บทที่ 357 โชคชะตา
บทที่ 357 โชคชะตา
ตระกูลซีเหมิน? ตระกูลเจียง?
ผู้ที่มีคุณสมบัติในการขึ้นเรือสำราญสุดหรูลำนี้ย่อมมั่งคั่งหรือเป็นที่นับถือ เพราะคนธรรมดาต้องทำงานตลอดชีวิตเพื่อจ่ายค่าตั๋วของเรือลำนี้
เนื่องจากพวกเขาคุยกันถึงตระกูลซีเหมินและตระกูลเจียง จึงเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะอยู่ในตระกูลธรรมดา ชายหญิงทั้งสองนี้มาจากฮัวเซีย และเรือสำราญสุดหรูก็กำลังแล่นไปยังฮัวเซีย
ถ้างั้นก็สามารถระบุได้ว่าตระกูลซีเหมินและเจียงในเขตฮัวเซียนั้นมีความเหมาะสมกับเรือลำนี้
โดยเฉพาะตระกูลซีเหมิน ตระกูลที่มีนามสกุลผสมนั้นหาได้ยากในเขตฮัวเซีย ตามความรู้ของเซียวเฟิง มีเพียงตระกูลโบราณตระกูลเดียวที่มีนามสกุลว่าซีเหมิน และเป็นตระกูลของซีเหมินชุยเสวียในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ ตระกูลเจียงก็มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเขตฮัวเซีย! เจียงไคเฉินแห่งทางตะวันออก!
เรื่องนี้ทำให้เซียวเฟิงอดสงสัยไม่ได้ เขาแอบขึ้นเรือสำราญแบบสุ่ม ๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินบทสนทนาเกี่ยวกับสองตระกูลที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้นี้ เขาแอบเหลือบมองเล็กน้อย
ทันใดนั้นเซียวเฟิงก็ต้องเบิกตากว้างเล็กน้อยด้วยความตกตะลึง เพราะเขาเพิ่งได้เห็นหน้าด้านข้างของสาวสวยข้าง ๆ ตัวเองเมื่อเขาหันหน้าไปมอง
นี่เป็นสาวงามที่สุดยอดมาก!
ผมสีดำสดใสของเธอกำลังพริ้วไสวอยู่ในสายลมทะเล ผิวของเธอนั้นนุ่มเนียนละเอียดราวกับน้ำนม แต่เธอกลับสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่คู่หนึ่งบนใบหน้าซึ่งปกปิดหน้าตาของตัวเอง
และเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธอดูน่าดึงดูด และทำให้เซียวเฟิงตาโตนั่นก็เพราะรูปร่างที่ยอดเยี่ยมของเธอ!
ภายใต้บิกินี่ รูปร่างที่เย้ายวนราวกับปีศาจเจ้าเสน่ห์ถูกเปิดเผยให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเธอจะมีผ้าคลุม แต่ก็ปลิวไปตามลมทะเลซึ่งไม่มีผลต่อการปกปิดร่างกายเลย
ภายใต้ผิวสีขาวนวลและละเอียดอ่อน ขาของเธอยาวและเรียว แต่เอวของเธอเล็กราวกับงูน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น เธอมีหน้าอกที่ใหญ่มาก ดูเหมือนว่าพวกมันอยากจะทะลักออกมาจากชุดว่ายน้ำที่ยืดออก! มันใหญ่มากจนทำให้คนสงสัยว่าเอวเล็ก ๆ ของเธอจะสามารถแบกมันได้หรือไม่!
ในตอนแรก เซียวเฟิงไม่มีความรู้สึกพิเศษใด ๆ ตอนที่เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของสาวงาม เพราะสุดท้ายใบหน้าของเธอครึ่งหนึ่งส่วนใหญ่ก็ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดขนาดใหญ่นั่น
ทว่าเมื่อเขาเหลือบมองดูหน้าอกใหญ่ของเธอ พวกมันก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย เนื่องจากหน้าอกขนาดนี้หาได้ยากในฮัวเซีย และเซียวเฟิงก็เพิ่งนึกได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมีหน้าอกขนาดนี้ ซึ่งก็คือจืออี้แห่งกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์!
เมื่อคิดได้แบบนี้ เซียวเฟิงจึงมองใบหน้าด้านข้างของเธออีกครั้งทันที แน่นอนว่าใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ไม่ได้มีแว่นกันแดดบดบังนั้นก็สามารถเข้ากับใบหน้าของจืออี้ได้อย่างสมบูรณ์!
“จืออี้แห่งกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์?”
