ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 103 บทเรียน

ตอนที่ 103 บทเรียน
หลังจากที่หลี่เหว่ยยี่พูดเช่นนั้น เหล่าทหารก็มองหน้ากันพลางมองไปรอบ ๆ จนกระทั่งมีชายวัยกลางคนร่างกำยำคนหนึ่งก้าวเท้าออกมาข้างหน้า เขาสวมเพียงเสื้อกล้ามทหารบาง ๆ และมันก็เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ภายใต้เสื้อตัวนั้นได้อย่างชัดเจน
หลี่เหว่ยยี่ฉีกยิ้มทันทีเพราะเขารู้ดีว่าการมีร่างกายที่ใหญ่โตกำยำไม่ได้หมายความว่ามันจะเหมาะกับการใช้งานทุกประเภทเสมอไป ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต่างหากเพราะมันจะทำให้พลังที่ถูกเค้นออกมาระเบิดรวมถึงเผาผลาญได้
กล้ามเนื้อของหลี่เหว่ยยี่นั้นไม่ได้ปรากฏให้เห็นชัดมากนัก แต่พลังที่เขาสามารถเค้นออกมาได้จากกล้ามเนื้อของตัวเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้ใคร
ชายร่างกำยำมองหลี่เหว่ยยี่และกำหมัดแน่น จากนั้นก็พูดว่า “น้องชาย… ระวังเอาไว้ให้ดี!”
หลี่เหว่ยยี่ฉีกยิ้มและเข้าโซนเตรียมตั้งท่าอย่างสบาย ๆ
ชายร่างกำยำอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเคือง เมื่อเห็นว่าหลี่เหว่ยยี่ยังคงมีท่าทีเฉยเมย เขาเดือดดาลและพุ่งไปข้างหน้าทันทีเตรียมจู่โจม
เย่เชียนที่เฝ้าดูฉากนี้อยู่ฉีกยิ้ม ในการต่อสู้นั้น คนเราต้องหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์และความใจร้อน เพราะสมาธิเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่นเดียวกับการต่อสู้ด้วยดาบในสมัยก่อนที่ต้องใจเย็นและตั้งสมาธิให้มั่นคง มิฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือการตั้งรับ มันก็จะเต็มไปด้วยความผิดพลาด ซึ่งจะนำมาสู่จุดจบและความพ่ายแพ้เพียงเท่านั้น
หลี่เหว่ยยี่ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ ในขณะที่เขามองดูชายร่างกำยำพุ่งเข้าหาตัวเอง เขาเพียงแต่มองไปข้างหน้าอย่างสงบใจเย็น ส่วนเหล่าทหารที่เฝ้าดูอยู่โดยรอบ พวกเขากำลังจินตนาการภาพว่าหลี่เหว่ยยี่กำลังถูกชายร่างกำยำชกจนตัวลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีอยู่ภายในใจ
ไม่ว่าจะอย่างไร จนกว่าจะได้เห็นว่าหลี่เหว่ยยี่จากกลุ่มเขี้ยวหมาป่าแข็งแกร่งจริง ๆ พวกเขาก็จะยังคงคิดว่ากลุ่มเขี้ยวหมาป่าคงจะไม่มีอะไรที่วิเศษวิโสไปมากกว่าพวกเขาสักเท่าไหร่อยู่ดี
ขณะที่กำปั้นของชายร่างกำยำกำลังจะปะทะเข้ากับหลี่เหว่ยยี่ ทันใดนั้นหลี่เหว่ยยี่ก็ขยับตัวก้าวไปด้านข้างเล็กน้อย ทำให้ชายร่างกำยำเสียหลักโซซัดโซเซไปข้างหน้า จากนั้นหลี่เหว่ยยี่ก็ก้าวตามมาอย่างรวดเร็วพลันใช้มือสับไปที่ท้ายทอยของชายร่างกำยำ จากนั้นก็หมุนตัวและเตะเสยด้านหลังของเขา
ร่างของชายกำยำถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศและค่อย ๆ ตกลงมาเหมือนกับใบไม้ร่วงหล่น เมื่อร่างกำยำนั้นตกลงสู่พื้นอย่างแรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็หมดสติไปในทันที
‘นี่มันเทคนิคการต่อสู้อะไรกัน!’ วินาทีนี้ทุกคนยกเว้นเย่เชียนตกตะลึงจนแทบจะไม่ขยับตัวกันเลย
หลี่เหว่ยยี่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย และนี่ก็เป็นเรื่องที่เกินความคาดหวังเกินไปในสายตาของพวกเหล่าทหาร ส่วนหวังเต๋อเซินนั้น เขาคิดกับตัวเองว่า ‘เขี้ยวหมาป่าก็คือเขี้ยวหมาป่าวันยังค่ำ… นี่เป็นเพียงแค่ความสามารถในการต่อสู้ของคนคนเดียว แล้วคิดดูว่าพวกเขาก็ยังมีกันอีกเป็นกองทัพ! ช่างเก่งสมคำร่ำลือจริง ๆ’
หลี่เหว่ยยี่เดินไปที่ร่างของชายร่างกำยำและเอื้อมมือไปหยิกคอของเขา จากนั้นชายร่างกำยำก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมา เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นแวบเข้ามาในหัว แต่เขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้ของตนอย่างลูกผู้ชาย
จากมุมมองของเขานั้น หลี่เหว่ยยี่เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง การพ่ายแพ้ต่อผู้ที่แข็งแกร่งเช่นหลี่เหว่ยยี่ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายสำหรับเขาเลย
การเฝ้าดูหลี่เหว่ยยี่ที่กำลังสนุกทำให้เย่เชียนอยากที่จะต่อสู้ด้วยเหมือนกัน เขายิ้มให้หวังเต๋อเซินและพูดว่า “ท่านนายพล… ผมขอลองด้วยคนสิ ผมไม่ได้ฝึกมานานแล้ว ผมกลัวว่าสนิมมันจะขึ้นน่ะ”
หวังเต๋อเซินรู้ดีว่าเย่เชียนเป็นคนถ่อมตัวมากแค่ไหน ขนาดแค่สมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่ายังน่าประทับใจและเก่งกาจขนาดนี้ แล้วผู้ที่เป็นดั่งราชาหมาป่าอย่างเย่เชียนจะแข็งแกร่งมากขนาดไหนกัน ?
หวังเต๋อเซินไม่ได้ห้ามเย่เชียนแต่อย่างใด การที่จะได้ดูเขี้ยวหมาป่าลองต่อสู้กับทหาร มันก็เป็นการที่จะได้เปรียบเทียบและบันทึกทักษะต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในอนาคต ตัวเขาเองก็อยากจะเห็นทักษะของเย่เชียนมากเช่นกัน
เย่เชียนเดินเข้ามาหาเหล่าทหารพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรที่เผยอยู่บนใบหน้าของเขา “พวกคุณควรออกมากันมากกว่านี้หน่อยนะ… คุณ คุณ คุณ และก็คุณทั้งสิบคน… ก้าวออกมาข้างหน้าเลยครับ”
หวังเต๋อเซินเห็นดังนั้นก็แอบเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย นี่เย่เชียนจะไม่มั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยเหรอ ? ถึงแม้กลุ่มเขี้ยวหมาป่าจะมีความสามารถในการต่อสู้มากแค่ไหน บ่อยครั้งก็น่าจะต้องพึ่งพาการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมและการลอบโจมตีด้วยอยู่ดี แล้วครั้งนี้ มันเป็นการต่อสู้ซึ่ง ๆ หน้าในพื้นที่เปิดโล่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการต่อสู้แบบสิบต่อหนึ่งอีกต่างหาก สถานการณ์นี้ยากเกินกว่าที่หวังเต๋อเซินจะเชื่อได้จริง ๆ ว่าเย่เชียนจะเป็นฝ่ายชนะ
หลี่เหว่ยยี่เป็นคนเดียวในตอนนี้ที่ใบหน้ายังคงไร้กังวล นี่มันไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย เพราะหากเย่เชียนไม่สามารถแม้แต่จะรับมือกับทหารฝีมือธรรมดา ๆ สิบคนได้ เขาก็ไม่สมควรที่จะเป็นผู้นำของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า และไม่สมควรที่จะถูกยกย่องกันว่าเป็นราชาหมาป่าเย่เชียน บุคคลที่น่าเกรงขามที่สุดในโลกที่สามารถทำให้ผู้นำระดับสูงในแต่ละประเทศทั่วโลกต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน
การที่คนของพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับหลี่เหว่ยยี่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่คิดว่ามันเป็นการเสียหน้าอะไรเพราะมันคือการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ทว่าตอนนี้ เย่เชียนท้าทายพวกเขาถึงสิบคนในคราวเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ากำลังโดนดูถูกเหยียดหยามอยู่
พวกเขาทั้งสิบคนไม่ลังเล ก้าวออกมาข้างหน้าด้วยความเดือดดาล
เหล่าทหารทั้งสิบคนรวมตัวกันเป็นวงกลมล้อมรอบเย่เชียน พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ตามหลักสูตรที่ฝึกฝนมา ส่วนเย่เชียนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มีเพียงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนไป จากรอยยิ้มสบาย ๆ ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าจริงจัง ดวงตาของเขาคมดุจดั่งเหยี่ยวขณะมองคู่ต่อสู้ทั้งสิบ
ไม่รอช้า เย่เชียนพุ่งไปข้างหน้าเสมือนศรธนูที่ถูกยิงออกมาจากคันของมัน เย่เชียนในตอนนี้เป็นเหมือนดั่งคำพูดที่ว่า ‘เมื่อเงียบจะเป็นเหมือนกับหญิงสาวพรหมจารี แต่เมื่อเคลื่อนไหวจะว่องไวราวกระต่ายป่า’
ถึงแม้สมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่าทุกคนจะได้รับการฝึกฝนการต่อสู้ระยะประชิดอย่างครบครันและถี่ถ้วนก็ตาม แต่ความเชี่ยวชาญในทักษะการต่อสู้ของแต่ละคนในด้านของความเร็วและความแม่นยำดุร้ายนั้น เรียกได้ว่าเย่เชียนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้อย่างแท้จริง ใครที่ได้มาเห็นทักษะของเขาก็มักจะคิดว่ามันคงไม่มีใครสามารถทำได้ดีเทียบเท่ากับเขาอีกแล้ว นอกจากนี้ ทักษะด้านมืดที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของเขามักจะเผยพลังทำลายล้างอันยิ่งใหญ่ต่อศัตรูอีกด้วย
หวังเต๋อเซินจ้องมองด้วยความตระหนกตกใจและแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งจะเห็นกับตาตัวเอง เย่เชียนเป็นเหมือนดั่งนักรบในตำนานที่มีศิลปะการต่อสู้เกินจริงอันยากที่จะเชื่อได้ ราวกับว่าเขาเพียงเดินผ่านท่ามกลางศัตรูนับสิบ ภาพการต่อสู้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก มีก็แต่เพียงเสียงกรีดร้องที่โอดครวญดังขึ้นทีละคน ๆ ภายในเวลาสองนาทีสั้น ๆ จากนั้นทั้งสิบคนก็นอนกองกันอยู่บนพื้นโดยไร้ซึ่งพละกำลังและเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้ได้อีก
