ตอนที่ 301 โดนขวางที่หน้าวิลล่า!
เย่เฉินคว้าแขนของฉินเสี่ยวตั่ว แล้วถามด้วยท่าทีขึงขัง “เสี่ยวตั่ว พี่สาวคุณช่วงนี้ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
ฉินเสี่ยวตั่วเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาของเย่เฉิน ทันใดนั้นเองก็ตกใจจนอ้าปากกว้าง
“อ๊าก! นายคงจะไม่คิดว่าพี่ฉันป่วยเป็นโรคอะไรร้ายแรงใช่ไหม? นายอย่าทำฉันกลัวสิ!”
ในละครทีวี พระเอกนางเอกที่รักกันมากมายจู่ๆ ก็เลิกกัน ส่วนมากเป็นเพราะคนหนึ่งป่วยหนักไม่อยากเป็นภาระอีกฝ่าย
ดังนั้นถึงได้จงใจบอกเลิกกัน อีกทั้งยังต้องทำทีไร้เยื่อใย ทั้งที่ความจริงแล้วยังรักอีกฝ่าย ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียใจ
เย่เฉินเพียงแต่เดามั่วๆ เท่านั้น เขาจึงปลอบ “เปล่าหรอก คุณอย่าเครียดเลย ผมแค่ถามไปเรื่อยเท่านั้นเอง”
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าว “พี่สาวฉันไม่ได้ป่วยอะไร ไม่ได้ฉีดยา ไม่ได้กินยา แล้วก็ไม่ได้ไอ ไม่ได้ตัวร้อน เพียงแต่ดูเครียดๆ”
“แต่ถึงแม้ว่าหล่อนจะดูไม่ค่อยมีความสุข แต่มุ่งมั่นตั้งใจเรียนมากเลย!”
“เรียนเหรอ? เรียนอะไร?” เย่เฉินถามอย่างประหลาดใจ
ฉินเสี่ยวตั่วหัวเราะพลางเล่า “เรียนภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส แถมยังกลับไปเรียนมวยด้วย”
“ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส มวย?”
เย่เฉินไม่เข้าใจจริงๆ ว่าไอ้สิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันพวกนี้ เกี่ยวข้องกันยังไงแล้วมันจะอธิบายอะไรได้
เย่เฉินมองไปที่ฉินเสี่ยวตั่วแล้วกล่าว “เสี่ยวตั่ว ผมสงสัยว่าที่พี่สาวคุณเลิกกับผมแล้วไปแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงปุปปับแบบนี้ จะต้องมีเรื่องอะไรที่ลำบากใจแน่ๆ เลยไม่ได้บอกกับพวกเรา คุณจะต้องเข้าข้างผมนะ อย่าไปคิดว่าตาแก่นั่นเป็นคนดีอะไร เขาคิดมิดีมิร้ายกับพี่สาวคุณมานานแล้ว ไม่ได้เห็นพี่สาวคุณเป็นลูกเป็นหลานเฉยๆ”
ฉินเสี่ยวตั่วครุ่นคิด ถึงแม้ว่าหล่อนจะเคารพสวี่ฉู่หมิงเห็นเขาเป็นผู้อาวุโสมาตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ตาม
แต่ว่าภรรยาของอีกฝ่ายยังจากไปไม่ถึงสองปี เขาก็แต่งงานกับฉินหงเหยียนที่เด็กกว่าเขาตั้งหลายปี หนำซ้ำยังเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทด้วย ทำให้ฉินเสี่ยวตั่วไม่เข้าใจ
ฉินเสี่ยวตั่วมองเย่เฉินแล้วกล่าว “ก็ได้ ฉันเข้าข้างนาย! พี่สาวฉันไม่ให้ฉันติดต่อกับนาย ฉันเลยลบ WECHAT ของนายไปแล้ว แต่ฉันยังมีอีก WECHAT นายแอดฉันมา”
“ได้”
เย่เฉินสแกนอีก WECHAT ของฉินเสี่ยวตั่วแล้วกล่าว “เสี่ยวตั่ว คุณพาผมไปหาพี่สาวคุณตอนนี้เถอะ”
ฉินเสี่ยวตั่วปฏิเสธพัลวัน “ไม่ได้ พี่สาวฉันห้ามเราติดต่อกันแล้ว ถ้าฉันพานายไปเจอหล่อน พี่สาวฉันเอาฉันตายแน่”
