หลังจากที่ออกจากบาร์กันมาได้แล้ว เย่เชียนก็โบกมือเรียกรถแท็กซี่ให้จ้าวไถ่จู้พาหวันชุนหัวไปโรงพยาบาล เย่เชียนคิดว่าบาดแผลพวกนั้นค่อนข้างหนักสำหรับหวันชุนหัว เพราะตอนแรกเขาแค่หัวแตกนิดหน่อย แต่พออยู่ในช่วงชุลมุนเขาก็ถูกมีดบาดตามตัวอีกหลายแผล ถ้าเขาไม่ได้จ้าวไถ่จู้มาคอยคุ้มกันไว้ล่ะก็ ป่านนี้หวันชุนหัวคงจะลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นแล้ว
หลังจากยืนดูรถแท็กซี่ขับออกไปไกลแล้ว เย่เชียนก็หันหน้าไปถามอู๋หวนเฟิงว่า “ตอนนี้พี่หลันหลันอยู่ที่ไหน ?”
“ตอนนี้เจ๊ใหญ่คงกำลังรอบอสอยู่ที่บ้านแล้วล่ะมั้ง” อู๋หวนเฟิงตอบ
“บ้าน ?” เย่เชียนก็ถามด้วยความประหลาดใจต่อ “บ้านไหน ?”
อู๋หวนเฟิงมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “บอส! นี่อย่าบอกนะว่าบอสไม่รู้ว่าเจ๊ใหญ่เค้ามาซื้อบ้านอยู่ในเซี่ยงไฮ้แล้วน่ะ ?”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ? ฉันไม่รู้จริง ๆ ” เย่เชียนพูด
อู๋หวนเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูดว่า “ก็ตั้งแต่ที่บอสแอบหนีมาจีนคนเดียวนั่นแหละ… และพอเจ๊ใหญ่รู้เรื่องนี้เข้า เธอก็รีบหาซื้อบ้านทันทีเลย แถมเธอยังบอกอีกนะว่า เธอซื้อเอาไว้ให้บอสน่ะ… บอสจะได้มีที่พักไง”
“อ๋อ…!” เย่เชียนส่งเสียงแสดงความเข้าใจ “งั้นเราไปกันเถอะ!”
เย่เชียนพูดจบก็ยื่นมือออกไปโบกรถแท็กซี่อีกคัน หลังจากบอกอยู่กับคนขับอย่างชัดเจนแล้ว รถก็มุ่งตรงไปที่บ้านของซ่งหลันอย่างรวดเร็ว…
ระหว่างทางเย่เชียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป เพราะถนนเส้นนี้มันดูคุ้นเคยกับเขายังไงชอบกล เย่เชียนคิดในใจอยู่คนเดียวว่า นี่มันทางไปบ้านของฉินหยูชัด ๆ เขาขมวดคิ้วอย่างหนักหน่วงและคิดว่ามันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง ? เป็นไปไม่ได้หรอกที่บ้านของซ่งหลันจะอยู่ในละแวกเดียวกันกับฉินหยู ไอรีนโนเวล
ความแม่นยำของเย่เชียนนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามันสุดยอดมาก เพราะบ้านของซ่งหลันไม่เพียงแค่อยู่ในละแวกเดียวกันกับบ้านของฉินหยู แต่มันยังอยู่ติดกันอีกต่างหาก! โดยบ้านทั้งสองหลังตั้งอยู่ห่างกันเพียงแค่ยี่สิบหรือสามสิบเมตรเท่านั้น เย่เชียนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าซ่งหลันทำแบบนี้โดยเจตนาหรือไม่
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูหน้าบ้าน เย่เชียนก็ยังรู้สึกลังเลเล็กน้อยจึงหยุดชะงักไปชั่วครู่ ทำให้ม่อหลงและอู๋หวนเฟิงที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะทั้งคู่ต่างก็รู้ดีว่าเย่เชียนเป็นผู้นำที่ไม่กลัวแม้กระทั่งสวรรค์หรือนรก แต่เขากลับรู้สึกหวาดกลัวผู้หญิงที่ชื่อซ่งหลันคนนี้ ทุกครั้งที่เย่เชียนเห็นซ่งหลัน เขาจะกลายร่างจากราชาหมาป่าเย่เชียนเป็นลูกชายตัวน้อยของซ่งหลันไปโดยปริยาย ซึ่งสมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่าทุกคนต่างก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งนี้มันช่างน่าตลกขบขัน ทว่าน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
ในความเป็นจริงแล้ว ชื่อซ่งหลันเป็นเพียงชื่อที่เย่เชียนใช้เรียกและมอบให้กับเธอเท่านั้น แต่ชื่อเดิมจริง ๆ ของเธอก็คือ ซากุราอิ เรย์กะ อดีตนักฆ่าแห่งองค์กรดาร์คลิลลี่
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่องค์กรดาร์คลิลลี่ได้รับการว่าจ้างจากพวกยากุซ่าแก๊งยามากุจิของประเทศญี่ปุ่นให้ไปทำการสังหารเย่เชียน องค์กรดาร์คลิลลี่จึงได้ส่งนักฆ่าคนหนึ่งไปยังตะวันออกกลางเพื่อทำภารกิจ ซึ่งนักฆ่าคนนั้นก็คือซ่งหลันนั่นเอง แต่ในท้ายที่สุดซ่งหลันกลับทำภารกิจไม่สำเร็จ ทว่าเย่เชียนก็ไม่ได้เลือกที่จะปลิดชีวิตเธอ แต่กลับเลือกปล่อยให้เธอเป็นอิสระแทน อาจพูดได้ว่าเย่เชียนคงจะมีจุดอ่อนในเรื่องของผู้หญิง เพราะหลังจากที่เขาถอดผ้าคลุมหน้าของซ่งหลันออกแล้ว มันก็เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่มีความงดงามมากยืนอยู่ตรงหน้า หัวใจของเขาไม่สามารถที่จะลงมือฆ่าเธอได้ เขาจึงใจอ่อนและปล่อยเธอไป
การที่นักฆ่าคนหนึ่งปฏิบัติภารกิจล้มเหลว นั่นหมายความว่านักฆ่าผู้นั้นจะไม่มีวันกลับไปยืนหยัดอยู่ในโลกของนักฆ่าได้อีก ไม่ว่าภารกิจนั้นจะยากลำบากสักแค่ไหนก็ตาม หากภารกิจใดที่ยังทำไม่เสร็จสิ้น มันก็ถือได้ว่าเป็นความล้มเหลวไปแล้วอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่เย่เชียนไว้ชีวิตซ่งหลันแล้ว เธอก็กลับไปที่องค์กรดาร์คลิลลี่และส่งข้อความของเย่เชียนไปถึงหัวหน้าของเธอ ทำให้หลังจากนั้นหัวหน้าขององค์กรดาร์ดลิลลี่ไม่เคยส่งใครมารบกวนกลุ่มเขี้ยวหมาป่าอีกเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกฎที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย กฎที่ว่านั่นคือทุกครั้งที่สมาชิกขององค์กรดาร์คลิลลี่พบเจอกับสมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า พวกเธอจะต้องหลีกทางและถอนตัวออกไปอย่างไร้ซึ่งข้อกังขา
ซ่งหลันนั้นเป็นสมาชิกที่มีฝีมือเก่งกาจที่สุดในองค์กรดาร์คลิลลี่ แต่เธอกลับไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าหากคนอย่างเธอทำไม่ได้ มันก็ไม่มีใครหน้าไหนทำได้อีกแล้ว เว้นเสียแต่ว่าจะมีนักฆ่าหน้าใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกในองค์กรดาร์คลิลลี่ และคนพวกนั้นจะต้องถูกฝึกฝนให้มีฝีมือเหนือกว่าซ่งหลัน
กฎขององค์กรดาร์คลิลลี่นั้นไม่สามารถถูกทำลายลงได้ ผู้นำขององค์กรจึงต้องทำตามกฎโดยการสั่งให้ซ่งหลันทำการคว้านท้องตัวเองเสีย แต่ซ่งหลันรู้สึกว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร ย้อนกลับไปตอนที่ผู้นำของเธอยอมรับภารกิจนี้ เธอเองก็พยายามห้ามปรามและทักท้วงอย่างหนักแล้ว เพราะการเป็นศัตรูกับกลุ่มเขี้ยวหมาป่ามันไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าเลย แต่ผู้นำของเธอไม่ฟังและมันก็นำไปสู่ความล้มเหลว ดังนั้นหากจะมาพูดถึงความรับผิดชอบล่ะก็ มันก็ควรจะเป็นผู้นำของเธอที่ต้องทำการคว้านท้องตัวเองเสียมากกว่า ด้วยเหตุผลนั้นเองทำให้ผู้นำของเธอโกรธมากถึงกับสั่งให้นักฆ่าทุกคนในองค์กรตามล่าตัวซ่งหลันแล้วฆ่าเธอทิ้งซะ หลังจากที่ทนทุกข์ทรมานกับความยากลำบากและการหนีตายอย่างหวุดหวิดหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดซ่งหลันก็สามารถหนีออกมาจากเงื้อมมือขององค์กรดาร์กลิลลี่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากเย่เชียน
เรื่องมีอยู่ว่าครั้งหนึ่งซ่งหลันถูกพวกนักฆ่าจากองค์กรดาร์ดลิลลี่ไล่ต้อนจนมุม ขณะนั้นเองที่เธอได้พบกับเย่เชียนเข้าโดยบังเอิญ และเย่เชียนก็ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ หลังจากผ่านเรื่องราวมามากมายเขาก็ตัดสินใจพาเธอกลับไปทำงานที่สำนักงานของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า
ซ่งหลันไม่ได้เป็นเพียงแค่นักฆ่ามือฉมังเท่านั้น แต่เธอยังมีสมองและไหวพริบที่เฉียบคม รวมถึงสายตาที่เฉียบแหลมในการทำธุรกิจอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เย่เชียนจึงส่งต่ออำนาจทั้งหมดในการจัดการดูแลกลุ่มเครือน่านฟ้ากรุ๊ปให้กับเธอ มันทำให้ซ่งหลันมีความฝันใหม่และมีความรู้สึกอยากที่จะสานฝันให้เป็นจริงอีกครั้ง เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นเองที่เธอได้ขยายธุรกิจของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปไปในหลาย ๆ ประเทศอย่างยิ่งใหญ่ แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมสนับสนุนจากกลุ่มเขี้ยวหมาป่าในแง่ของการระดมเงินทุน
เย่เชียนไม่รู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกอย่างไรต่อซ่งหลันกันแน่ เพราะทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญหน้ากับเธอ เขาจะกลายเป็นคนละคนไปโดยสิ้นเชิง ถ้าหากเขาไม่ได้เจอกับเธอแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เวลาเพียงสั้น ๆ เขาก็จะรู้สึกคิดถึงเธออย่างมาก ทว่าความรู้สึกของซ่งหลันที่มีต่อเขานั้นมันชัดเจนมาก เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนปรารถนาที่จะอุทิศตัวเองทั้งกายและใจเพื่อผู้ชายที่ร่วมต่อสู้กับเธอมาอย่างยากลำบาก ทั้งคู่ต้องผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มาด้วยกันอย่างมากมาย มันก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากความรัก
อันที่จริงซ่งหลันเองก็ไม่เคยพูดออกมาเลยสักครั้งว่าเธอนั้นรักเขามากขนาดไหน เพราะเธอมักจะชอบหยอกล้อและยั่วยุให้เย่เชียนต้องหนักใจอยู่เรื่อยมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้เย่เชียนสูญเสียความเป็นตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง
“ยังจะมัวชักช้าไม่ยอมเข้ามาอีก… นายอยากจะนอนข้างนอกงั้นสินะ!”
เสียงอันมีเสน่ห์เหลือล้นดังมาจากข้างใน ซ่งหลันได้ยินเสียงฝีเท้าของเย่เชียนเดินเข้ามาเธอก็รู้โดยทันทีว่าเป็นเขา ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้ซ่งหลันจะแค่บริหารงานในเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเท่านั้น แต่ถึงยังไงเธอก็เคยเป็นถึงนักฆ่าระดับพระกาฬขององค์ดาร์กลิลลี่ เพราะฉะนั้นสัมผัสการรับรู้และการได้ยินของเธอนั้นเยี่ยมยอดที่สุด
เย่เชียนหายใจเข้าลึก ๆ อย่างประหม่าแล้วจึงผลักประตูเข้าไปข้างใน เขาเห็นหญิงสาวในชุดเดรสสั้นกับรองเท้าส้นเข็มสีดำ หน้าอกขาวเนียนครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นอล่างฉ่าง เธอกำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างยั่วยวน ชุดของเธอที่ว่าน่ารักเหลือใจนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับท่าทางอันแสนยั่วยวนของเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่เปล่งประกายความงามออกมาได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าชายใดที่ได้เห็นเธอคงมีแต่จะมุ่งร้ายและคิดกับเธออย่างต่ำช้า แต่ทว่ากลับไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอเลยแม้แต่น้อย
ความงดงามของซ่งหลันนั้นแตกต่างจากความใสซื่อบริสุทธิ์ของหลินโรโร่ว ความเย็นชาที่มัดใจชายของฉินหยู ความน่ารักแสนซุกซนอันน่าหลงใหลของจ้าวหยา หรือแม้แต่ความสดใสตรึงใจของหูวเค่อ เพราะซ่งหลันมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่เย่เชียนเคยพบเห็นมาก่อน มันทำให้ผู้ชายทุกคนไม่สามารถต้านทานเสน่ห์อันเหลือล้นที่น่าดึงดูดและน่าหลงใหลของเธอได้เลย
อีกมุมหนึ่งของห้อง แจ็คกำลังนั่งเล่นเกมอยู่อย่างใจจดใจจ่อ แต่เขาก็ไม่วายแอบมองมาที่เย่เชียนอย่างซุกซนและฉีกยิ้มอย่างคลุมเครือให้เขา
เย่เชียนส่งสายตากลับไปให้แจ็คอย่างดุร้าย ซึ่งมันทำให้ซ่งหลันหัวเราะเยาะเย่เชียน ในที่สุดเย่เชียนก็เดินมานั่งลงข้างเธออย่างเชื่อฟัง เขายังคงมีความประหม่าอยู่เล็กน้อย เพราะจริง ๆ แล้วในหัวของเขานั้นอยากจะนั่งห่าง ๆ จากซ่งหลันมากกว่านี้อีกหน่อย แต่เมื่อเขามองหน้าเธอแล้ว เขาก็รู้ว่าเธอต้องการให้เขาไปนั่งข้างเธอและถ้าเขาไม่ทำตามอย่างเชื่อฟัง เธอคนนี้ก็อาจจะคิดแผนชั่วร้ายบางอย่างมากำราบเขาอย่างไม่ต้องสงสัย