เซียวเฟิงเรียกเธอ นี่เป็นการยืนยันตัวตนของเธอด้วย ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธอบนเรือสำราญลำนี้ มันคือโชคชะตาหรือเปล่า?
“หืม?”
จืออี้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็สังเกตว่าเซียวเฟิงกำลังมองมาที่เธอ แต่เธอไม่สนใจ ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยรูปร่างที่วิเศษเช่นนี้ เธอย่อมเคยได้ประสบกับสถานการณ์เช่นนี้มากมาย แม้ว่าดวงตาของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอจะถูกแว่นกันแดดบดบังไว้ แต่เธอก็ไม่รู้สึกหยาบคาย
ทว่าในตอนนี้ เธอถูกเรียกด้วยชื่อ และมันก็เป็นชื่อตัวละครในเกมของเธอ สิ่งนี้จึงทำให้จืออี้หันกลับไปมองเซียวเฟิง
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับที่เซียวเฟิงไม่รู้จักเธอในแวบแรก เธอก็ไม่รู้จักเซียวเฟิงเช่นกัน
เซียวเฟิงไม่ค่อยเปิดเผยใบหน้าของเขาในเกม แม้ว่าเธอจะเคยเห็นเขาเป็นครั้งคราว แต่ความประทับใจของเธอก็ยังไม่ลึกพอ นอกจากนี้ เซียวเฟิงก็สวมแว่นกันแดดด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะจำเขาไม่ได้
เนื่องจากเซียวเฟิงมักใช้หน้ากากเพื่อปกปิดใบหน้าครึ่งล่างในเกม จืออี้อาจจะคุ้นเคยกับใบหน้าครึ่งบนของเซียวเฟิง แต่ในเวลานี้ ใบหน้าของเขาที่เธอคุ้นเคยถูกปิดไว้ด้วยแว่นกันแดด
“คุณเป็นผู้เล่นมิธงั้นหรือ? คุณเคยเห็นฉันในเกมเหรอ?”
จืออี้ถามเซียวเฟิง เธอทำเพื่อขจัดความรำคาญจากชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอ และหาข้ออ้างที่จะเบี่ยงเบนจากเขา
“นายเป็นใคร? ไม่มีตาหรือไง? เรากำลังคุยกันอยู่ นายมีสิทธิ์อะไรมาขัดจังหวะเรากัน?”
แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล เพราะชายหนุ่มที่มีนามสกุลเจียงนั้นหยาบคายใส่เซียวเฟิงโดยตรง เขาโกรธมากที่เซียวเฟิงขัดจังหวะการสนทนาของเขากับจืออี้ ในขณะเดียวกัน เขาก็เหลือบมองขึ้นลงที่เซียวเฟิงด้วยท่าทางดูถูก เห็นได้ชัดว่าท่าทีของเขาไม่ค่อยดีนัก
เรือสำราญสุดหรูลำนี้อยู่ในนามบริษัทท่องเที่ยวระหว่างประเทศ แต่แท้จริงแล้วเจียงโจวซื้อมันมาเป็นการส่วนตัวเพื่อสร้างโอกาส เจียงโจวรู้จักทุกคนที่มีฐานะบนเรือสำราญ และเห็นได้ชัดว่าเซียวเฟิงไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่นี้
เซียวเฟิงส่ายหัวและไม่ตอบ อย่างไรแล้วเขาก็เป็นคนลักลอบขึ้นเรือ จุดประสงค์ของเขาคือการกลับไปที่ฮัวเซียโดยไม่ให้เกิดเรื่องใด ๆ แม้ว่าเขาจะรู้จักจืออี้ แต่เซียวเฟิงก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธอ
“เจียงโจว! สันดานนายนี่มันเป็นความอัปยศของพ่อนายจริง ๆ!”
อย่างไรก็ตาม มันก็เห็นได้ชัดว่าจืออี้ทนพฤติกรรมและการเหยียดหยามของเจียงโจวไม่ไหว
“ซีเฟย! ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเธอนะ! ตราบใดที่เธอสัญญาว่าจะอยู่กับฉัน ฉันก็สัญญาว่าซีเหมินชุยเสวียจะไม่มีวันเอาเปรียบเธอได้อีกในอนาคต!” เจียงโจวอารมณ์เสียมาก
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจ แต่ฉันไม่ต้องการ!” จืออี้ตอบอย่างเย็นชา
“ซีเฟย ฉันหวังว่าเธอจะทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดูทั้งเขตฮัวเซียสิ ตระกูลที่สามารถทัดเทียมกับตระกูลซีเหมินได้ ก็มีแต่ตระกูลเจียงของเราเท่านั้น”
เจียงโจวไม่ยอมแพ้และยังคงพูดต่อไป แล้วเขาก็หันไปมองที่เซียวเฟิงและพูดด้วยน้ำเสียงเตือนเล็กน้อยว่า “ไอ้หนู ออกจากบ้านก็หัดพกสมองมาด้วย นายไม่มีคุณสมบัติจะคุยกับผู้หญิงทุกคน ทะเลนี้มีพายุนะ ระวังตัวให้ดีเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้!”
เจียงโจวมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะพูดแบบนี้ แม้ว่าคนที่สามารถขึ้นเรือสำราญลำนี้ได้ถ้าไม่ร่ำรวยก็ต้องเป็นที่นับถือ ตราบใดที่พวกเขาไม่ใช่คนที่มีตัวตนสูงสุดที่เขารู้จัก คนอื่น ๆ ก็อาจถูกโยนลงทะเลไปเป็นอาหารปลาได้อย่างไม่ต้องห่วงด้วยฐานะตระกูลเจียงของเขา
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่สิ้นคำเตือนของเจียงโจว ชายตระกูลเจียงรู้สึกว่าแสงแดดเหนือหัวของตัวเองหายไปแล้ว แล้วก็ถูกเงาดำปกคลุมแทน เขาหันกลับไปมองอย่างดุเดือด แล้วอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง มันเป็นชายผิวดำที่แข็งแกร่งซึ่งจริง ๆ แล้วสูงกว่าสองเมตร เขาแข็งแกร่งราวกับหมีและยืนอยู่ข้างหลังเขาเหมือนหอคอยเหล็ก มองดูเขาอย่างเย็นชา
“ท่านครับ ผมควรจะฆ่าเขาไหม?”
เป็นคิงคองที่มองเจียงโจวอย่างเฉยเมย ซึ่งเขาฝ่าฝืนคำเตือนของเซียวเฟิง เพราะตอนที่เขาขึ้นเรือสำราญ เซียวเฟิงได้เตือนเขาไว้ว่าอย่าทำตัวเด่น
ท่าน? ฆ่า?
หลังจากได้ยินคำพูดของคิงคอง ทั้งเจียงโจวและจืออี้ต่างก็ตกใจ
เจียงโจวไม่คิดว่านักท่องเที่ยว ‘ธรรมดา’ อย่างเซียวเฟิงจะพาคนคุ้มกันมาด้วย แต่ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว และร่างกายที่เหมือนหมีดำของคิงคองก็น่าหวั่นเกรงเกินไป ดังนั้นเจียงโจวจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
จืออี้ก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าชายที่เธอเจอบนดาดฟ้าเรือจะเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักเธอเพียงในเกมเท่านั้น แถมเขาสามารถพูดคำว่าฆ่าได้แบบสบาย ๆ
จืออี้อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเซียวเฟิง แต่เธอเห็นเพียงหลังของเซียวเฟิง เธอมองไม่เห็นอะไรนอกจากด้านหลังหัวของเขา
และเซียวเฟิงเองก็ไม่ได้หันกลับมา เพียงแค่ส่ายหัวโดยไม่หันหลังกลับ ซึ่งเป็นคำตอบให้คิงคอง
“ครับ!”
คิงคองตอบด้วยเสียงอู้อี้ จากนั้นร่างที่เหมือนหอคอยของเขาก็ขยับออกไป แต่เขายังคงมองเจียงโจวอย่างเฉยเมย
ในที่สุดแสงแดดก็ตกลงบนร่างของเจียงโจวอีกครั้ง ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็มองไปที่เซียวเฟิงและเขาก็มองคิงคองอย่างหวั่นเกรง ความสับสนฉายแวบผ่านดวงตาของเขา แต่ก็ไม่พูดอะไร หันหลังกลับและออกจากดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว
คิงคองใช้มือข้างหนึ่งทำท่าคารวะข้างหลังเซียวเฟิง จากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไป หายไปอย่างกะทันหันเหมือนกับที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น
“เจียงโจวเป็นคนแบบนี้ เขามีปัญหาด้านนิสัย แต่เบื้องหลังของเขาก็แข็งแกร่งมาก ถ้าคุณทำให้เขาขุ่นเคืองอย่างรุนแรงจะมีปัญหามากมาย ในช่วงสองสามวันนี้ คุณไม่ควรเดินเตร่บนเรือสำราญนะ”
ในขณะนี้ จืออี้ก็ได้สติจากอาการตกใจ และพูดกับเซียวเฟิงอย่างอ่อนโยน ในขณะเดียวกัน เธอมองขึ้นลงที่แผ่นหลังของเซียวเฟิงและอดไม่ได้ที่จะถามว่า
“คุณรู้ว่าฉันคือจืออี้ได้ยังไง? คุณเคยเห็นฉันในเกมเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
เซียวเฟิงหันกลับมาและเปลี่ยนเป็นท่าพิงรั้ว เผยฟันขาวของเขาต่อหน้าจืออี้
“ทำไมฉันถึงรู้สึกคุ้นกับเสียงของคุณจัง? คุณเป็นสมาชิกของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์หรือเปล่า?” จืออี้คิดถามด้วยความสงสัย
“ไม่ แต่เราเคยพบกันหลายครั้งแล้ว ฉันน่าจะเป็นเพื่อนของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์” เซียวเฟิงยิ้มอย่างสดใส
“เพื่อนของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์? แล้วเราก็เคยพบกันหลายครั้งแล้ว?” ดวงตาที่สวยงามของจืออี้ยิ่งฉายความสงสัยออกมา
ถ้าผู้ชายคนอื่นพูดกับเธอแบบนี้ เธอก็คงจะคิดว่ามันเป็นข้ออ้างกลาย ๆ ในการเข้ามาจีบเธอ แต่เธอไม่รู้สึกแบบนั้นจากเซียวเฟิงเลย แน่นอน เหตุผลหลักคือเสียงของเซียวเฟิงทำให้เธอรู้สึกคุ้นหูจริง ๆ!
“คุณเป็นใครกันแน่? ช่วยถอดแว่นกันแดดออกที” จืออี้คิดอยู่เป็นเวลาหนึ่งนาที แต่ก็ยังคิดไม่ออก เธอต้องยอมแพ้และพูดกับเซียวเฟิง
เหตุผลหลักคือเซียวเฟิงหายตัวไปนานเกินไปเกือบหนึ่งเดือนแล้ว และเธอไม่ได้อยู่กับเซียวเฟิงทุกวันเหมือนหลิวเฉียงเหว่ยและผู้หญิงคนอื่น ๆ ดังนั้นแม้ว่าเธอจะรู้สึกคุ้นมาก ๆ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะนึกออก
นอกจากนี้ ลมทะเลบนดาดฟ้าเรือยังแรง และเสียงก็ไม่ชัดเจน ซึ่งทำให้ระบุได้ยากขึ้น
“ฮ่า ๆ”
เซียวเฟิงอดหัวเราะไม่ได้ รู้สึกมีความสุขมาก จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกมาและถอดแว่นกันแดดสีน้ำตาลของเขาออก
“คุณ คุณ คุณ! ท่านเซียว!”
แววตาของจืออี้สะท้อนใบหน้าของเซียวเฟิง และเผยให้เห็นความประหลาดใจที่เหลือเชื่อ
เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะได้พบกับเซียวเฟิงที่หายตัวไปเกือบหนึ่งเดือนที่นี่
“ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอก” เซียวเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเพียงเพื่อคร่ำครวญว่าโชคชะตานั้นช่างวิเศษจริง ๆ ที่ทำให้เขาประสบความบังเอิญเช่นนี้ เรือสำราญลำนี้มาจากประเทศ M ไปยังเขตฮัวเซียซึ่งยังคงอยู่ในทะเลหลวง เขาแอบขึ้นไปบนเรือสำราญมาแบบสุ่ม ๆ แต่ก็ได้เจอกับจืออี้จริง ๆ
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่? ทำไมหายตัวไปไหนนานจัง! ไปต่างประเทศมาเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าจืออี้ไม่ได้ฟัง แต่มองไปที่เซียวเฟิงอย่างตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม เธอเกือบจะพูดไม่ปะติดปะต่อกัน และหน้าอกของเธอเริ่มสั่นอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้นของเธอ
“คุณรู้ไหมว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในเกมระหว่างที่คุณไม่อยู่น่ะ? ทำไมไม่ออนไลน์! เราทุกคนคิดว่าคุณประสบอุบัติเหตุแล้วซะอีก! อันดับสูงสุดของคุณในอันดับเลเวลก็หายไปแล้วด้วย!”
“และตอนนี้กิลด์แอนติควิตี้ก็กำลังทำสงครามกับกิลด์มิดซัมเมอร์! คุณยังมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอยู่ที่นี่อีก! คุณ คุณ คุณ!”