นอกเสียจากกงหยางเลี่ยแล้วที่ไม่ตื่นตกใจ ในเวลานี้คนทั้งหลายย่อมจะเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้า
เทพถ่องแท้นั้นกลับใช้ลายพระเจ้าได้ เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เย่หยวนนั้นใช้ลายพระเจ้าออกมาทำลายการผูกรัดของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซู เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะดูราวเพ้อฝันในสายตาผู้คน
ไม่นานจากนั้นทุกผู้คนต่างก็ถอนหายใจออกมาตาม ๆ กัน
นี่มันเป็นการรนหาที่ตายของเย่หยวนแล้ว!
ต่อให้จะเป็นลายพระเจ้าใด ๆ แต่พลังของคนทั้งสองมันก็ย่อมจะอยู่ห่างกันคนละโลก
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยดวงตาเย็นเยือกนั้น “ของข้าก็คือของข้า! คิดอยากเอากระดูกจักรพรรดิไป? เช่นนั้นก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”
เย่หยวนนั้นต้องลำบากยากเข็นเสี่ยงเป็นตายมากมายกว่าที่จะได้กระดูกจักรพรรดินี้มา
เมื่อได้กระดูกนี้มาครองแล้วเย่หยวนก็ย่อมจะเป็นนายของกระดูกจักรพรรดินี้ เขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้คนอื่นลักเอาไปต่อหน้าได้
เพราะต่อให้เผ่ากิเลนจะเอากระดูกจักรพรรดิไปมันก็คงไม่มีทางจะได้รับการยอมรับจากกระดูกเช่นกัน
“หึ ๆ เจ้าคิดว่าแค่มีเผ่ามังกรหนุนหลังแล้วจักรพรรดิผู้นี้จะไม่กล้าสังหารเจ้า?”
ไฟแค้นในใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
เจ้าเด็กคนนี้มันเกินเยียวยา
เขานั้นหันกลับไปหาหลงฉือและบอก “หลงฉือ จักรพรรดิผู้นี้ได้ไว้หน้าให้เผ่ามังกรเจ้าแล้ว! หากเจ้ายังกล้ามาหยุดข้าอีก อย่าได้หาว่าจักรพรรดิผู้นี้ไร้ปรานี!”
หลงเสี่ยวฉุนที่กำลังคิดจะตอบสวนไปหลังได้ยินต้องถูกหลงฉือเข้ามาปิดปากไว้ทันที
“ปล่อยข้า! ลุงฉือ หากยังไม่ปล่อยข้าจะร้องไห้จริง ๆ แล้ว!” หลงเสี่ยวฉุนร้อง
หลงฉือจึงรีบชี้นิ้วออกมาจนทำให้ดวงตาของหลงเสี่ยวฉุนต้องปิดลง
หลงฉือมองดูที่ร่างไร้สติของหลงเสี่ยวฉุนพร้อมบอกขึ้น “ท่านซือซูวางใจเถอะ หลงฉือไม่ห้ามท่านแล้ว”
พวกเขานั้นเป็นเทพสวรรค์เช่นกันทั้งคู่ หลงฉือนั้นย่อมจะเข้าใจว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมีศักดิ์ศรีที่ไม่อาจลบหลู่ได้
วันนี้เพื่อเห็นแก่หน้าหลงเสี่ยวฉุน จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูถึงกับคิดวางศักดิ์ศรีลงและปล่อยเรื่องผ่านไป
หากได้คืบแล้วจะเอาศอก เรื่องราวมันคงจบลงที่ความพิโรธของจักรพรรดิเทพสวรรค์เป็นแน่
เรื่องของสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นมันอาจจะใช้ขู่จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูได้ครั้งหนึ่ง แต่มันย่อมจะไม่อาจทำให้เขายอมทำตามทุกสิ่งอย่างได้
เพื่อมิให้หลงเสี่ยวฉุนไปยุ่งย่ามมากมายอีก หลงฉือจึงได้แต่ต้องทำให้นางหมดสติลง
เพราะการจะก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเพื่อเทพถ่องแท้คนเดียวมันย่อมไม่คุ้มค่าใด ๆ!
แม้ว่าหลงฉือเองก็จะสนใจเรื่องเย่หยวนมาก แต่ความสนใจนั้นมันย่อมจะไม่มีค่าพอให้ต้องสละชีวิตปกป้อง
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูจึงพยักหน้ารับก่อนจะหันไปยิ้มให้เย่หยวนอย่างเย็นเยือก “สวรรค์มีทางดี ๆ ให้เดินเจ้ากลับไม่เลือกไป! นรกทางเต็มไปด้วยขวางหนามเจ้ากลับมุ่งหน้าลง! ตอนนี้ไม่มีใครจะมาช่วยเจ้าได้แล้วในฟ้าดินนี้!”.ไอลีนโนเวล.
“ใครบอกเจ้าว่าไม่มีใครช่วยเขาได้?”
ระหว่างที่จักรพรรดิเทพสวรรค์กำลังปลดปล่อยคลื่นพลังออกมาครอบงำฟ้าดินนั้นมันก็ปรากฏร่างของชายในชุดคลุมฟ้าครามเดินออกมาพร้อมมือไพล่หลัง เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่หยวน
ชายผู้มาถึงนี้มีอายุช่วงวัยกลางคน มีหนวดยาวดูท่าทางราวกับกวนอู
ชายวัยกลางคนผู้นี้เดินออกมาด้วยท่าทางแสนสบายราวกับเป็นคนธรรมดาทั่วไปแต่มันกลับทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูต้องหน้าถอดสี
เมื่อได้เห็นชายชุดฟ้าคนนี้ทางจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูก็ถึงกับต้องถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น “ท่านเป็นใครกัน? หรือท่านเองก็คิดจะมายุ่งเรื่องของเผ่ากิเลนข้า?”
ด้วยกำลังของตัวเขานี้ ฉีซือซูกลับไม่อาจมองออกได้เลยว่าชายตรงหน้านี้เก่งกาจปานใด
เย่หยวนมองดูชายตรงหน้าพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “กว่าจะออกมาได้!”
ชายชุดฟ้านั้นไม่คิดสนใจจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูใด ๆ และหันหน้ากลับมาหาเย่หยวน “เจ้ารู้ว่าข้าอยู่?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่ามันมีสายตาของใครบางคนจ้องมองเรื่องราวนี้จากมุมมืดเท่านั้น!”
ชายชุดฟ้าผู้นี้จึงผงะไปทันทีก่อนจะพยักหน้าขึ้น “ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดอาจารย์ท่านถึงได้ตั้งให้เจ้าเป็นรองมหาปราชญ์ สมชื่อรองมหาปราชญ์จริง ๆ”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวแน่นอนว่ามันย่อมจะเกิดความวุ่ยวายขึ้นทั่ว
ดวงตาของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างเบิกกว้างขึ้นอย่างตกตะลึง
ใครคือคนที่ตั้งให้เย่หยวนเป็นรองมหาปราชญ์?
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล!
แต่ชายผู้นี้กลับเรียกท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลว่าเป็นอาจารย์ มันย่อมจะสื่อถึงตัวตนของเขาได้อย่างดี!
หนึ่งในศิษย์ทั้งสิบเอ็ดของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลผู้ปกครองฟ้าดินทั้งหลายนั้น
ต่อให้จะเป็นศิษย์ที่อ่อนแอที่สุดอย่างมหานักบวชขนแดงท่านเองก็ยังเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลาย
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ย่อมจะมิใช่มหานักบวชขนแดง ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่กงหยางเลี่ยจะไม่สามารถจดจำผู้เป็นนายได้?
เช่นนั้นแล้วเขาเป็นใคร?
ตอนนี้แม้แต่ดวงตาที่เย็นเยือกของเย่หยวนนั้นก็ยังต้องเบิกกว้าง
เขานั้นสัมผัสได้ถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมา ทั้งมันยังเป็นคลื่นที่รู้สึกคุ้นเคย
เพราะฉะนั้นเขาจึงกล้าที่จะเสี่ยงออกมาแย่งชิงกระดูกจักรพรรดินี้
หากจะต้องยอมมอบกระดูกจักรพรรดิให้คนอื่นด้วยเรื่องราวเช่นนี้ ถึงตายเย่หยวนก็ไม่คิดยอม
เพียงแค่ว่าเขาก็ไม่นึกว่าทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจะถึงขั้นส่งหนึ่งในศิษย์ลงมาเอง!
ตอนนี้เรื่องราวทั้งหลายทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นมาจากฉีหยุนมันได้พัฒนาไปเรื่อยจนทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์มากมายต้องปรากฏตัวขึ้น
จนสุดท้ายเรื่องมันใหญ่ไปถึงหูของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล!
กงหยางเลี่ยนั้นย่อมจะไม่เคยพบชายชุดฟ้าคนนี้มาก่อนแต่ตัวตนของเขานั้นแสนยิ่งใหญ่ แน่นอนว่ากงหยางเลี่ยย่อมจะเคยได้ยินการพูดถึงเขามาก่อน
เมื่อลองคิดย้อนกลับไปถึงลักษณะของศิษย์ทั้งหลายที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมีแล้ว ในที่สุดเขาก็ตัดสินได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้คือใคร “หรือว่าท่านจะ…เป็นท่านเคลื่อนดารา?”
ชายชุดฟ้าหันกลับมามองและกล่าวตอบ “ใช่แล้ว เป็นข้าผู้นี้เอง”
“เป็นท่านมหานักบวชเคลื่อนดารา! เขาคือศิษย์ลำดับที่เจ็ดของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่าน! ตำแหน่งสถานะของเขานั้นมันเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าท่านมหานักบวชขนแดงเสียอีก!”
“ไม่นึกเลย! ไม่นึกเลยจริง ๆ! ไม่นึกเลยว่าข้าจะได้เห็นท่านมหานักบวชเคลื่อนดาราเข้า!”
“ดูท่าเราจะเข้าใจความตั้งใจของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านผิดเสียแล้ว!”
…
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายในเมืองต่างแสดงสีหน้าท่าทางตื่นตะลึงออกมามองดูที่มหานักบวชเคลื่อนดาราบนท้องฟ้า
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านนั้นเป็นตัวตนอันสูงส่ง แน่นอนว่าศิษย์ทั้งหลายของท่านย่อมจะได้รับการบูชาจากผู้คนไม่แพ้กัน
พวกเขาทั้งหลายนี้คือผู้สร้างยอดฝีมือให้แก่เผ่าอสูรและทำให้เผ่าอสูรยืนมั่นในมหาพิภพถงเทียนนี้ได้
และชายชุดฟ้าผู้นี้มันก็คือจีโมผู้ติดตามมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลอยู่เสมอ แต่นามที่ผู้คนทั้งหลายรู้จักเขานั้นคือมหานักบวชเคลื่อนดารา
เพราะว่านามจีโมนี้มันมีคนรู้เพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
กงหยางเลี่ยได้แต่เบิกตามองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึงและก้มหัวลง “คนรับใช้เฒ่ากงหยางเลี่ยขอคารวะท่านมหานักบวชเคลื่อนดารา!”
จีโมหัวเราะขึ้นก่อนจะชี้ดัชนีออกมา
ปึก!
กงหยางเลี่ยลอยลิ่วไปด้านหลังพร้อมกระอักเลือดนองปาก
แต่เขาก็ได้รีบลุกกลับขึ้นมาคุกเข่าในทันที
จีโมกล่าว “ทำลายการบ่มเพาะของเจ้าหนึ่งหมื่นปีพร้อมโทษขังห้าพันปี! ไป!”
กงหยางเลี่ยหน้าซีดเผือดลงทันทีก่อนจะก้มลงกราบ “ขอบพระคุณท่านเคลื่อนดาราที่เมตตาเว้นโทษตายให้!”
เขานั้นได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเศร้าหมองในใจ
เขานั้นคิดว่ารองมหาปราชญ์นั้นเป็นแค่ยอดอัจฉริยะที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลหมายตาไว้ แต่สุดท้ายเทพถ่องแท้มันจะมีค่าใด?
แต่ดูท่าแล้วเขาจะเข้าใจตำแหน่งของเย่หยวนที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแต่งตั้งผิดไปอย่างมหาศาล!
มหานักบวชเคลื่อนดารานั้นมาถึงนี้มันย่อมจะมิใช่เพราะอยากมาเอง แต่เขานั้นมาถึงในนามตัวแทนของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล!
ส่งมหานักบวชเคลื่อนดาราออกมานี้มันย่อมจะมีความหมายลึกล้ำ
เพราะมันเท่ากับว่าเป็นตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่มาจัดการเรื่องราวเอง!
ทุกผู้คนต่างต้องเบิกตากว้างไม่คิดอยากเชื่อภาพตรงหน้า
เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ด้วยกันแต่กงหยางเลี่ยกลับเป็นได้แค่มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้ามหานักบวชเคลื่อนดารา!
ทำลายการบ่มเพาะตามด้วยการกักขังทั้ง ๆ ที่ถูกลงโทษเช่นนั้นแล้วยังต้องไปกราบขอบคุณ!
แต่ทุกผู้คนเองก็เข้าใจดีว่ามหานักบวชเคลื่อนดารานั้นไม่พอใจการที่กงหยางเลี่ยลบหลู่เย่หยวนมากเพียงใด
เผ่ากิเลนเดินเข้ามาหาเรื่องพร้อมกองทัพใหญ่ แต่กงหยางเลี่ยนอกจากจะไม่คิดปกป้องรองมหาปราชญ์แล้วยังคิดส่งตัวรองมหาปราชญ์ให้ศัตรูฆ่าสังหาร ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็เป็นความผิดมหันต์
…………………………