกว่าคนพวกนี้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา คงไม่ใช่คนทั่วไปอย่างแน่นอน

คนของหน่วยทหารต่างประเทศมีความสามารถที่ค่อนข้างสูง

แต่พวกแกกลับมาจากต่างประเทศเป็นการส่วนตัว ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษจากหน่วยทหารฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นะ ?

ถึงแม้หลินเจิ้นเป้าจะรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะยังไม่หวาดกลัวนัก

เขามีเส้นสายในทุก ๆ หน่วยงานของหน่วยทหารฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ แต่กลับไม่ตรวจพบการอนุญาตให้หน่วยทหารต่างประเทศเดินทางเข้ามาภายในประเทศ

หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า การที่กลุ่มคนเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นในเมืองฉือ ถือเป็นการทำผิดกฎของหน่วยทหารต้าถัง !

หลินเจิ้นหลงเองเมื่อฟังเรื่องทั้งหมดจนเข้าใจ ก็หัวเราะเสียงดังออกมาทันที

ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็คิดว่าพวกแกจะเป็นเพียงหน่วยทหารที่เป็นกองกำลังส่วนตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกแกจะเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย ดูเหมือนจะเป็นทหารเถื่อนนะ ฮ่าฮ่าฮ่า !

เขาหัวเราะเสียงดังไม่หยุด

ส่วนคนอื่น ๆ ก็แสดงท่าทีโล่งใจออกมา

ทหารเถื่อน

นี่ถือเป็นความผิดร้ายแรงในกฎหมายทหาร เป็นสิ่งที่กระทบถึงขวัญและกำลังใจของกองทัพ และทำให้เกิดช่องโหว่ขึ้นในระบบป้องกันชายแดนอีกด้วย

ในเมื่อตอนนี้มีศัตรูจากต่างชาติเข้ามากระทำความผิด ต่อให้คนพวกนี้ต้องตายสักหมื่นครั้งก็ไม่อาจชดเชยความผิดได้

หลินเจิ้นหลงเกิดความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เขาจึงไม่คุกเข่าอีกต่อไป ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น กลับถูกองครักษ์เสือที่ยืนอยู่ด้านข้าง ฟาดแส้ลงไปที่ขา

เผียะ !

หลินเจิ้นหลงกลับลงไปคุกเข่าบนพื้นอีกครั้ง และร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดแสน

หลินเจิ้นเป้าทำหน้าถมึงทึง เขาระเบิดอารมณ์ออกมาทันที และคิดที่จะลงมือกับองครักษ์เสือ

ในเมื่อเป็นนักรบที่มีพละกำลังภายในแข็งแกร่ง ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

ความรู้สึกประหลาดใจปรากฏขึ้นในแววตาของเสือขาว

แต่ก็เป็นเพียงแค่ความประหลาดใจเท่านั้น เขาไม่คิดที่จะลงไม้ลงมือสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกของเฉินอี

ภาพนี้ทำให้คนนับไม่ถ้วนที่เห็นต่างรู้สึกประหลาดใจ

พวกเขา ทำไมถึงไม่ลงมือ หรือคิดที่จะนั่งดูทหารของตัวเองตาย ?

พวกเขาคิดไม่ตกเรื่องนี้

เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าการข่มขู่ขององครักษ์เสือนั้นไม่รุนแรง และด้อยชั้นกว่าหลินเจิ้นเป้าอย่างมาก ซึ่งอีกฝ่ายควรมองเห็นช่องว่างนี้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงยืนอยู่ด้านหน้าตนเอง

กล้าแลกหมักกันดูไหมล่ะ ?

วิญญาณการต่อสู้ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน !

ตอนนี้สีหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป

เดิมทีเขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งและพร้อมลงมือ จึงได้แสดงท่าทีหยั่งเชิง แต่ดูเหมือนตอนนี้หากเขาปล่อยหมัดออกไป คงจะเป็นการปลิดชีวิตขององครักษ์เสือผู้นี้แน่นอน แต่หากจะออมแรงไว้ก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว

หัวหน้าของแกเป็นคนทำผิดต่อแก อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน

หลินเจิ้นเป้าแอบนึกคำพูดประโยคนี้ขึ้นในใจ

แต่สีหน้าขององครักษ์เสือที่ยืนอยู่ตรงข้ามกลับนิ่งเฉย และปล่อยหมัดออกมาเช่นเดียวกัน แต่ตำแหน่งที่เขาเล็งกลับเป็นใต้ข้อศอกของหลินเจิ้นเป้า !

นั่นมัน !

จุดอ่อนของฉัน !

หลินเจิ้นเป้ารู้สึกเหมือนความตายกำลังเข้ามาใกล้แค่เอื้อม คิดที่จะหลบหลีกก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงได้แต่รับหมัดเข้าไปเต็มแรง จนกระทั่งโซเซถอยหลังไปหลายก้าว จึงจะสามารถกลับมายืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง

แต่อย่างไรเสียก็ยังคงกระอักเลือดออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมองจุดอ่อนของเขาออกได้ในทันที

อีกทั้งเมื่อครู่คนคนนี้ตั้งใจที่จะออมแรงในการโจมตีเอาไว้ มิเช่นนั้นเขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย !

แก แกเป็นใครกันแน่ ?

หลินเจิ้นเป้าจ้องมองทหารรบองครักษ์เสือตาเขม็ง แล้วพูดขึ้นอย่างหวาดกลัว

ยอดฝีมือระดับนี้ ทำไมถึงหลบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ได้ ? !

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท