จนที่สุดจอแสงนั้นก็จางหายไปเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มชุดขาวก้าวออกมาจากห้วงมิติ
บนลานกว้างนี้ทุกผู้คนต่างมองดูที่ร่างของชายหนุ่มผู้นี้ด้วยดวงตาหวาดกลัว
ใช่แล้ว ความหวาดกลัว!
แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังหวาดกลัวในพรสวรรค์ของเย่หยวนนี้
เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายที่ได้ปะทะกับเย่หยวนมานั้นต่างก้าวเท้าถอยหลังไปพร้อมๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย
เจ้าหมอนี่มันมิใช่คน!
มันเป็นสัตว์ประหลาด!
แต่หลงเสี่ยวฉุนนั้นกลับยิ้มร่าเข้ามาทักทายเย่หยวน
“เย่หยวน คุณหนูผู้นี้รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเก่งกาจปานใด และเจ้าก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปพร้อมเดินนำหลงเสี่ยวฉุนมาหยุดที่กลางลานก่อนจะหรี่ตาลงมองไปยังทิศทางหนึ่งทันที
เป้าหมายของสายตานี้มันคือเฉินซิง ก่อนที่เย่หยวนจะกล่าวถามขึ้นมา “ผู้อาวุโสทำเช่นนี้ คงต้องอธิบายเรื่องราวกันหน่อยหรือไม่?”
การยอมก้มหัวรับคำเหยียดหยามและความไม่ยุติธรรมนั้นมันมิใช่นิสัยของเย่หยวน ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าทำ เขาก็ต้องได้รับผล!
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นต่างตกตะลึงกับคำพูดนั้น เจ้าหมอนี่มันโอหังจนเกินเยียวยา กลับกล้ามาทวงถามเรื่องราวจากท่านเฉินซิง
เขาคิดว่าด้วยพลังที่เขาแสดงออกมาในศึกทายาทมังกรนี้มันจะทำให้เขามีสิทธิ์ทวงถามเรื่องราวจากมังกรสวรรค์ตัวจริงได้หรือ?
“โอหังนัก! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน? กลับกล้ามาพูดกล่าวเช่นนี้ต่อหน้าท่านเฉินซิงได้?” หลงเทียนยู่ที่เสียหน้าอย่างหนักนั้นไม่รู้จะเอาความคับแค้นใจนี้ไประบายที่ใด เมื่อได้เห็นโอกาสเขาจึงรีบสอดปากเข้าแทรกขึ้นทันที
แต่เย่หยวนกลับไม่ได้คิดสนใจเขาและหันไปมองดูเฉินซิงอย่างไม่ละสายตา
เฉินซิงเองก็ถอนหายใจออกมายาว “เจ้าทั้งสองนั้นต่างเป็นอนาคตเสาหลักของเผ่ามังกรเรา ใครตายไปมันก็ย่อมจะเป็นความเสียหายใหญ่หลวงของเผ่ามังกรสิ้น!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหัวเราะลั่นขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปมองหลงหยวน “นี่คือเสาหลักของเผ่าพันธุ์? ฮ่าๆ เป็นเสาที่หนักแน่นเสียจริงๆ!”
คำพูดนี้มันถูกกล่าวออกมาด้วยความเย้ยหยันอย่างถึงที่สุด
หลงหยวนนั้นทั้งโกรธทั้งอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปให้พ้นๆ
เหล่าทายาทมังกรสวรรค์คนอื่นๆ เองก็ได้แต่ต้องก้มหน้าลงต่ำ หากหลงหยวนนั้นยังไม่อาจเป็นเสาหลักของเผ่าได้แล้วพวกเขาจะเป็นอะไรได้กันเล่า?
แต่เมื่อคนกล่าวคำพูดนี้มันเป็นเย่หยวน พวกเขาก็ไม่อาจจะเถียงใดๆ กลับไปได้!
เขานั้นมีพลังฝีมือ พรสวรรค์ที่พิสูจน์ชัดเจนว่าหลงหยวนนั้นเป็นแค่ขยะ!
“เย่หยวนเจ้าจะโอหังจนเกินไปแล้ว! หากหลงหยวนไม่อาจเป็นเสาหลักของเผ่าได้แล้วเจ้าเล่า? เจ้ามันก็แค่…” หลงเทียนยู่ยังกล่าวไม่ทันจบคำก็ได้ยินเสียงตวาดขึ้น
“หุบปาก!” เฉินซิงร้องตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจขัดคำพูดของหลงเทียนยู่ไว้
แต่เย่หยวนกลับเป็นฝ่ายหัวเราะขึ้น “ว่าต่อไปสิว่าข้าเป็นแค่ครึ่งมนุษย์ ในสายตาของพวกเจ้าแล้วข้ามันเป็นคนจากต่างเผ่าพันธุ์ใช่หรือไม่เล่า? เพราะเหตุนั้นตอนที่หลงหยวนมันคิดใช้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ห้าธาตุฆ่าสังหารข้าพวกเจ้าจึงไม่ได้คิดช่วยเหลือใดๆ แต่ตอนที่ข้าคิดสังหารมันพวกเจ้ากลับยื่นมือมายุ่ง! ในสายตาของพวกเจ้าแล้วต่อให้ข้าจะเก่งกาจปานใดมันก็คงไม่มีทางเป็นคนเผ่ามังกรไปได้ใช่หรือไม่?!”
เฉินซิงได้แต่ยืนนิ่งอย่างอับอาย ความคิดของเขานั้นถูกเย่หยวนกางออกมาให้ทุกผู้คนเห็นอย่างน่าอับอาย!
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับตรามังกรสวรรค์มาจากยอดคนของเผ่ามังกรแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่อาจเชื่อเย่หยวนได้สนิทใจ
แต่เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนกลับจะมองเรื่องราวออกในทันตาและแฉมันออกมาต่อหน้าผู้คนเช่นนี้
เจ้าเด็กคนนี้มันหลักแหลมไม่เบา!
เฉินซิงได้แต่ถอนหายใจยาว “เรื่องนี้มันเป็นความผิดของจักรพรรดิผู้นี้จริง แต่ว่าหลงหยวนนั้นก็เป็นยอดอัจฉริยะในล้านปีจะหาได้สักครั้ง ปล่อยให้เขาตายไปมันจะน่าเสียดายจนเกินไป! พูดมาเถอะ เจ้าต้องการอะไร!”
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างเบิกตากว้าง ท่านเฉินซิงกลับยอมรับความผิดต่อเด็กน้อยคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเด็กมากพรสวรรค์ปานใดสุดท้ายก่อนที่จะเติบโตได้มันก็เป็นแค่เด็กน้อย
แล้วมันเพราะเหตุใด?
แต่มีหรือที่คนทั้งหลายนั้นจะเข้าใจความหวาดกลัวที่เฉินซิงมีต่อผู้อยู่เบื้องหลังเย่หยวนได้!
คนทั้งหลายไม่ทราบ แต่ตัวเฉินซิงทราบดี
ยอดฝีมือที่ว่านี้มันมิใช่ผู้อยู่เบื้องบนของเขามังกรสวรรค์ใดๆ แต่…มันเป็นยอดฝีมือจากเบื้องล่างผู้เฝ้านรกไว้!
ตัวตนจากที่แห่งนั้นมันล้วนแล้วต่างเป็นยอดคนพลังล้ำฟ้าดิน
เขานั้นไม่อาจจะไปลบหลู่พวกเขาได้!
ต่อให้จะเป็นเขามังกรสวรรค์นี้เองก็ไม่อาจลบหลู่พวกเขาได้!
“ข้าต้องการผลึกต้นมังกรร้อยชิ้น!” เย่หยวนกล่าว
เป้าหมายของเขานั้นมิใช่เพื่อหาเรื่องผู้คน ต่อหน้าตัวตนยิ่งใหญ่อย่างเขามังกรสวรรค์นี้แล้วความพิโรธโกรธแค้นใดๆ ของเขามันย่อมจะไร้ค่า
โลกนี้มันเป็นโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นธรรมดา
หากเขานั้นมีพลังพอจะถล่มทำลายเขามังกรสวรรค์มีหรือที่เขาจะยังมาพูดคุยใดๆ เช่นนี้?
ไม่!
เขานั้นคงเหยียบย่ำเขามังกรสวรรค์นี้ลงไปพร้อมๆ กับหลงหยวนแล้ว
เฉินซิงหรี่ตาลงถามหนักแน่น “เจ้าจะเอาผลึกต้นมังกรไปมากมายเพื่อประโยชน์ใด? ด้วยพลังของเจ้านี้แค่ที่เจ้าดูดซับในลานศึกหมอกมันก็คงมากเกินพอ”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เรื่องนั้นท่านอย่าได้กังวลไป ข้าย่อมใช้ประโยชน์จากมันได้!”
เฉินซิงจึงส่ายหัวออกมา “ไม่ได้! ผลึกต้นมังกรนั้นเป็นสุดยอดสมบัติของเผ่ามังกรเรา มีเพียงแค่มังกรสวรรค์และเหล่าทายาทมังกรสวรรค์เท่านั้นที่จะใช้มันได้ ต่อให้จะเป็นเจ้ามังกรของปราการสวรรค์ทั้งหลายเองก็คงไม่อาจใช้งานมันได้!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงเบิกตากว้างขึ้นมา ดูท่าแล้วเฉินซิงนี้จะกลัวว่าเขานั้นจะเอาผลึกต้นมังกรออกไปแจกจ่ายให้แก่คนภายนอก
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเจ้าผลึกต้นมังกรนี้มันก็รุนแรงล้ำกว่าเลือดมังกรฟ้ามาก
แม้จะเป็นมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์ก็คงกลายเป็นยอดฝีมือได้หากเอามันไปใช้งาน
แต่เขาเองก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเขาไม่นึกไม่ฝันว่าผลึกต้นมังกรนี้มันจะเป็นของล้ำค่าลับได้ปานนั้น
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “หากเป็นเช่นนั้นแล้วข้าก็จะหลอมดูดซับมันที่นี่ เช่นนั้นคงไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”
เฉินซิงหรี่ตาลงไปอย่างตกตะลึง “เจ้า? ที่นี่?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ท่านกังวลว่าข้าจะเอาผลึกต้นมังกรไปแจกจ่ายให้คนนอกมิใช่หรือ? เช่นนั้นแล้วข้าก็จะนั่งหลอมซับมันตรงนี้แหละ ทำเช่นนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหาใช่หรือไม่?”
เฉินซิงถึงกับไม่อาจสรรหาคำพูดใดมากล่าวได้ “เรื่องนั้นมันย่อมไม่เป็นปัญหา แต่…”
แต่ฝ่ายเย่หยวนกลับพูดตัดบทขึ้นมาก่อน “ไม่มีแต่ หากวันนี้ข้าไม่ได้หลอมซับร้อยผลึกต้นมังกรแล้วเรื่องราววันนี้ข้าคงจำไปจนวันตายแน่”
พูดมาจนถึงขนาดนี้แล้วมีหรือที่เฉินซิงจะยังกล้าต่อรองใดๆ?
เฉินซิงจึงได้แต่พยักหน้ารับ “ได้ แต่…ประมาณตัวเองให้ดีแล้วกัน”
แต่ทางหลงเทียนยู่กลับหัวเราะขึ้นมา “ร้อยชิ้น? ดูดซับให้ตัวแตกตายไปเถอะ!”
คนอื่นๆ เองก็ต้องส่ายหัวออกมาตาม ดูท่าแล้วพวกเขาย่อมจะรู้สึกว่าเย่หยวนนี้ดูถูกโลกหล้ามากเกินไป
“การตื่นแต่ละครั้งนั้นคนผู้หนึ่งหลอมซับผลึกต้นมังกรได้แค่ยี่สิบชิ้นเป็นอย่างมาก มากกว่านั้นร่างกายคงไม่อาจทนไหว ต่อให้เขาจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดแต่ก็คงไม่อาจรับได้ถึงร้อยชิ้นไปหรอก!”
“ครั้งหนึ่งมันเคยมีมังกรที่ไม่ประมาณตัวดูดซับพลังของผลึกต้นมังกรไปถึงยี่สิบห้าชิ้น สุดท้ายก็ต้องตัวแตกตายเพราะพลังที่เอ่อล้น! เจ้าเด็กคนนี้มันรนหาที่จริงๆ!”
“หึๆ โอหังมากนัก ข้าอยากรู้จริงๆ ว่ามันจะดูดซับผลึกต้นมังกรไปได้สักกี่ชิ้น!”
…
สำหรับตัวเฉินซิงแล้วผลึกต้นมังกรใดๆ มันย่อมจะมิใช่ปัญหา
เขาจึงได้ขยับแขนโยนส่งผลึกต้นมังกรออกมารวมหนึ่งร้อยชิ้น
เย่หยวนเองก็ไม่คิดจะพูดกล่าวใดๆ รับผลึกต้นมังกรทั้งหลายมาและเริ่มทำการหลอมดูดซับ
ความเจ็บปวดรวดร้าวค่อยๆ แทรกเข้าสู่ร่างกายของเขาพร้อมๆ กับพลังของมัน
แต่ทว่าเมื่อพลังงานต้นกำเนิดมังกรเข้าสู่ร่างของเย่หยวนมันกลับไม่ได้ทำให้ตรามังกรสวรรค์ตอบสนองใดๆ
เหตุผลที่เย่หยวนอยากได้ผลึกต้นมังกรมากมายปานนี้มันก็เพราะเขาอยากจะเห็นพลังของตรามังกรสวรรค์นี้เอง
หลังจากตื่นขึ้นแล้วมันจะเพิ่มพลังสายเลือดไปนับสิบเท่า!
การเพิ่มพลังอย่างเหนือล้นปานนั้นมีหรือที่เย่หยวนจะปล่อยผ่าน?
ผลึกต้นมังกรนั้นมันเป็นของวิเศษจากเขามังกรสวรรค์เท่านั้น หากไม่ได้โอกาสนี้ก็คงไม่มีโอกาสใดอีก! เป็นโอกาสที่ต้องคว้าไว้อย่างสุดตัว
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้อยากทดลองว่าตัวเขานั้นจะสามารถปลุกตรามังกรสวรรค์นี้ขึ้นมาได้สักครั้งหรือไม่
เหตุผลที่เขากล่าวออกไปว่าต้องการร้อยชิ้นนั้นมันก็เพราะว่าเขาไม่อาจคาดเดาถึงจำนวนที่ต้องการจริงๆ ได้
เดิมทีในลานศึกหมอกนั้นเขาก็ได้เก็บผลึกต้นมังกรมาถึงสิบห้าชิ้นแล้ว แต่สุดท้ายผลของมันกลับไม่ได้รุนแรงชัดเจนใดๆ
เมื่อพลังงานต้นกำเนิดมังกรนี้ไหลเข้าร่างกายของเขามันก็เหมือนดั่งหินก้อนน้อยที่จมลงสู่ก้นมหาสมุทร
…………….