สิ่งที่ซูย่าหยิงเล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นความจริงทุกประการ เธอไม่ได้โกหกหรือเฉไฉใด ๆ เลย เมื่อทั้งหมดเดินทางไปถึงบ้านของเธอ เธอก็รีบคว้าเมมโมรี่การ์ดที่มีวิดีโอการฆาตกรรมจ้าวเซี่ยแล้วยื่นให้กับเย่เชียนอย่างเต็มใจ
หลังจากที่เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ได้เมมโมรี่การ์ดมาแล้ว พวกเขาก็ออกจากบ้านของเธอในทันที เย่เชียนไม่สนใจหรือแยแสผู้หญิงอย่างเธอ เพราะในมุมมองของเขา ซูย่าหยิงเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีอำนาจอิทธิพลใด ๆ เขาไม่จำเป็นต้องกำจัดคนอย่างเธอ สำหรับเขา ตอนนี้อู่หยางเทียนหมิงเป็นคนเดียวที่เย่เชียนต้องการกำจัด ส่วนซูย่าหยิง เธอก็เป็นเหมือนคนเลวที่เคยได้รับบาดแผลอันเลวร้าย เย่เชียนจึงปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามโชคชะตาและชะตากรรมของเธอในอนาคตว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป…
เย่เชียนไม่เคยมองว่าตัวเองว่าเป็นคนที่สูงส่งหรือเป็นสุภาพบุรุษเหนือผู้อื่น หากต้องการจะเป็นศัตรูกันแล้ว มันก็ต้องมีการแก้แค้นกันเป็นเรื่องธรรมดาของลูกผู้ชาย
หลังจากที่ออกจากบ้านของซูย่าหยิงแล้ว เย่เชียนก็มองเมมโมรี่การ์ดในมือและพูดว่า
เฮ้… นายอยากเล่นอะไรสนุก ๆ ไหม ?
แน่นอนว่าหลี่เหว่ยยี่ตอบรับคำชวนนั้นด้วยความยินดี เขาเองก็ไม่ได้อยากจะกลับไปซ่อนตัวอยู่นอกบ้านของจ้าวหยาให้ถูกยุงรุมกัด อีกทั้งเขานั้นอยู่กับเย่เชียนมานานจึงเข้าใจความหมายของเย่เชียนว่าพยายามจะสื่ออะไร
เย่เชียนกำลังจะระเบิดภูเขาและเข้าถ้ำเสือ
*สำนวน: ระเบิดภูเขาและเข้าถ้ำเสือ หมายถึง การเผยจุดยืนที่แข็งแกร่งและเตือนถึงหายนะที่กำลังจะเกิด
……
การเลือกตั้งผู้ว่าเทศบาลเมืองใกล้เข้ามาทุกที…
ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ อู่หยางเฉิงก็ยุ่งอยู่ทุกที่เพื่อตระเตรียมสิ่งต่าง ๆ สำหรับตัวเอง ในเซี่ยงไฮ้นั้นมีรองผู้ว่าเทศบาลเมืองอยู่ทั้งหมดสามคนด้วยกัน แต่คู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวของอู่หยางเฉิงก็คือ หวังปิง นั่นเอง และจากผลการคาดคะเนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น อู่หยางเฉิงมีโอกาสประมาณ 80% ที่จะได้ตำแหน่งผู้ว่าเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้มาครอบครอง
แต่ทว่าในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้ ลูกชายที่รักนักรักหนาของเขาเองทำให้เขาปวดหัวอย่างมาก เจ้าลูกชายตัวดีดันไปฆ่าคนโดยไม่คาดคิด หากอู่หยางเฉิงปล่อยให้เรื่องพวกนี้เล็ดลอดออกไป ความปรารถนาของเขาที่จะได้รับการแต่งตั้งก็จะถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ลูกชายของเขาก็ไม่ได้โง่เขลาหรือไร้ประโยชน์เสมอไป เพราะอู่หยางเทียนหมิงนั้นมีความโหดร้ายอำมหิตและไร้ความปรานี
เมื่ออู่หยางเฉิงได้ยินอู่หยางเทียนหมิงพูดถึงแผนการที่เขาจะใช้ตำรวจวิสามัญเย่เชียนข้อหาฆาตกรรม อู่หยางเฉิงก็รู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งเย่เชียนเองก็ไม่ได้มีภูมิหลังที่ดีหรือแข็งแกร่งมากพอที่จะมาต่อกรกับพวกเขาและเส้นสายที่มีอยู่อีกมากมายได้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นเพียงพี่ชายของอธิการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ
ในเวลานี้อู่หยางเฉิงก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาและพูดอย่างผยองเดชว่า
งานมหกรรมโลกเวิลด์เอ็กซ์โปน่ะมันใกล้เข้ามาทุกที ๆ แล้ว อย่าลืมว่ากฎหมายและคำสั่งเพื่อความปลอดภัยต้องถูกนำมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ห้ามให้มีเรื่องผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวเข้าใจไหม ?
คนที่อยู่ปลายสายเป็นข้าราชการที่มีประสบการณ์มากมาย เขาเข้าใจความหมายของอู่หยางเฉิงเป็นอย่างดี เขารู้สึกกดดันน้อยลงอย่างมาก เมื่อรู้ว่าเย่เชียนเป็นคนที่ไม่มีใครหนุนหลัง เพราะนี่เป็นถึงคำสั่งของรองผู้ว่าเทศบาล ดังนั้นทุกอย่างจะละเลยหรือผิดพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด
อู่หยางเฉิงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในคืนนี้ เพราะทุก ๆ อย่างเป็นไปตามแผนของเขา เย่เชียนได้หนีออกจากคุกตามที่คาดการณ์เอาไว้ พอถึงเวลารุ่งเช้า เขาก็จะสั่งให้ตำรวจระดมพลและวิสามัญเย่เชียนทันทีที่เจอตัว จากนั้นปัญหาทั้งหมดก็จะหายเข้ากลีบเมฆไปในที่สุด…
หลังจากอู่หยางเฉิงอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาก็พาคุณนายหญิงของเขาเข้าไปในห้องนอนอย่างอภิรมย์ ถึงแม้ว่าเขาจะอายุเกือบห้าสิบปีแล้ว แต่เขายังสามารถทำกิจกรรมได้สามหรือสี่ครั้งในทุก ๆ คืน และสิ่งนี้ทำให้เขาภาคภูมิใจกับตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เขาเลือกหยิบไวน์รุ่นพิเศษที่ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศมาดื่มในค่ำคืนอันแสนสุขนี้ ซึ่งขวดนี้เขาได้มาจากเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปที่นำมามอบให้เขาเป็นของขวัญพิเศษ เขารินมันจนล้นแก้วแล้วดื่มอย่างสุขสบายใจ
อู่หยางเฉิงคิดว่าเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปนั้นไม่เลวเลย พวกเขามีไหวพริบและรอบคอบมาก พวกเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปรู้ว่าเขาเป็นพวกเสือผู้หญิง พวกนั้นจึงจัดหาสิ่งที่น่าอัศจรรย์เช่นไวน์เสริมสมรรถภาพนี้ให้แก่เขา
หลังจากที่ดื่มไวน์นี้ทุกครั้ง เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกไฟเผาผลาญให้ร้อนเร่าทำให้เขามีพลังงานไม่จำกัด ดังนั้นทุกครั้งที่ทำกิจ เขาจะทำได้ครั้งหนึ่งเป็นเวลานานมาก
หลังจากที่เขาตั้งค่ากล้องวิดีโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว อู่หยางเฉิงก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายและผลักคุณนายหญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ของเขาลงบนเตียง
อาาาา…
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง… อู่หยางเฉิงก็ร้องครางออกมาอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็ดึงคุณนายหญิงของเขาเข้ามาโอบกอดสู่ห้วงนิทรา
การถ่ายทำฉากเลิฟซีนของตัวเองเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งของอู่หยางเฉิง และทุกครั้งที่เขาดูตัวเองพิชิตคุณนายหญิงบนเตียงมันทำให้เขารู้สึกว่าเขาประสบความสำเร็จและภาคภูมิใจอย่างมาก เขามีคลิปวิดีโอมากมายที่เก็บรวม ๆ กันไว้ในที่เดียว เมื่อใดก็ตามที่เขาว่าง เขาจะเอามันออกมาดู
อู่หยางเฉิงมีความคิดที่ว่าเมื่อเขาแก่ตัวลงไปแล้วและไม่สามารถทำมันได้อีกต่อไป มันคงจะสนุกดีถ้าได้ดูตัวเองตอนที่ยังมีกำลังวังชาอยู่
ในยามที่อู่หยางเฉิงกำลังหลับใหล เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านพ้นไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ในระหว่างที่เขากำลังท่องอยู่ในความฝัน เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องครางเบา ๆ และเสียงผู้ชายเหนื่อยหอบ เสียงมันดังก้องอยู่ในหัวของเขาซึ่งเขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ ในที่สุดเขาก็ทนความสงสัยไม่ไหวจึงลืมตาขึ้นมาดูด้วยความงุนงงและเห็นว่าโทรทัศน์ในห้องถูกเปิดเอาไว้ มันกำลังแสดงฉากเลิฟซีนที่เขาเป็นคนบันทึกเอาไว้เอง เขายิ้มออกมาอย่างร้ายกาจขณะที่พูดว่า
ที่รัก… อารมณ์ไหนกันเนี่ย ? นี่มันดึกแล้วนะคุณ คุณยังไม่หนำใจใช่ไหม… คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่ร่านเสียจริงนะ เขาพูดและยื่นมือออกไปเพื่อดึงเธอเข้ามากอด แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงอากาศที่ว่างเปล่าแทนที่จะเป็นร่างของคุณนายหญิงของเขา เขาแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เปิดโคมไฟและลุกขึ้นนั่ง
เฮ้ยยยยยยยยยย!
เมื่อแสงไฟสว่างขึ้น อู่หยางเฉิงก็ตะโกนออกมาดังลั่น ตอนนี้มีชายสองคนอยู่ในห้องของเขา และสองคนนั้นกำลังดูฉากเลิฟซีนของเขาอยู่อย่างจริงจัง
แก… แกเป็นใคร ? พวกแกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง ? แล้ว เหม่ยลี่ อยู่ที่ไหน ? พวกแกทำอะไรกับเหม่ยลี่ ? อู่หยางเฉิงถามอย่างตื่นตระหนก
ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากนัก เพราะชายสองคนในห้องนั้นคงจะเป็นใครไปเสียมิได้นอกจากเย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ พวกเขาตรงไปที่บ้านของอู่หยางเฉิงหลังจากออกจากบ้านของซูย่าหยิง แต่อู่หยางเฉิงไม่ได้อยู่ที่บ้านของเขา พวกเย่เชียนได้พบกับภรรยาตามกฎหมายของอู่หยางเฉิงที่สาปแช่งอู่หยางเฉิงและบอกว่าเขาถูกยัยจิ้งจอกร่านบางตัวขโมยไป เย่เชียนจึงเดาได้ว่าเขาต้องอยู่กับคุณนายหญิงของเขาแน่
ณ ตอนนั้น เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ทำสีหน้าราวกับปีศาจและขู่ให้ภรรยาของอู่หยางเฉิงบอกพวกเขามาว่าที่แห่งนั้นมันอยู่ที่ไหน เพราะหากว่าภรรยาของอู่หยางเฉิงไม่บอก พวกเขาก็จะหาสถานที่นั้น ๆ ได้ยากมากพอสมควร
โอ้โห! บอส… ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ท่วงท่าลีลาของตาแก่นี่มันเยี่ยมมาก ดูสิ เขาทำท่ายาก ๆ ขนาดนั้นได้เชียวเหรอ ? หลี่เหว่ยยี่พูด สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจขณะที่เขาดูฉากเลิฟซีน
อืม… วิดีโอนี้ถ่ายทำค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถ้าวางขายในตลาด มันน่าจะขายได้ดีกว่าพวกที่ทำเป็นเป็นอาชีพนะ เย่เชียนพูดอย่างเฉยเมย
โห! นี่มันอะไรกันเนี่ย… พวกเขาทำพร้อมกันสี่คนเลยเหรอ ? ว่าแต่หนุ่มน้อยคนนั้นหน้าตาดูคุ้น ๆ นะ หลี่เหว่ยยี่พูดขณะทำหน้าตาสงสัย
ใช่… คุ้น ๆ เหมือนฉันจะเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน… เย่เชียนก้มหัวและทำทีครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ชั่วครู่ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
อ๋อ… ฉันจำได้แล้ว ผู้ชายคนนั้นคืออู่หยางเทียนหมิงไง อื้อหือ… สองพ่อลูกในสมรภูมิรักเดียวกัน นี่มันน่าจะเป็นจุดขายที่สุดยอดแน่ ๆ นายว่าไหม ?
ใช่เลยบอส! เหมือนที่โบราณเขากล่าวกันไว้ว่า ‘พ่อและลูกนักสู้ร่วมสายเลือด’ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะมีงานอดิเรกและรสนิยมแบบนี้ หลี่เหว่ยยี่พูดพร้อมพยักหน้า
ทั้งสองคนสนทนากันอย่างออกรสราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงของอู่หยางเฉิงเลยแม้แต่น้อย…