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เย่เชียนยังออมมือเพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะปลิดชีวิตใคร การโจมตีของเย่เชียนที่ใช้กับพวกทหารในครั้งนี้ มันยังไม่ถึงแม้แต่ครึ่งหนึ่งของพลังของเขา และต่อให้มีทหารเข้ามาต่อสู้เพิ่มอีกสิบคน พวกเขาก็มิอาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เชียนได้
หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ เหล่าทหารก็เข้าใจในทุกสิ่งทุกอย่างอย่างถ่องแท้ เหตุผลเดียวที่ใครสักคนจะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ ก็เพราะว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง
ขณะนี้ทุกคนได้เข้าใจแล้วว่าเขี้ยวหมาป่าก็คือเขี้ยวหมาป่าที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง และถ้าหากทหารเหล่านี้ได้รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขานั้นคือราชาหมาป่าเย่เชียนแล้วล่ะก็ พวกเขาจะไม่รู้สึกละอายใจหรืออับอายขายหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาจะรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนกันที่ได้เผชิญหน้ากับราชาหมาป่าเย่เชียนคนนี้ มันคือโอกาสพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะทหารเลยก็ว่าได้
หวังเต๋อเซินเดินไปตบไหล่เย่เชียนเบา ๆ และพูดว่า “เหล่าพี่น้องของฉัน น้องชายของพวกนายคนนี้ได้รับชัยชนะอย่างสมเกียรติ… ชื่อของเขาก็คือ ราชาหมาป่าเย่เชียน! ช่างเก่งกาจสมคำร่ำลือจริง ๆ”
เย่เชียนยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เหตุผลที่เขาเข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้นั้น มันไม่ใช่เพราะว่าเขาแค่อยากต่อสู้ขึ้นมาหรืออยากได้รับคำสรรเสริญเยินยอ แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือเขาต้องการแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเขาให้หวังเต๋อเซินเห็น หวังเต๋อเซินจะได้มั่นใจในเขี้ยวหมาป่ามากขึ้น และให้ความร่วมมือกับเขี้ยวหมาป่ามากขึ้นนั่นเอง
“การต่อสู้เหล่านี้… เป็นทักษะที่สมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่าทุกคนพึงมี แต่จะใช้เพียงความเชี่ยวชาญอย่างเดียวมันก็ยังไม่เพียงพอ!” เย่เชียนพูดอย่างผึ่งผายขณะที่ทหารทุกคนล้วนปรบมือให้กับเขา
……
คืนนั้น หวังเต๋อเซินก็ยังคงดีเหมือนกับเมื่อคืนก่อนในเรื่องของการดูแลความสะดวกให้แก่เย่เชียนละหลี่เหว่ยยี่ในฐานะแขก
ระหว่างรับประทานอาหารกันอยู่นั้น หวังเต๋อเซินก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง ซึ่งเมื่อวางสายแล้ว เขาก็บอกกับเย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ว่าตอนนี้พวกเขาได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลิวเทียนเฉินแล้ว
เย่เชียนและหลี่เหว่ยยี่ตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที ทั้งสองรีบถามหาตำแหน่งของหลิวเทียนเฉินอย่างรวดเร็ว
หวังเต๋อเซินพูดขึ้นมาว่า “จากข่าวกรองที่พี่น้องของฉันรวบรวมมาได้ เมื่อไม่กี่วันก่อนที่จะเกิดการปะทะและสู้รบที่รุนแรงในล่าเสี้ยว… ฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์เมียนมาร์ ส่วนอีกฝ่าย… อาจจะเป็นคนที่นายกำลังตามหาอยู่ ข่าวกรองและสำนักข่าวรายใหญ่ในเมียนมาร์รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์นี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าการปะทะในครั้งนั้นรุนแรงมาก อย่างน้อย ๆ ก็มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน น้องเย่… นายต้องเตรียมใจให้พร้อมนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท