คืนนั้นเย่เชียนไม่ได้คิดที่จะอยากกลับไปบ้านของฉินหยูเลย เขารู้ดีว่าถ้าเขาทำอย่างนั้น ซ่งหลันก็อาจจะคิดอะไรแผลง ๆ มาแกล้งทรมานเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องติดแหง็กอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างเชื่อฟัง
แจ็คและม่อหลงกลับไปแล้ว ส่วนอู๋หวนเฟิงผู้ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดของซ่งหลันยังคงทำหน้าที่ต่ออยู่ที่นี่ เขาอาศัยอยู่ที่ชั้นล่าง ส่วนเย่เชียนนั้นถูกซ่งหลนพาขึ้นไปชั้นที่บน
หลังจากที่เข้าไปในห้องนอนแล้ว ซ่งหลันก็เข้าไปอาบน้ำ พอเธออาบเสร็จ เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ๆ ผืนเดียว มันเผยให้เห็นผิวขาวราวกับหิมะของเธอ สรีระของเธอส่วนใหญ่ก็เผยออกมาให้เห็นด้วย ไม่ว่าใครก็ตามหากได้เห็นเธอในตอนนี้คงจะไม่พ้นพากันคิดชั่ว ๆ และต่ำตมเป็นแน่
ส่วนเย่เชียนนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ เขากำลังเล่นเกมไพ่อยู่คนเดียว แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงซ่งหลันเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ดันบังเอิญหันหน้าไปจ้องมองผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ซ่งหลันสะบัดพร้อมกับเช็ดผมไปมาให้แห้งด้วยผ้าขนหนู จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาเย่เชียน เสียงฝีเท้าของซ่งหลันแต่ละก้าวนั้นให้หัวใจของเย่เชียนเต้นเร็วและรัวขึ้นในทุก ๆ ย่างก้าว ถ้าหากเย่เชียนไม่มีความรู้สึกอะไรเลยในตอนนี้ เขาก็คงไม่ใช่ผู้ชายแท้ ๆ อย่างแน่นอน เย่เชียนทำตัวไม่ถูก เขาสับสนและไม่เข้าใจว่าในใจของหญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่
ซ่งหลันวางมือลงบนไหล่ของเย่เชียนเบา ๆ พร้อมกับนั่งลงบนตักของเย่เชียน เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์พร้อมกับพูดว่า “น้องชายที่แสนดีของฉัน… หัวใจของนายเต้นเร็วมากเลยนะ”
เย่เชียนยิ้มอย่างเหม่อลอย จากนั้นก็พูดว่า “พี่หลันหลัน! พี่อย่ามายั่วผมสิ พี่ไม่กลัวว่าผมจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วเผลอทำอะไรที่ไม่ควรทำไปอย่างนั้นเหรอ ?”
ซ่งหลันยิ้มมุมปากและพูดว่า “พี่สาวคนนี้กลัวว่านายจะไม่ทำสิ่งอะไรที่ไม่ควรทำต่างหากล่ะ! ดูสิ! นี่พี่สาวอาบน้ำเรียบร้อยแล้วรอให้นายทำ…”
“พี่อย่ามาล้อเล่นหน่า… คิดว่าผมไม่กล้าทำงั้นเหรอ!?” เย่เชียนตะโกนอย่างดังและจับซ่งหลันเหวี่ยงลงบนเตียง จากนั้นเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอ
ซ่งหลันจ้องมองเย่เชียนอย่างเย้ายวน ภายในดวงตาของเธอนั้นมีเสน่ห์ที่น่าลุ่มหลงอย่างยิ่ง ด้วยท่าทางที่น่ารักและไร้เดียงสาของเธอทำให้มันดูเหมือนกับว่าเย่เชียนกำลังขืนใจเด็กสาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์อยู่
เย่เชียนจ้องมองซ่งหลันด้วยดวงตาที่สั่นคลอนอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็ยอมพ่ายแพ้ เขาพลิกตัวนอนลงข้าง ๆ เธอ จากนั้นก็พึมพำว่า “ผมแพ้พี่อีกแล้ว…”
ซ่งหลันยิ้มอย่างซุกซน เธอขยับตัวเพื่อเปลี่ยนเป็นท่านอนตะแคงหันหน้าเข้าหาเย่เชียน มือข้างหนึ่งของเธอจับอยู่ที่ปลายคางของเย่เชียน ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ไปมาบนหน้าอกของเย่เชียนอย่างอ่อนโยน “เย่เชียน! นายรู้ตัวมั้ยว่านายน่ะเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดที่ฉันเคยพบเจอมาเลย แต่ฉันก็ชอบนะ!”
“พอได้แล้วหน่า พี่แค่เห็นผมเป็นของเล่นเท่านั้นแหละ” เย่เชียนเหลือบมองเธออย่างหมดหนทาง
ซ่งหลันยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “เย่เชียน… นายไม่คิดที่จะหยุดจริง ๆ สินะ จริง ๆ แล้วนายไม่เห็นจำเป็นต้องพยายามมากขนาดนี้เลย แค่เท่าที่นายมีอยู่ตอนนี้มันก็เพียงพอแล้วที่นายจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอยู่อย่างสบายใจ”
เย่เชียนหายใจเข้าลึก ๆ และดึงบุหรี่ออกมาสูบ จากนั้นก็ค่อย ๆ พ่นควันออกมาและพูดว่า “พี่ก็รู้จักผมดีหนิ พี่คิดว่าคนอย่างผมจะใช้ชีวิตที่สุขสบายแบบนั้นไปได้นานซักแค่ไหนกันล่ะ ? ผมไม่ได้พยายามที่จะพิสูจน์อะไรให้ใครเห็นหรอกนะ และผมก็ไม่ได้แสวงหาจุดจบที่สุขสบายด้วย เอาจริงผมว่าผมคงชอบการเดินทางและการผจญภัยมั้ง เพราะการเดินทางไปถึงยอดเขาทีละขั้น ๆ และเหยียบย่ำทุก ๆ คนที่ขวางทางผมเอาไว้ มันคือสิ่งที่ผมเสาะแสวงหา แน่นอนว่ามันคงมีสักวันหนึ่ง อาจจะอีกหลาย ๆ ปี หรือหลายสิบปี ผมอาจจะเป็นอย่างที่พี่พูดก็ได้ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของความรับผิดชอบที่ผมแบกรับเอาไว้อย่างถาโถม แต่มันยังรวมถึงความรู้สึกที่ผมชอบด้วย”
“ฉันรู้… ฉันรู้หน่าว่านายจะพูดแบบนี้” ซ่งหลันมองเย่เชียนอย่างหนักใจและกังวลใจ จากนั้นก็พูดว่า “ประเทศจีนมันไม่เหมือนกับตะวันออกกลางนะ นายต้องระวังทุกสิ่งทุกอย่าง ในกรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้นจริง ๆ อำนาจที่นายมีอยู่ในตอนนี้มันยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับรัฐบาลของจีนได้หรอกนะ”
เย่เชียนยิ้มน้อย ๆ และพูดว่า “ผมไม่ได้วางแผนที่จะทำอย่างนั้น ประเทศจีนคือแผ่นดินเกิดของผม ถึงแม้ว่าผมจะจากไปตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็กหรืออาจจะไม่ได้มีความประทับใจอะไรในประเทศนี้มากนัก แต่ถึงยังไงเลือดของแดนมังกรก็ยังคงไหลเวียนอยู่ในตัวผมไม่หายไปไหน เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางเลือกอื่น ผมจะไม่ใช้กำลังกับรัฐบาลหรอก แต่ผมต้องการทำให้ประเทศจีนนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้ เพื่อที่ผมจะได้รู้สึกภาคภูมิใจในฐานะประชาชนชาวจีน”
“อ้าว! ก็นายเพิ่งบอกอยู่ว่านายมีปัญหากับแก๊งชิง แล้วนายจะเอาไงต่อกับเรื่องนั้นล่ะ ?” ซ่งหลันถาม
เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและหันหน้ามองซ่งหลัน เขาลูบไล้แก้มของเธอเบา ๆ จากนั้นก็พูดว่า “สุดท้ายแล้วพี่ก็คือคนที่เข้าใจผมมากที่สุดเพียงคนเดียวจริง ๆ สินะ เพราะไม่ว่าผมจะย่างก้าวไปที่ไหน หรือผมจะไปทำอะไรในซีกโลกไหน ถึงยังไงพี่ก็คือคนที่รู้ใจผมดีมากที่สุดอยู่ดี ปัญหากับซือตู้ลิเหรินนั้นมันไม่ใช่แค่การล้างแค้นคืนให้กับหวังหู่อย่างเดียว ที่สำคัญกว่านั้นคือผมต้องการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของแก๊งชิงด้วย เพราะพวกเขาเป็นแก๊งมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้และรากฐานของพวกเขาก็ลึกมาก ผู้รู้ว่าการกำจัดพวกนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าจะใช้แค่สมาชิกกลุ่มเขี้ยวหมาป่าของเราที่มีอยู่ในจีนตอนนี้ มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้แน่ ผมว่าซือตู้ลิเหรินจะต้องไปรายงานเหตุการณ์ทุกอย่างกับหัวหน้าของเขาอย่างแน่นอน ผมก็แค่รอให้พวกเขาเริ่มโจมตีผมก่อนเท่านั้นเอง”
ซ่งหลันกลอกตาของเธอไปมาและพูดว่า “นายนี่มันเท่สุด ๆ ไปเลย แต่นายคิดจริง ๆ เหรอว่านายจะชนะโดยไม่ต้องต่อสู้ในสงคราม มันไม่ง่ายเลยนะ”
เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “ผมไม่ได้หลงตัวเองขนาดนั้นนะ แต่การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวมันจะมีประโยชน์มากมาย ตราบใดที่ผมสามารถทำให้พวกนั้นหันมาสนใจในตัวผมได้ล่ะก็ ชิงกรุ๊ปก็จะตกอยู่ในกำมือของผมอย่างแน่นอน ผมต้องไปพบกับบอสใหญ่ของพวกเขาให้ได้เพียงเท่านั้น ผมเชื่อว่าชิงกรุ๊ปจะไม่เคลื่อนไหวการใหญ่อะไรใด ๆ กับผมในช่วงเวลาที่สำคัญ ๆ นี้ เพราะตอนนี้พวกเขาต้องจัดการกับศัตรูตัวฉกาจหงเหมินกรุ๊ปนั่นก่อนอยู่ดี”
“นายไม่กลัวเหรอว่าการทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในจีน จะไปดึงดูดความสนใจของกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้พวกเขาเข้ามาแทรกแซงได้น่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องยากมากสำหรับกลุ่มเขี้ยวหมาป่านะที่จะหาที่ยืนอยู่ในประเทศจีน” ซ่งหลันถาม
“อย่าคิดว่าคนของกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติจะโง่ขนาดนั้น เพราะพวกเขาน่ะได้ทำการแฝงตัวและมาประจำการในเซี่ยงไฮ้ตั้งหลายคนแล้ว อีกอย่างพวกเขาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ที่นี่ แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ปรากฏตัวออกมาเสียที แต่ก็นะ… ถ้าพวกเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าผมมาที่นี่แล้วล่ะก็ นั่นแสดงว่าพวกเขายังไม่ได้ปักหมุดว่าผมเป็นภัยอันตรายใด ๆ ในตอนนี้”
“เจ้าน้องชายที่แสนดีของฉัน… นายรู้มั้ยว่าทำไมพี่สาวคนนี้ถึงรักนายมากที่สุด ?” ซ่งหลันฉีกยิ้มอย่างมีเสน่ห์อันเหลือร้าย
“ทำไมล่ะ ?” เย่เชียนถามอย่างเหม่อลอย
“ก็คุณพี่สาวชอบที่นายมักจะมองการณ์ไกลได้อย่างทะลุปรุโปร่งกับวิสัยทัศน์ของนายที่มักจะรู้ว่าควรจะต้องทำอะไรในอนาคตยังไงล่ะ” ซ่งหลันพูดอย่างจริงใจ
“พี่หลันหลันไม่คิดเหรอว่า ผมอาจจะเป็นแค่ลูกวัวแรกเกิดที่ไม่รู้เรื่องอะไร จนไม่กลัวแม้กระทั่งเสือน่ะ ฮ่า ๆ ๆ ” เย่เชียนหัวเราะอย่างมีความสุข
ซ่งหลันจ้องตาของเย่เชียนและพูดว่า “คืนนี้นายอย่าไปไหนนะ… อยู่กับฉันที่นี่นะ”