เย่เฉินไม่อยากทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ “ก็ได้ งั้นคุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมหาวิธีไปเจอหล่อนเอง”
ฉินเสี่ยวตั่วหัวเราะคิกคัก “คืนนี้นายอยากจะแสดงหนังรักโรแมนติกเหรอ? ฉันจะรอนายที่บ้านนะ ฉันน่ะชอบดูฉากโรแมนติกพวกนี้ที่สุดเลย”
ฉินเสี่ยวตั่วสัมผัสได้ว่าคืนนี้เย่เฉินอาจจะต้องปีนหน้าต่างเพื่อมาพบหน้าฉินหงเหยียน
เย่เฉินยิ้มพลางลูบศีรษะฉินเสี่ยวตั่ว แล้วให้ซีกวาส่งหล่อนกลับ
หลังจากนั้นเย่เฉินก็เปลี่ยนชุดแล้วให้หลิวเจิ้งคุนหารถ Bently ในเมืองเสินเฉิงให้เขาสักคัน
เย่เฉินขับรถ Bently ไปที่วิลล่าอ้ายฉินไห่ซานจวง
ทว่าตอนที่ผ่านประตูใหญ่กลับเจอเข้ากับความยุ่งยากเล็กน้อย
ยามที่วิลล่าไม่ได้ปล่อยให้รถเย่เฉินผ่านเข้าไปในทันที แต่สอบถามเขาก่อนว่า “สอบถามหน่อยนะครับ คุณใช่เจ้าของวิลล่าในนี้หรือเปล่าครับ?”
หลิวเจิ้งคุนที่ประจำตำแหน่งคนขับรถกล่าว “ไม่ใช่ พวกเรามาพบลูกบ้านด้านใน”
ยามหน้าวิลล่ากล่าว “ต้องขอโทษด้วยนะครับ หมู่บ้านเราเป็นวิลล่าที่หรูหราที่สุดในเมืองเสินเฉิง เราไม่สามารถปล่อยให้คนที่ไม่ใช่ลูกบ้านเข้าหมู่บ้านได้ เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เราไม่สามารถปล่อยคุณเข้าด้านในหมู่บ้านได้”
หมู่บ้านเศรษฐีจำนวนมาก จะไม่ยอมปล่อยคนเข้ามาเพ่นพ่านให้หมู่บ้าน เรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร
หลิวเจิ้งคุนหันไปรายงานเย่เฉินที่นั่งอยู่ด้านหลัง “คุณชายเย่ ผมรู้จักเถ้าแก่คนหนึ่ง เขาอยู่ที่นี่พอดี เดี๋ยวผมโทรหาเขาให้เขามารับพวกเรา คุณชายรอสักครู่นะครับ”
“อ่อ” เย่เฉินพยักหน้ารับ
และแล้วหลิวเจิ้งคุนก็โทรเรียกชายวัยกลางคนที่รูปร่างกำยำคนหนึ่งให้มาหา
ชายผู้นี้เป็นคนเมืองเสินเฉิง ก่อนนี้ไปรู้จักกับหลิวเจิ้งคุนตอนอยู่อวิ๋นโจว โดยอีกฝ่ายเคยขอความช่วยเหลือจากเขาเพื่อให้รับมือกับคู่แข่ง
เมื่อเห็นหลิวเจิ้งคุน เขาก็มีท่าทีเกรงใจอย่างยิ่ง “แหม พี่คุน ลมอะไรหอบพี่มาที่นี่ได้ครับ?”
หลิวเจิ้งคุนลงจากรถมาจับมือกับชายคนดังกล่าว “คุณอู สบายดีใช่ไหมครับ ดูดีเหมือนเดิมเลย”
“ชมเกินไปแล้ว พูดถึงดูดี ใครจะเอาชนะพี่คุนได้ล่ะครับ” คุณอูกล่าวพลางหัวเราะ
หลิวเจิ้งคุนพูดตรงๆ “คุณอู ที่ผมมาคราวนี้เพราะอยากจะเข้าไปหาเพื่อนคนหนึ่ง คุณช่วยคุยกับยามหมู่บ้านคุณให้ปล่อยรถผมเข้าไปที”
คุณอูยังนึกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องใหญ่โตอะไร ทันทีที่ได้ยินว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แค่เข้าไปในวิลล่าก็รีบรับปากทันที “ไม่มีปัญหาเลยเดี๋ยวผมจัดการให้เอง!”
จากนั้นคุณอูก็เดินไปหายามของหมู่บ้านแล้วกล่าวว่า “ผมเป็นเจ้าของวิลล่าในหมู่บ้าน พวกเขาเป็นเพื่อนผม ปล่อยพวกเขาเข้าไปเร็วๆ!”
ยามกล่าว “ผมคงต้องขอเอกสารของเพื่อนๆคุณหน่อย”
คุณอูหัวเสียทันที “เอกสารบ้าบออะไร! ฉันจะไม่รู้เชียวเรอะว่าพวกเขาเป็นใคร? มีฉันรับรองแล้วจะเอาหลักฐานเอกสารบ้าบออะไร!”
คุณอูรู้ส่าหลิวเจิ้งคุนเป็นคนใหญ่คนโต จะให้เขามาแสดงเอกสารประจำตัวต่อกับยาม ก็จะทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีไปเปล่าๆ
ยามยังคงยืนกราน “ต้องขอโทษด้วยครับ เพราะเบื้องบนค่อนข้างเข้มงวด จะต้องแสดงเอกสารประจำตัวก่อนถึงจะปล่อยไปได้”
คุณอู “แก…”
หลิวเจิ้งคุนค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องแสดงเอกสารประจำตัวมากทีเดียว เพราะว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไร แถมตัวเองยังเคยทำผิดอีก
หลิวเจิ้งคุนหัวเราะ “จะเอาเอกสารใช่ไหมได้สิได้ ผมไม่ได้เป็นนักโทษอะไรสักหน่อย จะกลัวการแสดงหลักฐานทำไม?”
หลิวเจิ้งคุนส่งเอกสารประจำตัวให้ยามคนนั้นดูแล้วพินิจมองสีหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
หากเขาสังเกตเห็นสีหน้าแปลกประหลาด หรือท่าทางเหมือนจะแจ้งตำรวจของอีกฝ่ายแล้วเขาจะซ้อมอีกฝ่ายให้สลบทันที
ทว่าเห็นได้ชัดว่ายามตัวเล็กๆ ของเมืองเสินเฉิงคนนี้ไม่รู้จักหลิวเจิ้งคุน
หลังจากเห็นเอกสารของหลิวเจิ้งคุนแล้วเขาก็คืนให้กับเขา
“คราวนี้จะไปได้หรือยัง?” หลิวเจิ้งคุนถามยาม
แต่ว่ายามที่เฝ้าประตูส่ายหน้า “ขอดูเอกสารของคนในรถด้วยนะครับ”
“แกเป็นบ้าเหรอ? จะดูเอกสารประจำตัวไปทำไมเยอะแยะ?” หลิวเจิ้งคุนอดด่าไม่ได้
“อาคุน!”
เย่เฉินไม่อยากจะให้มีเรื่องมากมาย เขาแค่อยากจะไปเจอฉินหงเหยียนเพื่อถามเรื่องราวทั้งหมดให้ชัดเจน
แล้วบวกกับตัวเย่เฉินเองไม่เคยทำอะไรผิด ไม่เคยทำเรื่องน่าละอายอะไร
ดังนั้นเย่เฉินก็เลยยื่นเอกสารประจำตัวออกไปให้ยาม
“รีบๆ ดูเร็ว!” หลิวเจิ้งคุนส่งเอกสารไปให้ยาม แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ยามเห็นแล้วใบหน้าเขากลับเปลี่ยนสีทันที “ขอโทษนะครับ พวกคุณเข้าไปในหมู่บ้านนี้ไม่ได้”
“แกพูดว่าอะไรนะ? ทำไมเข้าไปไม่ได้?” หลิวเจิ้งคุนกล่าวถาม
ยามกล่าว “ตอนนี้คนจะเข้าหมู่บ้านได้มีแค่เจ้าบ้านเท่านั้น พวกคุณไม่ใช่เจ้าของบ้าน พวกคุณจะเข้าไปไม่ได้”
หลิวเจิ้งคุนตะคอก “นี่มันกฎบ้าบออะไร? ฉันเข้าไปพบลูกบ้านในหมู่บ้านนี้ไม่ได้หรือไง? เจ้าของบ้านก็ออกมารับแล้วแกยังไม่ยอมให้ฉันเข้าไปอีกหรือไง? ฉันต้องซื้อวิลล่าที่นี่ใช่ไหมแกถึงจะยอมให้ฉันเข้าไป? แกคิดว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อวิลล่าเน่าๆ ที่นี่ของพวกแกหรือไง? ช่วยดูรถที่ฉันขับด้วย!”
ยามหัวเราะน้อยๆ มองป้ายทะเบียนรถ “พวกคุณเป็นคนนอกพื้นที่ ป้ายทะเบียนรถเป็นของเมืองเสินเฉิง เกรงว่าพวกคุณคงจะเช่ารถ Bently คันนี้มาใช่ไหม?”